คุณสามีพันล้าน - บทที่ 125 เป็นคุณได้ยังไง
“ถ้ายศพัฒน์กับภรรยาไม่หย่าร้างกัน เธอก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอก ถ้าแกยังหลงเธอหัวปักหัวปำอยู่อย่างนี้ เธอก็จะยิ่งหลอกใช้แกเรื่อยๆ แกไม่ต่างอะไรกับหมากเดินเกมที่เธออยากใช้เมื่อไหร่ก็ได้ เวลาาจัดการปัญหาไม่ได้ ก็จะโยนทุกอย่างมาให้แก”
“แกเชื่อไหม ถ้าปู่ไล่แกออกจากตำแหน่งประธานบริษัท และประกาศว่าจะตัดแกออกจากตระกูล ไม่ยกทรัพย์ให้แกแม้แต่ชิ้นเดียว เปรมาก็จะเขี่ยแกทิ้งทันที”
นฤเบศวร์: “…คุณปู่!”
“แกอยากจะทดสอบเธอไหมล่ะ ปู่ยินดีที่จะร่วมมือกับแกนะ”
“ผมเชื่อในตัวเปรมา ไม่จำเป็นต้องทดสอบอะไรเธอทั้งนั้น ถ้าผมทำแบบนั้น เธอก็จะเสียใจ”
นฤเบศวร์กล่าวอย่างเคร่งขรึม
อันที่จริงเขารู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่คุณปู่พูดเป็นความจริง
เปรมาหลอกใช้เขามาตลอด…
หัวใจมันเจ็บไปหมด!
“เหอะ!”
คุณปู่เร็นหัวเราะออกมา เสียงหัวเราะเต็มไปด้วยการประชด
“เบศวร์ แกยังอยากเป็นทายาทของRA กรุ๊ปอยู่หรือเปล่า? ยังเห็นฉันคนนี้เป็นปู่อยู่ไหม?”
จู่ๆคุณปู่เร็นก็เปลี่ยนเรื่อง น้ำแข็งดูแข็งกร้าวขึ้น
นฤเบศวร์รีบพูด “คุณปู่พูดอะไร คุณปู่เป็นปู่ของผม ทำไมผมต้องคิดแบบนั้นล่ะ ผมเติบโตมาได้เพราะการเลี้ยงดูของคุณปู่ สำหรับผมแล้ว คุณปู่สำคัญกว่าพ่อแม่ผมอีก”
คนที่เขาเคารพมากที่สุดคือปู่ของเขา ไม่ใช่เพียงเพราะคุณปู่เป็นประธานของRA กรุ๊ป ที่สามารถถอดเขาออกจากตำแหน่ง ได้ตลอดเวลา แต่ยังเป็นเพราะเขาเติบโตมากับคุณปู่ด้วย
ตอนคุณปู่ยังหนุ่มๆ เขาเคยทะเลาะกับคุณปู่ภูธิปอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่หลังจากที่ทั้งคู่ได้เป็นปู่ ก็ดูเหมือนจะเข้าใจกันได้โดยปริยาย ทั้งสองต่างเลี้ยงหลานชายมาเองกับมือ เพื่อให้หลานชายดีพอที่จะรับช่วงต่อบริษัท
ซึ่งก็เป็นอย่างที่คุณปู่ทั้งสองท่านปรารถนา เมื่อยศพัฒน์และนฤเบศวร์เติบโตขึ้นทั้งสองก็ได้เป็นคนรับช่วงต่อบริษัท แถมยังเป็นคู่แข่งกันด้วย
“ถ้าแกไม่อยากให้ปู่ปลดแกออก และยังเห็นฉันเป็นปู่อยู่ล่ะก็ ไปทำตามที่ฉันสั่งซะ ไปตัดดอกกุหลาบแล้วไปรอที่ร้านกาแฟเดี๋ยวนี้ ฉันจะให้ผู้หญิงคนนั้นไปหาแก”
“หลังจากที่แกสองคนเจอกัน ก็ต้องถ่ายวิดีโอมาให้ฉัน เพื่อพิสูจน์ว่าแกสองคนเจอกันแล้วจริงๆ ไม่ได้โกหกฉัน”
นฤเบศวร์ “……..”
คุณปู่ภูธิปไม่เคยบังคับยศพัฒน์ให้ไปนัดบอดเลยสักครั้ง เมื่อปู่เขาเองก็ไม่ได้บังคับเหมือนกัน บางทีอาจเป็นเพราะการแต่งงานของยศพัฒน์ และเรื่องที่เขาทุ่มเทให้เปรมาจนกระทบถึงRA กรุ๊ป คุณปู่ถึงได้เริ่มบังคับให้เขานัดบอด
นฤเบศวร์จะไม่เชื่อฟังคนอื่นยังไงก็ได้ แต่จะไม่เชื่อฟังคุณปู่ไม่ได้
“คุณปู่ ผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกสาวตระกูลไหน? สวยล่มบ้านล่มเมือง ไม่มีใครเทียบได้หรือเปล่า? เห็นครั้งแรกผู้คนต่างก็หลงใหลเลยไหม?”
นฤเบศวร์คิดว่าผู้หญิงคนนั้นต้องเป็นผู้หญิงที่ดีมาก เพราะสามารถเข้าตาปู่ของเขาได้
“ถ้าแกอยากรู้ แกก็ไปเจอเธอสิเดี๋ยวก็รู้เอง ยังไงเธอก็ดีกว่าเปรมาแน่ๆ เอาเป็นไปว่าแกรีบไปได้แล้ว
หลังจากที่คุณปู่เร็นพูดจบ เขาก็วางสายโดยไม่ให้โอกาสนฤเบศวร์ปฏิเสธ
นฤเบศวร์มองค้างที่โทรศัพท์ ด้วยใบหน้าอึมครึม อย่างทำอะไรไม่ได้
ช่างเถอะ เจอก็เถอะ
เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าผู้หญิงคนนั้นวิเศษวิโสมาจากไหน คุณปู่ถึงบังคับเขาให้ไปนัดบอดด้วยแบบนี้
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
นฤเบศวร์สวมแว่นกันแดดสีดำ แต่งตัวสไตล์เรียบๆ พร้อมคีบบุหรี่ไว่ในปาก มุ่งหน้าไปที่ร้านกาแฟที่เป็นสถานที่นัดหมาย
ร้านกาแฟอยู่ในอโรงแรมของเขาเอง เขาจึงสามารถเข้ามาได้อย่างสบายๆ
เขามองหาสถานที่เงียบสงบริมหน้าต่าง และเดินไปนั่งลง
จากนั้นเขาก็หยิบกุหลาบที่ตัดมาจากสวนหน้าบ้านออกมาจากกระเป๋ากางเกง เพราะเขายัดมันไว้ในกระเป๋ากางเกง ดอกกุหลาบจึงบอบช้ำไปหมด
คุณปู่บอกให้เขามาคนเดียว ไม่ให้เขานำบอดี้การ์ดมาด้วย เพราะกลัวว่ามันจะดูเอิกเกริก
ซึ่งเขาเองก็อยากให้เป็นแบบนั้นเหมือนกัน
เวลานัดบอด เขาไม่อยากให้มันเอิกเกริก เขาอยากให้มันเงียบมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ตกเป็นที่สนใจของนักข่าว จนเป็นข่าว ถ้าเปรมามาเห็นเข้า เธอจะเสียใจเอา
นฤเบศวร์จงใจแต่งตัวเรียบๆสบายๆ และแม้แต่ใบหน้าของเขาก็ยังถูกปกคลุมไปด้วยความอึมครึม ทำให้เขาดูเหมือนโกรธตลอดเวลา ตลอดทางที่เขาเดินเข้ามา เมื่อคนอื่นเห็นเขาต่างก็พากันหลบสายตาอย่างกลัวๆ
ตอนที่ผู้หญิงที่ต้องนัดบอดกับเขามาถึง และเห็นว่าเขามีสีหน้าไม่ดี ต้องไม่ชอบแน่ๆ
ในเวลานั้น ถ้านัดบอดไม่สำเร็จ คุณปู่จะมาโทษเขาไม่ได้
นฤเบบศวร์รอนานกว่าสิบนาที เขาไม่เห็นผู้หญิงคนนั้นมาสักที เขาเลยโทรหาคุณปู่ หลังจากคุณปู่รับสาย เขาก็ถามว่า “คุณปู่ เมื่อไหร่ผู้หญิงที่คุณปู่แนะนำจะมาถึง?ผมรอมาสิบนาทีแล้วนะ”
นอกเหนือจากรอเปรมาแล้ว นฤเบศวร์ก็ไม่มีความอดทนที่จะรอคนอื่น
ด้วยตัวตนและสถานะของเขา ไม่มีใครกล้าให้เขารอนานขนาดนี้
เมื่อก่อนเวลาคุยเรื่องธุรกิจกับคนอื่น อีกฝ่ายก็มักจะมาล่วงหน้าเสมอ
คุณปู่เร็นเอ่ยดุ: “เพิ่งจะสิบนาทีเอง แกจะรีบไปไหน ผู้หญิงเวลาจะออกไปข้างนอก ก็ต้องแต่งหน้าและเลือกเสื้อผ้าสวยๆใส่สิๆ แกรอๆไปก่อน เธอจะออกแล้ว”
นฤเบศวร์ถูกปู่ดุด่า เขาจึงปัดจมูกเขาแก้เซ้ง และกำลังจะวางสาย
“เดี๋ยวๆ แกเปิดกล้องให้ฉันดูหน่อยว่าแกแต่งตัวยังไง”
นฤเบศวร์: “…คุณปู่ ผมเห็นผู้หญิงถือดอกกุหลาบเหมือนกันแล้ว ผมขอวางสายก่อนนะ”
หลังจากพูดเสร็จ เขาก็ตัดสายไปอย่างรวดเร็ว
ล้อเล่นหรือเปล่า ถ้าให้คุณเห็นว่าตอนนี้เขาใส่ชุดอะไรอยู่ คุณปู่คงบึ่งรถมาทุบเขาแน่ๆ
จากนั้นคงจับเขาแต่งตัวเว่อร์ให้เหมือนนกยูงแน่นอน
เขาจะได้ไม่เสียหน้า
นฤเบศวร์ในตอนนี้ น่าหดหู่ที่สุดแล้ว
อยู่ๆก็รู้สึกโกรธคู่นัดบอดที่ยังไม่ได้เจอหน้า
เขาตั้งใจว่า หลังจากได้เจอกันแล้ว ขอจัดการอีกฝ่ายนิดๆหน่อยๆแล้วกัน
หลังจากรออีกสิบนาที นฤเบศวร์ก็เห็นคู่นัดบอดของเขา คุณปู่บอกเขาว่าทั้งสองคนจะถือดอกกุหลาบสีแดงเหมือนกัน
ผมของกนกอรยุ่งเหยิง เธอสวมเสื้อผ้าที่เธอคิดว่าเซ็กซี่ที่สุด แต่งหน้าจัด และสวมเครื่องประดับที่มีอยู่ทั้งหมด
เธอถือดอกกุหลาบที่คุณปู่ยัดใส่มือมาให้ นอกจากนี้เธอยังยัดกระเทียมเข้าปาก แม้ปกติเธอไม่ชอบกินเท่าไหร่ แต่ตอนนี้เธอถึงกับลงทุนบังคับตัวเองให้กิน
แบบนี้ในปากของเธอก็จะเต็มไปด้วยกลิ่นกระเทียม
แน่นอนว่าถ้าคนอื่นได้กลิ่น ต้องเหม็นแน่ๆ
ให้หลานชายของคุณปู่เร็นรังเกียจ จะได้ไม่คิดอะไรกับเธอ แล้วเธอก็จะปลอดภัย
เธอจะได้มีข้ออ้างไปบอกว่าอีกฝ่ายดูถูกเธอและไม่ชอบเธอเองต่างหาก
เมื่อเดินเข้าไปในร้านกาแฟ กนกอรก็เห็นใครบางคนที่โต๊ะริมหน้าต่างกำลังกวักมือเรียกเธอ และอีกฝ่ายก็ถือดอกกุหลาบอยู่ในมือด้วย
เธอเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว
“สวัสดีค่ะ”
กนกอรเปิดปากของเธอด้วยรอยยิ้ม พร้อมปล่อยกลิ่นกระเทียมออกมา
นฤเบศวร์ขมวดคิ้วทันที
เขารู้สึกว่าผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าเขาดูคุ้นๆ และเมื่อเขามองดีๆ ก็ต้องอุทานว่า “กรกนก? เป็นคุณได้ยังไง?”