คุณสามีพันล้าน - บทที่ 217 แบล็กการ์ด
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 217 แบล็กการ์ด
นฤเบศวร์หันไปมองไปกนกอร เพื่อรอคำตอบจากกนกอร
“คุณปู่ คือหนูต้องนอนเตียงตัวเองเท่านั้นค่ะ ถ้าเปลี่ยนเตียงแล้วจะนอนไม่หลับ หนูว่าหนูกลับบ้านดีกว่า เดี๋ยวจะนอนไม่หลับทั้งคืน ทำให้ตอนกลางวันไม่มีแรงในการทำงาน”
กนกอรไม่อยากอยู่ค้างคืนที่บ้านของตระกูลเดชอุป
ไม่ต้องบอกว่านฤเบศวร์ไม่อยากให้เธออยู่ต่อ ถึงแม้นฤเบศวร์อยากให้เธออยู่ต่อ เธอก็ไม่อยากอยู่หรอก
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องทำงานละ ตระกูลเดชอุปของพวกเราบ้านใหญ่และธุรกิจก็ใหญ่โต ผู้หญิงที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลเราไม่ต้องทำงานและไม่ต้องทำงานบ้านอีกด้วย แต่ละเดือนในตระกูลเราจะมีเงินให้ทุกคนใช้ และสามีตัวเองก็จะให้เงินใช้เช่นเดียวกัน”
“กนกอร หนูอยู่บ้านเป็นคุณผู้หญิงก็พอแล้ว ถ้ารู้สึกน่าเบื่อ ก็ชวนเพื่อนหนูไปเดินเล่น ช็อปปิ้ง แช่น้ำร้อน หรือไปเที่ยวก็ได้”
กนกอร: “……”
“นฤเบศวร์ แกไม่ได้ให้เงินกนกอรใช้จ่ายใช่ไหม?เอากระเป๋าตังค์แกมาให้ฉันเดี๋ยวนี้”
คุณปู่เร็นขอกระเป๋าตังกับหลานชาย
นฤเบศวร์ไม่กล้าบอกว่าเขากับกนกอรเซ็นสัญญาข้อตกลงกันไว้ ทุกเดือนเขาจะจ่ายค่าตอบแทนให้กนกอรสามแสนบาท จึงเอากระเป๋าตังออกมาอย่างอิดออด แล้วยื่นไปให้คุณปู่ และในปากก็พูดขึ้นว่า: “คุณปู่ เธอไม่ได้ขาดเงินใช้ ไม่ได้ขาดเงินใช้จริงๆ”
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ร้านของเธอกำไรแล้วในตอนนี้ และในแต่ละเดือนจะได้ส่วนแบ่งก้อนหนึ่งอีกด้วย แค่เงินสามแสนที่เขาให้เธอใช้ก็มากพอแล้ว
คนทั่วไปส่วนใหญ่ปีหนึ่งหาเงินได้ไม่ถึงสามแสนบาทเลย
คุณปู่เร็นไม่สนใจเขา เปิดกระเป๋าตังเขาออกมาดู
กนกอรนึกว่าคุณท่านอย่างมากก็แค่หยิบเงินในกระเป๋าตังของนฤเบศวร์ให้เธอหมด เธอยังเป็นกังวลอยู่ ถ้าหากคุณท่านหยิบเงินของนฤเบศวร์ให้เธอ เธอจะรับดีหรือไม่รับดี?
จนกระทั่งมีแบล็กการ์ดยื่นมาอยู่ตรงหน้าเธอ
เธอรับแบล็กการ์ดนี้มาด้วยความสงสัย เธอรู้จัก แบล็กการ์ด นิยายที่เทวิกาเขียน พระเอกก็คือคนที่มีแบล็กการ์ด
แต่ในชีวิตจริง กนกอรยังไม่เคยเห็นแบล็กการ์ดมาก่อน
เธอรับแบล็กการ์ดใบนั้นมาพลิกดูอยู่หลายรอบ เมื่อดูจนพึงพอใจแล้วถึงได้ยื่นแบล็กการ์ดคืนกลับไปให้คุณท่าน ยิ้มเล้วพูดขึ้นว่า: “ที่แท้หน้าตาของแบล็กการ์ดเป็นแบบนี้นี่เอง”
“กนกอร หนูถือไว้ คราวหลังถ้ามีอะไรที่อยากได้ก็ใช้บัตรใบนี้ซื้อแหละ หนูเป็นภรรยาของนฤเบศวร์
เงินที่เขาหาได้ก็ต้องให้หนู
ใช้อยู่แล้ว ปู่บอกให้หนูเลย หนูใช้มันอย่างเต็มที่ ไม่ต้องเกรงใจ เงินที่สามีตัวเองหาได้ ถ้าเราไม่ใช้
เอง ก็จะมีผู้หญิงอื่นมาช่วยหนู
ใช้”
นฤเบศวร์ร้องเสียงต่ำออกมา: “คุณปู่!”
“บอกรหัสให้กนกอร”
คุณปู่เร็นพูดออกคำสั่งออกมา
“คุณปู่ ไม่ต้องหรอก แบต……ปรกตินฤเบศวร์ให้เงินหนูอยู่ค่ะ และเงินก็พอใช้อยู่ แต่ไม่ว่ายังไงหนูก็ชอบหาเงินใช้เองค่ะ คุณปู่ ดึกมากแล้ว หนูกลับก่อนนะคะ”
กนกอรตัดสินใจอย่างเด็ดขาดออกมา เพราะกลัวคุณท่านจะให้เธอค้างคืนที่บ้านตระกูลเดชอุป และยัดแบล็กการ์ดให้เธอเพิ่,อีกหนึ่งใบ
“นฤเบศวร์ แกยังนั่งอยู่ทำไม?รั้งหลานสะใภ้ฉันไว้ไม่ได้ แล้วไม่รู้จักไปส่งเธอกลับบ้านเหรอ ตอนนี้ดึกขนาดนี้แล้ว เธอเป็นผู้หญิงและกลับบ้านตัวคนเดียว มันอันตรายแค่ไหน”
คุณปู่เร็นถลึงตาใส่หลานชาย
“คุณปู่ นฤเบศวร์เองก็เหนื่อยแล้ว ให้เขาพักผ่อนเถอะ ให้คนขับรถส่งหนูก็พอ”
“ไม่ได้ ให้เขาไปส่งหนูแหละ”
คุณท่านถลึงตาใส่หลานชายอีกครั้ง
นฤเบศวร์ลุกขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ แล้วพูดขึ้นว่า: “ได้ๆๆ ผมส่งเธอกลับบ้านเอง”
“เอาบัตรใบนี้ให้กนกอรใช้ และบอกรหัสให้กนกอรรู้ด้วย พรุ่งนี้พากนกอรไปซื้อรถคันใหม่ ต้องซื้อรถที่ดีหน่อยนะ คุณผู้หญิงของตระกูลเรา จะไม่มีรถที่ดีๆ สักคันเลยได้ยังไง?”
นฤเบศวร์เอากระเป๋าตังของเขาคืนกลับมาจากมือคุณปู่ ไม่สนว่าคุณปู่ยังคงบ่นอะไรต่ออีก ก็เดินตามกนกอรออกไป
เมื่อมองสองสามีภรรยาออกไปจนลับตา และไม่เห็นแล้ว ได้พูดกับลุงเซนที่อยู่ข้างๆ ว่า: “กนกอรเป็นเด็กผู้หญิงที่ดี”
ลุงเซนพูดขึ้นว่า: “คุณท่านนำภัยพิบัติมาให้เธอ”
“จะพูดว่าภัยพิบัติได้ยังไง ฉันเป็นพ่อสื่อให้มันสองคน ในอนาคตถ้าพวกเขาสองคนรักกัน ก็จะขอบคุณความเผด็จการของฉันในตอนนี้เอง”
“คุณชายใหญ่กับคุณหญิงใหญ่อาจไม่ชอบลูกสะใภ้แบบคุณนายน้อยแบบนี้ก็ได้ ถ้าหากคุณนายน้อยไม่สามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง คุณท่านจะสามารถปกป้องเธอได้ทั้งชีวิตหรือเปล่า?สุดท้ายก็ได้รับบาดเจ็บอยู่ดี แล้วแบบนี้จะไม่ใช่คุณท่านนำภัยพิบัติมาให้เธอได้ยังไง?”
คุณปู่เร็นพูดอะไรไม่ออก
ตอนนี้ชรัณเห็นหน้าเขายังทำหน้าบึ้นตึงและเดินอ้อมไปที่อื่นเพื่อไม่ให้เจอเขาอยู่เลย
พวกเขาสองตระกูลเป็นครอบครัวที่ลูกหลานแต่งงานกัน!
เรื่องงานแต่งของนฤเบศวร์กับกนกอรเป็นความลับ คุณปู่เร็นรับปากกับหลานชายไว้แล้ว ว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องส่วนตัวของเขาอีก แค่ให้กนกอรเป็นคุณนายน้อยของตระกูลเดชอุปก็พอ แต่เมื่ออยู่ข้างนอก คิดว่านอกเหนือจากตระกูลไชยรัตน์สองแม่ลูกแล้วคงไม่มีใครรู้ความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยาระหว่างพวกเขาสองคนอีก
ส่วนทางด้านตระกูลภูสิทธ์อุดม นฤเบศวร์กับกนกอรเห็นพ้องต้องการกันแล้ว ว่าจะปิดเป็นความลับ
นฤเบศวร์ส่งกนกอรกลับบ้านด้วยตัวเอง
เหมือนเช่นเคย เมื่อถึงซอยใกล้ทางเข้าบ้านของกนกอร นฤเบศวร์ก็ได้จอดรถไว้ตรงทางเข้า
เนื่องจากดึกแล้ว ร้านค้าของสองข้างทางส่วนใหญ่ได้ปิดร้านลงแล้ว
เมื่อกนกอรจะเปิดรถลงไป ปรากฏว่าประตูรถยังคงล็อกอยู่ เธอจึงหันหน้าไปมองนฤเบศวร์ พูดเตือนเขาขึ้นมาว่า: “ฉันจะลงรถ”
นฤเบศวร์เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ ทำให้กนกอรต้องพูดติดต่อกันออกมาสองครั้ง เขาถึงขยับตัว ไม่ใช่ปลดล็อกประตู แต่กลับหยิบกระเป๋าตังออกมา จากนั้นหยิบแบล็กการ์ดที่คุณปู่หยิบออกมาเมื่อกี้ยื่นให้แก่กนกอร
“คุณปู่บอกให้ฉันเอาให้เธอ ถ้าไม่ให้เธอหล่ะก็ คุณปู่ต้องโทษฉันแน่เลย ไม่แน่ถ้าผมทำให้คุณปู่โกรธอีก อาจลากผมลงมาจากตำแหน่งประธานก็เป็นได้”
“รหัส เดี๋ยวผมส่งเข้าไปในมือถือของคุณ”
กนกอร: “……คุณให้ฉันจริงๆ เหรอ?ไม่กลัวฉันรูดบัตรคุณจนหมดเหรอ”
“ถึงแม้คุณจะรักเงิน แต่นิสัยส่วนตัวของคุณเป็นคนที่เที่ยงตรง ไม่ใช้เงินของผมไปเรื่อยหรอก ให้คุณไปแล้ว ก็แค่ช่วยผมดูแลเท่านั้นเอง”
กนกอรหัวเราะเคอๆ ออกมา “ฉันควรขอบคุณที่คุณเชื่อใจฉันหรือเปล่าเนี่ยะ?”
เธอรับแบล็กการ์ดมาอย่างไม่เกรงใจ “ในเมื่อคุณจะเอาให้ฉันดูแล ฉันก็จะดูแลให้ แต่ขอเก็บค่าดูแลวันนะสองพันนะ คุณโอนเงินผ่านวีแชทให้ฉันก็แล้วกัน ส่วนเงินในบัตร ฉันไม่ใช้ของคุณหรอก”
ผ่านไปสักพัก เธอพูดเสริมขึ้นอีกว่า: “ถึงแม้วิญญูชนจะอยากได้เงินทองทรัพย์สิน แต่ก็ต้องได้มาด้วยวิธีที่ถูกต้อง”
เธอต้องการหาเงินด้วยเหตุผลที่ถูกต้อง ไม่ใช่ได้มาฟรีๆ จากเขา
นฤเบศวร์ยิ้มทั้งน้ำตา “คุณเอาเงินสองพันออกมาจากบัตรเองก็ได้แล้วหนิ่”
“ฉันไม่แตะต้องบัตรคุณหรอก คุณโอนเงินให้ฉันก็พอ”
“ได้ๆๆ ผมโอนให้คุณ คุณคนรักเงิน ให้คุณทำอะไรให้ผมหน่อยก็พูดเงินกับผมทุกครั้งเลย หรือว่าในขณะที่คุณฝันคุณก็ยังคิดหาวิธีว่าจะเอาเงินของผมเข้ากระเป๋าคุณยังไง”
หลังจากที่นฤเบศวร์ยัดแบล็กการ์ดใส่มือเธอแล้ว ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา จากนั้นโอนเงินสองพันบาทให้กนกอรทันที และหมายเหตุไว้ว่าเป็นเงินค่าตอบแทนในการดูแลแบล็กการ์ด
เมื่อกนกอรได้รับเงินสองพันที่เขาโอนมาแล้ว บ่นพึมพำออกมาว่า: “บอกว่าวันละสองพัน คุณก็โอนแค่สองพันจริงๆ เหรอ ไม่รู้จักโอนเกินสองวันเหรอ?”
“ให้ทุกวัน คุณได้รับเงินทุกวัน ความรู้สึกจะดีกว่าไม่ใช่เหรอ?”
กนกอร: “……”
ถ้าเป็นแบบนั้น เธอก็ต้องติดต่อกับเขาทุกวันสิ
ตอนที่เขาโอนเงินให้เธอ เธอต้องตอบกลับเป็นสติ๊กเกอร์ “ขอบคุณเถ้าแก่” นี่น่าจะถือว่าเป็นการติดต่อแล้ว