คุณสามีพันล้าน - บทที่ 141 อุตส่าห์ได้คุยกันอย่างเป็นมิตร
“คุณเปรมาเติบโตมาด้วยกัน ถึงแม้ฉันจะไม่ชอบการเสแสร้งแกล้งทำของเปรมา แต่ต้องยอมรับ ว่าคุณรักเธอจนแทบลุ่มหลง สำหรับผู้ชายที่มีผู้หญิงคนอื่นอยู่ในใจ ฉันยอมแต่งงานด้วยก็บ้าแล้ว”
นฤเบศวร์ขมวดคิ้ว “โอเค เหตุผลนี้ผมยอมรับ”
เขาถูกเปรมาทำร้ายจิตใจอย่างหนัก และเคยคิดที่จะยอมแพ้ แต่พอเปรมามาออดอ้อน ขอร้องเขา เขาก็ใจอ่อน
ตอนนี้ยศพัฒน์มีเทวิกาแล้ว เปรมาน่าจะตายใจแล้ว เขายังมีความหวัง
“ฉันจะไปชงกาแฟให้”
กนกอรเดินไปที่เครื่องชงกาแฟ
นฤเบศวร์ตอบกลับเพียงอืมคำเดียว
การรอคอยนั้นน่าเบื่อมาก เขาจึงลุกขึ้นยืน แล้วเดินดูไปรอบๆ ร้าน ถึงแม้ร้านจะถูกเปรมาพาคนมาทำลาย หลังจากทำความสะอาดแล้ว ยังสามารถมองเห็นสภาพเดิมของร้านว่ามันเคยเป็นยังไง ในร้านถูกตกแต่งอย่างดูดี ให้ความรู้สึกอบอุ่น นั่งดื่มกาแฟ ทานของว่างอยู่ที่นี่ และพูดคุยกับเพื่อน คงสบายใจมาก
“กนกอร ใครเป็นคนดูแลการตกแต่งร้านของคุณในตอนแรก?”
“ฉันกับวิกาออกแบบเองค่ะ เราสองคนคอยมาตามดูการตกแต่งทุกวัน ทำตามสไตล์ที่เราชื่นชอบ ไม่ให้มีการผิดพลาดเลยแม้แต่นิดเดียว”
“ใครเป็นคนออกแบบ”
“วิกาค่ะ วิกา เรียนการออกแบบตกแต่งภายในมา แต่เธอเป็นคนรักอิสระ ไม่ชอบถูกคนอื่นควบคุมไว้ในบริษัท พอดีกับที่ฉันอยากจะเปิดร้านกาแฟ ฉันก็เลยดึงเธอเข้าร่วมหุ้นด้วย พวกเราก็เลยร่วมมือกันเปิดร้านกาแฟแห่งนี้ขึ้นมา”
ตอนแรกธุรกิจก็ไม่ค่อยดี
แต่ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว
นฤเบศวร์ตอบกลับเพียงอ๋อคำเดียว
เขาเคยดูประวัติของเทวิกา ผู้หญิงคนนั้นเรียนการออกแบบตกแต่งภายในมาจริงๆ แต่เพราะรักอิสระเธอจึงไม่ได้ทำงานตามสาขาที่เรียนมา ไม่รู้ว่ามันถือเป็นการสูญเสียของวงการออกแบบหรือเปล่า?
ตอนนี้เธอกลายเป็นคุณนายน้อยของตระกูลอริยชัยกุล ถ้าพิจารณาจากการเอาใจของยศพัฒน์ที่มีต่อเธอแล้ว ดูท่า เธอคงไม่ทำงานในบริษัทอีกแล้ว
“เติมน้ำตาลไหมคะ”
หลังจากนฤเบศวร์นิ่งคิดสักพัก เขาก็พูดตอบ “ใส่นิดเดียวก็พอ”
กนกอรช่วยเขาเติมน้ำตาลลงไป
เธอยกกาแฟที่ชงเสร็จออกไป แล้วยื่นให้เขา ยืนมองดูเขานิ่ง
นฤเบศวร์รู้สึกว่าดวงตาของเธอสดใสมาก และหน้าตาของเธอก็ดี แต่ที่โดดเด่นที่สุดก็คือดวงตาของเธอ
“ปกติคุณก็ต้อนรับแขกแบบนี้หรือเปล่า”
กนกอรจึงได้แต่ช่วยนกกาแฟกลับไปยังวางตรงหน้าเก้าอี้ที่เขานั่ง แล้ววางถ้วยกาแฟลงบนโต๊ะ
ทั้งสองกลับมานั่งลงที่โต๊ะ กนกอรนั่งมองนฤเบศวร์ดื่มกาแฟ
ถึงแม้ดวงตาของเธอจะสดใส ไม่มีแววตาลุ่มหลงใด ๆ แต่นฤเบศวร์ก็อดที่จะพูดกับเธอไม่ได้: “คุณเอาแต่มองผมแบบนี้ จะทำให้ผมเข้าใจว่าคุณตกหลุมรักผม ผู้ชายที่หล่อเหลาอย่างผม มีผู้หญิงหลายคนที่ตกหลุมรักผมตั้งแต่แรกพบ”
“วางใจได้ค่ะ มีคนตกหลุมรักคุณตั้งแต่แรกพบมากมาย ฉันไม่คิดจะเบียดตัวเองเข้าไปร่วมด้วยแน่นอน”
กนกอรดึงสายตากลับ “ถ้าอย่างนั้นคุณก็ดื่มช้าๆ นะคะ ฉัน”
“มีอะไรน่าอ่านขนาดนั้น”
“ยังไงท่านประธานอย่างพวกคุณก็คงไม่อ่าน แต่ว่า เรื่องราวความรักของประธานบริษัทอย่างพวกคุณ คงไม่ยืนยาว ไม่ว่าแนวไหนโด่งดังบนอินเทอร์เน็ต เรื่องราวความรักของท่านประธานก็ไม่มีวันตกอันดับ”
“มีคนฝันอยากจะเป็นซินเดอเรลล่าเยอะมากเกินไปน่ะสิ”
นฤเบศวร์พูดอย่างไม่ใส่ใจ “จะมีผู้บริหารหนุ่มสุดหล่อกับนางเอกได้มาเจอกันและรักกันเยอะขนาดนั้นได้ยังไง เหมือนผมกับพี่พัฒน์ ล้วนแต่เป็นแค่ผู้สืบทอด ไม่ใช่ผู้ก่อตั้ง โดยทั่วไปแล้ว ผู้ชายที่สามารถมีอำนาจและร่ำรวยได้เหมือนพระเอกในนิยาย ก็ล้วนแต่อายุมากแล้ว อย่างน้อยก็อายุประมาณสามสิบถึงสี่สิบปี และแต่งงานกันแล้ว”
กนกอร “…โชคดีที่คุณไม่ใช่นักเขียน”
นฤเบศวร์ส่งเสียงเหอะๆ “ผมยังต้องเขียนนิยายเพื่อหาเลี้ยงชีพอีกเหรอ? ผมถูกเอาไปเป็นพระเอกมากกว่า”
“ถ้าอย่างนั้น ฉันขอให้วิกาเขียนถึงคุณเข้าไปในนิยายของเธอด้วย ให้คุณเป็นพระรองดีไหมคะ”
นฤเบศวร์สีหน้าบูดบึ้ง “ด้วยฐานะอย่างผม เป็นได้แค่พระรอง ถ้าเขียนผมให้เป็นพระรอง ผมไม่ให้เทวิกาเอาชื่อผมไปเขียนหรอก เธอเป็นภรรยาของยศพัฒน์ ใครจะรู้ว่าเธอจะเขียนให้ผมหน้าตาขี้เหร่ อ้วน พุงย้อย ลามก เจ้าเล่ห์ หลอกลวง หรืออะไรทำนองนั้นหรือเปล่า”
“นักเขียนเป็นคนกำหนดชีวิตและความตายของตัวละครทุกตัวในนิยายของตัวเอง”
กนกอรอารมณ์ดีขึ้นมา ก่อนจะพูดยิ้มๆ “คุณนฤเบศวร์เคยอ่านนิยายประเภทนี้มาก่อนใช่ไหมคะ”
“ตอนที่ผมยังเป็นวัยรุ่น เพื่อเอาใจผู้หญิงที่รัก เคยอ่าน…”
“คุณนฤเบศวร์ทุ่มเทให้คุณเปรมาจริงๆ เลยนะคะ”
คำพูดของกนกอรฟังดูค่อนข้างเหน็บแนม
นฤเบศวร์ฟังออก แต่ตอนนี้เขาไม่อยากทะเลาะกับกนกอร จึงแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดประชดนั้น ก่อนจะดื่มกาแฟที่กนกอร ชงมาให้เขา แล้วพูด “ถ้าจะรัก ก็ต้องรักอย่างลึกซึ้ง ถ้าไม่รัก ก็คือไม่รัก”
ถ้าเขายอมแพ้จากเปรมาจริงๆ ถ้าตัดขาด เขาก็จะตัดขาดอย่างเด็ดขาดไม่เหลือเยื่อใย
กนกอรไม่ตอบกลับ และไม่รู้ว่าจะต้องตอบกลับยังไง
ทั้งสองปกติตอนที่เจอกัน ทั้งคู่ก็จะต่อปากต่อคำ ไม่มีใครยอมใคร
การหยุดทะเลาะและคุยกันเหมือนวันนี้ หาได้ยากมาก
เธอไม่อยากทำให้เขาอารมณ์เสีย แล้วอีกอย่าง เขาก็ช่วยเธอไว้มากด้วย
……
ตระกูลเดชอุป
คุณปู่เร็นนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ในสวนเพียงลำพัง สักพัก พ่อบ้านก็เดินออกมา และยกน้ำมาให้เขาหนึ่งแก้ว
“มาคุยเป็นเพื่อนฉันก่อน”
พ่อบ้านตอบด้วยความเคารพ: “คุณท่านอยากจะคุยเรื่องอะไรครับ?”
“ถ้าทำให้อีกฝ่ายโกรธ ควรทำยังไง คือว่า ฉันไปโกหกคนอื่น และปกปิดฐานะของตัวเอง จากนั้น อีกฝ่ายก็เลยโกรธ ฉันแก้ตัวแล้ว แต่อีดฝ่ายยังโกรธอยู่”
คุณปู่เร็นถอนหายใจ “ฉันชอบคุยกับพวกเขามากเลย พูดคุยได้ทั้งเรื่องในอดีตและปัจจุบัน”
ด้วยความที่อายุเท่ากัน จึงมีหัวข้อสนทนาร่วมกัน
เขาถูกคนยกย่องนับถือมาตลอด นึกว่าหลังจากที่คนตระกูลภูสิทธ์อุดมรู้ฐานะที่แท้จริงของเขาแล้ว พวกเขาจะปฏิบัติต่อเขาในฐานะแขก แต่ผลที่ได้ก็คือ แม้แต่แขกก็ไม่ได้เป็นด้วยซ้ำ
แน่นอน เพราะเหตุนี้เขาถึงพอใจคนตระกูลภูสิทธ์อุดมไม่น้อย คนตระกูลภูสิทธ์อุดมไม่คิดจะโกงเงินจากตระกูลเดชอุป
ไม่หวังเงินทอง ไม่หวังลาภยศกนกอรเด็กคนนั้น เขาก็ชอบมาก เหมาะจะเป็นหลานสะใภ้ของเขา
“คุณท่านแสดงความจริงใจ เตรียมของขวัญไว้ด้วย แล้วขอโทษอีกฝ่ายด้วยตนเอง ผมคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะยกโทษให้คุณท่านแล้วครับ”
คุณปู่เร็นนึกถึงแผนการพิศดารของเขา และส่ายหน้าไปมา “ไม่ได้”
ถ้าทำแบบนั้นคนตระกูลภูสิทธ์อุดมจะโกรธเขามากขึ้นมากกว่า
“จริงสิ เปรมาถูกขังกี่วัน?”
“สิบห้าวันครับ ตอนนี้ผ่านไปห้าหกวันแล้ว อีกไม่กี่วันก็ได้ออกมาครับ”
เกิดเรื่องมาหลายวันแล้ว พ่อบ้านรู้ว่าคุณชายใหญ่เป็นห่วงคุณเปรมามาก แต่คุณท่านไม่ชอบคุณเปรมา เพราะเป็นอย่างนั้น เขาจึงต้องรู้เรื่องคุณเปรมาไว้ ตอนที่คุณท่านถาม เขาจะได้ตอบได้
คุณปู่เร็นขมวดคิ้ว “ผ่านไปตั้งหลายวันแล้วเหรอ เหมือนเพิ่งผ่านไปไม่กี่วัน”
“ควรจับเธอขังไว้ข่างในตลอดชีวิตไม่ต้องปล่อยออกมา พอเธอออกมา เธอจะทำลายอนาคตของตาเบศวร์อย่างแน่นอน เฮ้อ ตาเบศวร์ติดหนี้เธอในชาติก่อน เขาดีทุกอย่าง แต่กลับให้ความสัมพันธ์กับความรักมากเกินไป และโง่เกินไป!”
ในโลกนี้ไม่ใช่ว่าไม่มีผู้หญิงคนอื่นแล้ว
หลานชายคนโตของเขากลับรักมั่นกับเปรมาคนเดียว
“อีกไม่กี่วันก็ออกมาแล้ว…ไม่มีเวลาแล้ว”
คุณปู่เร็นพึมพำกับตัวเอง
พ่อบ้านไม่เข้าใจความหมายแฝงในคำพูดของเขา
อะไรคือไม่มีเวลาแล้ว?
คุณปู่เร็นจะทำอะไร
คุณปู่เร็นจะต้องบังคับให้นฤเบศวร์แต่งงาน ก่อนที่เปรมาจะออกมาให้ได้ ตัดขาดความคิดของเปรมาที่จะใช้หลานชายของเขาเป็นตัวเลือกสำรอง
ผู้หญิงเสแสร้งคนนั้นอยากจะแต่งงานเข้าตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองแอคเซสซ์ เขาไม่สนใจคนอื่น แต่หลานสะใภ้ของตระกูลเดชอุป จะเป็นเปรมาไม่ได้เด็ดขาด!