คุณสามีพันล้าน - บทที่ 259 รุมล้อมอย่างบ้าคลั่ง
คุณณัฏฐามองลูกสาวของเธอที่กำลังตื่นเต้นอย่างกับคนบ้าอย่างจนปัญญาและทุกข์ใจ
เธอคิดว่าเป็นเพราะยศพัฒน์ทำให้ลูกสาวของเธอบ้าไปแล้ว
นฤเบศวร์ไม่ดีหรือไง
นฤเบศวร์รับลูกสาวของเธอขนาดนั้น แต่ลุกสาวเธอกลับยอมเอาตัวไปพัวพันผูกติดแต่กับยศพัฒน์ และไม่ยอมคบหากับนฤเบศวร์
คุณณัฏฐาคิดว่าถ้าลูกสาวของเธอยังทำแบบนี้ต่อไป สุดท้ายเธอจะต้องสูญเสียนฤเบศวร์ไปด้วยแน่ ๆ
เธอครุ่นคิดก่อนจะกดโทรหานฤเบศวร์ อยากให้เขามาพาลูกสาวของเธอไปจากที่นี่
นฤเบศวร์รับสายโทรศัพท์
หลังจากได้ฟังคำพูดของเธอแล้ว ทางนฤเบศวร์ก็นิ่งเงียบไปนาน ในขณะที่คุณณัฏฐากำลังคิดว่าเขาจะไม่พูดอะไร จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงเขาพูดขึ้นเบา ๆ ว่า “น้าณัฏฐา ผมกำลังประชุมอยู่ไม่สะดวกไปหรอกครับ”
“เบศวร์ เรื่องนี้เกี่ยวกับเปรม์ การประชุมอะไรจะสำคัญไปกว่าเปรม์อีกเหรอ เธอรีบมาพาเปรม์ออกไปจากที่นี่ที แม่ว่าเธอกำลังจะเป็นบ้าแล้ว”
คุณณัฏฐาพูดอย่างตรงไปตรงมา
ไม่แปลกใจที่เธอจะพูดแบบนี้ เพราะนั่นคือนิสัยที่นฤเบศวร์เป็นคนทำให้พวกเธอได้ใจและเคยชิน
ที่ผ่านมาไม่ว่าเปรมาจะทำอะไรหรือเกิดอะไรขึ้น แค่เธอโทรมาหาเขา เขาก็จะรีบวางทุกอย่างในมือแล้วรีบไปหาเธอทันที
สำหรับเปรมาแล้ว เขาเป็นแค่คนที่กวักมือเรียกก็มา กวักมือไล่ก็ไป
นฤเบศวร์ไม่อยากไปที่นั่น ไม่ใช่เพียงเพราะเปรมาทำให้เขาเสียใจมามากเกินไปแล้วเท่านั้น แถมตอนนี้เปรมาอยู่ใกล้ร้าน One Day In Coffee ถ้าเขาไปแล้วกนกอรเห็นเข้า ไม่รู้ว่ากนกอรจะพูดจาเสียดสีอะไรใส่เขาอีก
ไม่รู้ทำไม นฤเบศวร์ยิ่งรู้สึกไม่ชอบฟังเวลาที่กนกอรพูดว่าเขายอมทิ้งและทำทุกอย่างเพื่อเปรมาโดยไม่สนใจอะไร
เพราะมันทำให้เขารู้สึกอึดอัดในใจ
ยิ่งกว่านั้นตอนนี้ในใจลึก ๆ เขาแทบอยากจะให้เทวิกามีข่าวฉาวกับประยสย์จริง ๆ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นกนกอรกับประยสย์ก็คงไม่มีทางเป็นไปได้แล้ว
“น้าณัฏฐา การประชุมนี้ของผมสำคัญมากหยุดไม่ได้หรอกครับ คุณเป็นแม่ของเปรมา ขนาดคุณยังเกลี้ยกล่อมเธอไม่ได้แล้วผมไปจะมีประโยชน์อะไรครับ เธอยอมฟังแต่คำพูดของยศพัฒน์น้าณัฏฐาลองโทรไปหาพัฒน์ ให้พัฒน์ไปพาเธอออกไปจากที่นั่นดีไหมครับ”
คุณณัฏฐา “…”
“น้าณัฏฐาผมขอวางสายก่อนนะครับ”
นฤเบศวร์กลัวว่าคุณณัฏฐาจะกระเซ้ากระซี้ไม่เลิกเลยรีบวางสายก่อน
พร้อมกับปิดเสียงโทรศัพท์
เขาวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะและนั่งเหม่อลอย
“เจ้านายครับ คุณควรจะปฏิเสธแบบนี้แหละครับ เมื่อก่อนคุณปฏิบัติต่อคุณเปรมายังไงผมไม่รู้ แต่หลังจากผมได้มาติดตามคุณ และกลายเป็นผู้ช่วยของคุณมาหลายปี ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาคุณปฏิบัติต่อคุณเปรมายังไงผมเห็นมาโดยตลอด”
“คุณเปรมาปฏิบัติกับคุณเหมือนเป็นเบี้ย แต่ก็ไม่อนุญาตให้คุณไปยุ่งกับผู้หญิงคนไหน แต่เธอกลับทั้งรั้งคุณไว้ไม่ยอมปล่อย ทั้งไล่ตามคุณพัฒน์ตลอดทั้งวัน ผมไม่เคยเห็นคนที่…” คำว่ามั่วธันวาไม่ได้พูดออกมา
นฤเบศวร์เงียบไปนานก็พูดว่า “ธันวา ฉันรู้ว่าเปรมาหลอกใช้ฉัน แต่เราโตมาด้วยกัน ต่อให้ไม่พูดถึงเรื่องความรัก พวกเราก็มีมิตรภาพกันมายาวนานกว่ายี่สิบปี จะให้ตัดขาดในทันที ฉันทำไม่ได้หรอก”
ธันวาพูดกับเขาว่า “ทำไมจะตัดขาดไม่ได้ล่ะครับ เจ้านายไม่ได้ไปหาคุณเปรมามาหลายวันแล้วไม่ใช่เหรอครับ แถมไม่ได้โทรไปหาเลยด้วย ธุรกิจของคุณเปรมาถูกคุณพัฒน์กดดันอย่างรุนแรง แม้คุณพัฒน์ยังทิ้งคำพูดรุนแรงและเน้นย้ำว่าเขากับคุณเปรมาไม่ใช่คู่รักสมัยเด็กอย่างที่ทุกคนคิด และในสายตาของเขามีเพียงภรรยาคนเดียวเท่านั้น”
“ถึงอย่างนั้น คุณเปรมาก็ยังไม่ยอมเลิกรา อย่างที่พวกเราทุกคนรู้ ว่าเธอไปที่บี.เอ.เอ็ม.กรุ๊ปหลายต่อหลายครั้ง เธอยอมที่จะขัดแย้งกับคนมีอำนาจมากกว่าแต่กลับไม่คิดจะมาหาคุณ ซึ่งมันหมายความว่าในสายตาของเธอ คุณยศพัฒน์คือสมบัติล้ำค่า ส่วนเจ้านายเป็นแค่ต้นหญ้าสำหรับเธอเท่านั้น”
“บางทีเธออาจจะยังคิดอย่างมั่นใจว่าถึงแม้เธอจะไม่มาหาเจ้านาย แต่เจ้านายก็ยังรักเธอหัวปรักหัวปำ แค่เธอดีดน้ำเรียกเจ้านายก็จะยอมทำทุกอย่างเพื่อเธอ เจ้านายครับ พวกเราเป็นผู้ชาย เป็นผู้ชายตรงไปตรงมา ทำใจแข็งหน่อยสิครับ อย่ายอมไปเป็นหมายน้อยวิ่งไล่ตามก้นเธอแบบนั้น”
คำพูดที่ธันวาพูดมีแต่คำพูดรุนแรงทั้งนั้นเลย
แต่เขาทำเพื่อเจ้านาย
“ธันวา นายหยุดพูดได้แล้ว ฉันสับสนจะแย่อยู่แล้ว รีบกลับไปทำงานของนายไป ให้ฉันอยู่เงียบ ๆ คนเดียวสักพัก”
นฤเบศวร์วุ่นวายใจ
เขาโบกมือไล่ธันวาให้ออกไป
ธันวาเองก็รู้ว่าการที่จะขอให้เขาตัดใจตัดขาดจากเปรมาคงต้องใช้เวลานานพอควร
หลังจากถอนหายใจเบา ๆ แล้วธันวาก็ลุกขึ้นเดินออกไป
เมื่อคุณปู่เร็นรู้ว่าธันวากำลังพูดเกลี้ยกล่อมเจ้านายซึ่งเป็นหลานชายของเขาอยู่แบบนี้ เขาก็แอบคิดในใจว่าควรจะขึ้นเงินเดือนให้ธันวา
เมื่อคุณปู่เห็นเปรมาทำตัวรนหาที่ตายแบบนี้ เขาไม่มีความคิดที่จะตักเตือนหรือห้ามปรามเลยสักนิด เพราะสำหรับคู่สามีภรรยาของลูกชายคนอื่นของเขา โดยเฉพาะลูกสะใภ้คนโต ให้ลูกสะใภ้คนโตเบิกตากว้างและมองดูให้ดีว่าว่าที่ลูกสะใภ้ที่เธอเลือกมาจะสามารถทำให้เธออยากโกรธหนักแค่ไหน
เพราะแบบนั้นถึงทำให้บัณฑิตาโมโหจนจะตายเอา
เอาล่ะ กลับมาสู่เรื่องทำธุรกิจกันต่อดีกว่า
เทวิกากับพี่ชายถูกนักข่าวห้อมล้อมอยู่นานมาก ทันทีที่พวกเขาลงจากรถ แม้จะมีบอดี้การ์ดของตระกูลสาระทาคอยคุ้มกัน แต่ก็เป็นเรื่องยากที่พี่น้องทั้งสองพาคุณแม่ทั้งสองคนมาด้วย ก็ยังยากเลยที่จะหอบแบกสิ่งของเข้าไปในร้าน
กนกอรพาเด็กสาวคนหนึ่งออกมาจากร้าน เพราะอยากจะช่วยเหลือพวกเขา แต่ไม่ว่าจะพยายามอย่างหนักยังไงจะใช้ศิลปะการต่อสู้แบบไหน เด็กสาวของคนก็พ่ายแพ้ไม่สามารถเอาชนะฝูงนักข่าวได้
ทำเอากนกอรเหนื่อยจนกระหืดกระหอบ และพูดกับเด็กสาวพนักงานร้านว่า “สมกับที่ทำอาชีพนักข่าวจริง ๆ ดูตอนที่พวกเขาทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ข่าวสิ น่ากลัวชะมัดเลย”
เด็กสาวพนักงานดูเหมือนจะเหนื่อยยิ่งกว่าเธอ
เธอแทบอยากจะนั่งลงกับพื้นเลย
หลังจากได้ยินสิ่งที่กนกอรพูด เด็กสาวพนักงานร้านก็กระหืดกระหอบพูดขึ้นว่า “พี่กนกอร หรือพวกเราจะเข้าไปในร้านแล้วหยิบสเปรย์พริกไทยสักสองสามขวดออกมาฉีดดีคะ”
“ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก ตอนนี้พี่วิกาของเธอกำลังตกเป็นกระแสข่าว ถึงเราจะฉีดสเปรย์พริกไทยก็คงไม่ได้ช่วยอะไรวิกา แถมมีแต่จะทำให้มันแย่ลงกว่าเดิม เฮ้อ ถ้าตอนนี้มีไม้ไผ่ยาว ๆ อยู่ในมือก็คงดี แค่กวาดท่อนไม้ไผ่ไปทีพวกเขาทั้งหมดคงพากันล้มลงไปกองกับพื้นแล้ว”
พนักงานสามมองเธออย่างเงียบ ๆ แบบนั้นก็ยิ่งทำให้พี่วิกาแย่กว่าเดิมเหมือนกันนี่นา
“ถ้ารู้ว่าจะรุนแรงขนาดนี้ ฉันคงเอาท่อนไม้ไผ่จากที่บ้านติดมาด้วยแล้ว”
กนกอรเสียดายที่ตัวเองไม่ได้เอาท่อนไม้ไผ่จากที่บ้านมาด้วยเผื่อจะช่วยเพื่อนได้
“คุณนายน้อยอริยชัยกุล คุณกับคุณคนนี้มีความสัมพันธ์อะไรกันคะ”
“คุณนายน้อยอริยชัยกุล คุณเคยนึกถึงความรู้สึกของคุณยศพัฒน์บ้างไหมคะ”
“คุณนายน้อยอริยชัยกุล…”
นักข่าวยิงคำถามรัว ๆ
เมื่อเทวิกาเห็นพวกนักข่าวบ้าคลั่งกันถึงขนาดนี้ เธอจึงตัดสินใจตอบสนองต่อความอยากรู้อยากเห็นของพวกเขา ด้วยการกอดแขนของประยสย์อย่างรักใคร แล้วพูดตอบทุกคนพร้อมรอยยิ้มว่า “ทุกคนดูสิคะว่าเราสองคนมีความสัมพันธ์แบบไหนกัน”
พวกนักข่าวรัวชัตเตอร์อย่างบ้าคลั่ง
ชเนนทร์ที่กำลังรีบตามมาเห็นฉากนี้เขาก็ถึงกับอยากจะกุมขมับ
น้องสาวของเขาจะซนเกินไปแล้ว
“เทวิกา ได้ยินมาว่าเธอกับคุณพัฒน์จดทะเบียนสมรสกันแค่ปลอม ๆ ว่ากันว่าเธอถูกเร่งเรื่องแต่งงานจนเริ่มกลัวเลยเกิดความคิดอยากจะเช่าแฟนกลับบ้าน และพอดีเห็นคุณพัฒน์เข้าก็เลยเช่าเขาแทน ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วพวกเธอไม่ได้สามีภรรยากันจริง ๆ ”
“เทวิกา ผู้ชายคนนี้คือแฟนตัวจริงของเธอใช่ไหม ตอนนี้เธอได้พบรักแท้แล้ว เธอวางแผนที่จะยุติความสัมพันธ์หลอกๆ กับคุณพัฒน์ไหม”
เมื่อเทวิกาคล้องแขนกับประยสย์ พวกนักข่าวก็เปลี่ยนคำเรียกมาเรียกเทวิกาแทนทันที
โดยไม่เรียกเธอด้วยความเคารพว่าคุณนายน้อยอริยชัยกุลแล้ว แต่เรียกชื่อเต็มของเธอแทน
เทวิกาคล้องแขนกับผู้ชายคนอื่นต่อหน้าพวกเขา สนิทสนมกันขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่คนรักแล้วจะเป็นอะไรกันได้ล่ะ
ต้องบอกว่าเทวิการสนิยมดีมากจริง ๆ
ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา ออร่า ไม่แพ้คุณพัฒน์เลย ลงมาจากรถหรู แถมยังมีบอดี้การ์ด เขาคงจะเป็นคุณชายของครอบครัวร่ำรวยสักตระกูลแน่
เทวิกาโชคดีจริง ๆ แต่งงานปลอม ๆ แถมยังได้แต่งกับตระกูลร่ำรวย พอพบรักแท้ก็ยังเป็นตระกูลที่ร่ำรวยอีก
ทันใดนั้นห่างออกไปก็มีรถยนต์หรูหลายคันกำลังแล่นมาทางด้านนี้อย่างรวดเร็ว