คุณสามีพันล้าน - บทที่ 176 แผนการของเทวิกา
ยศพัฒน์ยิ้มอย่างรักใคร่หลงใหล“ตอนนี้พวกเราอยู่ด้วยกันตั้งแต่เช้ายันเย็น”
“ความหมายที่คุณพูดหมายถึงตอนนี้พวกเราอยู่ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นที่บริษัทหรือที่บ้าน พวกเราสองคนสามีภรรยาไม่ห่างจากกันเลย”
“ใช่ๆๆ หมายความอย่างนั้นแหละ”
“คุณสามี คุณยอมรับมาตามความจริง ว่าคุณคิดจะทำแบบนี้ใช่มั้ย”
ยศพัฒน์ยิ่งยิ้มกว้างขึ้น “คิด คิดมากๆ คุณช่วยทำให้ผมสมหวังหน่อยได้มั้ย”
เทวิการู้สึกว่าตัวเองได้เปรียบมาก
“ฉันขอคิดดูก่อน”
“ไม่ต้องรีบร้อน คุณค่อยๆคิด รอผลตรวจดีเอ็นเอออกมาก่อน ถ้าพวกเขาเป็นญาติของคุณจริงๆ
คุณก็ต้องกลับไปที่เมืองซูเพร่ากับพวกเขา ถึงตอนนั้นยังต้องทำการตรวจดีเอ็นเออีกหลายครั้งเลยนะ
รอจนคุณได้เป็นทายาทสืบทอดมรดกครึ่งหนึ่งนั้น ก็ไม่รู้ว่าต้องรอถึงเมื่อไหร่”
เขาคิดแทนเธอล่วงหน้า วางแผนจัดการให้เรียบร้อย
ถ้าเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย อยู่กับพวกตระกูลสาระทาที่มีเบื้องลึกเบื้องหลังลึกลับซับซ้อน
เธอคงต้องถูกคนปอกลอกจนหมดตัวไม่เหลือแม้แต่กระดูกแน่
ความจริงแล้วยศพัฒน์ไม่อยากให้เทวิกาเข้ามาอยู่ในวงการธุรกิจที่เต็มไปด้วยเล่ห์เพทุบาย เธอรักอิสระ ใช้ชีวิตอย่างเงียบๆ
ด้วยความสามารถของเขา ดูแลปกป้องเธอได้ตลอดชีวิต ให้เธอใช้ชีวิตในแบบที่เธอต้องการได้
ทว่า ภูมิหลังของเธอทำให้เขาต้องเปลี่ยนแปลง
“One Day In Coffeeเป็นธุรกิจแรกที่ฉันทำกับกนกอร แม้ตอนแรกจะขาดทุนมาตลอด ตอนนี้ตั้งตัวได้แล้ว
ให้ฉันทิ้งมัน ฉันก็ทำไม่ได้”
เทวิกาทุ่มเทแรงกายแรงใจไปกับOne Day In Coffeeไม่น้อย
หวังผลกำไรก็เพื่อให้One Day In Coffeeประคองตัวต่อไปได้
“แต่ว่า ที่คุณพูดก็มีเหตุผล แม้ฉันจะไม่ชอบแบบนั้น แต่ถ้าฉันเป็นลูกสาวตระกูลสาระทาจริง
ฉันก็มีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบ มีชีวิตที่ต้องเผชิญหน้า ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
และก็ไม่สามารถพึ่งพาความช่วยเหลือจากคุณไปตลอด ตั้งแต่เด็ก แม่ก็สอนฉันว่า
ทำด้วยตัวเองดีกว่าไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่น ”
“ยศพัฒน์ รอให้คุณหญิงธิษณาออกจากโรงพยาบาลก่อน ดูว่าพวกเขาสองคนแม่ลูกกลับบ้านหรือว่าอยู่ที่เมืองแอคเซสซ์ถ้าพวกเขาจะกลับไปที่เมืองซูเพร่าฉันก็เข้าไปทำงานที่บริษัทพวกคุณ ไม่เป็นผู้ช่วยคุณ
คุณให้ฉันเริ่มทำตั้งแต่พื้นฐานเลยนะคะ”
“ฉันมีความสามารถอะไรแค่ไหน ฉันรู้ดีอยู่แก่ใจ คุณให้สถานะที่สูงส่งกับฉัน ฉันอยู่ได้ไม่มั่นคงหรอกค่ะ
ค่อยๆไปไปทีละก้าว สะสมประสบการณ์”
ยศพัฒน์เชยคางเธอขึ้นมา ลงโทษด้วยการกัดที่ริมฝีปากเธอเบาๆ แก้ไขคำพูดเธอให้ถูกว่า “อะไรที่เรียกว่าบริษัทผม บ้านผมไม่ใช่บ้านของคุณเหรอ วิกา คุณจำไว้นะ นับตั้งแต่วินาทีที่พวกเราจดทะเบียนกัน ของของผมก็คือของของของคุณของของคุณก็ยังเป็นของของของคุณ”
“คุณตัดสินใจว่าจะเริ่มทำตั้งแต่พื้นฐาน ตอนแรกเริ่ม มันก็เหมือนเป็นจุกจิกทั่วไป ปริ้นท์งาน ถ่ายเอกสาร วิ่งไปช่วยคนนั้นทีคนนี้ที ใครก็ชี้นิ้วสั่งคุณได้ แต่ว่า ในบี.เอ.เอ็ม.กรุ๊ปน่าจะไม่มีใครกล้ารังแกคุณอย่างเปิดเผย พวกเราสองคนเคยประกาศความสัมพันธ์กันแล้ว คุณเป็นภรรยาท่านประธานเชียวนะ”
เทวิกามีสีหน้าหงุดหงิด “ใช่แล้ว พวกเขาต่างก็รู้กันหมดว่าพวกเราเป็นอะไรกัน อย่างงั้นฉันจะเรียนรู้อะไรก็ยากแล้ว”
คิดไปคิดมา เธอก็พูดว่า“ไม่เป็นไร ฉันแต่งหน้าปลอมตัว ปะปนเข้าไปก็ได้ ทุกคนก็จะคิดว่าฉันชื่อนามสกุลเหมือนภรรยาคุณแต่เป็นคนละคนกัน”
ยศพัฒน์มองเธอเงียบๆ สักพัก เขาถามว่า“ฝีมือการแต่งหน้าของคุณเป็นยังไง”
“ก็ธรรมดาทั่วไปนะคะ อันที่จริงแล้วฉันไม่ชอบแต่งหน้า คุณดูสิปกติฉันก็หน้าสดตลอด”
“งั้นช่างเถอะ ผมไม่คาดหวังให้คุณแต่งหน้าปลอมตัว ผมจะจ้างช่างแต่งหน้าฝีมือดีมาให้คุณคนหนึ่ง ช่วยคุณแต่งหน้าเหมือนเดิมทุกวันตอนเช้า ฝีมือการแต่งหน้าเธอสุดยอดมาก คุณอยากจะน่าเกลียดน่ากลัวจนทำให้พ่อแม่คุณร้องไห้ออกมาตอนเห็นคุณ เธอก็ช่วยคุณแต่งออกมาได้”
เทวิกาได้ฟังแล้วดวงตาทั้งสองข้างก็เปล่งประกาย“เก่งขนาดนี้เลยเหรอคะ ฉันเคยได้ยินว่า ช่างที่เขาแต่งหน้าเก่งๆแต่งออกมาเหมือนเป็นการปลอมตัวอย่างนั้นเลย”
“ไม่ต้องแต่งจนน่าเกลียดมากเกินไปหรอก เอาเหมือนคนธรรมดาก็พอแล้ว”
“อีกเดี๋ยวผมจะโทรหาเธอ”
“ได้ค่ะ”
แก้ปัญหาเรื่องนี้แล้ว เทวิกาก็รู้สึกโล่งไปทั้งตัว ก็ประจบเอาใจสามีว่า“ยศพัฒน์ คุณเก่งจริงๆ ไม่ว่าใครคุณก็รู้จักหมด มีคุณอยู่ด้วยนี่ดีจังเลย ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าตนเองโชคดีมากที่ที่ตอนแรกกล้าหาญชาญชัยไปเช่าคุณมาเป็นสามี”
“ฮ่าๆ นี่ฉันโชคดีที่เจอของล้ำค่า”
ยศพัฒน์แตะปลายจมูกเธอเบาๆ“ในเมื่อโชคดีที่ได้เจอผม งั้นก็ต้องรักผมมากๆหน่อย เรียกผมว่าสามี แบบนี้ถึงจะเป็นการป่าวประกาศความเป็นเจ้าของของคุณ”
“สามี สามี สามี……”
เทวิกาส่งเสียงเรียกสิบกว่าครั้ง
ยศพัฒน์ ……เหมือนกับเครื่องอัดเสียงยังไงยังนั้น ไม่มีความรู้สึกอะไร
แต่ว่า อย่างน้อยก็ดีกว่าเรียกว่ายศพัฒน์
สองสามีพูดคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง เทวิกาต้องกลับไปอยู่เป็นเพื่อนคุณหญิงธิษณาที่โรงพยาบาล เธอยังอยากถามประยสย์ว่าความจริงที่คุณหญิงธิษณากลัวการนอนกลางวัน เป็นเพราะฝีมือพ่อแท้ๆที่ไม่เคยเห็นคนนั้นของเธอหรือเปล่า
หลังจากยศพัฒน์มาส่งเทวิกาที่โรงพยาบาลแล้ว เขาก็กลับไปทำงานที่บริษัทต่อ
แน่นอน ก็ไม่ลืมที่จะโทรหาช่างแต่งหน้าฝีมือดีคนนั้นที่เขาบอก
คุณพัฒน์เป็นคนออกหน้า ต่อให้อีกฝ่ายงานยุ่งแค่ไหน ก็ต้องรับปาก ขอเพียงแค่ให้เทวิกาเข้าไปในบี.เอ.เอ็ม.กรุ๊ปทุกวันก่อนไปทำงาน อีกฝ่ายต้องแต่งหน้าให้เทวิกา และยังไม่รับเงินจากยศพัฒน์ เงื่อนไขก็คือ เธอจะเข้ามาอยู่คฤหัสถ์เมเปิล หรือว่าอยู่ที่บ้านของคุณอาทางนั้นทางนั้น
เพราะเรื่องของภรรยาที่รัก คุณพัฒน์ตัดสินใจว่าคืนนี้จะคุยกับคุณชายรองกษิดิ
ภายในโรงพยาบาล คุณหญิงธิษณายังไม่ฟื้น
เทวิกากำลังพูดคุยสัพเพเหระกับประยสย์ในห้องรับแขก
“ปกติเวลาอยู่ที่บ้าน ใครเป็นคนดูแลคุณน้าเหรอคะ”
“ป้าอ้อย”
“เธอไว้ใจได้มั้ยคะ”
“เธอยังถือว่าไว้ใจได้นะ นับตั้งแต่ที่แม่ผมเสียสติ ที่บ้านหลังนั้น ก็มีป้าอ้อยที่ยังจริงใจกับแม่ผม ยังเคารพเธอในฐานะนายหญิงของตระกูลสาระทา คนอื่นไม่เห็นแม่ผมอยู่ในสายตานานแล้ว”
“หลังจากเวลาผ่านไปนาน ถ้าผมไม่อยู่บ้าน อาสะใภ้รองอาสะใภ้สามก็จะดูหมิ่นเหยียดหยาม รังแกแม่ผม เรื่องที่พวกเธอชอบที่สุดก็คือให้คนเอาตุ๊กตาของแม่โยนออกไปข้างนอก ให้แม่ไปเก็บ รอตอนที่แม่ผมไปเก็บ เธอก็จะให้คนสาดน้ำบ้าง ปาไข่ไก่ใส่บ้างต้องให้แม่ผมหมดสภาพดูไม่ได้แล้ว พวกเธอถึงจะพอใจ”
พอเอ่ยถึงเรื่องพวกนี้ แววตาของประยสย์ก็จะเย็นยะเยือก
แฝงด้วยความอาฆาตแค้น
ถ้าการฆ่าคนตายไม่ผิดกฎหมาย คนพวกนั้น คงถูกเขาฆ่าตายไปนานแล้ว
ประยสย์เองก็เคยพลีผลามวู่วามไปลงไม้ลงมือกับพวกเธอ เขาเป็นเด็ก พวกเธอเป็นผู้ใหญ่ เรื่องไปถึงพ่อของเขาทางนั้น พ่อเขาก็มาสั่งสอนเขาครั้งใหญ่
ครั้งนั้น พ่อตีจนเขามีแต่แผลเหวอะหวะทั้งตัว ถ้าคุณปู่ไม่มาห้ามไว้ เขายังสงสัยว่าพ่อคงอยากจะตีเขาให้ตาย
แต่ว่า ตอนที่ไม่มีคนอยู่ด้วย พ่อกลับใช้คำพูดที่ผิดหวังอย่างที่สุดว่า“แกทำร้ายพวกเธอบาดเจ็บหรือตีจนตาย เพื่อแก้แค้นให้แม่ แต่แกเคยคิดมั้ย ว่าแกทำแบบนี้ ไม่เพียงไม่ให้ความเคารพผู้ใหญ่ แต่ยังผิดกฎหมายด้วย!”
“ถ้าพวกเธอไปฟ้องนายข้อหาทำร้ายร่างกาย พอถูกตัดสินว่าผิดแล้ว แกก็ต้องเข้าไปอยู่ในคุก ถ้าแกไม่รู้อะไรควรไม่ควร ตีพวกเธอจนตาย แกก็ต้องชดใช้ด้วยชีวิต พอแกเข้าคุกไปแล้ว แม่จะเป็นยังไง”
“แกอยากจะปกป้องดูแลแม่ แกก็ต้องเติบโตขึ้นท่ามกลางฝูงหมาป่า กลายเป็นราชาแห่งหมาป่า ตนเองมีความแข็งแกร่งมากพอ จึงจะสามารถปกป้องดูแลคนที่แกอยากปกป้องได้!”
นับตั้งแต่นั้น แม้เขาจะโกรธแค้นมากแค่ไหน ก็ไม่เคยลงไม้ลงมือกับอาสะใภ้รองอาสะใภ้สามอีกเลย