คุณสามีพันล้าน - บทที่ 148 เยาะเย้ย
“เชิญนั่ง”
นฤเบศวร์เชิญยศพัฒน์ไปนั่งที่โซฟาตรงจุดต้อนรับ
ยศพัฒน์มองไปรอบ ๆ ห้องทำงานของเขา ก่อนที่จะนั่งลงบนโซฟา
“คุณจะดื่มอะไร”
“ไม่ต้องพูดสุภาพก็ได้ ฉันแค่มาคุยกับนายไม่กี่คำ เอาของมาให้แล้วจะกลับไป”
นฤเบศวร์ไปช่วยยศพัฒน์เทน้ำอุ่นมาให้หนึ่งแก้ว แล้วพูดว่า “คนที่มาหาล้วนเป็นแขก ถ้าฉันไม่ให้นายดื่มแม้แต่น้ำหนึ่งแก้ว ใครจะไปรู้ว่านายจะออกไปพูดใส่ร้ายฉันยังไง”
“ฉันเคยพูดใส่ร้ายนายตอนไหน”
นฤเบศวร์พูดไม่ออก
ถึงแม้สองคนนี้จะไม่ถูกกัน แต่ก็ไม่ถึงขนาดมีความแค้นที่ฆ่าพ่อหรือแย่งภรรยากัน ส่วนใหญ่ก็แค่ทะเลาะกันบ้าง
ยศพัฒน์เป็นสุภาพบุรุษมากกว่าเขา เพราะบางครั้งเขาเคยพูดใส่ร้ายยศพัฒน์ แต่ยศพัฒน์กลับไม่เคยพูดใส่ร้ายเขาเลย
“นายมีอะไรจะพูดกับฉัน”
นฤเบศวร์กลับไปที่หัวข้อ
เขาเริ่มสงสัย และอยากรู้ว่ายศพัฒน์ต้องการจะพูดอะไรกับเขา
พอเห็นท่าทางอยากรู้อยากเห็น ยศพัฒน์จึงอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ ก่อนจะพูดว่า “อย่าทำท่าทางตั้งตารอ วางใจได้ ไม่ใช่คำสารภาพคำสารภาพรัก”
“แค่ก แค่ก แค่ก“
นฤเบศวร์รู้สึกโชคดีที่เขาไม่ได้ดื่มน้ำเข้าไป ไม่อย่างนั้นเขาคงสำลักน้ำตาย
“ยศพัฒน์ นายพูดดีๆ ได้ไหม นายจะทำให้ฉันตกใจตายหรือไง”
“ฉันพูดไม่ดีตรงไหน?”
นฤเบศวร์พูดไม่ออกไปอีกครั้ง
ยศพัฒน์ยื่นมือเรียวของเขาไปหยิบแก้วน้ำอุ่นขึ้นมา แล้วยกแก้วขึ้นมาอย่างสง่างาม และจิบน้ำอุ่นดื่มช้าๆ
หลังจากนั้นเขาก็ถือแก้วไว้แล้วมองที่นฤเบศวร์ด้วยดวงตาสีดำ
พอเห็นท่าทางของเขา นฤเบศวร์รู้สึกทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย
แต่อีกฝ่ายเอาแต่มองแล้วไม่พูดอะไร ความอดทนของนฤเบศวร์มีไม่มากพอ ดังนั้นเขาจึงรีบถามออกไป “ยศพัฒน์ ถ้านายเอาแต่มองฉันแบบนี้อีก ฉันจะโทรหาภรรยาของนายและบอกภรรยาของนาย ว่านายนอกใจเธอ มาหลงรักฉัน”
“นฤเบศวร์ ที่จริงแล้วนายก็หน้าตาดีมาก แต่ถ้าเทียบกับฉัน นายก็ไม่ด้อยไปกว่ากัน นายคิดว่า นายจะเป็นฝ่ายรุกหรือจะเป็นฝ่ายรับ?”
พอพูดจบ นฤเบศวร์ก็กระโดดขึ้นจากโซฟาไปหลบอยู่หลังโซฟา
“ยศพัฒน์ นายบ้าไปแล้วหรือไง พูดอะไรไร้สาระ นายแต่งงานมีภรรยาแล้ว แต่ยังคิดจะมาสนใจฉันอีก นายเป็นพวกได้ทั้งชายทั้งหญิง! เปรมารักนายมาตั้งหลายปี แต่นายกลับไม่รับรักเธอ คงไม่ใช่เป็นเพราะฉันหรอกใช่ไหม ห๊ะ!”
“สุดท้ายกลายเป็นฉันที่เป็นศัตรูความรักที่ใหญ่ที่สุดของเปรมา ถ้าเปรมาถูกปล่อยออกมา เธอจะบีบคอฉันไหมถ้ารู้เรื่องนี้ ถ้าเธอบีบคอฉัน ฉันควรจะตายหรือไม่ตายดี?”
ยศพัฒน์หัวเราะออกมา
นฤเบศวร์สีหน้าบึ้งตึง
ยศพัฒน์ยกยิ้มแล้วพูดว่า “ถ้าเปรมาขอให้นายไปตาย นายคงยอมตาม งั้นนายก็ไปตายเถอะ จะได้ไปเกิดใหม่เร็วๆ ถ้านายตาย ฉันก็จะไม่มีคู่แข่งอีก และชีวิตที่เหลือของฉันจะอยู่กับวิกาจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกัน และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตลอดไป”
“ไม่ต้องห่วง ทุกๆ ปีในช่วงเทศกาลเช็งเม้ง ฉันจะพาภรรยา ลูกชายและลูกสาวของฉันไปทำพิธีกวาดโลงศพให้นาย เพื่อขอบคุณที่นายตายเร็วๆ ”
นฤเบศวร์มองไปทางซ้ายและขวา อยากจะหาของมาโยนใส่ยศพัฒน์
น่าเสียดายที่ไม่พบอะไรที่เหมาะสม
เขาอยากถอดรองเท้าโยนใส่อีกฝ่าย ได้ไหม?
ยศพัฒน์วางแก้วน้ำลง ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปสองสามก้าว
เขาเอื้อมมือไปจับคอเสื้อของนฤเบศวร์ แล้วดึงเขาออกมาจากหลังโซฟา ก่อนจะช่วยนฤเบศวร์จัดเสื้อผ้าของเขา แล้วพูดว่า “เสื้อผ้าที่นายใส่วันนี้น่าเกลียดมาก ถึงแม้จะเป็นสีแดง สีมงคล นายจะจัดงานงมงคลหรือไง”
นฤเบศวร์ยกมือขึ้นปัดมือของเขาออกไป
เขารีบถอดเสื้อสีแดงออก เขาไม่รู้ว่าวันนี้เขาเป็นบ้าอะไร ถึงได้ใส่เสื้อสีแดง
วันนี้ไม่ใช่วันมงคลอะไร เขานฤเบศวร์เป็นโสดมายี่สิบเก้าปี ในที่สุดวันนี้เขาก็สละโสดแล้ว เพื่อตำแหน่งและอำนาจ ยอมขายตำแหน่งภรรยาให้กับกนกอรไป
พอคิดถึงเรื่องนี้ นฤเบศวร์ก็เศร้าใจมาก
จับสังเกตท่าทางอยากรู้อยากเห็นของคู่แข่งได้ นฤเบศวร์ก็กอดอกขึ้นมาทันที แล้วด่ายศพัฒน์อย่างโมโห “นายมองอะไร?”
“นายถอดให้ฉันดูเอง จะมาโทษฉันได้ยังไง อะไรที่นายมีฉันก็มี แต่ก็มีแบ่งขนาดอยู่เหมือนกัน”
“อ้าวเฮ้ย!”
“ยศพัฒน์ วันนี้ฉันเพิ่งรู้จักนายเป็นวันแรก!”
นฤเบศวร์ถูกยศพัฒน์กวนประสาทจนโมโห “รอก่อน ฉันจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า”
เขาจึงรีบเดินเข้าไปในห้องพัก
ประตูยังไม่ทันปิด เขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะที่ไร้การปกปิดของยศพัฒน์ดังเข้ามา
น่าโมโหจริงๆ!
สนุกบนความทุกข์ของคนอื่น!
นฤเบศวร์ต่อว่ายศพัฒน์อยู่ในห้อง แต่เขาไม่ได้ชักช้า รีบเปลี่ยนมาใส่ชุดสูท ตอนที่เขาออกมาอีกครั้ง เขาก็กลับมาเป็นผู้ชายที่หล่อเหลาในชุดสูทตามเดิม
พอเขาออกมา ยศพัฒน์ก็หยิบซองเอกสารออกมา แล้วยื่นให้นฤเบศวร์
“นี่คืออะไร?”
นฤเบศวร์เลิกคิ้ว ก่อนจะถาม “จดหมายรัก? ยศพัฒน์ ฉันจะบอกไว้เลยนะ ฉันเขียนจดหมายรักไม่เป็น ถึงแม้นายจะเขียนจดหมายรักมาให้ฉันทุกวัน ฉันก็ไม่ตอบกลับนายแน่”
“นายคิดมากเกินไปแล้ว”
ยศพัฒน์ยัดซองจดหมายใส่มือเขา “ฉันสนใจแต่วิกาของฉัน ส่วนคนอื่น ฉันไม่สนใน”
“อย่ามาแสดงความรักต่อหน้าฉัน ผู้หญิงที่ฉันรักที่สุดรักนาย แต่นายกลับไปรักคนอื่น นายได้แต่งงานกับผู้หญิงที่นายรัก ยศพัฒน์ นายมันลูกบ้านอื่นที่บรรดาผู้ใหญ่พึงพอใจ นายโดดเด่นจนพวกเราตามไม่ทัน แม้แต่ความรักของนายก็มีความสุขกว่าพวกฉัน”
เขารักเปรมา แต่คุณปู่กลับบังคับให้เขาแต่งงานกับกนกอร
ชะตาชีวิตของแต่ละคนมันแตกต่างกันจริงๆ
ยศพัฒน์แข็งแกร่งกว่าเขา และโชคดีกว่าเขาด้วย
“เมื่อวาน ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือนะ”
ในที่สุดยศพัฒน์ก็ยับยั้งคำพูดเยาะเย้ยไว้ได้ และกล่าวขอบคุณนฤเบศวร์อย่างจริงใจ
“วันนี้นายมาที่นี่เพื่อขอบคุณฉันโดยเฉพาะอย่างนั้นเหรอ?”
ยศพัฒน์เลิกคิ้ว “ก็ใช่น่ะสิ คุณคิดว่าฉันอยากจะมาหานายจริงๆ เหรอ ถ้าไม่ใช่เพื่อขอบคุณที่นายไปช่วยตามหาภรรยาของฉัน ต่อให้นายใช้เกี้ยวไปแบกฉันมา ฉันก็ไม่มาหรอก”
นฤเบศวร์ขมวดคิ้ว
พูดเกินไปไหม
พวกเขาไม่ใช่เพื่อนสนิทกันสักหน่อย
ยศพัฒน์ไม่อยากติดหนี้บุญคุณเขา รู้ว่านฤเบศวร์ไปช่วย เขาจึงมาขอบคุณเขาด้วยตัวเอง
นฤเบศวร์รับซองจดหมายมา
ก่อนจะได้ยินยศพัฒน์พูดว่า “เงินข้างในนั้น นายเก็บไว้ครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งนายแบ่งให้พวกบอดี้การ์ดของนายให้เท่ากัน ถือเป็นการขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ”
ข้างในซองเป็นเช็คเงินสด
นฤเบศวร์หยิบเช็คออกมาต่อหน้ายศพัฒน์ แล้วดูจำนวนเงิน ก่อนจะพูดว่า “ฉันไม่ได้ขาดเหลือเรื่องเงิน แบ่งให้พวกบอดี้การ์ดทั้งหมดเลยก็แล้วกัน ที่จริงแล้วเป็นกนกอรที่มาขอความช่วยเหลือจากฉัน ไม่อย่างนั้น ฉันคงไม่สนใจว่าภรรยาของนายจะเป็นตายร้ายดียังไง”
“ฉันต้องบอกเลยว่าภรรยาของนายมีเพื่อนที่ดีมาก ในสังคมวัตถุนิยมสมัยนี้มีเพื่อนน้อยมากที่จะรักและห่วงใยกันได้เหมือนกนกอร”
ยศพัฒน์เดาไว้แล้วว่าต้องเป็นกนกอรที่ขอความช่วยเหลือจากนฤเบศวร์
เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ทุกคนในเมืองแอคเซสซ์ต่างก็รู้ดี กับเรื่องความรู้สึกของนฤเบศวร์ที่มีต่อเปรมา นอกจากเปรมาที่สามารถขอให้นฤเบศวร์ช่วยเหลือได้ ยศพัฒน์ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จะมีความสามารถทำเช่นนี้ได้ ถึงตอนนี้ เขาถึงได้รู้ ว่าเขาถูกประเมินความสำคัญของเปรมาในใจนฤเบศวร์สูงเกินไป