คุณสามีพันล้าน - บทที่ 250 นฤเบศวร์เลี้ยง
นฤเบศวร์อยากจะกินข้าวกับกลุ่มของยศพัฒน์ แต่สุดท้ายก็หน้าไม่หนาพอ จึงไม่ได้เอ่ยออกไป และมองกนกอรเดินตามพวกเขาไปทั้งอย่างนั้น
รอจนคนเดินไปไกลแล้ว นฤเบศวร์ถึงได้หมุนตัวจากไป
เขาไม่มีทางใช้บริการที่โรงแรมเมเปิล
สองตระกูลเป็นศัตรูคู่อาฆาตกัน
ถ้าเขาใช้บริการที่โรงแรมเมเปิล แล้วถูกนักข่าวบันเทิงรู้เขา ก็ไม่รู้ว่านักข่าวบันเทิงจะเขียนข่าวว่ายังไง
เดินไปได้ไม่กี่ก้าว นฤเบศวร์ก็หยุดลง
ครุ่นคิดดูแล้ว เขาก็เดินย้อนกลับไปในโรงแรมต่อไป
เขาสงสัยมากกว่ากนกอรนัดดูตัวกับประยสย์!
เขาไม่ไปดู ก็ไม่วางใจ!
นฤเบศวร์คิดแบบนี้แล้ว ก็ไม่สนใจปัญหาเรื่องหน้าตาอีก แม้ว่าจะถูกศัตรูคู่อาฆาตหัวเราะใส่ เขาก็ต้องกินข้าวสักมื้อ อย่างมากก็แค่ เขาเลี้ยง!
ห้องเพรสซิเดนสูทชั้นบนสุดของโรงแรมเมเปิลมีภัตตาคารบุฟเฟต์หมุนเวียน ยศพัฒน์ไม่รู้ว่าคุณพ่อตาชอบกินอะไร จึงเลือกกินข้าวที่ภัตตาคารบุฟเฟต์หมุนเวียน และให้เซทท์จัดเตรียมอาหารอร่อยประเภทต่างๆเอาไว้ล่วงหน้า
ไม่ว่าไซม่อนชอบอาหารรสชาติแบบไหน ล้วนสามารถทำให้เขาพึงพอใจได้
คนทั้งขบวนเพิ่งจะนั่งลงในภัตตาคารบุฟเฟต์หมุนเวียน เซทท์ก็ได้รับสายโทรศัพท์ภายใน
เขาฟังได้สองสามประโยค ก็ถามยศพัฒน์ว่า “พี่ใหญ่ นฤเบศวร์บอกว่าจะเลี้ยงข้าวพวกเรา จะให้เขาเลี้ยงมั้ยครับ”
ยศพัฒน์ไม่ได้ตอบคำถามน้องชายในทันที แต่หันไปขอความเห็นจากพ่อตา
“ในเมื่อคุณเบศวร์เกรงใจขนาดนั้น พวกเราก็ต้องให้โอกาสเขาสักครั้ง”
ไซม่อนพอใจท่าทีขอความเห็นจากเขาของลูกเขยมาก และรู้ว่านฤเบศวร์เป็นศัตรูคู่อาฆาตของลูกเขย สามารถช่วยลูกเขยหลอกเอาเงินค่าอาหารมื้อหนึ่งจากศัตรูคู่อาฆาตได้ ไซม่อนก็เต็มใจที่จะทำ
“คุณพ่อพูดได้ถูกต้อง สมควรจะให้โอกาสเขาเลี้ยงครั้งหนึ่ง ผมรู้จักกับเขาตั้งแต่เด็ก เขาไม่เคยเลี้ยงข้าวผม ครั้งนี้ต้องกินอาหารดีๆของเขาสักมื้อ เซทท์ เสิร์ฟอาหารมากหน่อย อาหารและไวน์ที่แพงที่สุดในโรงแรมของพวกเรา ล้วนเอามาเสิร์ฟให้หมด”
กนกอรหัวเราะพรืด เอ่ยกับเทวิกาว่า “คราวนี้นฤเบศวร์ปวดใจแน่ๆ”
เทวิกามงเธอ นัยน์ตามีนัยยะลึกซึ้ง
เธอเอ่ยยิ้มๆ “โอกาสที่หาได้ยาก พวกเราต้องกินอาหารดีๆของเขาสักมื้อ”
“นั่นมันแน่นอน ยังไงก็ต้องกินให้กระเป๋าตังเขาแบนก่อนถึงจะปล่อยให้เขาไปได้”
นอกจากเซทท์ คนอื่นๆล้วนมองไปทางกนกอร แววตานั้นมีนัยยะลึกซึ้งเหมือนกับเทวิกา
กนกอรนึกว่าคำพูดของตัวเองมีปัญหา จึงยิ้มเขินๆ “นฤเบศวร์มาหาเรื่องพวกเรา พวกเราล้วนไม่ถูกชะตากับเขา แต่เขาร่ำรวยและมีอำนาจ พวกเราที่เป็นคนธรรมดาสู้เขาไม่ได้ มีโอกาสทำลายกระเป๋าตังเขา ย่อมไม่มีทางเกรงใจ”
เทวิกาหัวเราะอิอิ “ใช่ๆๆ จะเกรงใจไม่ได้ กินให้มากหน่อย โชคดีที่พวกเราสองคนกระเพาะใหญ่มากพอ สามารถกินได้เยอะ ไม่อย่างนั้นโอกาสดีๆแบบนี้จะสิ้นเปลืองเสียเปล่า”
ประยสย์ที่เป็นคนจริงจังขนาดนั้น เมื่อได้ยินบทสนทนาของผู้หญิงสองคนนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะพรืดออกมา
ไซม่อนก็มองลูกสาวตัวเองด้วยสายตารักและตามใจ
กนกอรหน้าแดงเล็กน้อย
รอถึงตอนที่นฤเบศวร์เข้ามา ก็เห็นดวงหน้างามของกนกอรแดงระเรื่อแล้ว
เป็นอย่างที่คิดเอาไว้เลยจริงๆ เธอมานัดดูตัวกับประยสย์ ไม่อย่างนั้นหน้าก็คงไม่แดงหรอก
เขารู้จักเธอมานานขนาดนี้ ไม่เคยเห็นเธอหน้าแดงเลย!
ตอนแรกที่นัดดูตัวกับเขา ก็แต่งตัวงดงามฉูดฉาดจนทำให้คนรู้สึกรังเกียจแบบนั้น ทั้งยังกินกระเทียม ปากเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็น
เพื่อไม่ให้เขาชอบเธอ เธอก็พยายามมากจริงๆ
ตอนนี้นัดดูตัวกับประยสย์ดวงหน้างามกลับประดับไปด้วยรอยยิ้ม!
นฤเบศวร์รู้สึกขัดแย้งในใจ แต่กลับไม่เผยออกมาบนใบหน้า
หลายคนที่นั่งอยู่ สองสามีภรรยายศพัฒน์รู้ความสัมพันธ์ของเขากับกนกอร คนอื่นไม่รู้ ตอนแรกที่เซ็นสัญญา เขาไม่สามารถโวยวายว่ากนกอรเป็นภรรยาเขา
แม้ว่าจะเป็นแค่สัญญา แต่ก็เป็นภรรยาของเขา!
โชคดีที่กนกอรไม่ได้อยู่ข้างประยสย์แล้ว ดังนั้นนฤเบศวร์จึงนั่งลงข้างกนกอรอย่างไม่เกรงใจ
ทั้งยังไม่ลืมถลึงตาใส่ยศพัฒน์ไปครั้งหนึ่งด้วย
ศัตรูคู่อาฆาตรู้ความสัมพันธ์ของเขากับกนกอรแท้ๆ ยังจะสนับสนุนให้ประยสย์ดูตัวกับกนกอรอีก หมายความว่ายังไง?
ยศพัฒน์ไม่ถือสาหาความเขา กลับเอ่ยยิ้มๆว่า “เบศวร์ นายเลี้ยงข้าวสินะ พวกเรารู้จักกันมาหลายสิบปี นายเพิ่งจะเลี้ยงข้าวฉันเป็นครั้งแรกขอบคุณนะ”
นฤเบศวร์แสร้งทำเป็นยิ้ม “ฉันกินคนเดียวไม่อร่อย เชิญพวกนายกินข้าวเป็นเพื่อนฉันเท่านั้นเอง ไม่ได้มีความหมายอื่นๆ”
“ฉันไม่ได้บอกว่านายมีความหมายอื่นๆอะไรสักหน่อย”
นฤเบศวร์พูดไม่ออก
มีนฤเบศวร์ที่เป็นคนนอกอยู่ด้วย ฐานะที่แท้จริงของสองพ่อลูกตระกูลสาระทาก็ไม่ได้เปิดเผยออกมา ทุกคนล้วนตั้งอกตั้งใจกินข้าว
นอกจากนฤเบศวร์ที่ไม่ค่อยมีความอยากอาหารเท่าไร ทุกคนล้วนมีความอยากอาหารมาก
หลังกินข้าวเสร็จ นอกจากนฤเบศวร์ คนอื่นๆล้วนกินกันอย่างพอใจ กนกอรนวดพุงกลมๆของตัวเอง พลางตบบ่านฤเบศวร์ ยิ้มตาหยีเอ่ยว่า “แบตบอส ครั้งหน้าถ้าคุณไม่อยากอาหารอีก รีบโทรหาพวกเรา พวกเรายินดีที่จะกินข้าวเป็นเพื่อนคุณมาก”
นฤเบศวร์ถือโอกาสในการปัดมือเธอออกจับมือเธอเอาไว้ ออกแรงบีบให้เธอรู้ว่าเขาอารมณ์ไม่ดี
สำหรับเรื่องที่เธอเรียกเขาว่าแบตบอสด้วยความเคยชินต่อหน้าผู้คนนั้น เขาคร้านจะไปแก้ไข
แบตบอสก็แบตบอสเถอะ ดีร้ายยังไงก็เป็นแบตบอสที่มีเพียงหนึ่งเดียวจากปากเธอ!
นอกจากเธอไม่มีใครเรียกเขาแบบนี้อีก ถือเสียว่าเป็นคำเรียกที่เขาให้เธอเรียกเพียงคนเดียวแล้วกัน
“แน่นอน!”
สองคำนี้ของนฤเบศวร์เค้นรอดออกมาจากไรฟัน
ผู้หญิงคนนี้ไม่ตระหนักรู้เลยว่าเขาอารมณ์ไม่ดี เขาถึงกับออกแรงบีบมือเธอเล็กน้อยแล้ว
ปกติเห็นฉลาดขนาดนั้น ตอนนี้คาดว่าจะกินจนจุกแล้วสินะ สติปัญญาถึงได้ถดถอย
เมื่อออกมาจากโรงแรมเมเปิลนฤเบศวร์ไม่สามารถจากไปกับคนกลุ่มนั้นได้ เขาทำได้เพียงแค่ขึ้นรถของเขา
จ่ายเงินก้อนโตเลี้ยงข้าวพวกเขา สุดท้ายเขากินไม่อิ่ม ทั้งยังกลับบริษัทพร้อมกับความไม่สบอารมณ์
นฤเบศวร์คิดแล้วก็รู้สึกอึดอัดใจ ถ้าไม่ใช่ว่าตอนบ่ายต้องไปพบกับลูกค้าสำคัญคนหนึ่ง คริษฐ์ก็จะไปด้วย เขาอยากจะคิดบัญชีกับกนกอรจริงๆ
ตอนนี้ทำได้แค่รอจนถึงตอนเย็นแล้ว
“วิกา คุณกับคุณกนกอรกลับไปกันก่อน ผมจะให้เซทท์ไปส่งพวกคุณ”
ตอนที่ยศพัฒน์ออกมา คุณพ่อตากระแอมไอเบาๆให้เขาเล็กน้อย เขาก็รู้ว่าคุณพ่อตามีเรื่องอยากหารือกับเขา
เทวิกาตอบอืม เธอมองไปทางบิดา บิดาก็มองมาที่เธอ
หลังจากเม้มปาก เธอก็ก้าวขึ้นไปสองเขา ยืนอยู่ตรงหน้าบิดา เธอเอ่ยเสียงเบาว่า “พี่บอกว่าการที่คุณพ่อมาที่นี่นั้นอันตรายมาก กลับไปก่อนเถอะค่ะ มาครั้งหน้า อย่าทำแบบนี้อีกนะคะ”
ไซม่อนพยักหน้าอย่างดีใจราวกับเด็กที่ได้รับคำชมเชยทันที “พ่อรู้ๆ ครั้งหน้าพ่อจะไม่ทำแบบนี้อีก วิกา ลูกวางใจได้ พ่อเชื่อลูก”
เทวิกาขยับริมฝีปาก แต่กลับไม่ได้พูดอะไรอีก
เธอเอ่ยกับสามีว่า “พัฒน์ ความปลอดภัยในการกลับไปของคุณพ่อฝากคุณด้วยนะ”
เอ่ยจบ เธอก็กอดยศพัฒน์ และเอ่ยกับเขาว่า “พัฒน์ ฉันรักคุณ! ขอบคุณที่มีคุณอยู่ด้วย”
เขาเป็นผู้ชายที่ละเอียดรอบคอบมากคนหนึ่ง
ปฏิบัติต่อเธออย่างดีด้วยความจริงใจ
เธอต้านทานหลุมรักของเขาไม่อยู่ ถูกบ่วงรักของเขาจับเอาไว้นานแล้ว
และเธอก็ยินยอมพร้อมใจ!