คุณสามีพันล้าน - บทที่ 243 พ่อแท้ๆมาแล้ว
“แกไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ยังต้องทำงาน ปู่นอนไปแวบหนึ่งแล้ว ตอนนี้ตื่นขึ้นมาเลยไม่ง่วงชั่วคราว”
นฤเบศวร์โน้มน้าวอีกหลายประโยค แต่คุณปู่ยืนกรานว่าจะนั่งอีกสักพัก
เขาโน้มน้าวไม่สำเร็จ จึงลุกขึ้นเดินขึ้นชั้นบนไป
รอเขาไป ลุงเซนก็รินน้ำอุ่นให้คุณปู่เร็นแก้วหนึ่ง จากนั้นก็เอ่ยถามเสียงเบาว่า “ทำไมท่านไม่บอกคุณชายใหญ่ล่ะครับ”
“บอกอะไรเขา”
“คุณนายน้อยอริยชัยกุลเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลสาระทาแห่งเมืองซูเพร่า ฐานะสูงศักดิ์ อิทธิพลยิ่งใหญ่ เป็นคนที่ไม่สามารถยั่วยุได้
คุณปู่เร็นลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก็เอ่ยขึ้นว่า “จะบอกเขาทำไม ไม่เพียงแต่จะต้องปิดบังเรื่องนี้ ยังต้องพยายามให้เขารู้ช้าหน่อยด้วย”
“ทำไมล่ะครับ หากคุณชายใหญ่ล่วงเกินคุณนายน้อยอริยชัยกุล ก็จะเป็นการสร้างศัตรูใหม่ให้กับเดชอุป กรุ๊ปนะครับ”
“ถ้าเขารู้ เปรมาก็จะรู้ด้วย เปรมามักจะนึกว่าตัวเองเป็นคุณหนูของตระกูลไชยรัตน์ แต่ไม่คิดบ้างว่าตำแหน่งคุณหนูตระกูลไชยรัตน์ของเธอนั้นไม่มีเงินรวมอยู่ด้วย นึกว่าตระกูลไชยรัตน์ของเธอยังเป็นตระกูลไชยรัตน์สิบกว่าปีก่อนหรือไง”
“เธอดูแคลนเทวิกา และไม่ยอมที่จะให้เทวิกาอยู่เหนือกว่า ก็ปล่อยให้เธอกำเริบเสิบสาน โอหังอวดดี ไปหาเรื่องเทวิกาต่อไป ล่วงเกินตระกูลสาระทา ย่อมมีตระกูลสาระทาจัดการเธอ ตระกูลสาระทามีอำนาจ แม้ว่าเปรมาจะมาให้ เบศวร์ช่วย เบศวร์ก็มีแค่ใจที่ช่วยแต่ไร้ซึ่งอำนาจ”
“อรค่อยๆแทนที่ตำแหน่งของเปรมาในใจเบศวร์ แบบนี้เปรมาถึงจะไปจากเมืองแอคเซสซ์อย่างแท้จริง เบศวร์ถึงจะตัดใจจากเธอ ยอมรับอร ไม่สิ เป็นเขาที่ไปทำทุกวิถีทางเพื่อเอาใจภรรยา อรไม่สนใจเขาเลยสักนิด”
คุณปู่เร็นมองเห็นทะลุปรุโปร่ง
เขามองออกว่า หลานชายปฏิบัติต่อกนกอรไม่เหมือนกับคนอื่น แต่กนกอรไม่แยแสหลานชายเขาเลยจริงๆ!
สมน้ำหน้าเจ้าเด็กนี่แล้ว!
คุณปู่เร็นไม่รู้สึกเห็นใจหลานชายสักนิด
“ลุงเซน จำเอาไว้ อย่าเผลอพูดออกมาต่อหน้าคุณชายใหญ่”
ลุงเซนรีบเอ่ย “ท่านวางใจได้ครับ ผมไม่มีทางพูดแน่นอน”
คุณปู่เร็นตอบอืม เขายกแก้วน้ำอุ่นขึ้นมาดื่มไปสองสามอึก และวางแก้วลง จากนั้นก็ลุกขึ้นกลับไปที่ห้อง
เขาต้องให้ยารุนแรงกับหลานชายสักหน่อยถึงจะได้ จัดการส่งชายหนุ่มที่หล่อเหลา และอ่อนโยน เอาใจใส่ แต่เป็นคนชอบเพศเดียวกันไปเข้าใกล้กนกอร แสร้งทำเป็นตามจีบกนกอร กระตุ้นอารมณ์หึงของหลานชาย จะได้รู้ใจตัวเองได้ชัดเจน
…
เทวิกาที่เมื่อคืนได้นอนและคุยกับแม่แท้ๆทั้งคืน ตอนนี้ยังคงนอนฝันอยู่
ง่วงเกินไปแล้ว
ญาณินตื่นแต่เช้าแล้ว
ในช่วงที่เธอเสียสติ คุณภาพในการนอนไม่ดีเลย และสะดุ้งตื่นง่ายมาก
ตอนนี้เธอได้สติ และหาลูกสาวแท้ๆเจอแล้ว มีลูกสาวอยู่เป็นเพื่อน ถึงเธอจะนอนแค่สี่ห้าชั่วโมง ก็นอนหลับฝันหวาน หลังจากตื่นขึ้นมา เธอก็รู้สึกมีชีวิตชีวามากเป็นพิเศษ
เธอไม่ปลุกลูกสาวที่หลับสนิท แต่ย้ายม้านั่งตัวเล็กมาวางตรงหน้าเตียง เธอนั่งอยู่บนม้านั่ง มองเทวิกาที่กำลังหลับสนิทอยู่ และยื่นมือไปลูบใบหน้าเทวิกาบ่อยๆ ก้นบึ้งนัยน์ตาเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยน
เทวิกานอนหลับสบายยังไง แต่ถูกแม่แท้ๆจ้องมอง ลูบไปมาเช่นนี้ จึงตื่นขึ้นมา
ลืมตามองเห็นแม่แท้ๆ เธอก็ตะลึงไปชั่วครู่ และจดจำเรื่องเมื่อคืนขึ้นมาได้ เธอเรียกคุณแม่เบาๆ
“วิกา แม่ทำให้ลูกตื่นเหรอ”
ญาณินยิ้มขอโทษ “แม่แค่อยากจะดูลูก ลูบใบหน้าลูกสักหน่อย อุณหภูมิร่างกายลูกทำให้แม่รู้ว่านี่เป็นความจริง ไม่ใช่ความฝัน”
“ไม่ใช่ความฝันค่ะ”
เทวิกาจับมือแม่แท้ๆเอาไว้ แนบลงใบหน้าตัวเอง สัมผัสได้ถึงความอุ่นร้อนของทั้งสองฝ่าย สองแม่ลูกล้วนยืนยันได้ว่า พวกเธอไม่ได้ฝันไป
แม่แท้ๆได้สติแล้วจริงๆ
ญาณินนั่งลงที่ข้างเตียง เธอนั่งเรียบร้อยแล้ว เทวิกาก็ซบศีรษะลงบนหน้าขาของเธอ ในแววตาเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกรักและเคารพ
“คุณแม่คะ”
“อืม”
“คุณแม่”
เทวิกาเรียกคุณแม่ไม่หยุด เสียงนุ่มๆนั้นเจือไปด้วยแววออดอ้อน
ญาณินตบเธอเบาๆด้วยความรักและเมตตา “วิกา วิกาของแม่ กลับมาอยู่ข้างกายแม่แล้วจริงๆ วิกา แม่รักพวกลูกนะ”
“หนูกับพี่ก็รักคุณแม่ค่ะ”
สองแม่ลูกอยู่ด้วยกันอีกครู่หนึ่งถึงได้เปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำล้างหน้าล้างตาแล้วก็เดินออกจากห้องไปพร้อมกัน
ตอนนี้เป็นเวลาเก้าโมงกว่าแล้ว
คนที่ทำงานก็ไปทำงาน คนที่ไม่ได้ทำงานก็ออกไปเช่นกัน ชั้นล่างไม่มีใครสักคน
“พัฒน์ไปทำงานแล้ว ก่อนจะออกจากบ้าน เขามาเคาะประตู แม่บอกว่าลูกยังหลับอยู่ เขาบอกว่าไม่ต้องปลุกลูก ให้ลูกนอนนานหน่อย”
“อืม”
มักจะรู้สึกได้ว่าตอนคุณแม่พูด แววตามีประกายยิ้มๆเล็กน้อยขณะมองมาที่เธอ เทวิกาเขินนิดหน่อย
ความรู้สึกระหว่างเธอกับยศพัฒน์ดีขึ้นเรื่อยๆ ตอนที่อยู่ด้วยกันสองคนก็ตัวติดกันหนึบ กนกอรบอกว่าถ้าคนที่ไม่เชื่อในความรักเห็นพวกเธอสองสามีภรรยา ก็ต้องเชื่อในความรัก และเฝ้ารอการมาถึงของความรักแน่ๆ หวานเกินไปแล้ว!
เรียกพวกเธอสองสามีภรรยาว่าโมเลกุลน้ำตาลสูง
พ่อบ้านเดินเข้ามาจากนอกตัวบ้าน
“อรุณสวัสดิ์ครับคุณนายน้อย คุณหญิงธิษณา”
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ”
เทวิกาแลบลิ้นเงียบๆ ตอนนี้ไม่เช้าแล้วนะ
“พวกคุณปู่คุณย่าล่ะคะ”
“ไปเก็บผลไม้ที่ภูเขาผลไม้ครับ”
ทิวทัศน์ด้านในคฤหัสถ์เมเปิลนั้นงามเลิศ ที่นาบริเวณตีนเขาคฤหาสน์พวกนั้นรวมไปถึงภูเขาหลายลูกล้วนปลูกพืชการเกษตร ดอกไม้และผลไม้
ปลูกผลไม้หลากชนิด ล้วนเป็นผลไม้ตามฤดูกาล หนึ่งปีสี่ฤดูล้วนมีผลไม้สุก
“วันนี้พ่อค้าผลไม้จะมารับผลไม้ครับ”
พ่อบ้านเสริมอีกประโยคหนึ่ง
“คุณนายน้อย สองนาทีก่อนหน้านี้ คุณชายโทรศัพท์มาเตือนว่าคุณต้องกินมื้อเช้าครับ อาหารเช้าล้วนอุ่นให้คุณแล้ว ผมจะเข้าไปช่วยคุณยกออกมา”
“ค่ะ ขอบคุณ”
ญาณินเอ่ยอย่างชื่นใจ “วิกา แม่ตื่นมาแล้วได้เห็นลูกกลับมาอยู่ข้างกายแม่ และยังได้เห็นว่าลูกแต่งงานกับผู้ชายที่ดีคนหนึ่ง พัฒน์ลูกเขยคนนี้ แม่ยิ่งมองก็ยิ่งชอบ หลังจากนี้ ลูกก็อย่ารังแกเขาล่ะ ตั้งใจใช้ชีวิตผ่านคืนวันด้วยกันกับเขาด้วย”
“คุณแม่คะ เขาเป็นจิ้งจอกเฒ่า หนูสู้เขาไม่ได้หรอก เขาไม่รังแกหนู หนูก็ขอบคุณแล้วค่ะ”
ญาณินจิ้มหน้าผากเธอเบาๆ “หลายวันก่อน แม่ยังเป็นบ้าอยู่ แต่ก็มีความทรงจำนะ พัฒน์เอาใจลูกสุดๆ มีแต่ลูกที่รังแกเขา ไม่ใช่เขารังแกลูก”
เทวิกาหน้าแดงระเรื่อ “ที่ไหนกันคะ”
“เห็นลูกมีความสุข แม่ก็วางใจ แต่พี่ชายลูกตอนนี้กระทั่งแฟนสาวก็ยังไม่มี เป็นแม่ที่ใช้ไม่ได้เอง เป็นแม่ที่บกพร่องในหน้าที่”
เอ่ยถึงประยสย์ ญาณินก็เก็บงำรอยยิ้มบนใบหน้า
ความจริงแล้วเธอติดค้างลูกชายมากที่สุด
“คุณแม่คะ คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงพี่หนูหรอก พี่หนูยอดเยี่ยมขนาดนั้น เกิดมาหล่อเหล่าสง่างาม จะต้องมีคนตามจีบมากแน่ๆ อีกอย่าง พี่หนูเพิ่งจะอายุยี่สิบสี่ ยังวัยรุ่นอยู่มาก”
เทวิกาไม่กังวลเรื่องการแต่งงานของพี่ชายสักนิด
พี่ชายสองคนของเธอเก่งกาจขนาดนั้น จะต้องมีคนตกหลุมรักพวกเขาอย่างใจจริง ไม่ใช่มาเพราะของพวกเขา”
ญาณินคิดๆแล้วก็ถูก ลูกชายของเธอยอดเยี่ยมมาก ขอแค่ลูกชายยินยอม ผู้หญิงที่อยากจะแต่งงานกับเขามีเยอะแยะถมเถไป
ที่ลูกชายยังโสดจนถึงตอนนี้ เหตุผลส่วนมากมีปัจจัยจากเธอกับตระกูลสาระทาสินะ
“กริ๊งๆๆ…”
เสียงโทรศัพท์มือถือของเทวิกาดังขึ้น
กนกอรโทรมา
เธอกดรับสาย
กนกอรกระซิบเสียงเบาในโทรศัพท์ “วิกา ที่ร้านของพวกเรามีชายวัยกลางคนที่เรียกตัวเองว่าคุณพ่อของเธอมา น่าจะเป็นพ่อแท้ๆของเธอ”
เทวิกามีสีหน้าจริงจัง พ่อแท้ๆมาแล้ว?