คุณสามีพันล้าน - บทที่ 177 เรียกพี่ชายสักคำ
แต่ทว่า ถ้าพวกเธอรังแกแม่ เขาก็จะจัดการกับลูกพี่ลูกน้องที่มาจากครอบครัวของอาเขา ขุดหลุม ให้พวกเขากระโดดเข้าไป สุดท้ายก็ต้องมาขอร้องให้เขาช่วยเหลือ
พอทำเรื่องแบบนี้มากๆเข้า คนของคุณอา ก็ไม่กล้ารังแกแม่อย่างเปิดเผยอีก แต่ก็ยังคงปากดี
ชอบยั่วยุปลุกปั่นให้คุณย่ามาเล่นงานแม่
เทวิกาฟังแล้วก็รู้สึกโกรธ
“พวกเธอยังเป็นคนกันอยู่มั้ย ทำไมถึงทำกับคุณน้าแบบนี้ จะยังไงก็เป็นพี่สะใภ้นะ”
ประยสย์พูดอย่างเยือกเย็นว่า “พวกเธออิจฉาที่แม่เป็นนายหญิงของบ้าน แม้ว่าแม่จะเสียสติ
หลายปีที่ผ่านมานี้ นายหญิงของตระกูลสาระทาของเมืองซูเพร่า
นายหญิงของพวกเรามีสถานะสูงส่งมากเดินไปที่ไหนก็เรียกฟ้าเรียกฝนได้”
เพราะแม่เขาเป็นคนอ่อนโยน
จึงไม่เคยได้ใช้อำนาจความเป็นนายหญิงของบ้านเลย
“อีกอย่างอาจเป็นเพราะความจริงแล้วชีวิตการแต่งงานของพวกเธอไม่ได้มีความสุขเหมือนที่คนอื่นคิด
ละมั้ง อารองกับอาสามของผมมีผู้หญิงข้างนอกมากมาย พ่อผม……ก็มีแค่พลอยคนเดียว”
เทวิกามีสีหน้าเปลี่ยนไป “เขา นอกใจเหรอ”
หลังจากประยสย์นิ่งเงียบ ก็พูดว่า “แม่ผมเสียสติหลายปีขนาดนี้ เขาเป็นหัวหน้าครอบครัว
มีงานเลี้ยงสังสรรค์มากเป็นพิเศษ เขาบอกว่าเขาจำเป็นต้องมีผู้หญิงข้างกาย พลอย
ก็คอยตามตื๊อเขาอย่างมากพอดี เขาจึงยอมรับเธอ”
“ไม่ได้หย่าก็รับผู้หญิงอีกคนเข้ามาเลยเหรอ เขานี่เลวจริงๆ!คุณน้ากลัวการนอนกลางวัน เป็นเพราะว่ามีคนเอาเปรียบรังแกเธอ ตอนที่เธอนอนกลางวันหรือเปล่า ในบ้านมีกล้องวงจรปิดรึเปล่าคะ มีใครรู้เรื่องนี้มั้ยคะ”
“มีกล้องวงจรปิด แต่มันมักจะเสียเป็นประจำ”
ประยสย์หัวเราะเยาะ ทั้งยังโกรธเคือง
คนที่ทำลายกล้องวงจรปิดคือใคร เขารู้ดีอยู่แก่ใจ
ส่วนเรื่องที่น้องสาวตำหนิว่าพ่อเป็นคนเลว ประยสย์ก็ไม่ได้แก้ตัวแทนพ่อ ในสายตาเขา
พ่อนับวันก็ยิ่งเลวขึ้นเรื่อยๆ
นับตั้งแต่เขาเริ่มรู้เรื่อง พ่อก็เข้มงวดกับเขามากเป็นพิเศษ
เขาก็ยิ่งเกลียดที่พ่อไม่ได้ดูแลปกป้องแม่ให้ดี ความสัมพันธ์ของสองคนพ่อลูกก็ยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ
โดยเฉพาะหลังจากที่พ่อมีพลอยมาอยู่ข้างกายแล้ว
เขาคิดว่า ถ้าข้างกายแม่ไม่มีลูกชายอย่างเขานี้ ถ้าเขาไม่ใช่คุณชายของตระกูลสาระทา อาจจะเป็นไปได้ว่า
นายหญิงของตระกูลสาระทาอาจจะเปลี่ยนเป็นพลอยนานแล้ว
ผู้หญิงที่ชื่อพลอยคนนั้นหมายมั่นปั้นมือที่จะเอาตำแหน่งนายหญิงขิงตระกูลสาระทาให้ได้
“ผมสงสัยว่า อาจจะเป็นพ่อผม……”
ประยสย์ไม่ได้พูดต่อ
เทวิกาเข้าใจ
แววตาประยสย์มีความเคลือบแคลงสงสัย จู่ๆก็รู้สึกว่า เรื่องราวระหว่างพ่อกับแม่มีเรื่องที่เขาคิดไม่ตกมากมาย
“วิกา ผมมีลางสังหรณ์ว่าคุณก็คือน้องสาวแท้ๆของผม คุณเหมือนคุณย่าของผมตอนสาวๆ
มีครั้งหนึ่งตอนคุณแม่มีสติ เคยบอกว่าน้องหน้าตาเหมือนคุณย่ามาก ตอนเด็กๆ คุณย่ารักเธอปานแก้วตาดวงใจ รักเธอมากเป็นพิเศษ”
อาจจะเพราะว่า การหายสาบสูญของเนตรดาว ไม่ใช่แค่เพียงวรันธรคิดจะแก้แค้นพ่อแม่ของพวกเรา แล้วก็อาจจะเป็นคนพวกนั้นที่อยู่ในบ้าน อิจฉาที่เนตรดาวได้รับความรักและเอ็นดูจากคุณย่ามากเป็นพิเศษ
ความอิจฉาริษยา ทำให้คนเราบ้าคลั่ง สูญเสียสติสัมปชัญญะได้
ทำเรื่องที่ผิดศีลธรรมได้มากมาย
คำพูดเหล่านี้ เมื่อนำมาใช้กับคนตระกูลสาระทา ก็ยิ่งสะท้อนให้เห็นชัดเจนขึ้น
“คุณ เรียกผมว่าพี่สักคำได้มั้ย”
ประยสย์เปลี่ยนหัวข้อสนทนา ถามเทวิกาอย่างตะกุกตะกักว่า
“จากความทรงจำของผม ก็จำได้ว่ามีน้องสาวท้องเดียวกันหนึ่งคน แต่น้องสาวหายสาบสูญไป
ผมไม่รู้ว่าน้องสาวโตแล้วจะหน้าตาเป็นยังไง ภาพถ่ายที่คุณแม่เก็บไว้ ก็มีแต่ภาพตอนที่พวกเราอายุไม่กี่เดือน”
“แม้ว่าผมจะไม่ได้เติบโตมาพร้อมกับน้องสาว แต่ช่วงเวลาที่พี่เติบโตนั้น ไม่เคยลืมน้องเลย วิกา
พี่ตามหาเธอมานานมาก แม้แต่ตอนนอน ก็ยังฝันว่าอยากจะเจอเธอ อยากได้ยินเธอเรียกผมว่าพี่”
ตอนเด็กๆ ตอนที่เห็นลูกพี่ลูกน้องเรียกพี่ชาย เขาก็อิจฉาเป็นพิเศษ
อยากได้ยินน้องสาวใช้เสียงเล็กเสียงน้อยแบบนี้เรียกเขาว่าพี่เช่นกัน
น่าเสียดาย ที่น้องสาวของเขาถูกคนชั่วขโมยไปแล้ว
น้องสาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องก็เรียกเขาว่าพี่ชาย เขาไม่ชอบฟังพวกเธอเรียกเขาว่า
เขามีน้องสาวของตัวเอง!
ในใจเทวิการู้ดีว่าคุณญิงธิษณาสองแม่ลูก ก็คือแม่และพี่ชายแท้ๆของเธอ
ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากเรียก แต่เขายังไม่ได้เอ่ยปากออกมา อีกอย่างยังไม่ได้ผลตรวจดีเอ็นเอด้วย
ถ้าหาก หน้าตาคล้ายกันมากแต่กลับไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดล่ะ
ดังนั้น เธอจึงอดทนเอาไว้ ไม่ได้เปลี่ยนสรรพนาม
มาวันนี้ ประยสย์ขอร้องให้เธอเรียกเขาว่าพี่ เธอไม่ได้มีท่าทีลังเลเลยสักนิด เปลี่ยนมาเรียกเขาว่าพี่เลย
ประยสย์ลุกขึ้น เดินมาตรงหน้าเธอ ดึงเธอขึ้นมา จากนั้นก็กอดเธอเอาไว้ในอ้อมอกแน่น น้ำเสียงทุ้มต่ำแต่แฝงด้วยความตื่นเต้น“เรียกพี่อีกสักคำสิ”
“พี่”
“วิกา ในที่สุดพี่ก็ตามหาเธอเจอแล้ว เธอไม่รู้หรอก ว่าพี่ตามหาเธอลำบากมากขนาดไหน
ไม่รู้ว่าเคยถูกคนหลอกลวงมาเท่าไหร่ มักจะเต็มไปด้วยความหวัง และจากไปพร้อมกับความผิดหวัง”
“พี่”
เทวิกาเองก็กอดตอบพี่ชายแท้ๆแน่น
แม้จะบอกว่า ช่วงเวลาที่ทั้งสองเจอกันยังไม่นาน แต่พวกเขาเป็น
พี่น้องท้องเดียวกัน ความสัมพันธ์ทางสายเลือดลึกซึ้ง กอดแค่ครั้งเดียว
ก็ทำให้ความขัดเขินระหว่างพวกเขาสลายหายไปอย่างง่ายดาย
เธอสัมผัสได้ถึงความตื่นเต้นที่อยู่ในใจของพี่ชาย และสัมผัสได้ว่าพี่ชายแท้ๆรักเธอมากแค่ไหน
หลายปีมานี้ เธออยู่กับตระกูลวาชัยยุงมีพ่อแม่ครอบครัวที่รักเธอ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
ไม่ว่าจะเป็นพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยง หรือว่าคุณปู่คุณย่าหรือพี่ชาย ล้วนเห็นเธอเป็นอัญมณีในฝ่ามือ รักและเมตตากับเธอมาก
ส่วนพี่ชายแท้ของเธอก็เติบโตขึ้นมาในครอบครัวดั้งเดิม แม้ว่าเขาจะมีชีวิตที่ดี แต่เขาก็เหนื่อยมาก ลำบากมาก แม้จะเป็นเช่นนี้
มันไม่ง่ายเลยที่จะเผชิญหน้ากับอันตรายที่มาจากรอบด้าน ความจริงมันไม่ใช่เรื่องง่าย
เทวิกาสงสารแม่แท้ๆ และสงสารพี่ชายแท้ๆ
ถ้าหากว่า ผลตรวจดีเอ็นเอออกมา พวกเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกัน เธอก็จะหน้าด้านเป็นลูกสาว น้องสาวบุญธรรมของพวกเขา
พี่ชายคนนี้ ช่างน่าสงสารเหลือเกิน
“เห็นน้องกับคุณชเนนทร์อยู่ด้วยกัน พี่อิจฉาแทบตาย”
ในที่สุดประยสย์ก็ปล่อยมือออกจากน้องสาว
พอเอ่ยถึงชเนนทร์ สีหน้าเทวิกาก็แตกต่างไปจากเดิม เธอพูดว่า“พี่ชายฉันรักฉันมาก พ่อแม่และปู่ย่ารักฉันมาก แม้แต่ญาติพี่น้องทุกคนต่างก็ดีกับฉันอย่างยิ่ง พี่คะ อยู่ที่บ้านตระกูลวาชัยยุง ฉันมีความสุขมาก”
ความจริงแล้ว ที่ผ่านมาเธอไม่รู้เลยว่าตนเองไม่ใช่ลูกแท้ของตระกูลวาชัยยุง
ก่อนหน้านี้ไม่นาน ปูมหลังของเธอเพิ่งจะถูกเปิดเผย
“มองออกว่า คุณชเนนทร์รักเธอด้วยใจจริง วิกา รอให้แม่ออกจากโรงพยาบาลก่อน พี่จะพาเธอไปพบพ่อกับแม่เธอ พี่จะขอบคุณที่พวกเขาเลี้ยงดูเธอจนโตเหมือนลูกแท้ๆ อบรมสั่งสอนมาได้ดีขนาดนี้”
ประยสย์เต็มไปด้วยความรู้สึกซาบซึ้งต่อบุญคุณของคนตระกูลวาชัยยุง
ถ้ามีคนตระกูลวาชัยยุง น้องสาวของเขาก็ไม่รู้ว่าจะเป็นหรือตาย
“ค่ะ”
สองคนพี่น้องนั่งลงใหม่อีกครั้ง
จากปากของพี่ชายแท้ๆ เทวิกาก็พอจะรู้เรื่องราวคร่าวๆของตระกูลสาระทา
เธอรู้ว่าตระกูลสาระทามีเบื้องลึกเบื้องหลัง แต่คิดไม่ถึงว่าจะลึกลับ ซับซ้อนขนาดนี้ทำให้เธอถอดใจกลางคัน ไม่อยากจะยอมรับแล้ว
คนที่นิสัยแบบเธอนี้ ต้องอยู่ในสถานที่อย่างตระกูลสาระทา เกรงว่าจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน
มิน่าล่ะยศพัฒน์ถึงได้บอกกับเธอเป็นพิเศษว่า ให้เธอเรียนรู้ทางธุรกิจ เพื่อเตรียมที่จะมารับช่วงบริหารมรดกในอนาคต
“พี่คะ พี่บอกว่าคนคนนั้นแบ่งมรดกให้พวกเราเท่าไหร่นะคะ”
“ถ้าครึ่งหนึ่ง น่าจะประมาณหกเจ็ดร้อยล้าน” พ่อเขาเป็นมหาเศรษฐีพันล้าน
เทวิกา “……เขา เขามีทรัพย์สินส่วนตัวมากมายขนาดนี้เชียวเหรอ”
มิน่าเล่า คนพวกนั้นถึงได้พยายามวางแผนขัดขวางการกลับไปของเธอ ยังคิดจะเอาชีวิตเธออีกด้วย
ความมั่งคั่งร่ำรวยทำให้คนเราทะเยอทะยาน