คุณสามีพันล้าน - บทที่ 280 ทางตันของคนที่เป็นสามีภรรยากันมานาน
ยศพัฒน์ส่งเทวิกากลับไปที่ร้าน One Day In Coffee
รถยังไม่ได้ไปข้างหน้า สองสามีภรรยามองเห็นว่ามีรถหลายคันจอดอยู่ที่ประตูร้านกาแฟ
“พ่อฉันมาแล้ว”
พอเทวิกาเห็นรถสองสามคันนั้น ก็เดาได้ว่าพ่อมาแล้ว
“แม่พวกเราก็อยู่ด้วย”
เทวิกาตื่นเต้นเล็กน้อย กลัวว่าพ่อกับแม่แท้ๆจะทะเลาะกัน
“ไม่เป็นไร พ่อไม่มีทางหาเรื่องแม่หรอก แม่ก็ไม่มีทางโวยวายหาเรื่องพ่อในร้านหรอก ยังไงก็ต้องคำนึงถึงธุรกิจของคุณ”
ยศพัฒน์ปลอบใจภรรยาสุดที่รัก
พอรถจอดเรียบร้อย เทวิกาก็รีบลงจากรถ เดินเข้าไปในร้านอย่างรวดเร็ว
“วิกา มาแล้วเหรอ”
พอกนกอรเห็นเพื่อนรักกลับมา ก็รีบมารับ พูดเบาๆว่า“พ่อกับแม่แกกำลังทะเลาะกันอยู่เลยนะ”
พิชญ์สินีเองก็เดินมา พูดกับลูกสาวเบาๆว่า“พวกเราพูดเกลี้ยกล่อมก็ไม่มีใครฟัง”
เทวิกามองไปตามสายตาของทั้งสอง ก็เห็นพ่อแท้ๆผู้ร่ำรวย มีทรัพย์สินมรดกนับพันล้านยังบอกว่าจนมากอำนาจของเธอ ผู้ซึ่งบอกว่าเขายากจนมากมีทรัพย์สินหลายแสนล้าน เอาเงินมากองเต็มโต๊ะ กินพื้นที่ไปเกินครึ่งโต๊ะ
แม่แท้ๆของเธอล่ะ ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก เห็นท่าทางของแม่น่าจะอยากเชิญพ่อออกไปสินะ
“ทะเลาะอะไร”
เทวิกาถามเบาๆ
พิชญ์สินีมาเปิดประตูตอนเช้า เธอเห็นทุกอย่าง เธอจึงตอบว่า“ตอนที่แม่มาเปิดร้าน พ่อของลูกก็มารออยู่ที่นี่แล้ว พอแม่เปิดประตู เขาก็ตรงดิ่งเข้ามาเลือกที่นั่งในร้านเลย อะไรก็ไม่สั่ง
“รอจนแม่ของลูกมา เธอเห็นพ่อของลูกอยู่ด้วย สีหน้าก็บูดบึ้งทันที เธอเดินไปตรงหน้าพ่อของลูก เชิญเขาออกไป”
“พ่อของลูกบอกว่าเขาเป็นลุกค้ามาดื่มกาแฟ กินขนม บอกว่าเปิดร้านขายของจะไล่ลูกค้าไปข้างนอกไม่ได้”
เทวิกาถามเบาๆว่า“แล้วเงินพวกนั้นมันอะไรเหรอคะ”
“นี่ก็เพราะแม่ของลูกบอกว่าไม่ขายให้เขา จะให้เขาออกไปให้ได้ รอจนธนาคารเปิดแล้ว พ่อของลูกก็ให้คนไปเบิกเงินออกมา วางบนโต๊ะนั้นไปเกินครึ่งโต๊ะ ตบเงินพวกนั้นแล้วพูดกับแม่ลูกว่า ถ้าแม่ลูกต้มกาแฟให้เขา ทำขนมให้เขากิน ก็จะมีรายได้เข้าร้านหลายแสนบาท”
เทวิกา“……ทำไมรู้สึกว่าเรื่องนี้มันคุ้นๆนะ”
เธอมองไปทางเพื่อนรัก
กนกอรสงสัย“วิกา แกมองฉันแบบนี้ทำไม ฉันไม่มีความสามารถแบบนี้ กาแฟหนึ่งแก้วขนมหนึ่งจานก็ช่วยหารายได้เข้าร้านหลายแสนบาท”
โลกของคนรวย เธอทำไม่ได้
ต้องอยู่กับคนรวยพวกนี้ทุกวัน มันลำบากมาก รู้มั้ย!
เทวิกาเห็นเพื่อนรักไม่เข้าใจ ก็ไม่ได้พูดอะไร ส่งกล่องเครื่องประดับในมือให้แม่ พูดกับพิชญ์สินีว่า“แม่คะ นี่เป็นของขวัญที่คุณปู่เร็นมอบให้หนู แม่ช่วยหนูเก็บไว้ทีนะคะ หนูจะไปเกลี้ยกล่อมพวกเขา”
พิชญ์สินีรับกล่องเครื่องประดับพลางเอ่ยว่า“ละครสนุกมั้ย ยศพัฒน์นี่ก็ตามใจลูกเกินไปแล้ว ถึงขั้นพาลูกไปที่บ้านเดชอุป ตอนที่ได้ยินแม่ของลูกบอก แม่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับพวกเธอดี”
เทวิกาแลบลิ้นอย่างเขินๆ
เปรมาอยากเห็นเธอเป็นตัวตลกขนาดนั้น ตอนที่เปรมายับเยินหมดสภาพที่สุด ทำไมเธอจะไม่อยากไปพยานรู้เห็นล่ะ มิฉะนั้นจะรู้สึกผิดกับเปรมา
กนกอรพลั้งปากโวยออกมาว่า “ตอนไปดูอะไรสนุกๆก็ไม่เรียกฉันไปบ้างเลย”
เห็นยศพัฒน์เดินเข้ามา กนกอรก็เปลี่ยนคำพูด“โชคดีที่แกไม่ชวนฉันไปด้วย ไม่อย่างนั้นฉันก็จะกลายเป็นก้างขวางคอชิ้นเบ้อเริ่ม”
เลยไม่ได้เห็นความยับเยินหมดสภาพของเปรมา ความเศร้าเสียใจของนฤเบศวร์ ช่างน่าเสียดายจังเลย
นฤเบศวร์ ……โชคดีที่ผมไม่ได้ขอร้องให้คุณมาปลอบใจผม ไม่อย่างนั้นคงต้องโมโหคุณจนตายก่อนวัยอันควร
กนกอร :ก่อนจะตายอย่าลืมเขียนพินัยกรรมให้เรียบร้อยก่อน ฉันรอให้คุณตายก่อนวัยอันควรแล้วฉันก็จะกลายเป็นแม่หม้ายผู้ร่ำรวยแห่งเมืองแอคเซสซ์
นฤเบศวร์:……กลับบ้านเมืองแอคเซสซ์มาได้ครึ่งทางแล้ว!
ไม่พูดเรื่องเงินเรื่องทองกับเขาสักวัน เธอจะไม่สบายไปทั้งตัวหรือยังไงกัน
เขาให้เงินอั่งเปาเธอสองพันทุกวัน ทุกเดือนก็ให้เงินค่าขนมเธอสามหมื่นบาท
หลัจากยศพัฒน์เข้ามาแล้วก็รู้สึกว่าบรรยากาศภายในผิดปกติ
เขาเหลือบมองไปยังแม่ยายกับพ่อตา รู้สึกว่าตนเองอย่าเข้าไปจะดีกว่า
จึงพูดกับพิชญ์สินีว่า “คุณแม่ครับ มีอะไรให้ช่วยมั้ยครับ”
พิชญ์สินีหันกลับไปหยิบกาแฟที่ใส่ถุงเอาไว้เรียบร้อยขึ้นมาจากเคาน์เตอร์แคชเชียร์ เอากาแฟแก้วนั้นส่งให้ยศพัฒน์ พูดว่า“ช่วยดื่มกาแฟแก้วนี้หน่อยจ้ะ จากนั้นก็กลับไปทำงานที่บริษัท ต่อไปวิกาพูดอะไรคุณก็ไม่ต้องทำตามใจไปทุกเรื่อง”
ยศพัฒน์ยิ้มพูดว่า“แม่ครับ พ่อผมบอกว่าเชื่อฟังภรรยา ก็จะทำให้บ้านร่ำรวย ผมคิดว่าผมยังรวยไม่พอ ต้องเชื่อฟังภรรยาให้มาก จึงจะกลายเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก”
พิชญ์สินีหัวเราะพูดว่า“ได้ๆๆ แม่เถียงไม่ชนะเธอหรอก เรื่องงานเป็นเรื่องสำคัญ รีบดื่มแล้วกลับไปที่บริษัท พรุ่งนี้แม่ก็จะไม่ยุ่งกับพวกเธอแล้ว”
“คุณแม่ จะกลับแล้วเหรอครับ”
ยศพัฒน์รีบถาม
เขาอาลัยอาวรณ์มากที่แม่ยายจะจากพวกเขาไหแล้ว
“พรุ่งนี้เป็นวันหยุด”
ยศพัฒน์เข้าใจกระจ่างแจ้ง
เขาตกใจหมดเลย คิดว่าแม่ยายจะไปแล้ว
ใช่แล้ว พรุ่งนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ บอกว่าจะพาวิกากับที่บ้านพวกเขาไปเที่ยวเกาะ พอดีเลย จะได้พาพ่อตาแม่ยายทั้งสองคนไปด้วย
ยศพัฒน์ฉลาดพอที่จะไม่เข้าไปรบกวนสองสามีภรรยา ดื่มกาแฟที่แม่ยายเตรียมไว้ให้เขาอย่างเรียบร้อย
เทวิกานั่งลงตรงหน้าพ่อแท้ๆ
มือขวาตบที่เงินพวกนั้น ยิ้มหวานให้พ่อแท้ๆพลางพูดว่า“พ่อคะ พ่อรู้ว่าหนูไม่เคยเห็นเงินสดมากมายขนาดนี้ ก็เลยเอาออกมาให้หนูดูเป็นพิเศษใช่มั้ยคะ ให้หนูลองนับ วันนี้หนูจะนับเงินจนเมื่อยมือเลย”
ไซม่อนเอามือเธอที่ตบเงินออก พูดว่า“วิกา นี่เป็นเงินที่พ่อจ่ายค่ากาแฟกับขนม แม่ลูกบอกว่าจะไม่ขายให้พ่อ ลูกจะปล่อยให้เงินมากมายขนาดนี้ลอยผ่านหน้าลูกไป ลูกจะคว้าไว้ไม่ได้เลยแม้แต่น้อยเลยเหรอ”
ญาณินพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ความรู้สึกว่า“ทำอย่างกับว่าคนอื่นไม่เคยเห็นเงินสกปรกของคุณ”
“ลูกสาวของเราไม่เคยเห็นไง คุณไม่ได้ยินที่วิกาพูดเมื่อกี้เหรอ ลูกบอกว่าโตมาขนาดนี้ยังไม่เคยเห็นเงินสดมากขนาดนี้ อยากจะนับให้เมื่อยมือ กว่าพวกเราจะตามหาวิกาเจอไม่ใช่เรื่องง่าย แม้แต่ความปรารถนาเล็กน้อยขนาดนี้คุณก็ยังให้ลูกไม่ได้เหรอ”
ญาณินหน้าบึ้งตึงทันที
ถลึงตาใส่เทวิกา
เทวิกา:……หนูไม่รู้เรื่องนะคะ!
เธอเคยเห็นเงินหนึ่งลัง เป็นเงินที่ยศพัฒน์ยืมมาเพื่อตบหน้าตาณ แต่ตอนนั้นเธอคิดว่าเป็นแค่อุปกรณ์ประกอบฉาก ไม่ได้ลูบคลำเงินพวกนั้น นับก็ไม่ได้ด้วย
เทวิกาได้แต่ยิ้ม แต่กลับไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี
“ยศพัฒน์”
จู่ๆญาณินก็เรียกลูกเขยที่ไม่ได้เดินออกไปและก็ไม่กล้ามาทักทาย
ยศพัฒน์รีบวางแก้วกาแฟ ลุกขึ้น วิ่งมาอย่างเชื่อฟัง ทำเป็นไม่รู้ว่าคู่สามีภรรยาทั้งสองคนนี้กำลังมีปากเสียงกันอยู่อย่างนั้น ยิ้มพลางถามว่า “คุณแม่ มีเรื่องอะไรเหรอครับ ผมจะรีบไปจัดการให้เดี๋ยวนี้เลย”
เทวิกาพูดถึงเขาเบาๆว่า“คนขี้ประจบ”
ญาณินสีหน้าอ่อนโยนลง มีรอยยิ้มบนใบหน้า เทวิกามองแล้วก็อดบ่นพึมพำในใจไม่ได้ว่า:ที่แท้แม่ยายก็ชอบลูกเขย ยิ่งมองยิ่งชอบ กับลูกสาวแท้ๆอย่างเธอนี่แม่ยังไม่ยิ้มให้เลย แต่กับลูกเขยแม่ยายกลับยิ้มให้
“ยศพัฒน์ สภาพคล่องเงินสดของลูกดีมั้ย ตอนนี้ให้แม่ยืมเงินสดหน่อยได้มั้ย ไม่ต้องมากมายอะไร แค่มากกว่าเงินของไอ้แก่ที่ไร้ยางอายคนนี้ก็พอ”
ยศพัฒน์“……”
เรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องที่จัดการได้ง่ายๆ ถูกบีบอยู่ตรงกลางระหว่างพ่อตาแม่ยาย เป็นเรื่องที่ลำบากจริงๆ !