คุณสามีพันล้าน - บทที่ 156 พี่ชายฝาแฝด
ยศพัฒน์พูดเสียงต่ำออกมาว่า: “ภรรยาผมไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของบ้านตระกูลวาชัยยุง เธอถูกพ่อแม่เก็บมาเลี้ยงเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน”
เขาไม่รอให้ประยสย์พูดต่อ รีบพูดเสริมขึ้นมาว่า: “ถึงแม้คุณประยสย์จะไม่พูด ผมก็ต้องร้องขอเรื่องนี้กับคุณประยสย์อยู่แล้ว ผมอยากให้คุณแม่ของคุณตรวจ DNA กับภรรยาของผมหน่อย?ก่อนที่จะได้เจอกับพวกคุณ ภรรยาผมได้ฝันถึงคุณแม่ของคุณถึงสองครั้ง ฝันเห็นคุณแม่ของคุณอุ้มเธออยู่แล้วเรียกลูก”
ประยสย์ได้ยินแล้วตกใจ
เขาไม่เคยเจอเรื่องพิสดารแบบนี้มาก่อนเลย
มิน่าหล่ะยศพัฒน์ถึงไม่สงสัยและป้องกันตัวเลย ยอมตอบตกลงเขารวดเร็วแบบนี้ เป็นเพราะว่าเทวิกาไม่ใช้ลูกแท้ๆ ของบ้านตระกูลวาชัยยุงนั่นเอง
ที่แท้ เทวิกาเคยฝันเห็นคุณแม่ของเขามาก่อนแล้ว และสงสัยว่าคุณแม่ของเขาเป็นแม่แท้ๆ ของเธอก็ได้
เขาตามหาน้องสาวมาตั้งนานแต่ก็ตามหาไม่เจอเลย จู่ๆ วันนี้คุณแม่ก็ฝันเห็นน้องสาวมีอันตราย และร้องไห้ไม่หยุด จากนั้นเขาก็ได้เบาะแสว่าน้องสาวของเขาอาจอยู่ในเมืองแอคเซสซ์
เขาจึงพาคุณแม่ออกตามหาน้องสาวระยะทางพันกว่าไมล์ และคุณแม่วิ่งหนีออกมาจากโรงแรม ระหว่างทางอันตราย สุดท้ายกลับไปชนกับรถของเทวิกาเข้า
นี่ คงเป็นเพราะฟ้าลิขิตสินะ
ประยสย์เก็บความตื่นเต้นไว้ในใจ เขาพยายามให้ตัวเองสงบสติอารมณ์ ฟังจากที่คุณพ่อเล่ามา เขารู้มาว่าตอนที่น้องสาวหายตัวไป ได้ใส่กุญแจอายุยืนไว้กับตัว
มันคือกุญแจอายุยืนที่พ่อแม่ทำขึ้นมา ก่อนที่พวกเขาสองคนพี่น้องจะคลอดออกมา
“คุณยศพัฒน์ ภรรยาของคุณมีกุญแจอายุยืนไหม?
สีหน้าของยศพัฒน์ขมวดเข้าหากันทันที
ผู้หญิงเสียสติที่ภรรยาของเขาฝันถึง ตามหลักน่าจะเป็นแม่แท้ๆ ของเธอแน่นอน
ชายหนุ่มที่ชื่อประยสย์ตรงหน้าคนนี้ หน้าตามีความคล้ายคลึงกันกับเทวิกา คิดว่าน่าจะเป็นพี่ชายฝาแฝดของเทวิกานั่นเอง
เขาพยักหน้าอย่างหนักแน่น แล้วพูดขึ้นว่า: “วิกาก็เพิ่งรู้ชาติกำเนิดของเธอเหมือนกัน เสื้อผ้าของเธอตอนถูกเก็บมาเลี้ยงยังเก็บไว้อยู่ กุญแจอายุยืนอันนั้นผมก็เคยเห็น ”
ประยสย์รู้สึกดีใจมาก คิดไม่ถึงน้องสาวที่ตามหามานาน จู่ๆ ก็ตามหาเจอ นี่คงเป็นเพราะฟ้าลิขิตสินะ
“ช่วงนี้ มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเธอไหม?”
“สองวันก่อนถูกลักพาตัว โชคดีที่รู้ทัน และถูกช่วยเหลือกลับมา ไม่มีอันตรายอะไร”
ประยสย์เข้าใจแล้ว
ถึงแม้คุณแม่จะฝันเห็นน้องสาวมีอันตรายและช้ากว่าเหตุการณ์จริงไปสองวัน แต่อย่างน้อยก็ได้ฝันถึง
และน้องสาวก็เกิดเรื่องขึ้นจริง โชคดี ที่ไม่เป็นอะไร
ที่แท้ เป็นเพราะอำนาจบารมีของยศพัฒน์นั่นเองที่ช่วยเหลือเธอไว้
ถ้าเธอเป็นแค่คนธรรมดา แล้วถูกลักพาตัว ถึงแม้จะแจ้งตำรวจ ก็คงไม่สามารถช่วยเหลือกลับมาได้เร็วขนาดนี้
ถ้าหากถูกคนพวกนั้นลักพาตัวไป อาจไม่มีชีวิตรอดกลับมาอีกก็ได้
ถึงแม้จะเพิ่งรู้จักกับยศพัฒน์ ประยสย์ก็สามารถดูออก ว่าอีกฝ่ายรักเทวิกามากแค่ไหน สายตาที่มองเทวิกา มีแต่ความรักอยู่เต็มเปี่ยม และยศพัฒน์ก็เป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลอริยชัยกุล เป็นประธานของบี.เอ.เอ็ม.กรุ๊ป และเป็นผู้มีอำนาจในเมืองแอคเซสซ์
ใครกล้าทำร้ายผู้หญิงที่เขารัก แสดงว่ารนหาที่ตายกันชัดๆ
ดังนั้น เทวิกาถึงได้ไม่เป็นอะไรเลย
โชคดีมาก!
โชคดี ที่เทวิกาไม่เป็นอะไร!
เมื่อประยสย์นึกถึงน้องสาวของเขาเกือบได้รับอันตราย ทำให้เขารู้สึกกลัว และโกรธแค้นมาก
เขาถูกลอบฆ่ามานับครั้งไม่ถ้วนก็เพียงพอแล้ว พวกเขายังคิดจะลงมือทำร้ายน้องสาวอีก
พ่อมีลูกแค่พวกเขาสองคนพี่น้อง ถ้าสองพี่น้องถูกฆ่าตาย สมบัติของคุณพ่อก็จะถูกคนพวกนั้นเอาไปหมด
สมบัติมหาศาลขนาดนั้น เหมือนดังก้อนหินที่ใช้ทดลองใจคนจริงๆ ทดลองธาตุแท้ที่เลือดเย็นของคนออกมา
“ตรวจสอบDNAกันที่นี่ คุณยศพัฒน์รับรองได้ไหมว่าจะไม่มีเหตุการณ์ผิดพลาดเกิดขึ้น?”
ประยสย์ถามเสียงทุ้มต่ำออกมา
“ครอบครัวพวกเรา ซับซ้อนมาก และมีภัยอันตรายรอบด้าน ซึ่งไม่สามารถอธิบายให้คุณยศพัฒน์ทราบอย่างละเอียดได้ในเวลาอันสั้นนี้ สรุปง่ายๆ ประโยคเดียวคือ นอกจากพวกเราสามที่เป็นคนในครอบครัวเดียวกันแล้ว ไม่มีใครอยากให้น้องสาวผมมีชีวิตรอดกลับมาได้อีก”
มียศพัฒน์ปกป้องเทวิกา บางทีเทวิกาอาจปลอดภัยมากกว่า คนพวกนั้นไม่ยอมปล่อยให้เป็นแบบนี้แน่ ต้องหาวิธีอื่นมาขัดขวางอีกแน่นอน
อย่างเช่นผลตรวจDNAไม่ใช่ของจริง
“อยู่เมืองแอคเซสซ์ผมสามารถรับประกันได้ว่าผลตรวจจะไม่ถูกสับเปลี่ยน”
ประยสย์พูดออกมาอย่างเชื่อใจว่า: “ถ้างั้นก็ให้ภรรยาคุณกับคุณแม่ผมตรวจDNAกัน ไม่ว่าผลจะออกมายังไง เรื่องนี้อย่าเพิ่งให้คนอื่นรู้เป็นการชั่วคราวก่อน”
เพราะมีความเกี่ยวข้องกันหลายด้าน
และเพื่อความปลอดภัยไว้ก่อน
ยศพัฒน์อธิบายออกมาว่า: “วางใจได้ เรื่องในวันนี้ ผมไม่พูดออกไปเด็ดขาด จะจัดการเหมือนอุบัติเหตุทั่วไป”
พวกเขาสามารถแสร้งทำเป็นไม่รู้อะไรเลย
ประยสย์ยื่นมือขวาออกไป เพื่อรอให้ยศพัฒน์จับมือกับเขา เขาพูดออกมาอย่างซาบซึ้งใจว่า: “ไม่ว่ายังไง ก็ต้องขอบคุณที่คุณยศพัฒน์ให้ความร่วมมือและเข้าใจ”
ยศพัฒน์พูดเสียงทุ้มต่ำออกมาว่า: “ผมแค่ต้องการช่วยภรรยาของผมตามหาพ่อแม่แท้ๆ ของเขาให้เจอ”
ต่างฝ่ายต่างแลกเบอร์โทรศัพท์ของกันและกัน จากนั้นทั้งสองก็กลับเข้าไปในห้องผู้ป่วยแกล้งทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ประยสย์ดึงผมของคุณแม่ไปสามสี่เส้น แล้วยื่นให้ยศพัฒน์ เรื่องทำการตรวจDNAยกให้เป็นหน้าที่ของยศพัฒน์สองสามีภรรยา
เรื่องนี้ แม้แต่บอดี้การ์ดของประยสย์ก็ไม่รู้
เทวิกาที่ยอมรับในใจแล้วว่าคุณหญิงก็คือแม่แท้ๆ ของตัวเอง จึงอยากอยู่โรงพยาบาลเพื่อดูแลคุณหญิงต่อ แต่ผู้ชายที่อาจเป็นพี่ชายแท้ๆ ของเธอ กลับเปลี่ยนใจกะทันหัน ไล่เธอกับยศพัฒน์ออกไปจากห้องผู้ป่วยทันที
“พวกคุณทำให้แม่ผมบาดเจ็บจนต้องเข้าโรงพยาบาล พวกคุณไม่จำเป็นต้องมาเสแสร้งที่นี่อีก เห็นแก่ที่พวกคุณขอโทษด้วยความจริงใจ และส่งแม่ผมมาที่โรงพยาบาลอีก บวกกับได้จ่ายค่ารักษาให้เรียบร้อยแล้ว ผมจะไม่เอาเรื่องพวกคุณ แต่ก็ไม่อยากเจอหน้าพวกคุณเช่นกัน ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!”
ประยสย์สีหน้าเย็นชาและด่าออกมาสองประโยค จากนั้นปิดห้องให้เรียบร้อย
บอดี้การ์ดของตระกูลสาระทามองพวกเขาด้วยสายตาที่เห็นใจ
มันไม่ใช่ความผิดของอีกฝ่าย แต่คุณชายเป็นห่วงคุณหญิงมาก คุณหญิงได้รับบาดเจ็บ คุณชายต้องโกรธมากแน่นอน คุณชายไม่ได้ทำเรื่องอะไรที่รุนแรง ถือว่าเป็นการควบคุมตัวเองได้ดีมากแล้ว การที่ไล่อีกฝ่ายออกไป ก็ถือว่าเป็นเรื่องปรกติ
เทวิการที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตมาน้อย ไม่สามารถยอมรับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของประยสย์ ได้ในเวลาทันที
เธออยากไปเคาะประตูอีก แต่ถูกยศพัฒน์ห้ามไว้
“วิกา คุณหญิงคนนั้นก็แค่มีแผลถลอก ไม่เป็นอะไรมาก อีกอย่างตอนนี้เธอก็ได้นอนหลับแล้ว พวกเราอยู่ที่นี่ก็ทำอะไรไม่ได้ พวกเรากลับบ้านก่อน พรุ่งนี้ค่อยมาเยี่ยมอีกทีก็ได้”
เทวิกามองสามี เห็นสายตาของยศพัฒน์จริงจังมาก
เธออ่านความหมายสายตาของสามีไม่เข้าใจ แต่ที่แน่ใจคือสามีต้องหวังดีกับเธออยู่แล้ว
สุดท้ายเธอก็เลิกเคาะประตู และถูกยศพัฒน์ดึงตัวให้เดินออกไป
ระหว่างทางกลับบ้าน หลายครั้งที่เทวิกาต้องการถามคนข้างกาย แต่ถูกมือของยศพัฒน์ห้ามไว้ ส่งสัญญาณให้เธอว่าห้ามคุยเรื่องนี้กันบนรถ
เพราะมีคนขับรถอยู่ด้วย
ถึงแม้คนขับรถจะเป็นคนของตระกูลอริยชัยกุล และถือว่าเป็นคนซื่อสัตย์
แต่เรื่องนี้ ช่วงนี้ยังให้คนรู้เยอะไม่ได้
คำพูดของประยสย์ที่บอกว่าสถานการณ์ของครอบครัวเขาซับซ้อนมาก ยศพัฒน์ก็รู้แล้วว่าตระกูลสาระทาเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยภัยอันตราย
เรื่องที่จะตรวจDNAระหว่างเทวิกากับคุณหญิง ยศพัฒน์จะยังไม่ทำในเวลานี้ เขากะว่าจะมอบหมายให้คนอื่นทำแทน เพราะกลัวจะถูกคนจับจ้อง แล้วสับเปลี่ยนผลDNA
“ยศพัฒน์”
เทวิกาพิงสามีของเธอไว้
“พวกเขา……ใช่ไหม?”
ยศพัฒน์กอดเธอไว้ พูดเสียงอ่อนโยนขึ้นมาว่า: “ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง”