คุณสามีพันล้าน - บทที่ 126 การดูตัวของคู่อริ
กนกอรฟังเสียงของนฤเบศวร์ออก แล้วเธอก็ตั้งใจมองไปอย่างละเอียด พอจ้องมองไปครู่หนึ่ง ก็ถามขึ้นอย่างตกตะลึงว่า “คุณ คุณคือนฤเบศวร์เหรอ?”
ทำไมถึงเป็นเขาไปได้?
หลานชายของคุณปู่เร็นคือนฤเบศวร์เหรอ!
นฤเบศวร์เอามือปิดจมูกเอาไว้ แล้วพูดอย่างรังเกียจขึ้นว่า “นี่คุณกินกระเทียมไปเท่าไหร่เนี่ย เหม็นจะแย่อยู่แล้ว”
กนกอรยิ้มแฉ่งออกมา “ถ้าฉันรู้ว่าหลานชายของคุณปู่เร็นคือคุณแต่แรก ฉันจะกินให้เยอะกว่านี้ ให้คุณเหม็นจนอวกไปตอนนี้เลย”
นฤเบศวร์ “……”
เธอจ้องมองนฤเบศวร์ที่ทาถ่านดำไว้เต็มหน้า แล้วจ้องมองเสื้อผ้าไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยบนตัวนฤเบศวร์ ตอนที่เธอเข้ามายังเห็นเขาสูบบุหรี่อยู่ด้วย แถมยังใส่แว่นกันแดดไว้ ดูไปแล้วก็เหมือนพวกนักเลงในสังคม
ดูท่า เขาก็ไม่อยากมาดูตัวเหมือนกัน
มันก็ใช่อยู่ เขารักเปรมา จะอยากมาดูตัวได้ยังไงกัน?
คุณปู่เร็น ไม่ใช่ซิต้องเรียกว่าคุณปู่เร็นถึงจะถูก นี่ท่านใช้วิธีอะไรไปบีบให้นฤเบศวร์มาดูตัวกันนะ?
แต่จากเรื่องนี้ กนกอรสามารถรับรู้ได้เรื่องหนึ่ง นั่นก็คือคุณปู่เร็นไม่ชอบเปรมา และไม่อยากให้นฤเบศวร์กับเปรมาเป็นแฟนกัน
ในเมื่อเปรมาอยากแต่งงานกับยศพัฒน์ แล้วก็ยังอยากจับนฤเบศวร์ไว้ไม่ยอมปล่อย เพราะว่าสุดท้ายแล้ว จะคว้าอะไรไม่ได้เลย
สำหรับสิ่งนี้ กนกอรรู้สึกสมน้ำหน้าจริง ๆ
เธอไม่ได้รู้สึกดีอะไรกับเปรมาเลย ไม่เพียงเพราะว่าเปรมาเป็นคู่แข่งของเพื่อนรักเท่านั้น แต่เป็นเพราะว่าเปรมาโอหังมากเกินไป อ้างอำนาจของนฤเบศวร์ มาทุบทำลายร้านกาแฟของพวกเธอ
“คุณหัวเราะอะไร?”
พอเห็นกนกอรหัวเราะอย่างไม่เกรงกลัวอะไร นฤเบศวร์หงุดหงิดจนรู้สึกโกรธขึ้นมา
“การหัวเราะเป็นอิสระของฉัน ฉันชอบหัวเราะ ไม่ได้เหรอ? ฮา ฮา ฮา!”
กนกอรยังเริ่มหัวเราะฮาฮาขึ้นมา
เธอหัวเราะอย่างบ้าคลั่งเกินไป จนดึงดูดสายตาของผู้อื่นมา
นฤเบศวร์อยากปิดปากเธอไปทันที ตอนที่เธอกำลังหัวเราะใส่เขานั้น กลิ่นปากก็โชยมาทางเขา กลิ่นที่เต็มไปด้วยกลิ่นกระเทียมนั้น รู้สึกเหม็นมาก
พอรู้สึกว่าคนอื่นกำลังมองตัวเองอยู่ กนกอรถึงจะปิดปากไว้ แล้วเธอก็นั่งลงตรงหน้าโต๊ะอย่างกับคนไม่มีเรื่องอะไร
“นั่งซิ”
กนกอรเอาดอกกุหลาบดอกนั้นวางลงบนโต๊ะ พอรอให้นฤเบศวร์นั่งลงแล้ว เธอก็ผลักดอกกุหลาบนั่นไปตรงหน้านฤเบศวร์ แล้วพูดขึ้นว่า “เพราะความกระตือรือร้นของปู่คุณ ฉันถึงโดนบีบบังคับให้ตากแดดร้อน ๆ แล้วแต่งตัวสภาพแบบนี้ออกมาพบคุณ แถมยังเสียเงินซื้อดอกไม้นี่ไปห้าเหรียญ คุณจะต้องจ่ายคืนมาให้ฉันนะ”
นฤเบศวร์ “……ดอกไม้ราคาห้าเหรียญ คุณก็ยังจะมาเบิกกับผมอีก!”
“ไม่ใช่ซิ คุณมาพบผม ซื้อแค่ดอกไม้ห้าเหรียญมาดอกหนึ่ง นี่มันราคาถูกเกินไปแล้วมั้ง!”
นฤเบศวร์ถูกความหน้าด้านไร้ยางอายของกนกอรทำให้ตกตะลึงไปก่อน ต่อมาก็ถูกความขี้เหนียวของกนกอรทำให้โกรธขึ้นมา
เขาเป็นใคร เขาคือนฤเบศวร์ ประธานRA กรุ๊ป เป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลเดชอุป
ไปถึงไหนก็มีแต่คนคอยล้อมหน้าล้อมหลัง สั่งสามารถสั่งลมสั่งฝนได้
แต่กนกอรกลับดูถูกเขา มาพบเขา ยังซื้อแค่ดอกไม้ราคาห้าเหรียญมา และยังจะให้เขาจ่ายเงินคืนอีก
“ดอกละห้าเหรียญยังถูกอีกเหรอ? กินก็ไม่ได้ ดื่มก็ไม่ได้ อีกสักสองวันก็เหี่ยวเฉาแล้ว ราคาดอกละห้าเหรียญก็แพงมากแล้วนะ แล้วอีกอย่าง ฉันก็ไม่รู้สักหน่อยว่าคู่ดูตัวของฉันจะเป็นคุณ ถ้ารู้นะ ฉัน……จะไม่ซื้อสักดอกด้วยซ้ำ”
นฤเบศวร์ “…….”
“คุณออกไปซื้อหมากฝรั่งมาเคี้ยวเลย เวลาพูดมันเหม็นเกินไปแล้ว”
นฤเบศวร์ทนกลิ่นกระเทียมเต็มปากของเธอไม่ไหวแล้ว
กนกอรนั่งนิ่งไม่ยอมขยับ
นฤเบศวร์จ้องมองเธอไปครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ยอมแพ้ไป แล้วล้วงกระเป๋าตังค์ของตัวเองออกมา แล้วล้วงเงินหนึ่งร้อยออกมาจากกระเป๋า และวางป๊าบลงไป แล้วก็วางเงินลงตรงหน้ากนกอร และเร่งรัดเธออย่างกับจะรีบเอาชีวิต “รีบไปเลย”
กนกอรหยิบเงินหนึ่งร้อยขึ้นมา ยิ้มแฉ่งแล้วพูดขอบคุณขึ้นมา “ขอบคุณค่ะเถ้าแก่”
เธอลุกขึ้นมาล้ากำลังจะออกไป แต่กลับเอี้ยวตัวไปอย่างเจ้าเล่ห์ ใบหน้าที่แต่งหน้าเข้มจัดชิดเข้าไปใกล้นฤเบศวร์ นฤเบศวร์ตกตะลึงจนเอียงตัวไปข้างหลัง แล้วจ้องมองเธออย่างหวาดระแวงอย่างกับจ้องสุนัขจิ้งจอก
“ใบหน้าคุณนี่ ดำมากจริง ๆ เลยนะ ตอนที่ฉันเข้ามาแล้วเห็นคุณแวบแรก ก็นึกว่าเป็นถ่านก้อนหนึ่งซะอีก”
กนกอรประชดออกไปประโยคหนึ่ง แล้วยื่นมือไปลูบทีหนึ่ง
จากนั้น มือของเธอก็ดำไป
บนใบหน้าของนฤเบศวร์มีรอยนิ้วมือของเธอไปแล้ว ตรงจุดที่ถูกเธอแตะ คราบสีถ่านก็จางลงไปเยอะด้วย จนเกือบจะทำให้ผิวกลายเป็นสีเดิมแล้ว
กนกอรจ้องมองมือดำ ๆ ของตัวเอง แล้วก็ไม่คิดอะไรเอามือปาดไปที่เสื้อของเขาเลย
“กนกอร!”
นฤเบศวร์ตะคอกเสียงต่ำขึ้นมา
ไม่เคยเห็นคนหน้าด้านขนาดนี้มาก่อนเลย!
เขาไม่ได้เป็นคนบอกให้เธอแตะสักหน่อย พอมือเธอสกปรกไปแล้ว ยังมีหน้ามาโทษเขาอีก!
นี่ตกลงคุณปู่ไปชอบอะไรเธอตรงไหนนะ ถึงได้มาบีบบังคับให้เขามาดูตัวกับเธอได้!
“ใครใช้ให้คุณไม่เตือนฉันก่อนล่ะ ว่าสีถ่านที่ทาอยู่บนหน้าคุณนั้นสีตกได้”
พอกนกอรทำให้เสื้อของเขาเปื้อนสีดำได้สำเร็จแล้ว ก็พูดขึ้นมาอย่างมั่นอกมั่นใจ
นฤเบศวร์อยากจะบีบเธอให้ตายไปซะ
แล้วในเวลานี้เอง โทรศัพท์ที่โทรมาไม่หยุดของคุณปู่เขาก็โทรเข้ามาพอดี
นฤเบศวร์ข่มไฟโกรธลงไป แล้วพูดเสียงเบาขึ้นว่า “เลิกเล่นได้แล้ว ปู่ผมโทรศัพท์มาแล้ว”
กนกอรจึงหยุดไปเพียงเท่านี้
นฤเบศวร์กดรับสายวิดีโอคอลของคุณปู่
“เจ้าเบศวร์……เฮี้ย! นี่แก……ไอ้หลานไม่รักดี ทำไมแกถึงทำตัวให้มันเป็นสภาพอย่างกับผีแบบนี้!”
คุณปู่เร็นอยากดูว่าคนหนุ่มสาวทั้งสองคนมาดูตัวกันจริง ๆ หรือเปล่า แต่ใครจะไปรู้ว่าพอโทรติดปุ๊บ สิ่งที่เห็นกลับเป็นใบหน้าดำทะมึน จึงทำให้ชายชราตกใจ จนเกือบจะโยนโทรศัพท์ทิ้งไป
เพราะว่ายังไงก็เป็นหลานชายที่ตัวเองเลี้ยงมากับมือ ชายชราจึงนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วก็จำได้ว่า นั่นก็คือหลานชายของเขา
ยังมีอะไรที่เขาไม่เข้าใจอีก
ไอ้ตัวดีนี่เพื่อจะทำให้การดูตัวล้มเหลวแล้ว ก็ช่างพยายามเป็นอย่างมากจริง ๆ ใบหน้าขาวนวลหล่อเหลายังทำให้หน้าดำเป็นถ่านไปอีก
ถ้าหากว่าให้นักข่าวบันเทิงรู้เรื่องเข้าว่าเขาพยายามขนาดนี้ คิดว่ายศพัฒน์คงจะต้องหัวเราะจนฟันหลุดไปแน่
“คุณปู่ ปู่แค่ให้ผมมาดูตัว แต่ไม่ได้บอกว่าห้ามแต่งหน้านี่ครับ ผมชอบแต่งหน้าแบบนี้แหละ”
พอทำให้ปู่ตกใจจนสะดุ้งไปยกใหญ่แล้ว อารมณ์ของนฤเบศวร์ก็ดีขึ้นมามากมายเลย
“แกนี่มันไอ้คนไม่เอาไหน นี่แกอยากทำให้กนกอรตกใจตายเหรอ? แล้วกนกอรล่ะ?”
นฤเบศวร์ยื่นมือไปก็คว้ามือที่กำลังค้างอยู่เอาไว้ แล้วลากผู้หญิงที่ท่านบอกว่าไม่อยู่เข้ามา ให้กนกอรเข้ามาอยู่ในกล้องด้วย
ชายชราเห็นการแต่งหน้าของกนกอรแล้ว ก็นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วพูดชื่นชมขึ้นมาอย่างปากไม่ตรงกับใจว่า “หนูกนกอร หนูแต่งหน้าได้ไม่เลวจริง ๆ เลยนะ ทำให้หนูดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะ ดูสวยขึ้นเยอะเลย”
กนกอรยิ้มแฮะ ๆ ออกมา
“หนูกนกอร หนูคงจะได้เจอกับหลานชายของฉันแล้วใช่ไหม ที่จริงหลานชายฉันขาวมากเลยนะ หนูอย่าตกใจกับหน้าดำ ๆ ของเขาไปล่ะ”
“คุณปู่เร็น หนูรู้ค่ะ หนูกับหลานชายคุณปู่ไม่ได้เพิ่งรู้จักกันวันนี้หรอกค่ะ”
คุณปู่เร็นมีท่าทางเหมือนตกตะลึง แล้วถามขึ้นมาว่า “พวกหนูรู้จักกันมาก่อนแล้วเหรอ? งั้นก็ดีเลย งั้นพวกหนูค่อย ๆ คุยกันไปนะ คุยกันให้ดี ๆ ไม่ต้องรีบกลับมานะ”
จากนั้นเขาก็หันไปคุยกับหมูของบ้านตัวเอง “เจ้าเบศวร์ อย่าลืมเชิญหนูกนกอรไปกินข้าวนะ กินข้าวเสร็จแล้วก็พอเธอไปดูหนังสักเรื่องสองเรื่องแล้วค่อยไปส่งเธอ”
“คุณปู่!”
นฤเบศวร์กัดฟันพูดเสียงต่ำขึ้นมา “คุณปู่อย่าทำเป็นได้คืบแล้วจะเอาศอกเกินไปนะครับ”
ที่เขายอมมาด้วยตัวเอง ก็เป็นการยอมให้มากแล้วนะ
คุณปู่กลับยังจะให้เขาพากนกอรไปกินข้าว แล้วพากนกอรไปดูหนังอีกหลายเรื่องอีก
นั่นเป็นเรื่องที่คนเป็นแฟนเขาทำกันต่างหาก เขากับกนกอรไม่ใช่คนรักกันสักหน่อย
ชายชราหัวเราะเหอะ ๆ ออกมา “ใช่ ฉันได้คืบแล้วจะเอาศอก แกจะทำไม? แกกล้าไม่เชื่อฟังคำพูดของปู่ งั้นก็ต้องรับผิดชอบผลที่ตามมาเองนะ!”
พูดจบ ชายชราก็ไม่ให้โอกาสหลานชายได้โต้เถียง แล้วก็วางสายวิดีโอคอลไปก่อนเลย
นฤเบศวร์โกรธจนอยากปาโทรศัพท์ทิ้ง
กนกอรรู้ว่าเขากำลังโกรธอยู่ จึงรีบเผ่นหนีไปเลย