คุณสามีพันล้าน - บทที่ 123 ขับรถเล่นกับเมีย
“พี่ พวกเขาดีกับฉันมาก เข้าถึงได้ และไม่มีความเกลียดชังเลย ไม่ต้องกังวล ฉันสบายดี”
เทวกาปลอบพี่ชายของเธอ จากนั้นก็ถามว่า “ว่าแต่ พี่หยุดเหรอ? ไม่ไปทำงาน?”
“แกทิ้งพี่ฉัน แล้วหนีไปกับยศพัฒน์ขนาดนี้ ถ้าฉันไม่ทำงานแล้วจะทำอะไรได้?”
คำพูดของชเนนทร์ส่อแววน้อยใจทั้งจากภายในและภายนอก น้องสาวของเขาถูกเพื่อนสมัยเรียนชิงตัวไปเสียแล้ว
เทวิกายิ้ม: “พี่มีเวลาว่างเมื่อไหร่ค่อยมาหาฉันก็ได้ ฉันตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่นี่กับพัฒน์แล้ว”
ชเนนทร์: “…ไกลขนาดนั้น แกจะเดินทางไปทำงานลำบากเอานะ”
“ฉันขับรถไปทำงานได้ ตอนนี้ก็ว่าจะพาพัฒน์ขับรถเล่น”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ชเนนทร์ก็พูดขึ้นทันทีว่า “วิกา เอาโทรศัพท์ให้ยศพัฒน์ ฉันขอคุยอะไรกับเขาหน่อย”
เทวิกาส่งโทรศัพท์ให้ยศพัฒน์
ยศพัฒน์รับโทรศัพท์มา แล้ววางแนบหู จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงพี่เขยพูดว่า “วันนี้นายกินข้าวเช้าหรือเปล่า?”
“กินสิ”
“งั้นก็ระวังหน่อยแล้วกัน อย่าอ้วกเอาข้าวเช้าออกมาหมดล่ะ”
“ฉันไม่เมารถ”
ชเนนทร์หัวเราะสองสามครั้ง “ยังไงก็เถอะ ขอให้โชคดีแล้วกันนะ”
หลังจากพูดจบ ชเนนทร์ก็ตัดสายไป
ยศพัฒน์ดูงุนงง
คำพูดนั้นของพี่เขยหมายความว่ายังไง?
“พี่ชายฉันวางสายแล้วใช่ไหม? ฉันจะได้ขับรถ”
เทวิกาซึ่งไม่ได้แตะพวงมาลัยเป็นเวลานาน เธอจึงสตาร์ทรถอย่างตื่นเต้น
ตอนแรก ยศพัฒน์ไม่เข้าใจความหมายของคำพูดของพี่ชาย แต่หลังจากที่เทวิกาขับรถไป เขาก็เข้าใจในทันที
เทวิกาขับรถได้น่าหวาดเสียวมาก!
เขาซึ่งเป็นคนขับรถมาอย่างนมนานรู้สึกกลัวมากจนต้องจับเบาไว้แน่น เพราะกลัวว่าถ้าเลี้ยวโค้งแล้วตัวเขาจะกระเด็นออกจากรถ
“วิกา”
ยศพัฒน์เอ่ยเรียก
“ที่รัก อย่ารบกวนเวลาที่ฉันขับรถ ตั้งแต่วันที่ฉันได้รับใบขับขี่จนถึงตอนนี้ ฉันขับไปทั้งหมดสองครั้ง มันเลยไม่่อนชินมือนิดหน่อย”
เมื่อเทวิกาพูดเช่นนี้ ยศพัฒน์ก็กลัวจนไม่กล้าพูดอะไรสักคำ
เธอขับรถเร็วจนจะบินได้เป็นเครื่องบินอยู่แล้ว
ยศพัฒน์จ้องไปที่หน้ารถอย่างประหม่า จนหน้าเน่อเขียวคล้ำไปหมด
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ถามอีกครั้ง “วิกา ใบขับขี่คุณสอบได้หรือซื้อมาเอาดีๆ?”
“สอบมาได้สิ”
“งั้นก็ดีแล้ว ว๊าก——ตอนเลี้ยวลดความเร็วหน่อยสิ!”
ยศพัฒน์กรีดร้องอีกครั้งด้วยความตกใจ
เทวิการู้สึกว่าผู้ชายของเธอส่งเสียงดังเกินไป
ก็บอกแล้วไง ว่าเธอไม่ได้แตะพวงมาลัยมานานมือเลยแข็งไปนิด บอกว่าอย่าเสียงดัง เพราะเธอจะเสียสมาธิ
ถึงเธอจะชอบขับรถเร็วๆก็เถอะ แต่ก็น่าตื่นเต้นดีไม่ใช่เหรอ
แต่ใบขับขี่ของเธอมาจากการสอบจริงๆนะ
ตอนที่เธอสอบใบขับขี่ เธอทำเอาโค้ชกลัวจนขาอ่อน เธอแอบบ่นใจว่าโค้ชขี้ขลาดไปหลายครั้งด้วย
ท่ามกลางความกังวลใจของยศพัฒน์ ในที่สุดเทวิกาก็ขับรถจนพอใจ แล้วจอดรถไว้ข้างถนน หันมาเอ่ยพูดกับคนที่นั่งมาด้วยกันว่า ” พัฒน์ ฉันชอบมาก บนถนนสายนี้มีรถวิ่งผ่านน้อยมาก ขับมันส์มือสุด”
ยศพัฒน์ไม่ตอบ เขาผลักประตูรถ ด้วยขาสั่นๆ
ไอ้พี่เขยเวร แล้วก็ไม่บอกกันดีๆ
ถ้าเขารู้ว่าภรรยาของเขาขับรถเร็วเหมือนขับเครื่องบิน เขาก็คงไม่ปล่อยให้วิกาขับรถหรอก
ขับรถรับลมจริงๆงั้นเหรอ นี่มันขับรถฝ่าสายลมต่างหาก!
เมื่อก่อน คนที่เขาส่งไปแอบถ่ายรูปเทวิกา ทำไมไม่ถ่ายรูปตอนที่เธอขับรถอย่างหวาดเสียวมาให้ดูเลยลาะ?
คนนั้น: บอส ก็ตอนนั้นคุณวิกายังจับพวงมาลัยไม่ได้ แล้วจะแอบถ่ายมาได้ยังไงล่ะ?
เทวิกาไม่รู้ว่ายศพัฒน์ตกใจกับความเร็วในการขับรถของเธอ เธอจึงลงจากรถ มองไปยังที่ไกลๆ แล้วถามว่า “ยศพัฒน์ ที่นี่ที่ไหน?”
“คุณขับรถฝ่าลมตลอดทางขนาดนี้ ผมก็ไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน”
ยศพัฒน์กลัวมากจนใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาซีดเซียว หลังจากลงจากรถ เขาก็สงบลงอย่างรวดเร็ว
โชคดีที่พวกเขายังสบายดี
ภรรยาของเขาชอบขับรถเร็วเหมือนขับเครื่องบินขนาดนี้ ยังดีที่เทคโนโลยีนี้รองรับได้ และไม่มีน้ำซึมออกมา
ดีแล้วที่ยังชีวิตอยู่!
“ที่รัก คุณกลัวไหมที่ฉันขับรถให้คุณนั่ง? ตอนฉันขับรถให้พี่ชายฉันนั่ง เขากลัวจนฉี่แทบแตกเลยล่ะ”
เทวิกาหัวเราะขำให้กับความขี้ขลาดของพี่ชาย
ยศพัฒน์พูดในใจ: ผมก็เกือบแย่เหมือนกัน
“วิกา คุณขับเร็วเกินไป มันไม่ปลอดภัย ยังดีที่ถนนสายนี้เป็นของครอบครัวผม เลยไม่ค่อยมีรถวิ่งผ่าน ไม่เช่นนั้น อุบัติเหตุคงเกิดขึ้นได้ง่ายๆ”
ยศพัฒน์เดินไปหาภรรยาสุดที่รักพร้อมโอบไหล่เธอไว้ แล้วมองไปยังที่ไกลๆเหมือนกับเธอ จากนั้นก็พูดอย่างอบอุ่นว่า “เพื่อความปลอดภัย ขากลับผมขอเป็นคนขับแล้วกัน ตอนคุณไปทำงาน เดี๋ยวผมขับไปส่ง หรือไม่ก็ให้คนขับรถขับให้”
หลังจากเห็นทักษะการขับรถของเธอแล้ว ยศพัฒน์ก็ตั้งใจว่าจะไม่ปล่อยให้เทวิกาขับรถอีก
เทวิการีบพูดว่า: “ถนนสายนี้มีรถไม่กี่คัน ฉันเลยกล้าขับเร็วขนาดนี้ ถ้าฉันเปลี่ยนไปใช้ถนนสายอื่น รับรองว่าฉันจะขับแบบปกติ และจะไม่เร่งความเร็วแน่นอน ที่รัก คุณบอกเองนี่ว่าที่บ้านคุณมีรถหลายคัน ถ้าฉันอยากขับคันไหนก็เอาไปขับได้ ให้ฉันขับรถไปทำงานเองเถอะนะ”
“วิกา คุณไม่ชอบผมแล้วเหรอ? ก่อนหน้านี้ คุณยังบอกว่าชอบผมอยู่เลย”
เทวิกาตกตะลึงอยู่พักหนึ่ง เธอกำลังพูดถึงการขับรถไปทำงาน ทำไมเขาถึงวกมาพูดเรื่องชอบหรือไม่ชอบได้ล่ะ?
“ชอบสิ ฉันชอบคุณ ไม่ใช่แค่ชอบแต่รักเลยล่ะ ยศพัฒน์ ฉันรักคุณ”
“วิกา ในเมื่อคุณชอบผม ทำไมไม่ให้ผมไปรับไปส่งคุณที่ทำงานล่ะ? หรือว่าคุณไม่อยากเห็นหน้าผม? เบื่อผมแล้วใช่ไหม?”
เทวิกา “…….”
ยศพัฒน์กัดไม่ปล่อยจริงๆ ถ้าเธอไม่ยอมให้เขาไปรับไปส่งเธอจากที่ทำงาน เขาก็คิดว่าเธอไม่รักและเบื่อเขาแล้วเหรอ เพราะอย่างนั้นเธอถึงต้องยอมแพ้
และสัญญาว่าจะยอมให้เขาไปรับไปส่งเธอที่ทำงาน จะไม่ขับรถไปทำงานด้วยตัวเองอีกต่อไป
เขาคงกลัวการขับรถของเธอมากจริงๆ
เทวิการู้สึกเสียใจที่ทำเขากลัวมาตลอดทาง
น่าเสียดาย เรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้ว เธอเสียใจไปก็ไม่มีประโยชน์
หลังจากได้รับใบขับขี่ บวกรวมกับครั้งนี้ เธอขับรถไปทั้งหมด 2 ครั้ง จากนั้นก็จบ!
ขณะที่เทวิกาและยศพัฒน์กำลังนั่งรถเล่นอยู่ อีกด้านหนึ่งกนกกรกำลังล้างผลไม้ไปให้ชายชราสองคนที่กำลังเล่นหมากรุกอยู่
ชายชราทั้งสองที่เล่นหมากรุก คนหนึ่งคือปู่ของกนกอร อีกคนคือปู่ของนฤเบศวร์ แต่ว่าคนในตระกูลภูสิทธ์อุดมไม่รู้ว่าเขาเป็นปู่ของนฤเบศวร์
คุณปู่ชรัณชอบเล่นหมากรุก คุณปู่เร็นจึงเอาหมากรุกมาล่อ ด้วยการชวนคุณปู่ชรัณเล่นหมากรุกด้วยกันในฐานะเพื่อนบ้านใหม่ จากนั้นทั้งสองกลายเป็นคู่หูเล่นหมากรุกด้วยกัน
หลังจากนั้นคุณปู่เร็นก็เข้าและออกตระกูลภูสิทธ์อุดมได้อย่างเปิดเผย เพื่อมาสังเกตลักษณะนิสัยของกนกอรอย่างใกล้ชิด
กนกอรนำผลไม้ที่ล้างแล้วมาวางไว้ข้างๆคุณปู่ แล้วพูดกับคุณปู่เร็นด้วยรอยยิ้มว่า “คุณปู่เร็น ผลไม้ค่ะ”
“อืม”
คุณปู่เร็นพยักหน้าอย่างเอ็นดู หลังจากตารางหมากรุกแล้ว เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็เดินหมากรุก และพูดกับคุณปู่ชรัณว่า: “ชรัณ หลานสาวคุณนิสัยดีจังเลยนะ ดีกว่าหลานสาวของฉันมาก หลานสาวของผมมาก หลานผมนะจะเอาใจใส่ผมก็ต่อเมื่ออยากขอให้ผมช่วยเท่านั้นแหละ พอได้ดั่งใจแล้ว ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา”
คุณปู่ชรัณกล่าวว่า “หลานสาวของผมดีจริงๆนั่นแหละ ดีทุกอย่าง แต่น่าเสียดายอายุยี่สิบสี่ปีแล้ว ก็ยังไม่มีแฟนเลย”