คุณสามีพันล้าน - บทที่ 175 ที่แท้เทวิกาเป็นอภิมหาเศรษฐี
ทั้งคู่ “ต่างแข่งหึงหวงกัน” เทวิกาไม่อยากพูดแทรก
คนหนึ่งเป็นพี่ชาย อีกคนหนึ่งเป็นสามี เธอไม่สามารถเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ ไม่พูดแทรกเป็นดีที่สุด
“ไกลขนาดนี้เหรอ”
“ไม่ไกล ผมสามีคุณมีรถ ตอนบ่ายค่อยส่งคุณกลับมา”
ยศพัฒน์พลางพาภรรยาสุดที่รักจากไป พลางกล่าวอย่างใส่ใจ
ชเนนทร์:“……”
สองสามีภรรยามองข้ามเขาไปเลย
“พี่”
เทวิกาหันหลังมาเรียกเขา
ชเนนทร์สาวเท้าก้าวยาววิ่งตามไป เพื่อนของเขาเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง
เขาเชิดคางขึ้น
ฮึ่ม น้องสาวเป็นคนเรียกเขาเองนะ!
เดิมที เขาอยากจะพาน้องสาวไปทานข้าว แต่เป็นเพราะเขาที่จู่ ๆ ก็มาแย่งความคิดของเขาไป
หลังจากทานอาหารเสร็จ ชเนนทร์ก็รู้สึกเสียใจอย่างมาก
เสียใจที่ไม่ควรมากับสองสามีภรรยาคู่นี้
ช่างบาดตาบาดใจคนโสดเหลือเกิน
ถึงแม้ว่าเขาจะมีผู้หญิงที่ชอบอยู่แล้ว แต่ก็ยังจีบไม่ติด เห็นสองสามีภรรยารักใคร่ออเซาะ ช่างบาดตาจริง ๆ
หลังอาหาร ชเนนทร์จึงรีบชิ่ง ก่อนไปไม่ลืมที่จะเตือนน้องสาว ว่าให้บอกเรื่องนี้กับคุณพ่อคุณแม่
ยศพัฒน์ไม่ได้ส่งเทวิกากลับไปที่โรงพยาบาลทันที แต่กลับพาเธอไปที่บริษัท
ห้องทำงานของเขามีห้องรับรอง ทันทีที่เข้าห้องทำงาน เขาก็โอบเอวของเทวิกาแล้วอุ้มขึ้นมา จากนั้นพาไปยังห้องรับรอง
“พัฒน์ ฉันเดินเองได้”
ปากนั้นพูดแบบนี้ แต่สองมือของเทวิกากลับยังคงกอดคอเขาไว้แน่น ดวงตาหยาดเยิ้ม ลมหายใจหอมหวน
ท่าทางฉอเลาะเช่นนี้ทำให้หัวใจของยศพัฒน์จั๊กจี้เหลือทน ทันทีที่เข้าห้องรับรอง เขาก็ปล่อยเธอลงบนโซฟา แล้วก็ทับอยู่บนตัวของเธออย่างไม่เกรงใจ จับหน้าของเธอไว้ เชยริมฝีปากของเธอมา แล้วก็ขอสวัสดิการพิเศษจากเธอในฐานะที่เป็นสามีนิดหน่อย
เทวิกาตอบสนองเขาอย่างกระตือรือร้น
การตอบสนองของเธอ ทำให้การควบคุมตนเองของยศพัฒน์พังทลายลงสิ้นเชิง
หลังจากเมฆฝนผ่านไป ยศพัฒน์ก็อุ้มเธอเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ
สิบนาทีต่อมา
สองสามีภรรยาสวมชุดเรียบร้อยนอนอยู่บนเตียง หลังของยศพัฒน์พึงอยู่ที่หัวเตียง และเทวิกาหนุนอยู่ที่ตักของเขา
“นอนพักสักครู่เถอะ”
พัฒน์ก้มหน้าลงและขยับนิ้วมือไปมาบนหน้าของเธอเบา ๆ
“ใกล้ถึงเวลาเข้างานแล้ว”
“คุณไม่ต้องทำงานสักหน่อย นอนพักสักครู่เถอะ แล้วผมค่อยเรียกคุณตื่น จากนั้นส่งคุณไปที่โรงพยาบาล”
นึกถึงเรื่องของคุณหญิงธิษณาขึ้นมา เทวิกาก็ลุกขึ้นนั่ง พัฒน์จึงดึงเธอกลับมาที่อ้อมกอดอีกครั้ง ให้เธออยู่ในอ้อมกอดของตัวเอง เขาชอบความรู้สึกที่เธอซบอยู่ในอ้อมกอดของเขา
“พัฒน์ ฉันรู้สึกว่าตระกูลสาระทาลึกลับซับซ้อนมาก”
“ซับซ้อนจริง”
พัฒน์กอดเธอไว้แน่น “ไม่ต้องกลัวนะ มีผมอยู่ ฟ้าถล่มลงมา ผมก็จะช่วยคุณยันไว้”
เทวิกากล่าวอย่างซาบซึ้ง:“พัฒน์ ขอบคุณนะ”
“จะขอบคุณผมทำไมกัน เราเป็นสามีภรรยากันนะ สามีภรรยากันไม่ต้องเกรงใจกันหรอก เรียกผมที่รักสิ ผมชอบฟังคุณเรียกที่รัก น้ำเสียงต้องนุ่มนวลหน่อย อ่อนโยนหน่อยละมุนหน่อย”
เทวิกา:……
เธอเรียกด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลและละมุนไม่ได้หรอก
“วิกา”
“หือ”
“คุณคิดจะเปิดร้านกาแฟตลอดไปเหรอ”
เทวิกาเงยหน้าขึ้นมองเขา ดวงตาเป็นประกาย “คุณคิดว่าฉันเปิดร้านกาแฟน่าขายหน้าเหรอคะ หรือรู้สึกว่าฉันไม่ควรปรากฏตัวตน ฉันรู้ว่าครอบครัวที่ร่ำรวยของคุณมีกฎเกณฑ์มากมาย และผู้หญิงในตระกูลเศรษฐีต้องอยู่บ้านดูแลสามีและอบรมสั่งสอนลูก”
ในครอบครัวที่มีกฎครอบครัวที่เข้มงวด ผู้หญิงจะต้องอยู่บ้านดูแลสามีและลูก ๆ เท่านั้น พวกเธอสามารถเข้าร่วมในงานปาร์ตี้ต่าง ๆ สามารถไปเที่ยวได้ทุกที่ สามารถใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายได้ แต่จะไม่สามารถทำสิ่งต่าง ๆ ข้างนอกได้
เธอเห็นจากข่าวซุบซิบว่ามีลูกสะใภ้ของครอบครัวเศรษฐีหลังหนึ่งแอบเปิดร้านข้างนอก ต่อมา ทางครอบครัวของสามีรู้เรื่องนี้ ไม่ช้า ภายใต้การแทรกแซงที่รุนแรงของสามี จึงปิดร้านลง และกลับบ้านไปเป็นศรีภรรยาของผู้ชายต่อไป
และต่อมาผู้หญิงคนนั้นทนไม่ได้กับกฎเกณฑ์ที่เคร่งครัดของครอบครัวสามี เธอยอมสละสถานะภรรยาผู้มั่งคั่งและขอหย่ากับสามีเพียงเพื่อแสวงหาอิสรภาพ
“สมองน้อย ๆ ของคุณวัน ๆ คิดแต่อะไร เขียนเองใช่ไหม จิตนการเลิศล้ำใช้ได้เลย”
ยศพัฒน์ดีดหน้าผากเธอทีหนึ่ง แล้วอมยิ้ม:“ตอนนี้พวกเราพักอาศัยอยู่ที่คฤหัสถ์เมเปิล ที่เป็นบ้านเดิมของตระกูลอริยชัยกุล หากบอกว่าตระกูลอริยชัยกุลมีกฎเกณฑ์ เช่นนั้นจะบอกให้กฎเกณฑ์ของคฤหัสถ์เมเปิลเยอะที่สุดและก็เข้มงวดที่สุดด้วย”
“คุณรู้สึกว่ากฎเกณฑ์ของบ้านพวกเราเข้มงวดไปเหรอ”
เทวิกาเงียบ
เธอไม่รู้สึกว่ากฎเกณฑ์ของตระกูลอริยชัยกุลนั้นเข้มงวด คนตระกูลอริยชัยกุลก็เข้าหาได้ง่าย ไม่รังเกียจที่เธอมาจากบ้านนอก
“ผู้อาวุโสในครอบครัวล้วนเป็นคนใจกว้างมาก น่าจะบอกได้ว่า พวกเขาเองไม่ชอบให้มีกฎเกณฑ์ผูกมัด ย่อมไม่เอากฎเกณฑ์มาผูกมัดพวกเรา คุณอยากจะทำอะไรก็ไม่มีใครห้าม ไม่มีใครรังเกียจคุณปรากฏตัวหรอก”
“ผมบอกแล้ว ฟ้าถล่ม ผมก็จะช่วยคุณยันไว้ ถ้าคุณจะขึ้นบ้านรื้อกระเบื้อง ผมจะช่วยคุณประคองบันไดไว้ ที่ผมถามคุณแบบนี้ก็เพราะตัวตนที่แท้จริงของคุณ”
ยศพัฒน์บอกเรื่องที่คุยกับประยสย์ให้ภรรยาสุดที่รักฟัง
เทวิกาได้ยินแล้วก็เงียบ แล้วก็ช็อก
ที่แท้ เธอมีเงินมากขนาดนี้เลยเหรอ!
เกิดมาก็เป็นคนรวย
รวยแบบระเบิดระเบ้อ
จนแบบที่คนอื่นต้องการทำร้ายเธอถึงชีวิตเพราะทรัพย์สิน
และก็เป็นเพราะทันทีที่เธอเกิดมาก็สืบทอดทรัพย์สมบัติของคุณพ่อครึ่งหนึ่ง ประยสย์ไม่ได้บอกว่าครึ่งหนึ่งนั้นเท่าไร แต่สามารถทำให้คนคิดอยากเด็ดชีวิตของเธอ ไม่อยากให้เธอกลับมาอยู่ข้างกายพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด ก็พอจะรู้ว่าทรัพย์สินครึ่งหนึ่งที่เธอสืบทอดนั้น มากมายจนน่าเหลือเชื่อเพียงใด
มีความเป็นไปได้ที่จะถึงหมื่นล้าน
เทวิกา:……ว้าว!
“ต่อไปคุณต้องดูแลทรัพย์สินของคุณ มีบริษัท มีหุ้น มีร้าน มีอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ วิกา ผมแนะนำคุณนะ คุณสามารถเปิดร้านกาแฟของคุณต่อไป หรือเขียนบทความพาร์ทไทม์ก็ได้ แต่ว่าคุณก็ต้องพยายามให้ตัวเองแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ให้ตัวเองมีความสามารถดูแลทรัพย์สินของตัวเองได้”
เทวิกากล่าวด้วยความปวดหัว:“เช่นนั้นฉันไม่ต้องเรียนสิ่งต่าง ๆ มากมายเหรอ”
เธอนั่งตัวตรง แล้วจับคอเสื้อของยศพัฒน์ไว้ กล่าวอย่างเกรี้ยวกราดว่า:“ยศพัฒน์ คุณพูดกับฉันแล้วนะ ฟ้าถล่มคุณก็จะช่วยฉันยันไว้ ต่อไปถ้าฉันสืบทอดมรดกมากมายขนาดนั้นจริง คุณต้องช่วยฉันดูแลทรัพย์สินของฉันนะ”
“ฉันทำกาแฟ ทำขนมหวาน เขียนบทความเป็นอย่างเดียว คุณจะต้องช่วยฉันนะ!”
“หากว่าคุณไม่ช่วยฉันละก็”
เธอโน้มตัวไปด้านหน้าด้วยท่าทางดุร้าย จากนั้นกล่าวอย่างข่มขู่:“ต่อไปก็จะให้คุณนอนที่ห้องหนังสือ!”
คนบางคนที่ถูกข่มขู่มองภรรยาสุดที่รักด้วยรอยยิ้ม ท่าทางของเธอตอนนี้ทำให้เขารู้สึกว่าเธอน่ารักมาก
เทวิกา:……ลูกพี่จ๊ะ เธอยี่สิบปีแล้ว อย่าใช้คำว่าน่ารักกับเธอ เพื่อลดระดับอายุลงโดยไม่มีเหตุผล
ยกมือขึ้นกุมจับมือเธอเบา ๆ แล้วดึงลงมา
“ผมช่วยคุณอยู่แล้ว ไม่ใช่ดูแลธุรกิจของคุณนะ แต่จะสอนคุณทำธุรกิจ นั่นเป็นทรัพย์สินของคุณ แน่นอนว่าต้องให้คุณดูแลเอง ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป คุณก็เข้าไปทำงานที่บริษัทของผม เป็นผู้ช่วยของผม ผมจะสอนคุณเอง”
เทวิกายิ้มขึ้นฉับพลัน:“ที่รัก คุณอยากจะอยู่กับฉันทั้งวันทั้งคืนล่ะสิท่า”
แต่ว่าเขาพูดมีเหตุผล
เธอจะไม่รู้อะไรสักอย่างไม่ได้