คุณสามีพันล้าน - บทที่ 300 ตายยกแก๊ง
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 300 ตายยกแก๊ง
กนกอรมองสีหน้าถมึงทึงของยศพัฒน์ เธอหดตัวเล็กน้อย เอ่ยว่า “ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน วิกาออกไปก่อนพวกเรา”
สีหน้าของยศพัฒน์ยิ่งถมึงทึงลงเหมือนถ่าน
เขาในตอนนี้ไปแสดงไปเปาบุ้นจีนโดยไม่ต้องแต่งหน้ายังได้
เขารีบเอาโทรศัพท์ออกมาโทรหานฤเบศวร์ทันที บอกว่า “เบศวร์ นายมานี่ กนกอรอยู่ที่นี่”
“นายอยู่ไหน?”
นฤเบศว์เอ่ยถาม
เขายังอยู่ในห้องน้ำ กำลังลังเลว่าบุกเข้าไปข้างในดีไหม
ยศพัฒน์หันมองรอบๆ “ฉันเองก็ไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน ฉันเพิ่งเคยมาที่แบบนี้ครั้งแรก”
มิลินท์พูดแทรกว่า “ทางออกทางฝั่งซ้าย แล้วเดินตรงมา นี่คือทางไปประตูด้านหลัง……”
เธอยังพูดไม่ทันจบ พี่น้องตระกูลอริยชัยกุลก็พลันจ้องเธอเขม็ง
มิลินท์จึงจะรู้ตัว พลันอยากมุดดินหนีทันที
นี่เธอกำลังเปิดโปงตัวเองอยู่ชัดๆ
กนกอรมองเธออย่างสงสาร
มิลินท์มองไปที่กษิดิ
กษิดิเผยสีหน้าถมึงทึง แล้วพูดอย่างกัดฟันกรอดว่า “มิลินท์ เธอเป็นลูกค้าประจำด้วยเหรอเนี่ย คุ้นเคยกับที่นี่ดีเลยนี่!”
มิลินท์ยิ้มแห้ง “ธุรกิจน่ะ ฉันทำเพื่อธุรกิจล้วน ๆ ฉันมาขายสกินแคร์ผู้ชายที่ตระกูลศิริกรโสภณของเราเพิ่งคิดค้นออกมาใหม่ โฮสต์ที่นี่รายได้สูง แล้วยังชอบดูแลตัวเอง ขายของให้พวกเขากอบโกยกำไรได้เยอะเลยล่ะ”
“ทำไมไม่เห็นเธอมาแนะนำสินค้าใหม่ให้ฉันบ้าง? ฉันเองก็รายได้สูง และชอบดูแลตัวเองด้วยเหมือนกัน”
ลินท์ “……วางใจเถอะ ไม่ลืมนายหรอกน่า ก็ฉันชอบดูหนุ่มหล่อนี่นา”
“ฉันหล่อไม่พองั้นเหรอ? ฉันเองก็หล่อมากเหมือนกัน เธอไปย้ายเก้าอี้เตี้ยมานั่งตรงหน้าฉันสิ ฉันยินดีให้เธอดูจนพอใจ!”
ลินท์หุบปากไม่พูดอีก
หมอนี่พูดจาค่อนขอด ซ้ำยังดูน้อยใจอีกต่างหาก เธอเจียมตัวหน่อย ไม่พูดแล้วดีกว่า
ทีแรกเธอสามคนยังดีๆอยู่เลยแท้ๆ แต่เพราะกนกอรพลั้งปาก ก็เลยทำให้เรื่องมันกลายเป็นแบบนี้
บางครั้ง ถ้าควรเงียบก็เงียบดีที่สุด ไม่งั้นก็จะตายอย่างน่าอนาถ
“พี่ใหญ่ ผมขอกลับไปก่อน”
กษิดิลากมิลินท์กำลังจะจากไป
ยศพัฒน์กลับรั้งเขาเอาไว้ “นายช่วยนฤเบศวร์จับตาดูเมียเขาไว้ก่อน ฉันจะไปหาพี่สะใภ้นาย”
เมื่อกี้นฤเบศวร์ได้ยินมิลินท์บอกพิกัดทางโทรศัพท์แล้ว เขากำลังเดินมาที่นี่
“ลินท์ กนกอร เธอสองคนบอกฉันมาจะดีที่สุด ว่าตอนนี้วิกาอยู่ไหน”
กนกอรเอ่ยอย่างกล้าๆกลัวๆว่า “วิกาออกไปก่อนพวกฉัน ฉันเองก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เธออยู่ไหน แต่เธอออกไปจากประตูด้านหน้า ถ้าเธอไม่รอเรา ก็น่าจะติดรถคนอื่นกลับไปแล้ว แต่ถ้ารอเรา ก็น่าจะอยู่บริเวณประตูด้านหน้า”
ยศพัฒน์มองเสื้อที่ทั้งคู่สวมใส่ พลันรู้แล้วว่าจะหาเทวิกาเจอยังไง
เมื่อเห็นนฤเบศวร์มาถึง เขาก็ทิ้งคนที่เหลือแล้วหันตัวจากไป
แม้คลับรักนะจะไม่ใช่โฮสต์คลับที่แท้จริง แต่ก็ถือเป็นแหล่งมั่วสุม จึงเกิดเรื่องไม่ดีได้ง่ายมาก อีกทั้งคนที่จะมาที่นี่ ก็ล้วนเป็นคนที่มีฐานะและมีตำแหน่ง
ในบรรดาลูกค้าที่ร่วมมือกับบี.เอ.เอ็ม.กรุ๊ปเองก็มีประธานสาวใหญ่หลายคน พวกเธอล้วนเคยสงสัยใคร่รู้เกี่ยวกับคลับรักนะ ทว่ายศพัฒน์ไม่เคยพาพวกเธอมาที่นี่เลยสักครั้ง หากพวกเธออยากมาก็เป็นเรื่องของพวกเธอเอง
ดังนั้น คืนนี้เองก็เป็นครั้งแรกที่ยศพัฒน์มาเหยียบที่นี่
ผู้ชายอย่างเขายังไม่มาเหยียบที่แบบนี้ แต่วิกากลับกล้าตามมิลินท์มาเปิดโลกที่นี่
มิลินท์ยิ่งแล้วใหญ่ ดูจากที่เธอคุ้นเคยกับคลับ ก็รู้แล้วว่าเธอเป็นลูกค้าประจำของที่นี่
เธอใจกล้า ไม่คิดเล็กคิดน้อย จะมาปรากฏตัวที่นี่ก็ถือเป็นเรื่องปกติ
ยังไงซะ นั่นก็เป็นเรื่องที่น้องสองของเขาควรปวดหัว
ยศพัฒน์เพียงแค่อยากพาวิกาของเขากลับบ้าน แล้ว “ลงโทษ” เธอให้เข็ด
อ้อ ตอนนี้เธอยังอยู่ในช่วงวันหยุด งั้นก็ติดไว้ก่อน รอวันหยุดผ่านไปเมื่อไหร่ ก็ค่อยคิดบัญชีอีกที
หลังจากที่ยศพัฒน์จากไป กษิดิเองก็พามิลินท์จากไปแล้วเช่นกัน
มีเพียงกนกอรเผชิญกับนฤเบศวร์เพียงคนเดียว
ตอนนี้ เธอกลับไม่รู้สึกกลัวแล้ว
เธอดึงเสื้อสูทตัวเอง แล้วถามนฤเบศวร์ว่า “ฉันใส่เสื้อสูทหล่อไหม? ถ้าตัดผมแล้ว รับรองว่าเป็นหนุ่มหล่อคนหนึ่งแน่ ๆ”
นฤเบศวร์ยื่นมือไปจับข้อมือเธอ แล้วลากเธอไป
“นายปล่อยฉันนะ ฉันเดินเองได้ ถูกนายจับได้ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องเรียกรถแท็กซี่แล้ว ติดรถนายกลับนี่แหละ วางใจเถอะ ฉันจะให้ค่ารถนายแน่นอน ไม่ให้นายไปส่งฉันฟรีๆหรอก”
กนกอรพยายามแกะมือของนฤเบศวร์ออกอย่างยากลำบาก
มือของเขาจับเธอไว้แน่นเหมือนเหล็ก
ขนาดเธอเคยฝึกแล้วก็ยังแกะไม่ออก
ทำได้เพียงต้องเดินตามเขา
นฤเบศวร์เผยสีหน้าถมึงทึง แม้จะโมโหมาก แต่ก็ไม่ได้ระเบิดอารมณ์ที่นี่ เขาเพียงแค่อยากจะพาเธอกลับไปแล้วค่อยคิดบัญชีอีกที
บอดี้การ์ดตระกูลเดชอุปกำลังเฝ้าอยู่หน้าประตู เมื่อเห็นคุณชายใหญ่ลากผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่งออกมา ผู้หญิงคนนี้ก็ดันไม่เหมือนผู้หญิงคนเมื่อกี้อีก โฉมหน้าเปลี่ยนไป เสื้อผ้าเองก็เปลี่ยนไป
บอดี้การ์ดคนหนึ่งถามอย่างระมัดระวังว่า “คุณชายใหญ่ ลากมาผิดคนหรือเปล่าครับ?”
“พี่น้องยศพัฒน์ยืนยันแล้ว ไม่ผิดหรอก! แค่ดูจากคำพูดคำจาของเธอ ก็ไม่ผิดคนหรอก”
กนกอร “……”
คำพูดคำจาเธอเป็นเอกลักษณ์มากเลยงั้นเหรอ?
กนกอรมองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นเทวิกา ไม่รู้ว่าเพื่อนรักถูกยศพัฒน์พากลับไปหรือหนีไปเองแล้ว
บอดี้การ์ดที่เอ่ยถามเมื่อกี้นี้มองท่าทางของเธอ พลันเอ่ยอย่างหวังดีว่า “คุณนายน้อยอริยชัยกุลถูกคุณพัฒน์พากลับไปแล้วครับ”
กนกอร “……”
โอเค ตายยกแก๊ง!
เป็นเพราะปากเธอเลยแท้ๆ!
เมื่อออกมาจากคลับ กนกอรก็ถูกนฤเบศวร์ยัดเข้าไปในรถอย่างแข็งกร้าว
ปกติ เวลาทั้งคู่เถียงกัน กนกอรก็มักจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ ส่วนนฤเบศวร์ก็คือฝ่ายที่ถูกยั่วโมโห
กนกอรจึงนึกว่านฤเบศวร์มีความสามารถแค่นั้น คืนนี้เธอจึงจะรู้ว่า ความจริงแล้วเขาแรงเยอะมาก แม้เธอจะเคยฝึกมาก่อน แต่หากเขาเอาจริงกับเธอ งั้นเธอก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลยด้วยซ้ำ
ปกติ เขายอมเธอตลอดเลยงั้นเหรอ?
นฤเบศวร์ไม่พูดไม่จามาตลอดทั้งทาง
เขาไม่พูด กนกอรเองก็ไม่พูด
จนกระทั่งเธอรู้ว่านี่ไม่ใช่ทางกลับร้าน และก็ไม่ใช่ทางไปบ้านเธอ กนกอรจึงจะถามเขาว่า “แบตบอส นายจะพาฉันไปไหน?”
นฤเบศวร์ไม่สนใจเธอ
“ฉันจะลงรถ!”
ไม่มีใครสนใจเธอ
“นฤเบศวร์ ฉันจะลงรถ!”
“ทำไม กลัวแล้วเหรอ? ขนาดโฮสต์คลับยังกล้าไป ยังกลัวไปกับฉันอีกเหรอ? ฉันไม่สะอาดกว่าพวกหน้าอ่อนในนั้นหรือไง?”
กนกอรสบตากับเขา
แววตาของนฤเบศวร์มีไฟโทสะมีแผดเผา กนกอรรู้สึกว่าเขาอยากจะเผาเธอให้มอดไหม้
“นฤเบศวร์”
กนกอรขยับเข้ามา วางมือข้างหนึ่งไว้บนไหล่เขา อีกทั้งยังยื่นตัวเข้ามาใกล้ แล้วจงใจเอ่ยว่า “ท่าทางนายในตอนนี้เหมือนกำลังหึงมากๆ นายกำลังหึงอยู่เหรอ?”
นฤเบศวร์จับมือข้างนั้นของเธอแล้วสะบัดออก ก่อนจะพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “แม้เราสองคนจะแต่งงานกันลับๆ แต่เธอเป็นภรรยาของฉันแล้ว เธอไปที่แบบนั้น ก็คือทำให้ฉันขายหน้า!”
“นายไปได้แต่ฉันไปไม่ได้?”
“ฉันเป็นผู้ชาย!”
นฤเบศวร์ตวาดเสียงต่ำ
กนกอรยิ้มเหอะๆ เอ่ยว่า “ใครจะรู้ล่ะว่านายกินได้ทั้งผู้ชายผู้หญิงหรือเปล่า”
นฤเบศวร์โกรธจนเส้นเลือดบนหน้าผากปูดออกมา
ถูกกนกอรยั่วโมโหล้วน ๆ
เขาจ้องเธอเขม็งด้วยสีหน้าถมึงทึง
กนกอรเชิดหน้ายืดอก ท่าทางเหิมเกริมไม่เกรงกลัวเลยสักนิด
เนิ่นนาน นฤเบศวร์ก็หันศีรษะไปมองทิวทัศน์นอกหน้าต่าง