คุณสามีพันล้าน - บทที่ 286 สองร้อย
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 286 สองร้อย
จริงสิ เธอแต่งงานออกไปแล้วนี่ และก็แต่งงานกับเขาด้วย!
ใช่ พวกเขาแต่งงานกันลับ ๆ
“เจ้าของร้านคนสวย คิดเงินหน่อยครับ”
กันตภณโบกมือให้กับกนกอร
กนกอรลุกขึ้นทันที
นฤเบศวร์พึมพำเบา ๆ :“คนอื่นคิดเงินยังต้องเดินมาที่เคาน์เตอร์คิดเงิน แต่เขากลับนั่งอยู่ตรงนั้นไม่ขยับ ยังให้คุณเข้าไปหาอีก”
“คนหล่อเรียกฉัน ฉันยินดีที่จะเดินไปหา แล้วมันก็เกี่ยวอะไรกับคุณมิทราบ อย่ายืนตรงนี้ขวางทางฉันทำงาน จะไปยืนที่ไหนก็ไป!”
กนกอรเดินผ่านตัวของนฤเบศวร์ไป นฤเบศวร์เห็นเธอมองหนุ่มหล่อคนนั้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ในใจก็ปรี๊ดขึ้น เธอมักจะดีกับคนอื่นเสมอ แต่จะร้ายกับสามีอย่างเขาคนนี้!”
มีเพียงให้เงินเธอ เธอถึงจะพอใจมีความสุข พอได้เงิน ก็จะเชิดหน้าไม่รู้จักเขาทันที
กนกอร: ฉันชอบผู้ชายที่อยู่บนธนบัตรที่สุดแล้ว
นฤเบศวร์:……
กนกอรรับเงินนจากกันตภณแล้ว ยังส่งเขาออกไปจากร้านด้วยตัวเอง จากนั้นกล่าวด้วยรอยยิ้ม:“คุณกันตภณ ยินดีต้อนรับครั้งหน้านะคะ”
กันตภณก็ยิ้มด้วย ผู้หญิงคนนี้ตอนที่ไม่ลงไม้ลงมือ เธอก็ดูน่ารักน่าเอ็นดูเช่นกัน รอยยิ้มที่เป็นธรรมชาติ ทำให้คนรู้สึกเป็นกันเอง
“ร้าน One Day In Coffee ของพวกคุณสมคำเล่าลือจริง ๆ กาแฟดีมาก ของหวานก็อร่อย ผมชอบทานมาก ต่อไปจะมาทุกวันเลย”
กนกอรยิ้มจนตาหยี “ขอบคุณสำหรับการคอมเฟิร์มค่ะคุณกันตภณ คุณค่อย ๆ ไปนะคะ”
กันตภณโบกมือให้กับเธอแล้วกล่าวลา จากนั้นเดินขึ้นรถคันหนึ่งภายใต้การมองของเธอ
ไม่ช้าเขาก็หายไปจากสายตาของกนกอร
“เงารถก็มองไม่เห็นแล้ว ยังชะเง้อมองยิ้มเล็กยิ้มใหญ่อยู่ได้”
นฤเบศวร์กล่าวด้วยความโกรธ:“นั่งมาแต่เช้าแล้วดื่มเพียงแค่แก้วเดียว ทานขนมหวานไปแค่สองจาน จ่ายเงินไปแค่นั้น เห็นได้ชัดว่ามาหลอกใช้อินเทอร์เน็ต มาหลอกใช้สภาพแวดล้อมที่ดี ๆ ของร้านคุณ”
“คุณรู้ได้ไงว่าเขาชื่อกันตภณ”
กันตภณ เลขทะเบียนรถXX:XXXXXX เขาจำไว้แล้ว กลับไปค่อยให้ไปสืบประวัติเขา
“คนบ้า วันนี้คุณอารมณ์ไม่ดีก็จงอยู่บ้านดี ๆ นั่งเหม่อลอยก็ได้ ดื่มเหล้าเมาหัวราน้ำก็ได้ ไม่ต้องวิ่งออกมาอารมณ์เสียแพร่ใส่คนอื่น และยังพูดจากแปลก ๆ อีก”
กนกอรว่าให้เขาหนึ่งประโยค ก็หันหลังใส่เขาแล้วกลับเข้าไปในร้าน ขี้เกียจที่จะสนใจเขาอีก
นฤเบศวร์ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าดำทะมึน
เขาอยากจะไปจากตรงนี้จริง ๆ ไม่อยากหวังดีแล้วถูกกนกอรเมินอยู่ที่นี่ แต่ดูเหมือนสองเท้าของเขากลับเต็มไปด้วยตะกั่ว ที่หนักเกินกว่าที่เขาจะเดินไหว
สักพัก เขาถึงฟึดฟัดกลับเข้ามาไปในร้าน อีกทั้งยังนั่งลงตำแหน่งที่กันตภณนั่งลง หลังจากนั่งลงแล้ว อาศัยจังหวะที่คนอื่นไม่ทันได้สังเกต บิดสะโพกไม่หยุด
เขาต้องการเช็ดร่องรอยของคนที่ชื่อกันตภณทิ้ง!
กนกอรไม่เห็นการกระทำที่เป็นเด็กของเขา ไม่เช่นนั้นคงหัวเราะจนเจ็บท้องแน่นอน
เวลาเที่ยงสิบนาที ยศพัฒน์มาถึงร้าน One Day In Coffee ตรงเวลา
เห็นรถสปอร์ตคันงามจอดอยู่ที่หน้าประตู เขาเหลือบมองเลขทะเบียนรถครู่หนึ่ง คุ้นเคยดี เป็นรถของคู่ปรับ
คนอกหักควรจะอยู่บ้านร้องห่มร้องไห้ไม่ใช่เหรอ
ขับรถสปอร์ตสุดเท่มาถึงที่นี่ก็เพื่อจะอวดว่ารถของตัวเองเท่อย่างนั้นเหรอ
ตอนเที่ยงนั้น ปกติในร้านจะไม่มีลูกค้า
มีเพียงนฤเบศวร์ที่นั่งอยู่ริมหน้าต่าง โดยมีกาแฟสองแก้วและจานขนมหวานสองจานวางอยู่
แต่ว่าเขาไม่แตะต้องแต่อย่างใด สายตาจ้องมองดูแต่ทางกนกอร กนกอรไม่มองเขา เพียงแค่มองเวลาแวบหนึ่งแล้วบอกกับพนักงานในร้านว่า:“น้อง เธอช่วยดูแลร้านไปก่อน ฉันจะไปช่วยทำอาหารที่บ้านเช่าของวิกา อีกเดี๋ยวตอนที่ฉันโทรศัพท์หาเธอนั้น เธอกับลุงตี๋ค่อยมาพร้อมกัน ให้คุณนฤเบศวร์อยู่ที่นี่ ขอคุณนฤเบศวร์ช่วยพวกเราดูร้านก็พอ”
เธอล้วงเงินสองร้อยให้กับพนักงานสาวทางร้าน “นี่เป็นค่าตอบแทนที่ให้คุณนฤเบศวร์เฝ้าร้าน”
พนักงานทางร้านรับเงิน แล้วอ้าปากทำท่าจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี จึงได้แต่ลืมตามองพี่กนกอรออกไปจากร้านและตรงไปต้อนรับคุณพัฒน์ กล่าวบางอย่างกับคุณพัฒน์ จากนั้นคุณพัฒน์ก็พาเธอขึ้นรถไปพร้อมกัน หายใจเข้าครู่หนึ่งแล้วก็จากไป
นฤเบศวร์กะพริบตา เขายังดูไม่เข้าใจเลย กนกอรขึ้นรถของยศพัฒน์จากไปเหรอเนี่ย!
เขาลุกขึ้นทันทีและกำลังจะตามไป
“คุณนฤเบศวร์คะ”
พนักงานสาวทางร้านได้เรียกหยุดเขา และก็ยื่นเงินสองร้อยให้กับเขาพร้อมกล่าวขึ้น:“คุณนฤเบศวร์ พี่กนกอรไปช่วยทำอาหารที่บ้านเช่าของพี่วิกา และขอให้คุณช่วยพวกเราดูแลร้านหน่อย นี่เป็นค่าตอบแทนของคุณค่ะ”
นฤเบศวร์เบิกตาโต กล่าวด้วยความไม่อยากจะเชื่อ:“กนกอรใช้เงินสองร้อยให้ผมช่วยดูแลร้านเหรอเนี่ย! เขาไม่รู้เหรอว่าค่าตัวผมแพงมาก ผมทำงานได้มากกว่าสองร้อยต่อหนึ่งนาทีเลย”
“คุณนฤเบศวร์ พี่กนกอรไม่รู้ว่าค่าตัวคุณเท่าไรหรอกค่ะ สองร้อยก็ไม่น้อยนะคะ พวกเราทานข้าวแค่หนึ่งชั่วโมงเอง คุณไม่ต้องทำอะไรเลย แค่นั่งดื่มกาแฟทานของหวานอยู่ตรงนี้ ก็ได้มาแล้วสองร้อย ดีจะตาย”
นฤเบศวร์ถลึงตามองพนักงานสาว มีเจ้านายแบบไหนก็มีลูกน้องแบบนั้นจริง ๆ คำพูดคำจาทำให้คนแทบสำลักตายเช่นกัน
เขาหยิบเงินสองร้อยนั่นมา แล้วก็ล้วงเงินออกจากกระเป๋าอยากจะเพิ่มเข้าไป แต่พบว่าเงินในกระเป๋าของตัวเองนั้นไม่มีเงินสดแล้ว เมื่อกี้เขาให้เงินสดกนกอรไปหมดแล้ว
กนกอรใช้เงินของเขามาจ้างเขาทำงาน ในความเป็นจริงแล้วเธอไม่ได้ออกเงินเลยสักบาท!
หน้าเลือด!
ยังจะมาบอกว่าเขาหน้าเลือดอีก เธอก็ไม่ได้ดีไปกว่าเขาหรอก
“ให้วีแชตของคุณกับผมหน่อย”
“คุณนฤเบศวร์ พวกเราไม่สะดวกที่จะเพิ่มวีแชตกันหรอกค่ะ”
พนักงานสาวไม่ได้โง่สักหน่อย ที่จะดูไม่ออกว่าคุณนฤเบศวร์กับพี่กนกอรเป็นคู่สามีภรรยากัน
“เธอคิดไปถึงไหนกัน ผมเพิ่มวีแชตเธอก็เพื่ออยากจะโอนอั่งเปาไปให้เธอ แล้วเธอก็ช่วยเฝ้าร้านอยู่ที่นี่ ผมไปช่วยเธอทานข้าว”
“ขอบคุณค่ะคุณนฤเบศวร์ คุณไปทานอาหารก็เข้าไปในท้องของคุณ ไม่ได้ช่วยอะไรฉันเลย ฉันไปทานเองเถอะค่ะ”
นฤเบศวร์ถลึงตามองพนักงานสาว
พนักงานสาวรีบหันหน้าไปแล้วตะโกนเข้าไปยังห้องทำของหวานขึ้นว่า:“ลุงตี๋ พวกเราไปทานอาหารที่บ้านของพี่วิกากัน”
“มาแล้ว”
ลุงตี๋ตอบกลับอย่างดีใจ
เจ้านายเลี้ยงซีฟู้ดเชียวนะ
หลังจากบอกลุงตี๋แล้ว พนักงานสาวก็รีบเผ่นออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว ยังไม่ลืมที่จะเตือนนฤเบศวร์ว่า:“คุณนฤเบศวร์ พี่กนกอรของพวกเราไม่ค่อยขอร้องอะไรจากคุณ คุณอย่าทำพังเชียวนะ พวกเราจะทานให้เร็วที่สุดแล้วกลับมาทำงานต่อ”
นฤเบศวร์:“……”
น่าโมโหชะมัด!
เขาจะต้องไม่ถูกกับร้าน One Day In Coffee แน่นอน
มาที่นี่ทีไรหงุดหงิดทุกที
ในบ้านเช่าของเทวิกา เธอกำลังนึ่งปูอยู่ เมื่อเห็นนสามีและเพื่อนสนิทเข้ามาด้วยกัน เธอจึงกล่าวอย่างเป็นอย่างเอง:“ไหนบอกว่าจะรอให้ฉันทำเสร็จแล้ว แล้วค่อยบอกพวกคุณมาทานไง”
ยศพัฒน์เข้ามาก็ไปหยิบผ้ากันเปื้อนจากด้านหลังประตูห้องครัวมาผูกไว้แล้วกล่าวขึ้น: “ที่รัก ยังมีกับข้าวอีกกี่อย่างที่ไม่ได้ผัด ผมจะช่วยผัด”
“ยังมีผัดหอยลายและกุ้งต้มค่ะ อย่างอื่นผัดเสร็จแล้ว”
“หอมจังเลย”
กนกอรพลางชมพลางไปหยิบตะเกียบคู่หนึ่งมาคีบปลาหมึกที่ผัดแล้วมาทาน จากนั้นกล่าวขึ้น:“อร่อย!”
เทวิกายิ้มแล้วกล่าว:“เวลาไม่พอ ฉันซื้อมาได้ไม่กี่อย่าง แต่ว่าเพียงพอที่จะทำให้เธอทานได้อย่างหนำใจ”
เธอพลางกล่าวพลางหลีกที่ให้ยศพัฒน์ช่วยด้วย
“ปูนึ่งเสร็จแล้วเหรอ พวกคุณยกปูออกไปแล้วค่อย ๆ ทานเถอะ”
“ใกล้เสร็จแล้ว”
เทวิกาล้วงโทรศัพท์ออกมาโทรหาพนักงานสาวที่ร้าน พนักงานสาวรับสายอย่างรวดเร็ว ไม่รอให้เทวิกาได้เอ่ยปาก พนักงานสาวทางร้านก็ยิ้มคริ ๆ แล้วกล่าวขึ้น:“พี่วิกา รีบเปิดประตูเร็ว หนูกับลุงตี๋มาถึงแล้วค่ะ”
เทวิกากล่าวด้วยรอยยิ้ม:“ต่างคนจมูกดีเหมือนหมาน้อยจริง ๆ ได้กลิ่นหอมก็มากันเลย”
“ฉันจะไปเปิดประตู”
หลังจากกนกอรชิมอาหารแล้ว ก็ไปเปิดประตู ปล่อยให้สองสามีภรรยาหยอดคำหวานใส่กันและกัน