คุณสามีพันล้าน - บทที่ 260 ความโอ่อ่านี้พวกเขาเป็นใครกัน
รถหรูแล่นเข้ามาอย่างรวดเร็ว เพียงไม่กี่วินาทีก็มาจอดถึงที่แล้ว
เทวิกาเพิ่งจะตอบคำถามนักข่าวได้แค่คำถามเดียว ความสนใจของทุกคนก็ถูกดึงดูดไปทางรถหรูที่ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหันแทน
ทุกคน “…”
นี่มันอะไรกัน
โชว์ขบวนรถหรูไม่ควรจะแล่นบนถนนสายนี้นี่นา
จำนวนรถหรูในขบวนนี้มีไม่ต่ำกว่า 50 คัน รถทุกคันหยุดอยู่ข้างถนนซึ่งอยู่ห่างออกไปหลายร้อยเมตรและดึงดูดสายตาผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนให้หันไปมอง จนหลายคนถึงกับหยุดเพื่อมองรถหรูพวกนั้น
พวกนักข่าวหยุดสัมภาษณ์เทวิกาชั่วคราว ทุกคนต่างกระซิบกระซาบกันอย่างสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น?
ถ้าไม่ใช่ขบวนโชว์รถ แล้วจะเป็นคนใหญ่คนโตจากไหน แบบนี้มันจะโอ่อ่าเกินไปหรือเปล่า
ในเมืองแอคเซสซ์คนที่ชอบโอ้อวดก็มีแต่คุณเบศวร์ แต่นฤเบศวร์อย่างมากก็แค่มีบอดี้การ์ดติดตามตัวแปดถึงสิบคนเท่านั้น พร้อมกับรถบอดี้การ์ดอีกสี่ห้าคัน
แต่ในขบวนนี้กลับมีรถมากถึงหลายสิบคัน รถยี่สิบคันแรกที่ต่ออยู่แถวหน้าเป็นรถโรลส์-รอยซ์ทั้งหมด อีกหลายสิบคันด้านหลังก็เป็นรถหรูราคามากกว่าล้านหยวนทั้งนั้น
ซึ่งรถบอดี้การ์ดของคุณเบศวร์เทียบไม่ได้เลย เพราะรถที่คุณเบศวร์จัดให้บอดี้การ์ดราคาแค่ประมาณสามสี่แสนหยวนเท่านั้น
ไม่ได้มาตรฐานสูงขนาดนี้แน่นอน
นอกจากคุณเบศวร์แล้ว ทุกคนก็นึกไม่ออกแล้วว่าจะมีใครที่ทำตัวโอ่อ่าได้ขนาดนี้อีก
“วิกา”
รถของยศพัฒน์หยุดตรงข้ามกับตำแหน่งรถโรลส์-รอยซ์คันแรก เขาเดินลงมาจากรถ พลางชำเลืองมองรถหรูที่ต่อแถวกันยาวเหยียด ก่อนจะรีบวิ่งไปหาเทวิกา
เหล่านักข่าวทั้งหลายห้อมล้อมเทวิกากับพี่ชายของเธอเอาไว้ตรงกลางจนไม่มีทางให้เดินเข้าไปหา แต่ทันทีที่เห็นพระเอกของเรื่องปรากฏตัวพวกเขาก็หลีกทางให้เป็นทางยาวเพื่อให้ยศพัฒน์วิ่งเข้าไปหาภรรยาอย่างง่ายดาย
ชเนนทร์ฉวยโอกาสนี้เดินตามเข้าไปติด ๆ
ในที่สุดเขาก็ได้รับเกียรติจากน้องเขยทำให้โดนห้อมล้อมไปด้วย
“คุณสามี มาแล้วเหรอ”
เมื่อเทวิกาเห็นสามีของตัวเองก็ถึงกับฉีกยิ้มหวาน
พวกไทมุง : บนหัวคุณพัฒน์แทบจะมีเขางอกออกมาอยู่แล้ว เทวิกายังยิ้มหวานได้อีก
ไม่กลัวคุณพัฒน์โกรธแล้วบีบคอเธอตายหรือไง
ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งที่คุณพัฒน์มาแล้ว แต่เธอกลับยังคล้องแขนผู้ชายคนนั้นไว้ไม่ยอมปล่อย ไม่ว่าทั้งสองคนจะมีความสัมพันธ์กันยังไง แต่ถ้าคุณพัฒน์เห็นก็คงจะโกรธมากแน่ ๆ
แล้วก็เป็นอย่างที่คิด ยศพัฒน์เดินเข้าไปหาภรรยาแล้วดึงตัวภรรยาเข้ามาหา
พวกไทมุงยิ่งรู้สึกตื่นเต้นเข้าไปใหญ่
จะทะเลาะกันแล้วใช่ไหม
พวกเขาเตรียมพร้อมที่จะร้องเชียร์กันแล้ว
ทางด้านเปรมาที่อยู่ห่างไกลออกไป เมื่อยศพัฒน์มาถึงเธอก็รีบสวมแว่นกันแดดกับหน้ากากและก้าวลงจากรถโดยที่ไม่ได้สนใจว่าจะมีคนใหญ่คนโตที่ไหนมา
“เปรม์อย่าลงไป”
คุณณัฏฐาอยากจะห้ามลูกสาวไม่ให้ลงรถ
“แม่พวกเขาไม่ทันสังเกตเห็นหนูหรอก หนูจะลง หนูจะไปดูพัฒน์ตบเทวิกาในระยะใกล้ ๆ ไปดูหล่อนถูกยศพัฒน์ทิ้ง”
เปรมาไม่ยอมฟังคำเกลี้ยกล่อม ตอนนี้เธอกำลังตกอยู่ในความตื่นเต้นที่ได้แก้แค้นเทวิกา
หลังจากถูกเทวิกาทำเอาโมโหมาหลายต่อหลายครั้ง ในที่สุดก็ได้เอาคืนแล้ว
“คุณพัฒน์ คุณกับภรรยาเป็นคู่แท้หรือคู่ปลอมกันแน่ ความสัมพันธ์ระหว่างภรรยาของคุณกับผู้ชายคนนี้มีความสัมพันธ์แบบชู้สาวอย่างเห็นได้ชัด คุณคิดเห็นยังไงคะ”
“ลงรถแล้ว ลงรถแล้ว”
พวกนักข่าวเพิ่งจะกลับเข้าสู่โหมดสัมภาษณ์อีกครั้ง ไม่รู้ว่าใครตะโกนขึ้นเสียงดังทำให้ทุกคนพากันเงียบและหันมองไปทางขบวนรถหรูขบวนนั้น
พวกนักข่าว “…”
จะให้สัมภาษณ์ไหมเนี่ย
แต่ว่าพวกเขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าคนบนรถหรูคันนั้นเป็นใครกันแน่ ถึงได้โอ้อวดจนทำลายสถิติของเมืองแอคเซสซ์และสร้างสถิติสูงสุดใหม่ได้ทันทีขนาดนี้
หลังจากคนบนรถทยอยลงมาทีละคน ๆ ฝูงชนยิ่งมุงดูมากยิ่งขึ้น
สำหรับฝูงชนที่ยืนมอง พวกคนที่กำลังลงจากรถพวกนี้พวกเขาไม่รู้จักเลยสักคน
แต่สำหรับพวกนักข่าวพวกเขาเคยเห็นหน้าของพวกเขาเหล่านี้มาก่อน เพราะนั่นคือเปล่าคุณชายคุณหญิงของตระกูลอริยชัยกุล
สำหรับประยสย์ก็พูดได้เพียงว่า “ให้ตายเถอะขนมากันหมดเลย!”
คนจากตระกูลสาระทา แค่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดเพียงเล็กน้อยพวกเขาก็ขนมากันทั้งหมดเลย
แถมยังมีพวกเด็กเล็กอีกหลายคน อย่ามองว่าพวกเขาอายุน้อย บางคนอายุสี่ห้าขวบแต่ลำดับความอาวุโสในบ้านไม่ต่ำเลยนะ บางคนประยสย์ถึงขนาดต้องเรียกปู่เลยนะ
เด็กชายพวกนั้นสวมชุดสูทของเด็กเล็ก หลังจากถูกผู้ใหญ่เตือนใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นตึงเครียดและสุขุมขึ้นมาทันที
พวกผู้ใหญ่บอกว่าที่พวกเขามาวันนี้มาเพื่อจะเป็นกำลังให้กับหลานสาวที่ยังไม่เคยพบเจอหน้ากัน
อย่างมองว่าพวกเขาอายุยังน้อยนะ เหมือนคำที่ว่าผีน้อยนั้นยากจะรับมือ ถ้าทำให้พวกเขาโกรธและรุมใส่พร้อมกันมีหวังอาจทำเอาถึงตายได้เลยนะ
ใครกล้ารังแกลูกสาวของตระกูลสาระทา เท่ากับว่าไม่เห็นปู่ ๆ อย่างพวกเขาอยู่ในสายตาเลย!
นอกจากคนในตระกูลสาระทาและพวกผู้อาวุโสตระกูลอริยชัยกุลแล้วยังมีกลุ่มบอดี้การ์ดตามมาอีกเป็นกลุ่ม เหล่าบอดี้การ์ดรีบเข้ามาขวางผู้คนที่กำลังมุงอยู่ในบริเวณนั้นออก แม้กระทั่งนักข่าวบันเทิงก็ถูกเคลียร์ออกจากพื้นที่ด้วยเหมือนกัน โดยไม่ให้เข้าใกล้พวกเทวิกาในระยะประชิดได้เลย
“คุณหญิง คุณชายใหญ่ คุณหนูใหญ่”
หลังจากที่บอดี้การ์ดเคลียร์พวกนักข่าวออกแล้วก็มีทางให้เดินเข้าไปได้กว้างขึ้น ทำให้เหล่าผู้นำตระกูลเดินเข้าไปได้อย่างสบาย ๆ ในขณะเดียวกันพวกเขาก็กว่างทักทายคุณหญิง คุณชาย คุณหนูของตระกูลสาระทาอย่างเคารพ
บอดี้การ์ดตั้งหลายสิบคนกล่าวคำทักทายพร้อมเพียงกันแบบนี้ทำให้เสียงดังกังวานมาก ถึงขนาดทำเอาเปรมาตกใจจนเกือบจะเซล้มลงไปกับพื้น แต่โชคดีที่แม่ของเธอเข้ามาพยุงเอาไว้ก่อน
“แม่”
เปรมารู้สึกเหมือนมีบางอย่างผิดปกติไป เธอจับมือของแม่ไว้แน่นแล้วขอคำยืนยันว่า “แม่ พวกเขาไม่ได้เรียกเทวิกาว่าคุณหนูใหญ่ใช่ไหม พวกเขาจะเรียกเทวิกาว่าคุณหนูใหญ่ได้ยังไง ตระกูลวาชัยยุงไม่มีทางโอ่อ่าได้ถึงขนาดนี้ เทวิกาจะกลายเป็นคุณหนูใหญ่ไปได้ยังไง”
สีหน้าของคุณณัฏฐาดูแย่จนแทบดูไม่ได้
ในบรรดาคนไม่กี่คนที่ถูกล้อมรอบอยู่นั้นมีเพียงเทวิกา ชายหนุ่มคนนั้น และหญิงวัยกลางคนอีกสองคน หญิงวัยกลายคนคนหนึ่งคุณณัฏฐาสอบถามมาแล้วว่าเธอคือแม่บุญธรรมของเทวิกา
เป็นไปไม่ได้ที่ผู้หญิงในชนบทจะเป็นภรรยาของหัวหน้าตระกูลที่เหล่าชายชุดดำร้องเรียกกัน แสดงว่าต้องเป็นผู้หญิงอีกคน
ส่วนคุณชายกับคุณหนูนั้น เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังเรียกเทวิกากับชายหนุ่มไม่ทราบชื่อคนนั้น
“เปรม์ดูไปก่อน”
คุณณัฏฐาปลอบใจลูกสาวว่า “เทวิกาไม่มีทางเป็นคุณหนูใหญ่ได้หรอก พวกเราคงฟังผิดไป”
ไซม่อนประคองหญิงชราและผู้นำตระกูลคนก่อนเดินเข้ามาอย่างช้า ๆ
คนที่เดินถัดมาจากพวกเขาคือผู้อาวุโสสองคนของตระกูลอริยชัยกุล ข้างหลังคือคุณเซทท์และคนอื่น ๆ ถัดออกไปอีกก็เป็นเหล่าผู้เยาว์และสมาชิกของตระกูลสาระทา
“วิกา หลานสาวตัวดีของย่า มาให้ย่าดูหน่อยเร็ว ย่าคิดถึงหนูจะตายอยู่แล้ว”
คุณย่าไม่สนใจแล้วว่าความรู้สึกตอนนี้เป็นยังไง เพราะตั้งแต่ที่สองผู้อาวุโสถูกลูกชายคนโตปลุกออกจากเตียงยัดเข้าเครื่องบินมา ผู้อาวุโสทั้งสองคนก็รู้ตัวแล้วว่าต้องร่วมมือกันกับลูกชายแสดงฉากนี้ออกมาให้ดี
อ้อ ไม่ใช่การแสดงสิ
มันเป็นการยืนยันตัวตนให้กันหลานสาวของพวกเขาที่เพิ่งจะถูกพบตัว และรับหลานสาวกลับเข้าตระกูลอย่างสูงส่ง
มีคุณย่าอยู่ด้วยแบบนี้คงไม่ต้องทดสอบความเป็นพ่อลูกกันแล้ว เพราะเทวิกากับคุณย่าหน้าตาเหมือนกันมาก แบบนี้จะยังมีใครกล้าสงสัยอีกว่าเทวิกาไม่ใช่คนในตระกูลสาระทา เพราะแบบนั้นเท่ากับสงสัยว่าคุณย่านอกใจสามีตัวเองไปมีชายอื่น
ไม่ว่าจะยังไงก็ตามคุณย่ายอมรับหลานสาวคนนี้แล้ว!
ถ้าใครกล้าสงสัยว่าเทวิกาไม่ใช่ลูกสาวของตระกูลสาระทา คุณย่าจะเป็นคนแรกที่จะไม่ปล่อยเขาไปแน่นอน