คุณสามีพันล้าน - บทที่ 127 ผมมีความสามารถจะตายไป
กนกอรไปซื้อหมากฝรั่งมาจากข้างนอก พอกลับมาแล้ว ก็ไปเข้าห้องน้ำก่อน แล้วล้างเครื่องสำอางหนาเตอะบนหน้าออก พอไม่มีเครื่องสำอางหนาเตอะนั่นแล้ว เธอก็รู้สึกโล่งสบายขึ้นมา
เพียงแต่เสื้อผ้าที่ตัวเองคิดว่าเซ็กซี่ชุดนี้ ไม่สามารถเปลี่ยนออกได้
ยังดีที่ว่า เมื่อเทียบกับเสื้อผ้าที่เซ็กซี่จริง ๆ แล้ว เสื้อผ้าชุดนี้ของเธอยังถือได้ว่าดีกว่า ไม่ได้โป้มากนัก
เมื่อกี้นฤเบศวร์ไม่ได้มีความคิดเห็นอะไรต่อการแต่งตัวของเธอ
พอเคี้ยวหมากฝรั่งไปสองอันแล้ว กนกอรถึงจะกลับเข้าไปในร้านกาแฟ
นฤเบศวร์ยังคงมีสภาพหน้าดำทะมึนอย่างกับผีอยู่
ที่นี่เป็นโรงแรมของตระกูลเดชอุป ถ้าเขาไปล้างหน้าสีถ่านดำ ๆ นี่ออก แล้วถอดแว่นกันแดดออก ก็จะถูกคนอื่นมองออกได้ง่ายมาก
ในใจกนกอรเข้าใจดี ว่านฤเบศวร์ไม่ได้อยากมีความเกี่ยวข้องอะไรกับเธอ
ซึ่งก็พอดีเลย เธอเองก็ไม่อยากมีความเกี่ยวข้องอะไรกับเขาด้วยเหมือนกัน
พอกลับมาที่โต๊ะแล้ว ตรงที่นั่งเธอได้มีกาแฟวางอยู่แก้วหนึ่งแล้ว
“คุณสั่งกาแฟให้ฉันเหรอคะ?”
นฤเบศวร์ตอบกลับเธอไปประโยคหนึ่งว่า “ถ้าผมไม่สั่ง แล้วผีจะมาสั่งให้คุณเหรอ? ถ้าผีสั่ง คุณยังจะกล้ากินอีกเหรอ?”
กนกอรประชดเขากลับไปว่า “ถ้าคุณเป็นผี คุณสั่งให้ฉันกี่แก้ว ฉันก็กล้ากิน แล้วคุณเป็นผีหรือเปล่าล่ะ?”
นฤเบศวร์ “…….ผู้ชายที่ดีไม่เถียงกับผู้หญิงหรอก!”
“อย่างคุณถือว่าเป็นผู้ชายดีอะไร?”
นฤเบศวร์ใบหน้ามืดมน อ๋อ ตอนนี้เขามีใบหน้าดำทะมึนจริง ๆ ดำจนดูปฏิกิริยาบนใบหน้าเขาไม่ออกเลย
“คุณอย่าคิดว่าคุณเป็นคนที่ปู่ผมส่งมา แล้วจะมาหลงระเริงจนมาโจมตีคนอื่นได้หรอกนะ”
“คุณลองถามใจคุณดูเถอะ ว่าคุณถือได้ว่าเป็นคนดีหรือเปล่า? ถ้าคุณไม่ใช่คนดี คุณก็ไม่ใช่ผู้ชายที่ดี นอกเสียจากว่าคุณไม่ใช่ผู้ชาย”
“ถ้าผมไม่ใช่ผู้ชาย แล้วคุณเป็นเหรอ? คุณจะลองดูสักหน่อยไหมล่ะ……”
“ขากถุย ใครจะไปลองว่าคุณใช่ผู้ชายหรือเปล่า อยากเอาเปรียบผู้หญิงอย่างฉัน ไม่มีทางซะหรอก แต่ว่า พอคุณพูดมาแบบนี้ ฉันก็เป็นห่วงคุณขึ้นมาหน่อยแล้วจริง ๆ……”
กนกอรก้มหน้าลงไปอย่างชั่วร้าย แล้วเหล่มองไปตรงหน้าเธอ
นฤเบศวร์รีบเก็บขาเข้าไปทันที และหุบไว้อย่างแน่น
สีหน้ามืดมนแล้วก่นด่าเสียงต่ำขึ้นว่า “คุณนี่มียางอายบ้างหรือเปล่า? นี่คุณยังเป็นผู้หญิงอยู่หรือเปล่าเนี่ย?”
กนกอรหัวเราะร่า “คุณรักเปรมาซะขนาดนั้น แล้วก็เป็นคู่สร้างคู่สมที่เติบโตมาด้วยกัน แต่คุณกลับไม่เคยทำอะไรเปรมาเลย ถ้าจะว่าคุณเป็นสุภาพบุรุษ ฉันก็รู้สึกไม่เชื่อจริง ๆ สิ่งเดียวที่สามารถพูดได้ก็คือ คุณไม่มีความสามารถ”
นฤเบศวร์ตบโต๊ะอย่างแรงขึ้นมา แล้วพูดอย่างโกรธเคืองขึ้นว่า “ผมมีความสามารถจะตายไป!”
คนทั้งร้านกาแฟต่างก็จ้องมองมา
นฤเบศวร์ “……”
กนกอรรีบลุกขึ้นมา แล้วพูดอธิบายกับคนอื่น ๆ ว่า “ทุกท่านอย่าเข้าใจผิดนะคะ ฉันพูดว่าเขาไม่มีความสามารถในการทำอาหาร เขาก็เลยบอกว่าเขามีความสามารถ เดี๋ยวคืนนี้กลับบ้านไปจะให้เขาทำอาหารเลยค่ะ”
การปกปิดแบบนี้
ผู้คนต่างก็เข้าใจดี
พอมองมาที่กนกอรด้วยสายตาเห็นใจทีหนึ่งแล้ว ก็หันไปดื่มกาแฟของพวกเขาต่อไป
นฤเบศวร์รู้สึกว่ากนกอรก็คือคนที่มีดวงมาเป็นคู่ปรับกับเขาจริง ๆ
ผู้หญิงคนนี้หน้าด้านอย่างกับกำแพง เขารู้สึกว่าเขาหน้าด้านมากพอแล้ว พอมาเทียบกับกนกอร ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับดินเลย
กนกอรนั่งลงมา แล้วตบที่หน้าอกตัวเองเบา ๆ แล้วก็ก่นด่านฤเบศวร์เสียงเบาขึ้นว่า “นี่คุณจะมีปฏิกิริยาตอบสนองรุนแรงขนาดนี้ทำไมคะ? ดูซิทำให้คนอื่นสนใจกันขนาดนี้ จนทำให้ฉันต้องมาช่วยอธิบายให้คุณเพื่อจะไม่ให้คนอื่นเข้าใจคุณผิดไป”
นฤเบศวร์กัดฟันพูดขึ้นว่า “ความหมายของคุณคือ ผมต้องขอบคุณคุณล่ะซิ?”
“แค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ต้องขอบคุณหรอก”
นฤเบศวร์บอกกับตัวเองว่า อดทนไว้ อดทนไว้ อย่าให้เธอมาทำให้โมโหไป
พอเห็นเธอดื่มกาแฟไปอย่างสบายใจ เขาก็ถามเธอขึ้นว่า “นี่คุณไปรู้จักกับปู่ผมได้ยังไง? ปู่ผมแค่ออกจากบ้านไปแค่สองวัน คุณก็ไปหลอกจนปู่ผมถึงกลับขายหลานชายคนโตอย่างผมเลย กนกอร คุณนี่มีฝีมือดีจริง ๆ เจ้าเล่ห์มากจริง ๆ!”
“เป็นเพราะคุณรู้ว่านั่นคือปู่ของผม ก็เลยตั้งใจไปใกล้ชิดปู่ผม แล้วทำให้ท่านดีใจ ให้ท่านมาเป็นพ่อสื่อให้พวกเราเหรอ?”
“พรืด……”
กนกอรที่กำลังดื่มกาแฟอยู่ พุ่งสาดกระจายไปเต็มหน้านฤเบศวร์
“กนกอร!”
นฤเบศวร์อยากจะบีบเธอให้ตายเลย
กนกอรรีบลุกขึ้นมา แล้วดึงกระดาษออกมาเช็ดไปที่หน้าเขา
พอเช็ดไปเช็ดมา ก็เช็ดสีถ่านดำบนใบหน้าเขาไปเกือบหมดเลย
กระดาษก็เช็ดจนดำปี๋ไปหมด
สีหน้าของนฤเบศวร์ดูแย่มาก
กนกอรยิ้มแฉ่งแล้วทิ้งกระดาษทิชชูสีดำลงไปในถังขยะใต้โต๊ะ แล้วยิ้มแฉ่งและพูดขึ้นว่า “คุณเป็นคนหล่อมากคนหนึ่ง คนหล่อก็ต้องนิสัยดี คนที่โมโหใส่เด็กสาวนั้น ไม่ใช่ผู้ชายที่ดี แล้วอีกอย่าง คุณแต่งหน้าให้ดำอย่างกับผีแบบนี้ มันน่าเกลียดมากจริง ๆ นี่ก็เลย ทำให้ฉันตกใจจนทำให้กาแฟพุ่งออกมาเลยไงคะ”
นฤเบศวร์รู้สึกว่าถ้าตัวเองยังคบหากับเธอต่อไป เขาจะต้องโมโหจนเป็นบ้าแน่
เขาลุกขึ้นมา แล้วล้วงกระเป๋าตังค์ออกมาอีกครั้ง แล้วล้วงเงินออกมาปึกหนึ่ง แล้ววางเพี๊ยะลงไปตรงหน้ากนกอร แล้วพูดกับเธอขึ้นว่า “เงินนี้ให้คุณ เอาไปจ่ายเอง เดี๋ยวคุณอยากกินอะไร ก็ไปกินเอง แล้วก็โบกรถกลับบ้านเองนะ!”
กนกอรรีบเอาเงินปึกนั้นขึ้นมา แสดงท่าทีอย่างกับเป็นทาสของเงิน แล้วยิ้มเหอะ ๆ และพูดขึ้นว่า “วางใจเถอะ ฉันจะดูแลตัวเองให้ดีเอง คุณไปที่ชอบที่ชอบเถอะค่ะ!”
นฤเบศวร์ที่กำลังจะไป หยุดฝีเท้าลงทันที แล้วก็ตะคอกขึ้นด้วยสีหน้ามืดมนว่า “คุณนะซิไปที่ชอบที่ชอบ คิดว่าผมตายไปแล้วหรือไง?”
“อ๋อ ขอโทษที ขอโทษที พูดผิด พูดผิด คุณโชคดีนะ ฉันไม่ไปส่งแล้วนะคะ”
นฤเบศวร์จ้องหน้ากนกอรไปพักหนึ่ง แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “กนกอร ผมไม่สนว่าคุณจะใช้วิธีอะไรหลอกให้ปู่ผมมาจัดแจงให้เราสองคนมาดูตัวกัน แต่ผมจะบอกคุณไว้นะ คนที่ผมรักมีแต่เปรมา นอกจากเธอ ผมไม่มีทางรักใครอีกแล้ว คุณเลิกล้มความคิดนี้ไปเถอะ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถกลายเป็นหนูตกถังข้าวสารแบบเทวิกาได้หรอกนะ”
กนกอรเก็บใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสไป แล้วลุกขึ้นมา ยื่นมือไปก็คว้าปกคอเสื้อนฤเบศวร์เอาไว้ แล้วกระชากเขาใกล้ ๆ เข้ามา และเธอก็ชิดเข้าไป แล้วพูดอย่างเคร่งขรึมขึ้นว่า “นฤเบศวร์ ฉันก็ขอบอกคุณเหมือนกัน ฉันไม่เคยไปหลอกปู่คุณเลย แถมฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณปู่เร็นเป็นปู่ของคุณ”
“ฉันก็ไม่ได้อยากมาดูตัวกับคุณ ไม่เห็นเหรอว่าฉันตั้งใจแต่งหน้าเข้มจัด กินกระเทียม และแต่งตัวแบบนี้มาด้วย ฉันเสียสละไปมากขนาดนี้ ก็เพราะอยากให้คุณรู้สึกว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิงเรียบร้อย แล้วไม่ชอบฉัน”
“คุณคิดว่าตัวเองเป็นเงินเหรอ คนอื่นจะต้องชอบคุณหมด ความรู้สึกที่คุณมีต่อเปรมา ฉันรู้ดี ฉันโง่เหรอ ตาบอดเหรอ ถึงจะอยากไปแต่งงานกับคุณ”
นฤเบศวร์ “……คุณอยากแต่ง ผมก็ไม่แต่งหรอก”
“เหอะ คุณถูกปู่คุณบังคับให้มาดูตัว ถ้าฉันจะแต่งกับคุณจริง ๆ คุณก็คงต้องแต่งงานกับฉันจริง ๆ นะ”
นฤเบศวร์พูดอะไรไม่ออกเลย
“ถ้าอยากให้ฉันไม่แต่งงานกับนาย นายก็รีบมาขอโทษพี่ซะ แล้วบอกว่าเข้าใจพี่ผิดไปแล้ว ขอให้พี่อย่าถือสานายที่เป็นเด็กเลย”
นฤเบศวร์ยกมือขึ้นมาก็ปัดมือของกนกอรที่จับปกคอเสื้อของเขาอยู่ แล้วพูดเสียงเย็นเบา ๆ ขึ้นว่า “อายุน้อยกว่าผมตั้งเท่าไหร่ ยังมีหน้ามาแทนตัวเองว่าพี่ต่อหน้าผมอีก กนกอร ถ้าจะบอกว่าความหน้าด้านของคุณเป็นที่สอง ก็ไม่มีใครกล้าพูดว่าเป็นที่หนึ่งแล้ว”
เขาทิ้งกนกอรไว้ แล้วก็เดินจากไปเลย
นฤเบศวร์ไม่ได้จากไปทันที แต่กลับขึ้นลิฟต์ขึ้นไปที่ห้องเพรสซิเดนท์สูทบนชั้นสูงสุด
ปกติถ้าเขาไปคุยงานดึก ก็จะไม่กลับบ้าน จะมานอนค้างที่โรงแรม ห้องเพรสซิเดนท์สูทบนชั้นสูงสุดก็เป็นห้องเฉพาะของเขา
พอเข้าประตูแล้ว ก็ปิดประตูลง แล้วนฤเบศวร์ก็รีบถอดเสื้อผ้าที่ไม่เรียบร้อยออก แล้วเข้าไปในห้องน้ำโดยตรงเลย
พออาบจนน้ำในอ่างดำไปทั้งอ่าง ถึงจะฟื้นคืนใบหน้าที่หล่อเหลาของเขากลับมาได้
แล้วเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่สะอาดเรียบร้อย นฤเบศวร์จ้องมองตัวเองในกระจก ใช่แล้ว ภาพคนหล่อคนหนึ่งนั่นเอง
กนกอรไม่ชอบเขา นั่นเพราะกนกอรตาบอด
พอดีเลย เขาก็ไม่ชอบเธอเหมือนกัน
ก็แค่ อยู่กับเธอนั้น รู้สึกผ่อนคลายมาก ถึงแม้ว่าจะถูกเธอทำให้โมโหแทบตาย ความผ่อนคลายแบบนั้นเป็นความรู้สึกที่เขาไม่ได้สัมผัสมานานแล้ว