คุณสามีพันล้าน - บทที่ 216 คุณปู่ที่ทำตัวเป็นปรปักษ์
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 216 คุณปู่ที่ทำตัวเป็นปรปักษ์
“ฉันจะไปเจอเนตรดาว เเละยสพัฒน์”
พลอยลูบใบหน้าตัวเองอย่างมั่นใจเเละหลงใหลในตัวเอง เเล้วพูดขึ้นว่า: “ฉันเคยเห็นรูปถ่ายของเนตรดาวมาก่อน ดูเเล้วเหมือนคนไร้เดียงสาเเละตรงไปตรงมา ผู้หญิงเเบบนี้ไม่รู้ว่าอะไรคือเสน่ห์หรอก ยศพัฒน์คงจะเจอผู้หญิงเก่งมาเยอะ เลยรู้สึกว่าเนตรดาวเป็นของใหม่ ถ้าให้ฉันออกโรง รับรองสามารถทำให้พวกเขาหย่าร้างกันได้เเน่
ในเมื่อฆ่าเนตรดาวไม่ได้ ก็เเย่งสามีของเนตรดาวเสียเลย ทำลายชีวิตการเเต่งงานของเธอ ให้เธอสูญเสียตระกูลอริยชัยกุลที่เป็นที่พึ่งหลักของเธอไป
คุณพสธรเตือนลูกสาวตัวเองออกมาว่า: “เป้าหมายของลูกคือไซม่อน”
“พ่อ ลูกรู้ ลูกไม่ได้จะไปยั่วยวนเอง เเต่ลูกจะทำให้ยศพัฒน์มาหลงใหลลูกเองต่างหาก”
คุณพสธรเอียงหน้าไปมองลูกสาว มองสำรวจตั้งเเต่หัวจรดเท้าไปรอบหนึ่ง เเล้วพูดขึ้นว่า: “พลอย พ่อไม่เห็นด้วยที่ลูกจะทำเเบบนี้ ลูกไม่รู้จักยศพัฒน์ดีพอ เขาไม่เหมือนผู้ชายทั่วไป เขาไม่มีนิสัยเสียโดยสัญชาตญาณของผู้ชายอยู่ในตัวเลย”
หลังจากที่เขารู้ว่าเนตรดาวมีที่พึ่งเป็นตระกูลอริยชัยกุลแล้ว ก็ได้เริ่มสืบประวัติของยศพัฒน์ ถึงได้รู้นิสัยที่เเท้จริงของชายหนุ่มคนนี้
“พลอย ถ้าเธอจะไปที่เมืองแอคเซสซ์จริง ต้องปิดบังฐานะของตัวเอง ใช้ฐานะอีกฐานะหนึ่งโดยไปทำธุรกิจร่วมเข้าใกล้บุคคลคนหนึ่ง ใช้บุคคลคนนั้นช่วยเธอจัดการเนตรดาว รับรองเค้าต้องยินดีช่วยเธอจัดการเนตรดาวเเน่”
“พ่อ ใครเหรอ?”
“เปรมา เธอรักยศพัฒน์มาสิบกว่าเเล้ว ถูกคนลือกันว่าเธอกับยศพัฒน์รักกันมาตั้งเเต่เด็ก จึงทำให้เธอคิดว่าตัวเองเป็นคู่รักของยศพัฒน์มาโดยตลอด และมั่นใจว่าจะได้เเต่งงานเป็นคุณผู้หญิงของตระกูลอริยชัยกุล เเต่คาดคิดไม่ถึงว่าจะถูกเนตรดาวคาบไปกินระหว่างทาง ทำให้เธอเกลียดเนตรดาวมาก”
“ส่วนนฤเบศวร์คู่อริของยศพัฒน์ก็หลงรักเปรมา เขาก็เป็นหมากอีกอันหนึ่งที่สามารถหลอกใช้ได้ ลูกก็เเค่หาวิธีหลอกใช้พวกเขาสองคน โดยที่ลูกไม่ต้องลงมือเองเลย หรือไม่ต้องออกหน้าเลย ลูกก็สามารถได้ผลลัพธ์ที่ลูกต้องการได้”
“เปรมาเนื่องจากความหึงหวงได้พาคนไปทำลายร้านกาแฟของเนตรดาว เลยถูกจับไปขังคุกสิบห้าวัน เธอเพิ่งหันกลับมาทำธุรกิจในประเทศ ก็ถูกยศพัฒน์กดดัน ตอนนี้ธุรกิจของเธอไม่เพียงไม่ดีขึ้น กลับย่ำแย่ลงมาก ก่อนหน้านั้นเงินลงทุนที่โอนมาลงทุนในประเทศ ล้วนขาดทุนไปหมดเเล้ว”
เมื่อพลอยได้ยินแแบบนี้ก็ตาใสขึ้นมาทันที ยิ้มเเล้วพูดขึ้นว่า: “พ่อ พ่อนี่เก่งจริงๆ เลย เเม้เเต่เรื่องพวกนี้พ่อก็ตรวจสอบมาชัดเจนหมดเเล้ว”
“รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง”
ดวงตาของคุณพสธรฉายเเวดโหดเหี้ยมออกมา
หลายปีมานี้ถูกตระกูลสาระทากดขี่เป็นที่สองมาโดยตลอด ทำให้เขาเกลียดตระกูลสาระทามาก อยากให้ตระกูลสาระทามีเราะร้ายต่ความวุ่นวาย ดีที่สุดคือต้องการให้ภายในแตกหักกัน ถ้าเป็นแบบนั้นได้เขาจะได้มีโอกาส
ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะแบบนี้ มีหรือที่เขาจะยอมให้ลูกสาวที่ทั้งสวยและยังอายุน้อยอยู่ไปข้องเกี่ยวกับไซม่อน?
ลูกสาวก็แค่หมากตัวหนึ่งของเขาเท่านั้นเอง เป็นหมากที่เข้าไปทำลายภายในของตระกูลสาระทานั่นเอง
“พ่อ พ่อบอกว่านฤเบศวร์รักเปรมามาก ทำไมธุรกิจของเปรมาถึงถูกกดดัน นฤเบศวร์ไม่ได้ยื่นมือไปช่วยเหรอ?” เหลือโอกาสไว้ให้เธอ?
คุณพสธรจิ้มไปที่หน้าผากของลูกสาวเบาๆ เเล้วพูดกับเธอว่า: “แนะนำคนให้ลูกรู้จักมากขนาดนี้เเเราะร้าย ลูกยังไม่รู้จักใช้มันให้เป็นประโยชน์ พ่อเคยบอกเเล้ว ต้องรู้เขารู้เรา ถึงจะรบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งได้ ถ้าลูกไม่รู้จักพวกเขาเลย ลูกก็จะแพ้สถานเดียว”
“คนที่มีอำนาจในตระกูลเดชอุปคือคุณปู่เร็น ขิงยังไงก็ยังคงเป็นขิงแก่ที่เผ็ดที่สุด ผู้เฒ่าแก่ยังคงสมองโปร่งใสรู้เรื่องชัดเจนอยู่ เขากดนฤเบศวร์ไว้ จึงทำให้นฤเบศวร์ช่วยเหลือเปรมาไม่ได้ แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ถือเป็นโอกาสดีของลูก พลอย รักษาโอกาสนี้ไว้ดีๆ ก็แล้วกัน”
พลอยตอบอืมออกมา
“ก่อนที่ลูกจะไปเมืองแอคเซสซ์ พ่อจะเตรียมข้อมูลข่าวคราวที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ของเมืองแอคเซสซ์ให้ลูก ทำความเข้าใจทุกอย่างก่อน แล้วค่อยลงไป”
พลอยตอบอืมออกมา แล้วพูดขึ้นอีกว่า: “พ่อ ลูกต้อง……ไม่งั้นลูกไม่ไว้ใจ เพราะผู้หญิงที่ล้อมรอบอยู่ข้างกายเขาเยอะเหลือเกิน”
“ลูกใช้ยาไม่เป็นเหรอ”
“แต่เขาไม่ดื่มชาที่ลูกชงเลย ส่วนน้ำซุป ก็หาโอกาสได้ยาก ถึงแม้จะมีโอกาส แต่ก็ไม่สำเร็จ”
คุณพสธรถอนหายใจออกมา แล้วให้ลูกสาวเอาหูเข้ามาใกล้ เขาพูดข้างหูลูกสาวสองสามประโยค ก็เห็นดวงตาของพลอยสว่างขึ้นมาทันที
……
ตระกูลสาระทา
ห้องหนังสือของเจ้าบ้าน
ไซม่อนกำลังโทรศัพท์อยู่
เนื่องจากห้องหนังสือของเขาตกแต่งเป็นพิเศษ จึงไม่มีใครสามารถได้ยินว่าเขาคุยอะไรกันในโทรศัพท์
แม้แต่บอดี้การ์ดที่เขาไว้ใจก็ไม่ได้ยิน
หลังจากโทรติดต่อกันหลายสายแล้ว ไซม่อนถึงนั่งลงหน้าโต๊ะทำงาน
มองไปที่ภาพถ่ายครอบครัว เขาหยิบกรอบรูปขึ้นมา สายตาอ่อนโยนขึ้นมาก นิ้วมือลูบไปที่ภาพถ่าย พูดพึมพำออกมาเราะร้าย“ดาว ในเมื่อหลบซ่อนตัวไม่ได้อีกแล้ว ก็เปิดเผยเผชิญหน้ากันเลย พ่อยอมทำทุกอย่าง เพื่อให้ลูกได้กลับมาอย่างปลอดภัย”
เมื่อกี้ที่เขาโทรศัพท์ไปหลายสาย ก็เพื่อจัดหาคนไปปกป้องลูกชายที่จะกลับบ้านมาอย่างลับๆ นั่นเอง
ให้คนเฝ้าระวังตระกูลเลิศธนโยธาให้ดี
ประยสย์แต่งหน้าให้เหมือนคุณชายห้าของตระกูลอริยชัยกุล ใช้เมืองเพรส์เป็นทางผ่าน จากนั้นค่อยเปลี่ยนเครื่องกลับเมืองซูเพร่า และไม่ได้ให้บอดี้การ์ดของตระกูลสาระทาติดตามเลยสักคน เรื่องนี้ปกปิดคนอื่นได้ แต่ไม่สามารถปกปิดไซม่อนได้
หลังจากที่ลูกชายพาภรรยาที่เสียสติไปถึงเมืองแอคเซสซ์ แล้วทุกการเคลื่อนไหวของพวกเขาอยู่ในการกำมือของเขาตลอด
เพียงแต่ลูกชายไม่รู้ตัวเท่านั้นเอง
ไม่พูดไม่ได้เลย ไซม่อนชื่นชมลูกเขยของเขาคนนี้มาก
มีเล่ห์เหลี่ยมกว่าลูกชายของเขาตั้งเยอะ
มิน่าอายุยังไม่ถึงสามสิบ ก็ได้นั่งตำแหน่งประธานของบริษัทบี.เอ.เอ็ม.กรุ๊ปแล้ว
รอให้ลูกชายกลับมาก่อน พวกเขาสองพ่อลูกค่อยหารือกันอีกทีว่าจะพาเนตรดาวกลับบ้านยังไง
“ณิน……”
นิ้วมือของไซม่อนลูบไปที่ภรรยาในภาพถ่าย สายตายังคงอ่อนโยนเหมือนเดิม ได้แต่เก็บอาการความเจ็บปวดที่ไม่สามารถพูดออกมาได้ไว้ในใจ
“ณิน ลูก หาเจอแล้ว คุณจะกลับมาเหมือนเดิมไหม?แก้แค้นผมมายี่สิบกว่าปีน่าจะเพียงพอแล้ว……”
เมื่อนึกถึงแม่ที่เขาคืนให้กับลูกสาวกลายเป็นแม่ที่เสียสติแล้ว ทำให้ไซม่อนรู้สึกเจ็บปวดในใจอย่างบอกไม่ถูก
เพราะทุกอย่างเป็นเพราะเขาไม่มีความสามารถ และเป็นความผิดของเขาเอง!
……
เมืองแอคเซสซ์ ตระกูลเดชอุป
เมื่อกินมื้อเย็นกับคุณท่านเสร็จแล้ว กนกอรอยากกลับไปเหมือนครั้งก่อนอีก
“กนกอร”
คุณท่านเรียกเธอไว้
นฤเบศวร์หันขวับไปมองคุณปู่ รู้สึกว่าต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแน่
“คุณปู่ ยังมีเรื่องอะไรอีกเหรอคะ?”
กนกอรยิ้มแล้วถามออกมา เมื่อนฤเบศวร์เห็นรอยยิ้มนั้น แยกแยะไม่ออกว่าเป็นรอยยิ้มที่เสแสร้งหรือเป็นรอยยิ้มที่ยิ้มออกมาจากใจจริง
ขอแค่จ่ายเงินได้มากพอ สาวน้อยคนนี้ก็สามารถแสดงออกมาได้อย่างสมบทบาท
นฤเบศวร์บ่นกนกอรในใจว่าเห็นแก่เงินมากเกินไป
“อร หนูกับนฤเบศวร์ได้จดทะเบียนสมรสกันแล้ว ถึงแม้จะไม่ได้เปิดเผยให้คนข้างนอกรู้ แต่พวกเธอสองคนก็เป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว เป็นสามีภรรยากันก็ต้องอยู่ด้วยกัน หนูย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่เลย”
ในขณะที่คุณปู่เร็นพูดอยู่นั้น ได้เหลือบไปมองหลานชายตัวเองด้วย
กนกอรไม่หันไปมองนฤเบศวร์เลยด้วยซ้ำ ก็พูดปฏิเสธออกมา : “คุณปู่ ไม่ใช่ว่าหนูไม่ชอบบ้านของคุณปู่ และก็ไม่ใช่ว่าหนูไม่อยากย้ายเข้ามา แต่เป็นเพราะบ้านคุณปู่ไกลจากร้านของหนูมาก ถ้าต้องไปกลับทำงานแบบนี้ทุกวันคงไม่ไหว หนูพักที่บ้านของหนูสะดวกกว่าค่ะ”
“ขอบคุณสำหรับความหวังดีของคุณปู่”
คุณปู่เร็นพูดขึ้นว่า: “เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหา บ้านเรามีคนขับรถหลายคน ให้คนขับรถไปรับส่งหนูทำงาน หรือว่าหนูไปเลือกรถคันหนึ่งในโรงจอดรถ แล้วขับรถไปทำงาน ไม่สิ ให้นฤเบศวร์ซื้อรถคันหนึ่งให้หนูดีกว่า”
“นฤเบศวร์ พรุ่งนี้แกพาหนูอรไปดูรถ แล้วซื้อรถคันใหม่ให้เธอด้วย”
คุณปู่เร็นเป็นนักเคลื่อนไหว คิดอะไรได้ก็ลงมือทำทันทีเลย
นฤเบศวร์เหลือบไปมองกนกอร พูดเสียงเรียบเฉยออกมาว่า: “คุณปู่ คุณปู่อย่าไปฝืนใจคนอื่นเลย เธอไม่อยากย้ายเข้ามาอยู่ พวกเราก็ไม่ต้องไปขอร้องให้เธอย้ายเข้ามาหรอก”
“ไม่ ปู่จะขอร้องให้กนกอรย้ายเข้ามาอยู่ ปู่อยากเห็นกนกอรหลานสะใภ้คนนี้ทุกวัน”
นฤเบศวร์:……คุณปู่คือทำตัวเป็นปรปักษ์กับเขาตลอดเลย!