คุณสามีพันล้าน - บทที่ 163 โชว์ความรัก
ยศพัฒน์: “ผมหวังว่าหลักๆ คือคุณเตรียมให้ผมกิน พวกเขาแค่ผลพลอยได้เท่านั้น”
เทวิกาอดหัวเราะออกมาไม่ได้: “พวกเขาเป็นแม่กับพี่ชายแท้ๆ ของฉันนะคะ”
เธอพูดขึ้นอีก: “พวกเราเป็นสามีภรรยากัน ต้องใช้ชีวิตด้วยกันทั้งชีวิต ฉันมีเวลาทั้งชีวิตเพื่อทำของอร่อยให้คุณกิน แต่พ่อแม่และญาติแท้ๆของฉัน มีเพียงบางครั้งเท่านั้นที่จะได้ชิมฝีมือของฉัน คุณอย่าขี้เหนียวขนาดนี้ อย่ามาหึงพวกเขาได้ไหม”
คำพูดของเทวิกาทำให้ความรู้สึกหึงหวงในใจของยศพัฒน์หายไปเป็นปลิดทิ้งทันที
เพราะว่าเธอพูดแล้วว่าพวกเขามีเวลาทั้งชีวิต
“วิกา ผมจะพาคุณกลับบ้านแม่คุณบ่อยๆ”
ยศพัฒน์พูดรับปากออกมา
เทวิกายิ้ม “คุณงานยุ่ง ไม่ต้องไปเป็นเพื่อนฉันทุกครั้งก็ได้”
“ในสายตาของผม เรื่องของภรรยาผมก็คือเรื่องที่สำคัญที่สุด”
เทวิกามิงเขาด้วยอาการเขินอาย แต่ในสายตาของยศพัฒน์นั้น กลับเป็นภรรยากำลังส่งสายตารักให้เขา เขาอดใจไม่ไหวจึงดึงร่างของเทวิกาเข้ามากอดอีกครั้ง จากนั้นก้มหน้าลงแล้วจูบเธอ
ดีที่เทวิกาปิดปากเขาไว้ จึงไม่ถูกเขาจูบ
“คุณรีบไปออกกำลังกายตอนเช้าเลย อย่ามาขวางที่ขวางทางที่นี่อีก”
เทวิกาผลักผู้ชายคนนี้ที่เมื่อมีโอกาสก็แอบจูบเธอทันที ให้เขาออกไปจากห้องครัว
ยศพัฒน์เองก็ไม่ได้โกรธ ยิ้มแล้วเดินออกไปห้องออกกำลังกาย
เมื่อเขาออกกำลังกายกลับมา เทวิกาก็ทำอาหารเช้าเสร็จแล้ว
น้ำซุปที่ต้มเสร็จ เธอตักสองถ้วยใหญ่ใส่ในกล่องข้าวเก็บอุณหภูมิ ซึ่งอันนี้จะส่งไปที่โรงพยาบาลให้คุณหญิงเนกไทกิน
นอกจากน้ำซุปแล้ว อาหารเช้าที่เธอทำในวันนี้ ได้ใส่เข้าไปในกล่องข้าวเก็บอุณหภูมิทุกอย่าง ใส่เต็มและครบหมดทุกอย่าง ทั้งหมดมีกล่องข้าวเก็บอุณหภูมิด้วยกันห้าอัน
“วิกา พวกนี้เธอจะเอาไปให้ใครกินเหรอ?”
คุณย่าถามออกมาด้วยความสงสัย
เทวิกาพูดความจริงออกมาว่า: “เมื่อคืนตอนที่พวกเรากลับมา เกือบชนผู้หญิงคนหนึ่ง แต่โชคดีที่คนขับรถเหยียบเบรกทัน จึงไม่ได้ชนโดนอีกฝ่าย แต่อีกฝ่ายก็ตกใจจนล้มลงไปกับพื้น จนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล พวกเราเป็นผู้กระทำผิด ต้องไปเยี่ยมดูอาการที่โรงพยาบาลหน่อย”
“คนๆนั้นบาดเจ็บสาหัสหนักไหม?”
คุณย่าถามออกมาอย่างเป็นห่วง “ต้องเตือนคนขับรถในบ้านทุกคน ต่อไปให้ขับรถระวังหน่อย”
เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุ อาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
“ก็แค่สองมือมีแผลถลอก แต่แผลถลอกก็ค่อนข้างสาหัสอยู่”
“ถ้าอย่างงั้นก็ดีแล้ว ความโชคดีบนความไม่โชคดี พวกเธอสมควรไปเยี่ยมดูอาการอยู่แล้ว ใช่แล้ว แจ้งตำรวจหรือยัง?เป็นความผิดของพวกเธอใช่ไหม?”
“ไม่ได้แจ้งตำรวจ เพราะอีกฝ่ายเป็นคนเสียสติ จึงไม่สามารถพูดได้ว่าเป็นความผิดของพวกเรา แต่เนื่องจากเขาสติไม่ดี จึงไม่ได้โทษอะไรเธอ สำหรับค่ารักษา หนูบอกแล้วว่าพวกเราจะรับผิดชอบเอง”
ตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่านั่นเป็นแม่แท้ๆของเธอหรือเปล่า เทวิกาจึงยังไม่กล้าพูดความจริงออกมา
อีกอย่าง เธอผ่านเรื่องอันตรายมาถึงสองครั้ง ถึงแม้ในท้ายที่สุดคนร้ายจะกระทำการไม่สำเร็จ แต่เธอรู้ดีแก่ใจว่าครอบครัวเดิมของเธอต้องไม่สงบแน่ ลูกสาวที่สูญหายอยู่ข้างนอกอย่างเธอ น่าจะไม่เป็นที่ยอมรับ น่าจะมีคนมากมายไม่อยากให้เธอกลับไป
ก่อนที่เรื่องพวกนี้ยังไม่ชัดเจนดีพอ เทวิกาไม่อยากพูดอะไรเยอะ
“ถ้างั้น ก็โทษอีกฝ่ายไม่ได้ เรื่องค่ารักษา พวกเราเป็นคนรับผิดชอบเอง รอให้อีกฝ่ายได้ออกจากโรงพยาบาลก่อน ค่อยชดเชยเงินให้เธออีกก้อนหนึ่ง”
เทวิกาพยักหน้า
ยศพัฒน์เดินลงมาจากชั้นบน และได้เปลี่ยนเสื้อสูตรเรียบร้อยแล้ว แต่ว่าเขาไม่ได้ผูกเนกไท เขาถือเนกไทไว้ในมือ แม้แต่กระดุมเสื้อสูตร เขาก็ไม่ได้ติดให้เรียบร้อย
เทวิกายกน้ำซุปไปวางไว้ตรงหน้าที่เขานั่งอยู่ เห็นเขาไม่ได้ติดกระดุม และไม่ได้ผูกเนกไท จึงเดินไปตรงหน้าเขา
“ทำไมถึงไม่ติดกระดุม”
เทวิกาพูดไปด้วยช่วยเขาติดกระดุมไปด้วย จากนั้นหยิบเนกไทมาจากมือเขา แล้วช่วยเขาผูกเนกไทให้เรียบร้อย จากนั้นช่วยเขาจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย แล้วเดินถอยไปหนึ่งก้าว สำรวจเขาจากข้างบนถึงข้างล่าง สายตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม พูดชื่นชมเขาออกมาว่า: “สามีของฉันช่างหล่อเหลาจริงๆ หล่อแบบกระชากใจคนแบบนั้นเลย”
เมื่อชมเสร็จ ถึงจำได้ว่าคนแก่ทั้งสองคนก็อยู่ด้วย ทำให้เทวิกาหน้าแดงหูแดงขึ้นมาทันที จึงรีบกลับไปนั่งยังนั่งของตัวเอง
สองผู้เฒ่ายิ้มตาหยีมองอยู่
ยศพัฒน์เมื่อได้รับความปรานีจากภรรยาแล้ว นั่งลงด้านข้างภรรยาที่รัก มองดูน้ำซุปถ้วยนั้น เขาเข้าไปใกล้ข้างหูของเทวิกาแล้วถามออกมาว่า: “นี่เป็นถ้วยสุดท้ายแล้วเหรอ?”
“ถ้วยของคุณเป็นถ้วยแรก ตักให้คุณก่อน ฉันถึงได้ตักให้คุณหญิงธิษณา”
เทวิกายังคงวางเขาอยู่ในตำแหน่งอันดับหนึ่งเหมือนเดิม
ยศพัฒน์พึงพอใจมาก
เขายกน้ำซุปขึ้นมา ไม่ได้ใช้ช้อน ดื่มเข้าไปสองคำติดต่อกัน
อืม รสชาติดีมาก!
อร่อย!
เขาเหมือนดื่มเหล้าที่รสชาติอร่อย ดื่มไปด้วยชื่นชมไปด้วย “อร่อย อร่อย นี่เป็นน้ำซุปที่อร่อยที่สุดที่ผมเคยดื่มมาเลย!”
ผู้เฒ่าทั้งสอง: “……”
“คุณปู่ คุณย่า พวกท่านก็ลองชิมน้ำซุปของวิกาดู อร่อยจริงๆ”
คุณปู่พูดออกมาเรียบๆว่า: “ปู่ชิมดูแล้ว พอใช้ได้”
“พอใช้ได้?คุณปู่เลือกกินเกินไป แต่ว่า ถ้าหากคุณปู่คิดว่าธรรมดาเกินไป คุณปู่ไม่ต้องดื่มละ ให้ผมดื่มดีกว่า”
ยศพัฒน์ไม่พอใจที่คุณปู่ให้คะแนนน้ำซุปที่เทวิกาต้มออกมาแค่ “พอใช้ได้” จึงลุกขึ้นมาทันที ยืดตัวไปครึ่งหนึ่ง ยื่นมาออกไป หยิบน้ำซุปที่วางอยู่ตรงหน้าคุณปู่ มาทันที และเทใส่ถ้วยตัวเองอย่างไม่เกรงใจ
เขาไปดูหม้อต้มน้ำซุปมาแล้ว ในนั้นเหลือไม่มากแล้ว เทวิกาเองยังไม่ได้กินเลย ให้เขาและปู่ย่าทั้งสามคนตักคนละถ้วย ส่วนที่เหลือก็คงตักใส่กล่องข้าวเก็บอุณหภูมิหมดแล้ว
เขากินไปหนึ่งถ้วย แต่ยังไม่พอ
ในเมื่อคุณปู่ไม่ชอบ เขาจะได้กินมันพอดี
คุณปู่: “……”
เขาพูดไปแค่สองคำ แม้แต่ถ้วยน้ำซุปก็ไม่มีเหลือเลย
ความจริงแล้ว น้ำซุปที่เทวิกาต้มอร่อยมาก แต่เขาจงใจพูดแค่นั้นเอง ใครจะไปรู้ว่าหลานจะยกน้ำซุปไปทั้งถ้วยเลย
ช่างเป็นหลานอกตัญญูจริงๆ !
“คุณย่า คุณย่าว่าน้ำซุปที่วิกาต้มอร่อยไหม?”
คุณชายบางคนกำลังกินน้ำซุปของคุณปู่อยู่ แต่กลับไปจับจ้องน้ำซุปของคุณย่าอีกด้วย
เทวิกาอยากปิดหน้าไว้ อยากแกล้งทำเป็นไม่รู้จักผู้ชายคนนี้ จะได้ไหม?
คุณย่าหัวเราะแล้วพูดขึ้นว่า: “นี่เป็นน้ำซุปที่หลานสะใภ้ของย่าต้มเองกับมือ ไม่ว่าจะอร่อยหรือไม่อร่อย ย่าก็ต้องกินมันให้หมดเกลี้ยงอยู่แล้ว แกไม่ต้องมาจับจ้องถ้วยนี้ของย่าหรอก”
ยศพัฒน์รีบพูดขึ้นว่า: “คุณย่า คุณย่าไม่ต้องฝืนตัวเองก็ได้ ถ้าไม่อยากกินจริงๆ บอกผมก็ได้ ผมเป็นหลานของคุณย่า และกตัญญูที่สุด ผมกินเอง”
คุณย่า: “……”
“ยศพัฒน์!”
เทวิกาเรียกชื่อเขาเสียงต่ำออกมา
ผู้ชายคนนี้ถ้าพูดต่อไปอีก เธอคงต้องปิดหน้าจริงๆแล้ว
“วันหยุด ฉันต้มน้ำซุปให้คุณหม้อหนึ่งเลย ให้คุณกินคนเดียวให้พอ กินจนพอใจไปเลย”
ยศพัฒน์ยิ้มตาหยีออกมาแล้วพูดขึ้นว่า: “การมีภรรยาช่างเป็นเรื่องดีจริงๆเลย!”
สองผู้เฒ่าบ่นพึมพำในใจ:รู้ถึงข้อดีของการมีภรรยา แล้วทำไมเพิ่งมาแต่งงาน?ไปทำอะไรอยู่ตั้งนาน?
โอะ หลานสะใภ้อายุน้อยเกินไป หลานชายรอให้หลานสะใภ้โตก่อน
อืม ถือว่าเป็นการทรมานอย่างหนึ่งของเขาจริงๆ
เพราะรอไปตั้งสิบเอ็ดปี
ผู้หญิงที่ตัวเองชอบยังเป็นเด็กอยู่ คิดว่า หลานชายคงอดทนอย่างทรมานสินะ
“แต่ว่า ที่รัก วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ผมอยากพาคุณไปเที่ยวเกาะของตระกูลเรา พวกเราสามารถไปตกปลา และกินอาหารทะเลสดๆที่นั่นได้”
เมื่อเทวิกาได้ยินตาใสขึ้นมาทันที
เธอมองไปที่ผู้เฒ่าทั้งสอง
คุณย่ารู้หน้าที่ดี หัวเราะเคอๆ แล้วพูดขึ้นว่า: “พวกเราอายุมากแล้ว ไม่ไปด้วยนะ ตอนนี้ย่ายังเมาเรืออยู่เหมือนเดิม。”
คุณปู่พูดเสริมขึ้นอีกว่า: “พวกแกไปเที่ยวเหอะ เล่นให้สนุก ตอนกลับมาเอาปลาที่พวกแกตกมาได้เอามาฝากพวกเราหน่อยก็พอ”