คุณสามีพันล้าน - บทที่ 131 เทวิกาตกอยู่ในอันตราย
เธอจะต้องหาเบอร์ติดต่อคุณนายตาณ เพื่อไปฟ้องเรื่องตาณสักหน่อย เพื่อจะได้ไม่ถูกใครบางคนเอาไปสร้างเรื่องไปเรื่อย แล้วลือไปถึงหูคุณนายตาณเพื่อใส่ร้ายเธอ
ในฐานะที่เป็นผู้หญิงเหมือนกัน เทวิกาไม่อยากให้คุณนายตาณถูกตาณหลอกลวงอีกแล้ว
กนกอรมาถึงในเวลานี้เอง เธอเห็นเพื่อนรักถือไม้กวาดยืนอยู่ตรงหน้าประตู ก็จอดรถไฟฟ้าไปด้วย และถามขึ้นมาอย่างรีบร้อนด้วย “วิกา เกิดอะไรขึ้นเหรอ? ใครมาทำลายข้าวของอีกแล้วเหรอ?”
“ก็ไอ้ผู้ชายชั่ว และไร้ยางอายสิ้นดี ตาณนะซิ”
เทวิกาถูกตาณทำให้โมโหไปไม่น้อย แล้วก่นด่าตาณไปพักหนึ่ง
กนกอรพูดขึ้นมาว่า “ไอ้ชั่วนั่น ทำไมยังมีหน้ามาหาเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกล่ะ”
ประธานยศพัฒน์ก็ได้ประกาศเรื่องแต่งงานกับเทวิกาออกไปแล้ว ตอนนี้คนทั้งเมืองแอคเซสซ์ต่างก็รู้แล้วว่าเทวิกากับยศพัฒน์เป็นสามีภรรยากัน แต่ตาณกลับยังกล้ามาหาเทวิกาอีก ไม่กลัวประธานยศพัฒน์แค่ขยับนิ้วมือก็บีบเขาตายไปเลยเหรอ?
ทั้งสองคนกลับเข้าไปในร้าน
เทวิกาเทน้ำร้อนมาให้ตัวเองแก้วหนึ่ง อยากจะดื่ม แต่น้ำเพิ่งเดือดมันร้อนเกินไป เธอจึงวางแก้วลง แล้วเข้าไปในห้องทำเบเกอรี่ แล้วเอาน้ำเปล่าออกมาจากตู้เย็นขวดหนึ่ง และดื่มไปครึ่งขวด
“ตาณนี่ช่างหน้าไม่อายจริง ๆ เขากล้ามากล่อมให้ฉันหย่ากับยศพัฒน์ แล้วให้แบ่งทรัพย์สินของบ้านยศพัฒน์มา จากนั้นก็กลับไปเป็นแฟนกับเขาอีกครั้ง เขานึกว่าตัวเองเป็นคนป๊อปปูล่าอะไรขนาดนั้นเลยเหรอ? ยังพูดอีกว่าเขาจะหาเงินอีกหน่อยก็หย่าแล้ว”
พอกนกอรได้ยินแล้ว ก็ก่นด่าตาณว่าเป็นผู้ชายชั่วช้าหน้าไม่อาย แถมยังรู้สึกซะใจเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นว่า “สมน้ำหน้าหลานสาวเจ้านายของตาณแล้ว นึกว่าตาณจะรักหล่อนจริง ๆ เหรอ? ตาณก็แค่หวังเงินของครอบครัวพวกหล่อนเท่านั้น ถ้าไม่มีผลประโยชน์แล้ว ตาณจะต้องทิ้งหล่อนไปแน่ ๆ”
พอเทวิกาเงียบขรึมไปครู่หนึ่งแล้ว ก็พูดขึ้นว่า “ฉันเคยเจอคุณนายตาณ หล่อนถือได้ว่าเป็นคนมีเหตุผลคนหนึ่ง บางทีอาจจะถูกคำพูดหวานซึ้งของตาณหลอกลวงไปแล้วมั้ง”
“ฉันจะเอาคำพูดที่ตาณพูดมาไปบอกคุณนายตาณ ดูจากฐานะที่ทุกคนต่างก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน ต้องให้เธอได้เตรียมใจไว้บ้าง จะต้องไม่ให้แผนการของตาณสำเร็จ”
กนกอรพูดอย่างเห็นด้วย “ใช่ ใช่ ใช่ ต้องไม่ให้แผนการของตาณสำเร็จ ต้องให้เขาไม่เหลืออะไรเลย”
“มัณฑนากรยังไม่มาอีกเหรอ?”
“ฉันนัดพวกเขาไว้เก้าโมง ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเลย อ๋อใช่แล้ว เจ้าของร้านมาเก็บค่าเช่าร้าน ฉันลืมจ่ายไปเลย เจ้าของร้านนึกว่าฉันไม่มีปัญญาจ่ายค่าเช่าแล้วซะอีก”
กนกอรหัวเราะพรืดออกมา “เธอกับประธานยศพัฒน์ประกาศแต่งงานกันแล้ว มีแต่คนหูหนวกตาบอดเท่านั้น ที่จะไม่รู้ว่าตอนนี้สถานะของเธอเปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้เจ้าของร้านจะต้องไม่เป็นห่วงอีกแล้วว่าพวกเราจะไม่มีปัญญาจ่ายค่าเช่าอีก”
เธอล้วงโทรศัพท์ออกมา แล้วโอนเงินค่าเช่าร้านครึ่งหนึ่งให้กับเทวิกา
เทวิกาเองก็ไม่เกรงใจ และรับเอาไว้
ทั้งสองคนเป็นเพื่อนรักกัน แต่ว่าร้านOne Day In Coffeeเป็นร้านที่ทั้งสองคนหุ้นกันเปิดขึ้นมา เรื่องงานก็ส่วนเรื่องงาน เรื่องส่วนตัวก็ส่วนเรื่องส่วนตัว ต้องแบ่งแยกให้ชัดเจน
“มา มา มา กนกอร มาเล่าเรื่องหลังจากนั้นของเธอกับนฤเบศวร์ให้ฉันฟังหน่อย”
เทวิกาลากเพื่อนรักมานั่งลงที่โต๊ะตัวหนึ่ง แล้วถามขึ้นมาอย่างสอดรู้สอดเห็น
กนกอร “……จะไปมีอะไรต่อจากนั้นอีกล่ะ พวกเราสองคนต่างก็เข้ากันไม่ได้ ปู่ของเขาก็ถูกปู่ฉันบล็อกไปแล้วด้วย”
เธอเล่าเรื่องที่คุณปู่เร็นมาปรากฏตัวได้ยังไง มาใกล้ชิดกับปู่เธอ มาเป็นเพื่อนกัน แล้วก็ลากมาถึงเรื่องที่ให้เธอกับนฤเบศวร์ไปดูตัวกันได้ยังไงให้เพื่อนรักฟังไปหมดทุกอย่าง
“กนกอร ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าคุณปู่เร็นกำลังทำร้ายเธออยู่นะ เธอลองคิดดูซิ นฤเบศวร์หลงใหลเปรมาซะขนาดนั้น ยศพัฒน์บอกว่าพวกเขาสามคนรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว นฤเบศวร์เพิ่งจะรู้จักกับความรักก็ตกหลุมรักเปรมาแล้วแล้วก็หลงใหลมาสิบกว่าปีด้วย”
“เขาไม่มีทางลืมเปรมาไปง่าย ๆ ใครแต่งงานกับเขาก็คงจะมีความสุขได้ยาก แต่คุณปู่เร็นไม่ชอบเปรมาเป็นอย่างมาก ยศพัฒน์ของฉันบอกว่า ท่านอยากให้นฤเบศวร์แต่งงานกับคนอื่น จะได้ตัดขาดจากการเกาะแกะของเปรมา”
“สังคมไฮโซในเมืองแอคเซสซ์ก็มีอยู่แค่นั้น แต่คุณปู่เร็นไม่ได้เอาสายตาไปจดจ้องอยู่ที่พวกลูกคุณหนูพวกนั้น แต่กลับมามองอยู่ที่เธอ อย่างแรกเป็นเพราะว่าเธอกับนฤเบศวร์เคยมีความสัมพันธ์กันมาก่อน อย่างที่สองคือครอบครัวเธอเป็นครอบครัวทั่วไป ไม่มีกำลังไม่มีอำนาจสามารถรังแกได้ง่าย”
“ถ้าเธอแต่งงานกับนฤเบศวร์ไป ถึงจะต้องทนลำบากใจทุกอย่าง ก็ไม่มีทางกระทบต่อธุรกิจของตระกูลเดชอุป คุณปู่เร็นคนนี้เป็นคนที่โหดร้ายมากจริง ๆ และได้คิดการไว้หมดแล้ว”
กนกอรได้ยินแล้วก็สีหน้าขาวซีด เธอเองก็รู้ว่าคุณปู่เร็นมีความคิดแอบแฝง แต่เธอคิดไม่ได้คิดลึกซึ้งเท่าเทวิกา
“ฉันกับนฤเบศวร์ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก ถึงเขาจะถูกปู่เขาบังคับให้แต่งงาน ฉันก็ไม่มีทางยอมหรอก”
กนกอรบอกกับตัวเอง ถ้าเกิดว่าเป็นอย่างที่เทวิกาแจกแจงมา เธอจะต้องเป็นหม้ายทั้ง ๆ ที่สามียังมีชีวิตอยู่ จะต้องห้ามหวั่นไหวเพราะความหล่อเหลาและเงินของนฤเบศวร์เด็ดขาด
ครั้งที่แล้วเขาให้เงินเธอมาล้านหนึ่ง ให้เธอแกล้งเป็นแฟนของเขา จนต้องมาโดนเปรมาตบไปฉาดหนึ่ง
กนกอรเป็นกังวลว่านฤเบศวร์จะเล่นไม้เดิมอีกครั้ง
“กนกอร ขอโทษนะ ที่เกิดเรื่องพวกนี้ขึ้นมา มันเป็นเพราะฉันทั้งนั้น เพราะฉันก็เลยทำให้เธอต้องซวยไปด้วยเลย”
เทวิกาจับมือเพื่อนรักมา แล้วขอโทษไป
“วิกา นี่เธอพูดเรื่องบ้าอะไร เรื่องนี้จะโทษเธอได้ยังไง ความสัมพันธ์ของฉันกับนฤเบศวร์เป็นเพราะว่าฉันสาดน้ำเย็นใส่เขากะละมังหนึ่ง จนทำให้เขาเป็นหวัด”
กนกอรไม่ยอมให้เพื่อนรักโทษตัวเอง
เทวิกายังอยากจะพูดอะไรอีก แต่โทรศัพท์เธอกลับดังขึ้นมาซะก่อน
นึกว่ายศพัฒน์เป็นคนโทรเข้ามา
ตอนนี้เขาพูดคำหวานได้ลื่นไหลมากแล้ว
พอเห็นเบอร์ที่แสดงขึ้นมา กลับเป็นเบอร์แปลก ๆ เบอร์หนึ่ง
เทวิการู้สึกสงสัย แต่ก็ยังกดรับสายขึ้นมา
พอรับสายแล้ว ยังฟังไปได้ไม่เท่าไหร่ สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที ร่างกายก็ลุกยืนตามไปด้วย แล้วก็วิ่งพุ่งไปทางประตูร้านเลย
กนกอรตกใจจนสะดุ้ง รีบวิ่งตามออกไป วิ่งตามไปด้วยและถามไปด้วยว่า “วิกา ทำไมเหรอ? เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
เทวิกาวิ่งไปถึงข้างทาง และมีรถแท็กซี่จอดอยู่ข้างทางคันหนึ่งพอดี เธอเองก็ไม่ได้สนใจว่าบนรถจะมีคนอื่นอยู่หรือเปล่า พอดึงประตูเปิดออกก็มุดตัวเข้าไปเลย แล้วตอบกลับมาให้เพื่อนรักว่า “กนกอร พี่ชายฉันเกิดอุบัติเหตุรถชนขึ้น เป็นโทรศัพท์ที่โรงพยาบาลโทรมาบอก ตอนนี้ฉันต้องรีบไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้”
กนกอรอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็สั่งกำชับเธอขึ้นว่า “งั้นเธอรีบไปดูสถานการณ์ที่โรงพยาบาล ถ้าต้องการความช่วยเหลืออะไร ก็โทรหาฉันนะ เรื่องที่ร้าน เธอไม่ต้องเป็นห่วงนะ มีฉันอยู่ทั้งคน”
รถแท็กซี่ขับเคลื่อนออกไปแล้ว
กนกอรจ้องมองรถแท็กซี่ขับไกลออกไป
พี่ชเนนทร์เป็นคนดีมาก เพราะว่าเธอกับเทวิกาเป็นเพื่อนรักกัน ชเนนทร์จึงรักและเอ็นดูเธอเหมือนกับเป็นน้องสาวคนหนึ่ง
พอได้ยินว่าชเนนทร์เกิดอุบัติเหตุรถชน ใจของกนกอรก็ช่วยอธิษฐานแทนชเนนทร์ด้วย หวังว่าชเนนทร์จะปลอดภัยไม่เป็นอะไร
พอยืนอยู่ข้างถนนไปครู่หนึ่ง แล้วกนกอรถึงจะหมุนตัวเดินกลับไป
พอเข้าไปในร้าน ก็ได้ยินเสียงของชเนนทร์
“กนกอร เธออยู่คนเดียวเหรอ? วิกาล่ะ? ไหนเธอบอกว่าวันนี้จะเข้าร้านไม่ใช่เหรอ?”
กนกอรหมุนตัวไปทันที แล้วก็เห็นชเนนทร์ และถามขึ้นมาอย่างอึ้งทึ่งว่า “พี่ชเนนทร์ พี่ไม่เป็นอะไรเหรอ? ไหนว่าพี่เกิดอุบัติเหตุ แล้วถูกส่งไปโรงพยาบาลแล้วไง โรงพยาบาลเพิ่งโทรมาบอกเทวิกา เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาเทวิกาเพิ่งจะนั่งแท็กซี่คันหนึ่งไปโรงพยาบาลเอง”
ชเนนทร์เองก็นิ่งอึ้งไป แล้วพูดขึ้นว่า “ใครบอกว่าฉันเกิดอุบัติเหตุนะ? โรงพยาบาลไหนโทรมาไปเรื่อย? ฉันอยู่ดี ๆ มาแช่งฉันว่าเกิดอุบัติเหตุ……แย่แล้ว เทวิกาตกอยู่ในอันตรายแล้ว!”
ชเนนทร์หมุนตัววิ่งไปทางประตู
พอกนกอรตั้งสติกลับมาได้ สีหน้าก็ร้อนรนขึ้นมา แล้วรีบวิ่งตามเขาไป
ชเนนทร์วิ่งไปถึงหน้ารถ แล้วก็นึกอะไรขึ้นมาได้จึงหยุดลง แล้วหันหน้ามาถามกนกอรอย่างร้อนรน “กนกอร เธอยังจำป้ายทะเบียนรถแท็กซี่คันที่วิกานั่งไปได้หรือเปล่า?”