คุณสามีพันล้าน - บทที่ 323 เธอเป็นนักเขียนที่ดีมาโดยตลอด
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 323 เธอเป็นนักเขียนที่ดีมาโดยตลอด
เงินแค่ 5 ล้านก็ขายเขาเสียแล้ว น่าโมโหจริง ๆ”
เธอร้อนเงินขนาดนั้นเลย?
เขาให้เงินเธอสามแสนต่อเดือน และยังให้เพิ่มอีกวันละสองพัน แม้จะบอกว่าเป็นค่าจ้างสำหรับการดูแลแบล็กการ์ดของเขา ใคร ๆ ก็รู้ว่ามันเป็นแค่ข้ออ้าง เงินสองพันนั้นเป็นค่าใช้จ่ายประจำวันของเธอ
ถ้าเงินไม่พอ แบล็กการ์ดของเขาก็อยู่ในมือเธอ รหัสก็บอกเธอไปแล้ว ให้เธอรูดได้ตามต้องการเลย
ทว่า ตั้งแต่แบล็กการ์ดอยู่ในมือเธอจนถึงตอนนี้ เธอไม่เคยรูดเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ผู้หญิงที่โลภ แต่ก็ทำออกมาเหมือนคนโลภเลย
เธอยังเขียนข้อตกลงการหย่าร้าง เซ็นชื่อ กดพิมพ์ลายนิ้วมือ และให้เปรมาเอาข้อตกลงการหย่าร้างไปหาเขา!
อย่าให้เขาเจอตัวเธอนะ
ถ้าเจอตัวเธอ เขาจะสั่งสอนให้เธอหลาบจำ เอาให้จำไปตลอดชีวิตเลย
ขายเขาด้วยราคาถูกขนาดนี้ อย่างน้อยก็ต้องขายด้วยราคาหลักร้อยล้านสิ เพราะทรัพย์สินส่วนตัวของเขาก็มีมูลค่าหลายพันล้านแล้ว
เอ่อ?
ไม่ได้สิ เขาเป็นสมบัติล้ำค่าที่ประเมินเป็นราคาไม่ได้ เธอขายเขาไม่ได้!
ต้องเห็นเขาเป็นสมบัติล้ำค่า และควรค่าแก่การรักษาไว้ เขาสามารถหาเงินมาให้เธอได้มากกว่าห้าล้านอย่างแน่นอน
ยัยผู้หญิงซื่อบื้อนี้ คิดบัญชีไม่เป็น!
เสียเปรียบและสูญเสียครั้งใหญ่จริง ๆ!
ยังเปิดร้านเป็นของตัวเองด้วย คิดบัญชีไม่เป็นแบบนี้ เสียเปรียบและขาดทุนอย่างแน่นอน
นฤเบศวร์กำลังตำหนิกนกอรในใจว่าทำอะไรไม่รู้จักคิด และขายเขาในราคาถูก ในขณะเดียวกัน เขาก็ตามหากนกอรทุกซอกทุกมุมในOne Day In Coffee เขาค้นแม้กระทั่งในห้องน้ำ หาทุกตารางนิ้วของร้านแล้วก็ยังไม่เจอตัวกนกอร
เขาให้บอดี้การ์ดมาช่วยหาอีกแรง
คนหลายคนช่วยกันหาจนแทบจะพลิกOne Day In Coffee ก็ไม่เจอแม้แต่เงาของกนกอร
นฤเบศวร์กลับไปที่หน้าเคาน์เตอร์แคชเชียร์อีกครั้ง ยกมือขึ้นสูง คิดจะตบลงบนเคาน์เตอร์ แต่เมื่อนึกได้ว่าเทวิกาอาจจะฟ้องศัตรูตัวฉกาจของเขา ตอนที่ฝ่ามือของเขาตบลงบนเคาน์เตอร์แคชเชียร์ ความหนักของแรงนั้นได้ลดลงครึ่งหนึ่งแล้ว เขาตบลงไปโดยไม่รู้สึกเจ็บฝ่ามือเลย
“เทวิกา กนกอรไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหน?”
“อย่างที่ฉันบอก คืนนี้กนกอรหยุด ฉันก็ไม่รู้ว่าเธอไปไหน”
หลังจากที่นฤเบศวร์เงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็ลดเสียงลงและถามอย่างอ้อนวอน “เทวิกา บอกผมหน่อยว่า กนกอรอยู่ที่ไหน?ผมสัญญาว่าจะไม่ใช้อารมณ์กับเธอ”
“คุณเบศวร์ ฉันพูดประโยคนั้นกี่ครั้งแล้ว จากนี้ไป กนกอรจะดูแลร้านในตอนกลางวัน และฉันจะดูแลร้านในตอนกลางคืน หลังหกโมงเย็น กนกอรเป็นอิสระ และเธอจะไปที่ไหนก็ได้ ฉันไม่รู้จริง ๆ”
นฤเบศวร์โกรธมากจนแทบเป็นบ้า เขาชี้ไปที่เทวิกา “เทวิกา เทวิกา……”
“ถ้าคุณยังมาชี้หน้าฉันอีก เชื่อไหมว่า ฉันจะตัดนิ้วของคุณมาให้หมากินเลย!”
เทวิกาไม่ชอบการถูกชี้หน้าที่สุด
ทันใดนั้น นฤเบศวร์ก็หยิบข้อตกลงการหย่าร้างขึ้นมา และพูดกับบอดี้การ์ด “เราไปกันเถอะ!”
หลังจากออกจากร้านกาแฟ ยังคงให้บอดี้การ์ดสองคนเฝ้าอยู่
หลังจากขึ้นรถ เขากดโทรหากนกอรอีกครั้ง แต่โทรศัพท์ยังคงปิดอยู่
ผู้หญิงคนนั้นคงหนีความผิด!
หลังจากที่นฤเบศวร์จากไป เทวิกาก็ลองโทรหากนกอร แต่โทรไม่ติด เธอจึงโทรหาอักษอรแทน
ไม่นาน อักษอรก็รับสาย
“คุณป้าคะ กนกอรกลับถึงบ้านหรือยังคะ?”
“กนกอรกลับมาแล้วเหรอ?ป้ายังไม่เจอเธอเลย วิกามีธุระจะคุยกับเธอใช่ไหม?ทำไมเธอถึงกลับมาล่ะ?ปกติเธอมักจะกลับมาตอนดึก ๆ นี่”
เทวิการีบพูดขึ้นว่า “ไม่มีอะไรค่ะ ช่วงนี้ตอนกลางวันหนูยุ่ง ๆ ไม่สามารถเฝ้าร้านได้ หนูจึงทำข้อตกลงกับกนกอรไว้ว่า ให้เธอดูแลร้านตอนกลางวัน และหนูจะเฝ้าร้านตอนกลางคืน เธอก็เลยกลับบ้านไปค่ะ ช่วงเย็นเป็นช่วงเลิกงาน รถและคนเยอะ หนูเป็นห่วงเธอ ก็เลยโทรไปถามดูค่ะ”
“อ้อ แบบนี้นี่เอง แล้วโทรหาเธอไม่ติดเหรอ?”
“เธอปิดเครื่องค่ะ”
“คงเป็นเพราะเธอเล่นโทรศัพท์จนแบตหมดและไม่ได้ชาร์จ รอให้เธอกลับมาก่อน เดี๋ยวป้าจะสั่งสอนเธอเอง เล่นโทรศัพท์ทั้งวัน แล้วยิ้มเหมือนคนบ้าเลย ถ้าหาแฟนหนุ่มกระตือรือร้นพอ ๆ กับเล่นโทรศัพท์ ตอนนี้ป้าคงได้เป็นยายคนแล้ว”
อักษอรบ่นเกี่ยวกับลูกสาวของเธอ จากนั้นก็ยิ้มและถามเทวิกา “วิกา ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง?แม่ของลูกล่ะ สบายดีไหม?”
“ขอบคุณค่ะคุณป้า แม่ทั้งสองสบายดีค่ะ ช่วงนี้พวกท่านไปพักร้อนค่ะ บอกว่าอีกสักพักถึงจะกลับมา คุณป้าคะ หนูคิดถึงเกี๊ยวและปีกไก่โคคา-โคล่าที่คุณป้าทำมาก ๆ แล้วก็หมูสามชั้นอบเผือกด้วยค่ะ”
อักษอรยิ้มและพูดว่า “ถ้าอยากกินก็มาได้ทุกเมื่อนะ ป้าจะทำเกี๊ยวให้ลูกกินเอง ส่วนสองพี่น้องนั้นเบื่อเกี๊ยวของป้าแล้ว ป้าเสียใจมาก ๆ เลย”
ยังดีที่เทวิกาชอบกิน
และยังพูดถึงมันด้วย
กนกอร:แม่คะ หนึ่งเดือนกินเกี๊ยวไปยี่สิบเก้าวัน จะไม่ให้หนูเบื่อได้ยังไง?
พี่กอล์ฟพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“สุดสัปดาห์นี้ หนูจะไปกินข้าวด้วยนะคะ”
“ยินดีต้อนรับเสมอจ้ะ ชวนคุณพัฒน์มาด้วยสิ พี่ชายของลูกด้วย พี่ชายของลูกก็ชอบกินเหมือนกัน”
อักษอรเคยคิดอยากได้ชเนนทร์มาเป็นลูกเขยของเธอ และเคยคิดอยากได้เทวิกามาเป็นลูกสะใภ้ด้วย แต่น่าเสียดายที่ไม่เป็นไปตามที่หวัง
ชเนนทร์ปฏิบัติต่อกนกอรเหมือนพี่ชายปฏิบัติต่อน้องสาว เธอเคยประสบมา ดังนั้นเธอจึงมองออกได้อย่างชัดเจน
ส่วนลูกชายของเธอ ตอนแรกเหมือนสนใจเทวิกาอยู่ แต่เมื่อพวกเขารู้จักกันนาน ๆ เข้า ความคิดเหล่านั้นก็ถูกพัดหายไปกับสายลม เหลือเพียงความสัมพันธ์แบบพี่น้อง ซึ่งทำให้เธอรู้สึกเสียดายมาก
“ได้ค่ะ”
เทวิกาตอบตกลงอย่างมีความสุข
“แม่คะ คุณปู่คะ หนูกลับมาแล้วค่ะ”
เสียงตะโกนของกนกอรดังเข้ามา และอักษอรก็พูดกับเทวิกาในสายว่า “วิกา กนกอรกลับมาแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นหนูก็หายห่วงแล้วค่ะ คุณป้าคะ คุณป้าไปทำงานต่อเถอะค่ะ ทางนี้ก็มีลูกค้ามา หนูก็ต้องไปทำงานแล้วเหมือนกันค่ะ”
หลังจากวางสาย เทวิกาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ถือว่าเพื่อนรักถึงบ้านอย่างปลอดภัยแล้ว
แค่คืนนี้กนกอรอยู่บ้านทั้งคืน นฤเบศวร์ก็ไม่สามารถทำอะไรกับเธอได้
ส่วนวันพรุ่งนี้ เรื่องของวันพรุ่งนี้ ค่อยว่ากันพรุ่งนี้
หลังจากที่เทวิกาไปทักทายลูกค้า เธอก็กลับไปที่แคชเชียร์ การอัปเดตของเธอในวันนี้ ยังขาดอีกประมาณ 400 คำ
เธอจัดการ 400 คำที่เหลืออย่างรวดเร็ว และตรวจคำผิดอย่างคร่าว ๆ เขาเข้าสู่ระบบหลังบ้านของผู้เขียน และอัปโหลดสองบทที่เขียนลงในระบบหลังบ้าน รอให้ระบบตรวจสอบ
ทว่า ระบบการตรวจสอบได้ส่งบทหนึ่งกลับมาให้เธออย่างรวดเร็ว เนื่องจากติดเรท
เทวิกา:……
งานเขียนของเธอใสบริสุทธิ์จนไม่สามารถใสไปกว่านี้ได้แล้ว แต่กลับบอกว่าติดเรท
เมื่อเห็นคำที่มีเครื่องหมายสีแดง เทวิกาก็หมดคำจะพูด
ระบบทำเพียงตรวจคำ แต่ไม่สามารถปะติดปะต่อบทความและบริบทต่าง ๆ ได้ บางครั้ง เป็นประโยคธรรมดาทั่วไป แต่เพราะใช้คำที่ละเอียดอ่อนก็จะถูกปฏิเสธและส่งกลับมาแก้ไข
เธอทำได้เพียงแทนที่คำที่มีเครื่องหมายสีแดงด้วยคำที่มีความหมายใกล้เคียงกัน และพึมพำอยู่ในปากของเธอ: “คนอ่านมักจะพูดว่า ฉันเขียนฉากNCของพระนางแค่นิดเดียวโดยไม่มีรายละเอียดใด ๆ แถมยังบอกว่าพวกเขามีอินเทอร์เน็ตเพียงพอที่จะอ่านฉากนั้น ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากเขียน แต่คือฉันเขียนไม่ได้ ถึงฉันกล้าเขียน แต่ระบบตรวจสอบก็ไม่ให้ผ่านอยู่ดี!”