คุณสามีพันล้าน - บทที่ 152 ประยสย์ปกปัองแม่
“กริ่งๆๆ ……”
เสียงโทรศัพท์ของประยสย์ดังขึ้นมา
เขาหาเจอคนที่จะระบายอารมณ์ได้ทันที
หยิบโทรศัพท์ออกมา เบอร์โทรที่โทรเข้ามาคือคนที่เข้าให้ไปตามหาน้องสาวเขาอยู่ ความโกรธของเขาหายไปเป็นปลิดทิ้งทันที เขาไม่ได้รับมันขึ้นมาทันที แต่กลับตัดสายทิ้ง
“แม่ แม่อยากออกไปเดินเล่นไหม?”
ทุกครั้งที่ประยสย์รับโทรศัพท์แบบนี้ ต้องไปรับที่สนามหญ้า เพราะที่นั่นกว้างขวาง ถึงแม้ในขอบสนามหญ้าจะปลูกต้นไม้มากมาย แต่ถ้าเวลายืนคุยโทรศัพท์อยู่ตรงกลางของสนามหญ้า ถ้ามีคนแอบซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ก็ไม่สามารถได้ยินสิ่งที่เขาพูด
เขารู้สึกว่ามันปลอดภัยกว่าห้องหนังสือของพ่อเขาเสียอีก
คุณหญิงเหมือนไม่ได้ยินคำพูดของเขา ยังคงกอดตุ๊กตาไว้และเกลี้ยกล่อมอยู่
ประยสย์ก้มตัวลง เพื่อพยายามอุ้มเธอขึ้นมา
คุณหญิงไม่มีท่าทีปฏิเสธ
ประยสย์พยุงเธอให้ลุกขึ้น พูดเสียงอ่อนโยนขึ้นมาว่า: “แม่ ผมพาแม่ไปเดินเล่นที่สนามหญ้านะ”
ทันใดนั้นคุณแม่ร้องไห้เสียงดังออกมา คุณย่าและคุณป้าอีกสองคนน่าจะได้ยินข่าวคราวแล้ว ว่าเขาไม่อยู่บ้าน พวกเธอจะมาหาเรื่องคุณแม่ที่นี่
ถึงแม้ป้าอ้อยจะอยู่ที่นี่ แต่ป้าอ้อยก็เป็นเพียงแค่ลูกจ้างคนหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่สามารถห้ามเจ้าของบ้านทั้งสามคนได้
คุณย่าเขาถือได้ว่าเป็นคนแก่ที่ดื้อรั้นและหัวแข็งคนหนึ่งเลย
“เด็กดี แม่พาหนูไปเดินเล่นนะ ไปรับแสงแดดหน่อย มันเป็นผลดีให้กับแคลเซียมดูดซึมได้ง่าย”
คุณหญิงกล่อมตุ๊กตาไปด้วย เดินตามฝีเท้าของประยสย์ไปด้วย
สองแม่ลูกออกมาจากห้องด้วยกัน
“คุณหญิง คุณชาย”
ป้าอ้อยเดินเข้ามาหา
“คุณชาย คุณจะพาคุณหญิงไปที่ไหนเหรอ?”
ป้าอ้อยเห็นคุณหญิงดวงตายังคงแดงก่ำอยู่ รู้สึกสงสารออกมาจับใจ
“ป้าอ้อย ผมพาคุณแม่ออกไปเดินเล่น ทุกคนไม่ต้องตามมานะ”
“คุณชาย ข้างนอกร้อนมาก”
“ช่วงบ่ายแล้ว แสงอาทิตย์ไม่ได้แรงขนาดนั้น แม่ผมอยู่แต่ในห้องก็ไม่ดี ต้องออกไปรับแสงแดดบ่อยๆ ถึงจะดี”
ผิวพรรณของคุณหญิงขาวมาก ความซีดขาวแบบนั้นมาจากการไม่ได้รับแสงแดดเลย
“ถ้างั้น คุณชายดูแลคุณหญิงดีๆ นะ”
ป้าอ้อยไม่ได้ห้ามอะไรอีก
ที่บ้านหลังนี้ ก็มีแต่คุณชายเท่านั้นที่ดีต่อคุณหญิง เพราะพวกเขาเป็นแม่ลูกสายเลือดเดียวกัน
ประยสย์ตอบอืมออกมา
เขาจูงมือคุณแม่ไว้ แล้วพาคุณแม่เดินลงบันไดไป
สองแม่ลูกยังคงอยู่บนบันได ก็เห็นคุณย่ากับคุณหญิงสามเดินเข้ามา
คุณหญิงสามเดินไปด้วยพูดคุยซุบซิบไปด้วย ทำให้สีหน้าของคุณย่าดูโกรธเคืองมาก
ไม่ต้องถามอะไรเลย ประยสย์ก็รู้แล้วว่าคุณหญิงสามกำลังพูดใส่ร้ายแม่ของเขาอยู่ คงพูดว่าแม่ของเขาร้องไห้เสียงดัง รบกวนคนอื่น และคำพูดหดหู่อื่นๆ แน่นอน
“ประยสย์ เวลานี้ แกควรอยู่ที่บริษัทไม่ใช่เหรอ?”
คุณหญิงสามเห็นประยสย์จูงมือแม่ของเขาลงมาจากบันได จึงพูดเย้ยหยันออกมา และเพื่อไม่ให้โอกาสประยสย์ได้การตอบโต้ เธอพูดประชดประชันขึ้นมาว่า: “นายเป็นรองประธานของโอเอ กรุ๊ป มีงานมากมายต้องทำ ถ้านายกลับมาบ้านตลอดแบบนี้ งานของนายก็ต้องแบ่งให้เจนสันไปทำ เขาไม่ใช่รองประธาน แต่กลับต้องทำงานของรองประธาน แต่ก็ไม่เห็นพวกนายสองพ่อลูกขึ้นตำแหน่งให้เขาสักที นี่ใช้งานเจนสันของฉันเหมือนวัวเหมือนควายเลยใช่ไหม”
ประยสย์พูดเสียงเย็นชาออกมาว่า: “ถ้าป้าสามคิดว่าเจนสันถูกเอาเปรียบ ก็ให้เขาลาออกไปเลยก็ได้”
เจนสันอยู่โอเอ กรุ๊ปเป็นแค่ผู้ช่วยของเขาเท่านั้น แม้แต่ตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปก็ยังไม่เป็นเลย
คุณพ่อที่มีอำนาจสูงสุดในโอเอ กรุ๊ป เนื่องจากพลอยยุยงใส่ร้ายเขา จึงทำให้คุณพ่อรู้สึกโกรธเคืองลูกแท้ๆ อย่างเขามาก แต่เมื่ออยู่ในบริษัท พ่อของเขาก็ให้ความสำคัญกับเขามากอยู่ ยังคงวางเขาอยู่ในตำแหน่งทายาทสืบทอดอยู่
ลูกๆ ของบ้านรองกับบ้านสามพวกเขาก็ทำงานที่โอเอ กรุ๊ปเหมือนกัน แต่ทุกคนก็เป็นลูกน้องของเขาหมด
เจนสันเป็นคนมีความสามารถ แต่คุณพ่อก็ยังไม่ให้ตำแหน่งที่สูงแก่เจนสัน ให้เจนสันเป็นแค่ผู้ช่วยเล็กๆ อยู่ข้างกายเขาเท่านั้นเอง
ประยสย์เองก็รู้ดี ว่าคุณพ่อกำลังทดสอบเขาอยู่ เจนสันอายุใกล้เคียงกับเขา ความสามารถก็ดี ถ้าเขากดเจนสันไว้ไม่อยู่ คุณพ่อก็จะไม่ยกโอเอ กรุ๊ปให้แก่เขา
ปรกติงานที่เขามอบหมายให้เจนสันทำจะเป็นงานจุกจิกทั่วไป เอกสารที่สำคัญต่างๆ ไม่เคยให้ผ่านมือของเจนสันเลย เพราะข้างกายของเขายังมีผู้ช่วยอีกคน ซึ่งบุคคลคนนั้นเป็นผู้ช่วยที่เขาไว้ใจ และจงรักภักดีต่อเขา
คุณหญิงสามพูดไม่ออก
ถ้าเจนสันออกไปจากโอเอ กรุ๊ป โอเอ กรุ๊ปก็จะกลายเป็นของพี่ชายสามีและลูกชายของเขาไปหมดเลย
คุณหญิงสามไม่ยอม รู้สึกว่าแบบนี้ไม่ยุติธรรมเลย
โอเอ กรุ๊ปไม่ใช่สมบัติของบ้านใหญ่ แต่เป็นของทั้งตระกูลสาระทา มีเหตุผลอะไรที่พี่ชายสามีกับลูกจะเป็นคนควบคุมดูแลทั้งหมด?
“แม่ แม่ฟังดูสิ ฉันก็แค่พูดแบบนั้นเอง ประยสย์ก็ทำแบบนี้กับป้าอย่างฉันแล้ว แม่ แม่กับพ่อยังอยู่ทั้งคน ถ้าพวกท่านสองคนจากไปแล้ว แล้วให้ประยสย์เป็นผู้ดูแลทั้งหมด พวกเราบ้านสามจะสามารถอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ได้อีกต่อไปหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย”
ประยสย์หน้าดิ่งลง
เขาเกลียดป้าสามคนนี้ที่สุด
เป็นคนพูดมากที่สุด ชอบพูดยุยงใส่ร้ายต่อหน้าคุณย่า
คุณย่ายิ่งอยู่ยิ่งไม่ชอบคุณแม่ เป็นเพราะผลงานของคุณป้าสาม และพลอยทั้งนั้น
ความสัมพันธ์ของป้าสามกับพลอยดีมาก
“ประยสย์ ระวังพฤติกรรมของแกด้วย นี่ป้าสามของแกนะ เธอเป็นผู้ใหญ่ของแก”
คุณย่าพูดออกมากับประยสย์ด้วยสีหน้าเรียบเฉย จากนั้นถามประยสย์ออกมาว่า : “แม่แกเป็นอะไรอีก ?เคยพูดแล้วไม่ใช่เหรอ ให้ส่งแม่แกไปอยู่ที่ที่พักตากอากาศบนเขาที่ชานเมือง แล้วให้ป้าอ้อยตามไปดูแล แกมีอะไรที่ไม่ไว้ใจอีก?”
“สองสามวันเธอก็ก่อเรื่องครั้งหนึ่ง แกก็ต้องกลับมาบ้านบ่อยๆ แบบนี้ เรื่องงานในบริษัทไม่ต้องสนใจแล้วเหรอ?ประยสย์ แกเป็นถึงคุณชาย หน้าที่และความรับผิดชอบของคุณชายนั้นหนักมาก แม่ของแกสร้างแต่ปัญหาให้แก มันจะถ่วงความเจริญของแกได้”
“กอดตุ๊กตาแล้วเรียกลูกอยู่ทุกวัน เธอเป็นคนทำลูก หายเอง ยังมีหน้ามาเรียกลูกอีก ถ้าไม่ใช่เธอ หลานสาวของฉันก็คงไม่หายสาบสูญไปยี่สิบกว่าปีกหรอก”
เมื่อนึกถึงหลานสาวที่น่ารัก และเหมือนเธอมากคนนั้น ทำให้คุณย่ารู้สึกเสียใจมากขึ้นมาอีก
ถึงแม้ตอนนี้เธอจะมีหลานสาวคนอื่น แต่ในใจเธอยังคงมีพื้นที่ให้เนตรดาวอยู่
“คุณย่า!”
ประยสย์พูดเสียงจริงจังออกมาว่า: “การหายตัวไปของน้องสาวผม จะโทษแม่ผมคนเดียวไม่ได้ น้องสาวผมหายตัวไป คนที่เสียใจที่สุดก็คือแม่ของผม ยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา พวกท่านนอกจากโทษแม่ของผมแล้ว ก็แค่น้ำตาไหลสองสามหยดให้น้องสาวผมแค่นั้น จากนั้นก็ใช้ชีวิตได้ตามประติ”
“แต่แม่ผมหล่ะ ดูสิว่าแม่ผมเสียใจมากแค่ไหน?พวกท่านยังคงมาโทษแต่เธอ มันเป็นความผิดของเธอจริงเหรอ?ถ้าจะผิด ก็คือแม่ผมผิดเองที่ไปแต่งงานกับพ่อผม!จริงๆ แล้วเป็นเพราะพ่อผมไปยุ่งกับผู้หญิงอื่นข้างนอกจนทำให้น้องสาวผมหายตัวไป และทำร้ายแม่ผม พวกท่านยังโยนความผิดทั้งหมดมาให้แม่ผมอีก”
“รังแกเธอที่ตอนนี้สติไม่ดีสินะ รักแกเธอที่ไม่เหลือญาติพี่น้องแล้วใช่ไหม?แต่แม่ยังมีผม ขอแค่ผมยังมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ ผมไม่ยอมให้ใครมารังแกแม่ผมเด็ดขาด!”
ประยสย์จ้องมองคุณย่าด้วยสายตาที่เย็นชา
“คุณแม่ คุณแม่ดูสายตามันสิ เหมือนจะกลืนกินคุณแม่ยังไงยังงั้นเลย คุณแม่เป็นย่าแท้ๆ ของมันด้วยซ้ำ!”
“บอดี้การ์ด!”
ประยสย์ตะโกนเสียงขรึมออกมา
มีบอดี้การ์ดสองคนเข้ามาอย่างรวดเร็ว
เป็นบอดี้การ์ดของเขาเอง
“โยนตัวคุณหญิงสามออกไปเดี๋ยวนี้!”
สีหน้าของคุณหญิงสามเปลี่ยนไปทันที ร้องเสียงดังออกมาว่า: “ประยสย์ แกกล้าเหรอ ฉันคือป้าสามของแกนะ เป็นญาติผู้ใหญ่ของแก แกกล้าโยนฉันออกไปก็ลองดูสิ?”