คุณสามีพันล้าน - บทที่ 319 กลายเป็นคนที่ถูกรัก
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 319 กลายเป็นคนที่ถูกรัก
พลอยคิดว่าเมื่อเธอได้ธูปเสน่ห์แล้ว ก็สามารถหลับนอนกับไซม่อนได้ทันที
ใครจะไปรู้ เธอไปรอที่บ้านตระกูลสาระทาทั้งวันไซม่อนก็ไม่ได้กลับบ้าน เพราะว่าไซม่อนไปทำงานต่างจังหวัด เหลือประยสย์อยู่เมืองซูเพร่าเฝ้าบริษัทโอเอ กรุ๊ปไว้
เธอโมโหมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
ไซม่อนที่เป็นหัวหน้าครอบครัว งานยุ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว
ตอนค่ำ
หลังเลิกงาน เทวิกาที่เป็นพนักงานไม่ต้องทำโอที เธอส่งข้อความให้สามี แจ้งสามีว่า เธอจะไปดูร้านกาแฟก่อน
เพิ่งส่งข้อความเสร็จ ก็ได้รับโทรศัพท์ของยศพัฒน์โทรมาพอด
เธอรีบหันไปมองหน้าหลังซ้ายขวา จนแน่ใจว่ารอบกายไม่มีคนแอบฟังเธอจึงรับโทรศัพท์ขึ้นมา อย่างไว้วางใจ
“ที่รัก”
เมื่อก่อน เธอคุ้นชินกับสรรพนามเรียกยศพัฒน์ แต่เวลานี้เพื่อไม่ให้คนอื่นสงสัย เธอเอ่ยปากเรียกสามีออกมาอย่างเสียงหวาน เสียงหวานจนทำให้ยศพัฒน์ที่อยู่อีกฝั่งของโทรศัพท์มุมปากของเขายกสูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว
“ที่รัก ไม่กินข้าวด้วยกันเหรอ?”
“ไม่แล้ว ฉันสั่งอาหารส่งไปที่ร้านแล้ว เดี๋ยวฉันจะไปช่วยงานที่ร้านก่อน”
และเป็นเพราะห่วงสถานการณ์ของเพื่อนสนิทอีกด้วย
ไม่รู้ว่ากนกอรกับนฤเบศวร์ทะเลาะกันไปถึงไหนแล้ว
ยศพัฒน์พูดไม่ออก
“ที่รัก พรุ่งนี้ พรุ่งนี้ฉันกินข้าวกับคุณแน่นอน อย่าโกรธเลยนะ”
ฟังคำพูดที่เธอปลอบใจเขา ยศพัฒน์อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาแล้วพูดขึ้นว่า: “ผมไม่ได้โกรธ สามีคุณใจกว้างจนเรือจอดได้ ไม่ใช้คนขี้เหนียวแบบนั้น ได้ คืนนี้แล้วกันไป วันมะรืน คุณต้องไปงานเลี้ยงกับผม สิ่งที่คุณต้องเรียนรู้ไม่เพียงแต่เรียนรู้ระบบกลไกของบริษัท แต่ต้องรู้จักเข้าสังคมด้วย”
สังคมของเทวิกาตอนนี้แคบเกินไป
“ได้ ที่รัก คุณรีบไปกินข้าวก่อน อย่าปล่อยให้ตัวเองหิวหล่ะ”
“คิดถึงผมไหม?”
น้ำเสียงของยศพัฒน์ทุ้มต่ำมาก ฟังแล้วเข้าหูมาก เดิมทีเทวิกาไม่ใช่ผู้หลงใหลในน้ำเสียง แต่หลังจากได้รู้จักยศพัฒน์แล้ว เธอค้นพบว่าตัวเองเป็นคนหลงใหลในน้ำเสียง และน้ำเสียงที่ชอบที่สุดก็คือเสียงของยศพัฒน์
เทวิกาเดินออกมาจากบริษัท แล้วเดินไปข้างถนน พบรถเมล์คันหนึ่งที่วิ่งผ่านสายOne Day In Coffee เธอจึงขึ้นรถไป
“คิดถึง”
ได้ยินว่าเธอคิดถึงเขา ยศพัฒน์ยิ้มออกมา “คืนนี้กลับบ้านแล้ว ทำให้ผมดูหน่อยว่าคุณคิดถึงผมแค่ไหน”
เทวิกาหน้าเล็กขึ้นมาเล็กน้อย
“ฉันขึ้นรถเมล์แล้ว ไม่คุยกับคุณแล้วนะ คุณรีบไปกินข้าวเถอะ”
ยศพัฒน์วางสายลงอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
สองสามีภรรยาเพิ่งคุยโทรศัพท์เสร็จ ประยสย์ก็โทรศัพท์เข้ามาพอดี
เทวิการับโทรศัพท์ขึ้นมา พี่ชายแท้ๆ ก็ถามออกมาว่า: “วิกา เมื่อกี้เธอคุยโทรศัพท์กับใครเหรอ?พี่โทรไปหลายครั้งก็อยู่ในระหว่างคุยโทรศัพท์อยู่”
“เมื่อกี้คุยโทรศัพท์กับยศพัฒน์อยู่ ทำไมเหรอ พี่?พี่กับพ่อไม่มีอะไรกันใช่ไหม?”
“พวกเราสามารถมีอะไรได้ สบายดี เธอไม่ต้องเป็นห่วง ทำงานวันแรก รู้สึกเป็นยังไงบ้าง?พี่อดทนทั้งวัน เพราะกลัวรบกวนการทำงานของเธอ อดทนจนถึงตอนนี้ถึงโทรศัพท์หาเธอ ความจริงแล้ว เธอไม่ต้องเข้าไปทำงานในบริษัทบี.เอ.เอ็ม.กรุ๊ป ก็ได้ หลังจากกลับมา พี่ค่อยสอนงานเธอเองก็ได้”
“วิกา เธออย่าปล่อยให้ตัวเองเหนื่อยมากเกินไป และอย่าทำงานหนัก ถ้าเรียนรู้ไม่ได้จริงๆ เมื่อถึงเวลาเดี๋ยวพี่ช่วยหาผู้จัดการมืออาชีพมาช่วยเธอดูแลธุรกิจเอง เธอเคยรับผิดชอบเก็บเงินก็พอ”
พูดไปพูดว่า ประยสย์ก็ยังคงเป็นห่วงน้องสาวที่กว่าจะตามหาเจอ กลัวเธอเหนื่อยมากเกินไป
“พี่ หนูจัดการรับมือมันได้ ชีวิตแบบนี้มีสีสันเติมเต็มและสมบูรณ์ขึ้น หนูชอบ”
ก่อนเลิกงานชเนนทร์ก็ได้โทรศัพท์หาเธอ ถามเธอว่าเคยชินกับการทำงานไหม
ความเป็นห่วงที่มาจากพี่ชาย ทำให้เทวิการู้สึกว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าพี่ชายเธอเหมือนไม่เคยโตเลย
ประยสย์รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยแล้วพูดขึ้นว่า: “เธอยังชอบมันอีกเหรอ พี่ยังคิดอยู่เลยว่าถ้าเธอรู้สึกเหนื่อย ไม่อยากทำงาน ก็ไม่ทำละ พี่สามารถเลี้ยงเธอได้”
ฟังออกมาพี่ชายรู้สึกผิดหวัง ทำให้เทวิกาไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
ที่แท้ความห่วงใยของพี่คือต้องการให้เธอปรับตัวไม่ได้ เพราะถ้าเป็นแบบนั้น พวกเขาก็สามารถดูแลเธอรักเธอเหมือนไข่มุกได้
รู้สึก เธอกลายเป็นคนที่ถูกรัก
แน่นอน เธอชอบเป็นคนที่ถูกรัก เพราะรู้สึกมีความสุขมาก!
“พี่ หนูสามารถเลี้ยงตัวเองได้”
“อีกสองปีตอนที่เธอกับยศพัฒน์แต่งงานกัน พี่จะให้สินสมรสเธอ รับรองได้ว่าปั้นปลายชีวิตไม่ขาดเหลืออะไรแน่นอน เธอนั่งรถเมล์ไปทำงานสินะ?พี่ได้ยินเสียงประกาศแจ้งว่าถึงสถานีแล้ว พี่ไม่รบกวนเธอละ มีเรื่องอะไรเธอต้องโทรหาพี่ทันที พี่เป็นที่พึ่งของเธอตลอด”
บริษัทบี.เอ.เอ็ม.กรุ๊ปห่างจากOne Day In Coffeeไม่ไกลมากนัก นั่งรถเมล์ ไม่กี่นาทีของถึง
เมื่อพนักงานสาวเห็นเทวิกามา รีบยิ้มเดินไปต้อนรับ: “ยินดีต้อนรับค่ะ ที่นี่ยังมีที่นั่งอยู่ เชิญนั่งค่ะ”
เธอจำเทวิกาไม่ได้
เทวิกาหันมองรอบๆร้าน ยังมีลูกค้าอยู่อีกเยอะ
กนกอรถือถาดใส่ขนมออกมาจากห้องครัว เมื่อเห็นเทวิกา เธอยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า: “บ้านเช่าของเธอยังไม่ได้คืนสินะ?รีบไปเปลี่ยนหน้าเลย ดูสิ สาวน้อยถูกเธอหลอกละ”
พนักงานสาว:……
“แต่หลอกเธอไม่ได้”
เทวิกายิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี ไม่เสียแรงที่เป็นเพื่อนสนิทกัน
กนกอรหัวเราะฮิๆ พวกเธอสองคนเคยทำผิดร่วมกันมา ถึงแม้ใบหน้าจะไม่เหมือนเดิม แต่รูปร่างที่คุณเคยให้เธอรู้สึกว่า เธอคือเทวิกา
ใช้เวลาไปสิบกว่านาที เทวิกาถึงเปลี่ยนหน้าสำเร็จ และกลับมาที่ร้านอีกครั้ง
วุ่นวายไปสักพัก ลูกค้าในร้านค่อยๆ ทยอยเดินออกไป พวกเธอถึงได้มีเวลาว่างพักผ่อน
และอาหารที่สั่งก็ส่งมาถึงพอดี
เปรมาเดินตามหลังพนักงานส่งของเข้ามา
เมื่อเห็นเธอ รอยยิ้มของเทวิกาและคนอื่นๆ หุบลงทันที
“กนกอร พวกเราคุยกันหน่อยได้ไหม?”
สิ่งที่ทำให้ทุกคนแปลกใจคือ เปรมาไม่ได้มาหาเทวิกา เธอหากนกอร
กนกอรพูดเสียงเย็นชาออกมาว่า: “ฉันกับคุณเปรมาไม่ได้สนิทกัน ไม่มีอะไรน่าคุย”
“นฤเบศวร์ พวกเราคุยเรื่องนฤเบศวร์กันหน่อย”
กนกอรเงยหน้าขึ้นมองเธอสักครู่ เปรมายังคงแต่งหน้าสวยงามเหมือนเดิม แต่ว่าสภาพจิตใจไม่ค่อยดี ถึงแม้จะแต่งหน้า แต่ดูแล้วทรุดโทรมขึ้นมาก ไม่มีความหยิ่งยโสโอหังเหมือนที่เจอกันครั้งแรก
“ฉันกับนฤเบศวร์เป็นสามีภรรยากันในนามเท่านั้น เดิมทีที่พวกเราจดทะเบียนสมรสแต่งงานกัน สาเหตุคือ เชื่อว่าเขาได้บอกคุณตั้งแต่แรกแล้ว คุณเปรมา ถ้าคุณอยากคืนดีกับคุณนฤเบศวร์ ก็พยายามไปหาเขา อย่ามารบกวนฉัน”
สีหน้าของเปรมาย่ำแย่อับอายมาก
เธออยากคืนดีกับนฤเบศวร์
แต่ว่าตอนที่นฤเบศวร์รักเธออยู่นั้น ได้ตามใจเธอมากตามใจมากจริงๆ ไม่ว่าเธอทำผิดอะไร เขาก็จะยกโทษให้เธอ อภัยให้เธอ ช่วยเธอจัดการปัญหา ไม่เคยบ่นไม่เคยเสียใจเลย
เธอนี้บอกว่าตัดใจจากเธอแล้ว และได้ตัดใจจากเธอจริงๆ ไร้เยื่อใยไร้ความปรานี ไม่ว่าเธอจะร้องไห้งอแงยังไง เขาก็ไม่ยอมคืนดีด้วยเลย
ตั้งแต่เล็กจนโต เปรมารู้สึกว่าเธอไม่เคยเข้าใจนฤเบศวร์เลย ความโหดเหี้ยมของเขาไม่แพ้ยศพัฒน์เลย
“กนกอร ฉันไม่ใช้เวลาของเธอเยอะหรอก”
กนกอรจ้องมองเธอนานมาก คิดในใจว่าตอนนี้เธอกับนฤเบศวร์พัวพันกันไม่ชัดเจน บอสอันธพาลคนนั้นเป็นตายร้ายดีไม่ยอมรับพวกเธอแต่งงานกันตามสัญญา โดยบอกว่าตอนที่พวกเธอจดทะเบียนสมรสกันนั้น เต็มใจกันทั้งสองฝ่าย
เขาคืออันธพาลชัดๆ !
อันธพาล!
“ได้ ฉันให้เวลาคุณครึ่งชั่วโมง คุยกันตรงนี้เลย”
กนกอรหยิบอาหารของเธอที่สั่งมา แล้วเดินไปหาที่นั่งที่มุมร้านแล้วนั่งลง ถือว่าให้เกียรติเปรมามากแล้ว
เปรมาเงียบไปสักพัก ในที่สุดก็ยอมรับและเดินไปที่มุมร้าน นั่งลงตรงข้ามกนกอร