คุณสามีพันล้าน - บทที่ 309 ตระกูลธวัชพลังกร
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 309 ตระกูลธวัชพลังกร
เมื่อประยสย์ออกไปจากคฤหาสน์ของตระกูลสาระทาแล้ว ได้พาบอดี้การ์ดทีมหนึ่งไปที่ตระกูลธวัชพลังกรด้วย
ตอนที่ญาณินยังเป็นเด็กอยู่นั้นตระกูลธวัชพลังกรถือว่าร่ำรวยมาก
แต่หลังจากที่ญาณินแต่งงานออกไปได้สามเดือน พ่อแม่ของญาณินได้พาลูกชายสองคนและลูกสะใภ้อีกหนึ่งคน ไปเที่ยวที่ต่างประเทศ ปรากฏว่าเกิดอุบัติเหตุทางอากาศ ทำให้ตระกูลธวัชพลังกรเหลือญาณินที่แต่งงานไปแล้วแค่คนเดียว และลูกสะใภ้คนโตของตระกูลธวัชพลังกรอีกคน
ตอนนั้นคุณนายใหญ่กำลังตั้งครรภ์อยู่ กลับไปเลี้ยงครรภ์ที่บ้านแม่ จึงไม่ได้ไปเที่ยวกับพ่อแม่สามีด้วย จึงหลบภัยพิบัติครั้งนั้นไปได้
เมื่อต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทำให้คุณนายใหญ่กับญาณินน้องสาวสามีคนนี้สภาพจิตใจย่ำแย่เกือบพังทลาย
ดีที่ครอบครัวฝั่งแม่ของคุณนายใหญ่ซัพพอร์ตดี ถึงทำให้คุณนายใหญ่แข็งแกร่งขึ้นมาได้
หลังจากนั้นห้าเดือนต่อมา เธอได้คลอดทายาทของสามีออกมาชื่อธนัท คุณหญิงใหญ่พยายามประคับประคองธุรกิจของฝั่งสามีไว้อย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากความสามารถของเธอมีขีดจำกัด หลังจากที่เธอรับช่วงทำธุรกิจของตระกูลธวัชพลังกรต่อ ตระกูลธวัชพลังกรก็ไม่กลับไปร่ำรวยเหมือนแต่ก่อนอีก
จากนั้นตามมาด้วยลูกสาวของญาณิน เนตรดาวถูกศัตรูหัวใจขโมยลูกไป ทำให้ญาณินรู้สึกผิด ความทรมานในการคิดถึงลูกทรมานจนทำให้เธอเสียสติไป หลังจากนั้นธุรกิจของตระกูลธวัชพลังกรก็ยิ่งอยู่ยิ่งแย่
หลายคนคิดว่าคราวนี้ตระกูลธวัชพลังกรน่าจะพังพินาศแน่ๆ
โดยเฉพาะช่วงเวลาสองสามปีแรกที่ลูกสาวของไซม่อนถูกวรันธรอุ้มตัวไป เขาวุ่นวายกับการตามหาลูกสาว จึงได้มอบหมายบริษัทให้น้องชายสองคนดูแล ตอนที่ชลกับพี่รองได้รับอำนาจมานั้น ได้พยายามช่วยเหลือครอบครัวของพ่อตาของพวกเขาอย่างเต็มที่
ธุรกิจที่ทำกับตระกูลธวัชพลังกร บ้างก็ถูกระงับกะทันหัน บ้างก็ออเดอร์ลดลงเยอะมาก ทำให้บริษัทแอมที กรุ๊ปยิ่งขยับเขยื้อนพัฒนาได้ยากยิ่งขึ้น
จนกระทั่งไซม่อนหมดหวังที่จะหาลูกสาวเจออีก เขาจึงได้กลับมาให้ความสนใจบริษัทอีกครั้ง และได้ยึดอำนาจคืนกลับมา ซึ่งตอนนั้น ธุรกิจระหว่างบริษัทโอเอ กรุ๊ปกับบริษัทแอมที กรุ๊ปได้ถูกชลสองพี่น้องระงับไปหมดแล้ว
ไซม่อนโกรธมาก ด่าน้องชายไปหนึ่งฉากไม่พอ แถมไล่ทุกคนที่น้องชายจัดวางให้เข้ามาทำงานในบริษัทโอเอ กรุ๊ปออกไปให้หมด แถมปรับตำแหน่งของน้องชายทั้งสองคนถึงขึ้นต่ำสุด (ต่อมาพ่อแม่ของคุณไซม่อนเข้ามาไกล่เกลี่ย น้องชายทั้งสองถึงได้ฟื้นคืนตำแหน่งเดิม)จากนั้นถึงได้ทำธุรกิจร่วมกับบริษัทแอมที กรุ๊ปอีกครั้ง
แอมที กรุ๊ปถึงประคับประคองมาถึงทุกวันนี้ได้
เพียงแต่ว่าคุณนายใหญ่ของตระกูลธวัชพลังกรอยู่ไม่ถึงธนัทบรรลุนิติภาวะ ตอนธนัทอายุได้สิบสี่ปีนั้น คุณนายใหญ่ของตระกูลธวัชพลังกรก็ทนไม่ไหว ด่วนจากตามสามีไปก่อน ถึงตอนนี้ ตระกูลธวัชพลังกรเหลือแค่ธนัทกับญาณินที่เสียสติแล้ว
ตอนธนัทอายุได้สิบสี่ปี ก็รับช่วงดูแลธุรกิจของบริษัทแอมที กรุ๊ปต่อ เขาเป็นแค่เด็กนักเรียนมัธยมต้น จะรู้จักวิธีทำธุรกิจได้ยังไง?
ถ้าไม่ใช่เพราะไซม่อนจ้างผู้จัดการด้านชำนาญการช่วยเขาดูแลบริษัททั้งเรื่องใหญ่และเรื่องเล็ก และเวลาที่ไซม่อนว่าง ก็จะเรียกให้ธนัทมาหา เพื่อให้เขาฝึกทำธุรกิจกับประยสย์พร้อมกัน
อย่ามองว่าความสัมพันธ์ระหว่างไซม่อนกับลูกจะไม่ดี
อะไรที่ควรสอน เขาสอนลูกชายหมด
ใช้คำพูดของประยสย์ พ่อทำผิดต่อแม่ และไม่ได้รักเขาที่เป็นลูกมาก แต่สำหรับการอบรมสั่งสอน พ่อเป็นคนสอนเองกับมือทุกอย่าง ไม่เคยให้คนอื่นมายุ่งเลย เพราะกลัวคนอื่นจะฆ่าเขา
ในสายตาของคนเมืองซูเพร่า ตระกูลธวัชพลังกรถ้าไม่มีลุงเขยคนนี้ คงจะล้มละลายไปตั้งนานแล้ว
ดังนั้น จึงไม่มีใครเห็นตระกูลธวัชพลังกรอยู่ในสายตา
ความสัมพันธ์ของประยสย์กับลูกพี่ลูกน้องคนนี้ดีมากเป็นพิเศษ
หลังจากมาถึงตระกูลธวัชพลังกร เขาไม่ต้องรอให้คนใช้ออกมาเปิดประตู ตัวเขาเองก็สามารถใช้กุญแจเปิดประตูบ้าน แล้วขับรถเข้าไปข้างในเองได้
เมื่อเขาจอดรถเสร็จ ธนัทก็เดินออกมาจากข้างในบ้าน
“พี่ ทำไมพี่ถึงออกมา?เพิ่งออกมาจากโรงพยาบาล ก็ควรพักผ่อนอยู่ในบ้าน ผมมีกุญแจบ้าน เปิดประตูเข้ามาเองได้”
หลังจากที่ประยสย์ลงมาจากรถ ได้เดินเข้าไปหาธนัท
“หลังจากที่รู้ว่าหาวิกาเจอแล้ว พี่อยากบินไปดู แต่น่าเสียดายพี่เพิ่งผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบเสร็จ จึงไปไม่ได้ อีกอย่างตอนที่ลุงเขยพาคนทั้งบ้านไปนั้น ก็รีบร้อนเกินไป ตอนพี่ได้รับข่าว ฟ้าก็สว่างแล้ว”
ธนัทรู้สึกผิดต่อคุณป้าและน้องชายกับน้องสาวมาก
จนถึงวันนี้ เขายังไม่เคยเห็นหน้าลูกพี่ลูกน้องคนนี้เลย
“ร่างกายของพี่สำคัญกว่า ผมบอกสถานการณ์ของพี่ให้วิกาฟังแล้ว วิกาเป็นผู้หญิงที่มีจิตใจดี เขาไม่ถือสาเรื่องพวกนี้กับพี่หรอก”
ประยสย์จะพยุงธนัทเข้าไปในบ้าน แต่ถูกธนัทปฏิเสธ
“ทะเลาะกับพ่อนายมาอีกแล้วใช่ไหม?”
ธนัทเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างประยสย์กับพ่อของเขาดี เวลาเจอหน้ากัน ก็ชอบทะเลาะกัน
คนของตระกูลสาระทากลับมาจากเมืองแอคเซสซ์ วันนี้ แต่ประยสย์กลับมาที่นี่ ไม่ต้องถามก็รู้แล้วว่าสองพ่อลูกต้องทะเลาะกันอีก “พี่ได้ยินมาว่าผู้หญิงชื่อพลอยคนนั้นรออยู่ที่บ้านนาย เธอคิดว่าตระกูลสาระทาเป็นบ้านของเธอไปแล้วใช่ไหม”
“นางแพศยาคนนั้น เอ่ยถึงเธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมาทันที เธอทำตัวเหมือนคุณนายของตระกูลสาระทา เห็นเธอจู๋จี๋กับไอ้แก่บ้านผม อาหารเช้าที่ผมกินเข้าไปเมื่อวันเกือบอ้วกออกมา ทุเรศจริงๆ”
ในขณะที่สองพี่น้องเข้าไปในบ้าน ประยสย์ด่าพลอยออกมาตลอดทาง
“ป้าของพี่เป็นยังไงบ้าง?”
ธนัทถามออกมาอย่างเป็นห่วง “ถ้าคุณป้าหายดี……คุณป้าอาจไม่อยากคืนดีกับลุงเขยก็ได้”
หลายปีมานี้ เรื่องของลุงเขยกับพลอย เป็นเหมือนเข็มทิ่งแทงใจของพวกเขาอยู่
“เมื่อหาวิกาเจอ และมีวิกาอยู่เป็นเพื่อน แม่ผมก็หายดีแล้ว ตอนนี้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ใบหน้าก็มีน้ำมีนวลขึ้น ไม่เหมือนเมื่อก่อนซีดขาวจนน่ากลัว กินข้าวได้เยอะขึ้น ตอนที่ผมกลับมา วิกาและสามีพาเธอไปเที่ยวอีกด้วย”
“แม่ผมจะหย่า”
ธนัทเงียบไปสักพัก แล้วพูดออกมาว่า: “หลายปีมานี้ เรื่องของลุงเขยกับพลอย พี่รู้เรื่องหมด ถ้าในฐานะตัวแทนของครอบครัวฝ่ายหญิง พี่ซัพพอร์ตคุณป้า บอกกับคุณป้าด้วย ประตูบ้านของตระกูลธวัชพลังกรยินดีต้อนรับเธอเสมอ ไม่ต้องกลัวว่าหลังจากหย่าแล้วจะไม่มีที่ไป”
“แม่ผมยังมีผมกับวิกาอยู่”
ดวงตาของธนัทเต็มไปด้วยความอุ่นใจ: “ใช่สิ คุณป้ายังมีนายกับวิกา พวกเราต่างเป็นกองกำลังที่สนับสนุนคุณป้าอยู่เบื้องหลังทั้งนั้น”
“พี่ ผมยังไม่ได้กินข้าวเลย มีของกินไหม?”
“พี่ก็ยังไม่ได้กินเหมือนกัน รอนายกลับมากินพร้อมกันนี่แหละ”
ประยสย์ดึงพี่ชายให้ลุกขึ้น สองพี่น้องเข้าไปในห้องครัว และเขาก็ด่าพี่ชายออกมาว่า: “พี่เพิ่งผ่าตัดเสร็จได้ไม่นาน เป็นช่วงที่ต้องบำรุงร่างกาย รอผมทำไม ถ้าหากผมไม่มาที่นี่หล่ะ?”
“พลอยอยู่บ้านแก แม้แต่ฉันยังไม่อยากไปเลย ยังไงนายก็ต้องมาที่นี่แน่นอน”
……
คืนนั้นสี่ทุ่มกว่า พลอยกลับถึงบ้าน
เมื่อกลับไปถึงบ้านเห็นพ่อนั่งอยู่ที่ห้องรับแขก มองเธอเดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่ผิดหวัง
“คุณพ่อ”
พลอยรู้ว่าพ่อเธอผิดหวังอะไร เธอเองก็ผิดหวังเหมือนกัน
เธอเดินมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วนั่งลงข้างๆ พ่อ จากนั้นควงแขนพ่ออย่างออดอ้อน แล้วพูดขึ้นว่า: “คุณพ่อ อย่าโกรธเลย โกรธจะแก่ได้ง่ายนะคะ หนูไม่อยากให้คุณพ่อที่หล่อเหลาของหนูต้องกลายเป็นคนแก่”
คุณพสธรผลักเธอออก “พ่อกำลังคิดว่า ดึกขนาดนี้แล้ว ลูกคงไม่กลับมาแล้ว ปรากฏว่า……”
“ไซม่อนงานยุ่งมาก ตอนเย็นไม่มีเวลาให้ลูกเลย หนูรอเขาจนถึงตอนนี้ เขาถึงโทรศัพท์มาให้หนู บอกว่ากำลังอยู่กับลูกค้าคนสำคัญอยู่ คงไม่ได้กลับบ้านง่ายๆ แน่ ให้หนูกลับบ้านก่อน ไม่ต้องรอเขาแล้ว หนูก็เลยต้องกลับมาก่อน”
“นั่นก็แสดงว่า ลูกอยู่ตระกูลสาระทาเสียเวลาเตรียมงาน ได้กินข้าวกับไซม่อนแค่มื้อเดียวอย่างนั้นเหรอ?”
พลอยหน้างอ “พ่อ หนูเสียใจมากพอแล้ว พ่อยังมาอารมณ์เสียใส่หนูอีกเหรอคะ?”
คุณพสธร: “……”
“ไซม่อนเองก็รู้สึกทำผิดต่อหนู เขายังพูดเลย ว่าในอนาคตถ้าพ่อเจออุปสรรคอะไรให้หาเขาได้ ถ้าเขาช่วยได้เขาจะช่วยเต็มที่ ส่วนเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เห็นแก่หน้าหนูเขาก็จะช่วยพวกเราเต็มที่”
เมื่อได้ยินแบบนั้น สายตาของคุณพสธรใสขึ้นมาทันที