คุณสามีพันล้าน - บทที่ 324 เยี่ยมตระกูลภูสิทธ์อุดม
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 324 เยี่ยมตระกูลภูสิทธ์อุดม
“วิกา”
ชเนนทร์เปิดประตูเข้ามา เห็นน้องสาวของเขานั่งอยู่ตรงแคชเชียร์ เคาะแป้นพิมพ์อยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ เขารู้ว่าน้องสาวของเขากำลังเขียนนิยายของเธออีกแล้ว
“พี่ วันนี้พี่ไม่ทำโอทีเหรอ?”
การมาถึงของพี่ชายของเธอ ทำให้เทวิกาหยุดการเขียนบทความใหม่
เธอลุกขึ้น เดินอ้อมเคาน์เตอร์แคชเชียร์ แล้วตรงไปหาพี่ชายของเธอ
“เดี๋ยวพี่จะไปงานเลี้ยงน่ะ”
ชเนนทร์มองไปรอบ ๆ แล้วถามขึ้น “แล้วกนกอรล่ะ?”
“ฉันมารับช่วงต่อกลางคืนน่ะ เธอกลับบ้านแล้ว พี่มีธุระอะไรกับเธอเหรอ?”
“ตอนแรก พี่อยากจะขอให้เธอช่วยอะไรหน่อย แต่ถ้าเธอไม่อยู่ก็ไม่เป็นไร”
ดวงตาที่สวยงามของเทวิกาเป็นประกาย เธอวางมือบนไหล่ของชเนนทร์เหมือนเพื่อน และถามด้วยรอยยิ้มว่า “พี่ชาย พี่กำลังปิดบังอะไรอยู่ พูดความจริงออกมาเดี๋ยวนี้นะ”
ใบหน้าของชเนนทร์แดงขึ้นมาทันที
“พี่ชาย พี่สะใภ้ในอนาคตของฉันต้องการ การกระตุ้นสักหน่อยใช่ไหม พี่ต้องการให้กนกอรไปเป็นคนควงชั่วคราวของพี่ แล้วควงไปที่งานเลี้ยง เพื่อกระตุ้นพี่สะใภ้ของฉันในอนาคตใช่ไหม”
ชเนนทร์จิ้มหน้าผากของเธอ “วิกา บางครั้ง ฉันก็หวังจริง ๆ ว่าอยากให้เธอโง่กว่านี้หน่อย”
“พี่ชาย พี่อย่าใช้วิธีแย่ ๆ แบบนี้เลย ถ้าไม่เป็นไปตามแผน มันจะย้อนกลับมาทำร้ายเรานะ ทำให้พี่สะใภ้ในอนาคตของฉันเข้าใจผิด ถึงจะมีปากทั้งตัวก็อธิบายได้ไม่หมด นอกจากนี้ พี่ให้กนกอรมาช่วยพี่ คนขี้หึงอย่างนฤเบศวร์ไม่ปล่อยพี่ไว้แน่”
“จะบอกให้ ตอนนี้นฤเบศวร์กำลังเดือดดาลด้วยความโกรธ และต้องการหาใครสักคนเพื่อระบายความโกรธของเขา ดังนั้น โปรดอย่าไปหาเรื่องใส่ตัวเลย”
ชเนนทร์: “……”
“พี่อยากทดสอบว่าพี่สะใภ้ในอนาคตของฉันมีใจให้กับพี่หรือเปล่า ใช่ไหม?อันที่จริง ถ้าอยากทดสอบ ก็ไม่จำเป็นต้องหาคู่ควงไปด้วยนี่”
“มีวิธีอื่นเหรอ?”
เทวิกามองดูพี่ชายของเธอครู่หนึ่ง แล้วถอนหายใจ “คนเรามักจะอยู่กับคนประเภทเดียวกัน พวกพี่ก็เป็นคนประเภทเดียวกันด้วยสิ”
IQ สูง แต่ EQ ต่ำ
“พี่จะไปงานเลี้ยงไม่ใช่เหรอ?ดื่มเยอะ ๆ แล้วให้เมาสักหน่อย แล้วดูว่าเธอสนใจหรือเป็นห่วงพี่ไหม ถ้าเธอสนใจพี่ แสดงว่าเธอก็มีใจให้พี่เหมือนกัน การพิสูจน์แบบนี้ดีกว่าการควงผู้หญิงไม่ใช่เหรอ?ไม่ต้องห่วงว่าพี่สะใภ้จะเข้าใจผิดด้วย”
ชเนนทร์ “……แต่ พี่เห็นว่าเธอปฏิบัติกับผู้ชายทุกคนเหมือนกันหมด ดูเหมือนเธอเห็นพวกพี่เป็นเพื่อนต่างเพศเฉย ๆ และมีผู้หญิงหลายคนก็ชอบเธอเช่นกัน”
เทวิกาเบิกตากว้าง “พี่สะใภ้ของฉันคงไม่ใช่เลสเบี้ยนหรอกนะ?”
“ไม่ เธอไม่ใช่เลสเบี้ยน เป็นเพราะเธอมักจะแต่งตัวด้วยชุดธรรมดาที่ไม่ว่าชายหรือหญิงก็ใส่ได้ และเพราะเธอเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็ง เธอมักจะสุขุม หล่อและเท่เหมือนผู้ชาย ผู้หญิงหลายคนจึงอดไม่ได้ที่จะหลงใหลเธอ พี่เคยเห็นเธอถูกผู้หญิงอื่นเข้ามาพัวพันอยู่หลายครั้ง”
เทวิกาเริ่มสนใจ “พี่ชาย บอกฉันเร็ว ๆ ใครคือพี่สะใภ้ในอนาคตของฉัน อีกสองวัน ฉันก็ต้องไปกับงานเลี้ยงกับพัฒน์ ดูว่าฉันจะได้พบเธอไหม ให้ฉันไปทำความรู้จักกับเธอ ดูว่าจะเอาเธออยู่ไหม”
ใบหน้าของชเนนทร์แทบจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวเมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น
“นี่เธอจะแย่งผู้หญิงกับพี่เหรอ?”
เทวิกา “……ไม่ใช่ ฉันแค่ต้องการไปสานสัมพันธ์แบบพี่สะใภ้กับน้องสะใภ้ล่วงหน้า”
“เชอะ!”
เทวิกาแอบแลบลิ้นให้พี่ชายเธอ เมื่อเจอคนที่ชอบ กับน้องสาวพี่ชายก็ยังหึง
“ยังไม่บอกเธอดีกว่า ถ้าไม่จำเป็นต้องให้กนกอรช่วย งั้นพี่ไปก่อนนะ เธอทำงานต่อเลย”
ชเนนทร์ไม่แม้แต่จะนั่งลง เขามาและจากไปอย่างรวดเร็ว
เทวิกาผู้ซึ่งถูกทิ้งทำให้อยากแล้วจากไป เอาแต่บ่นเกี่ยวกับความไม่จริงใจของพี่ชายเธอในร้าน พูดมาครึ่งทางแล้วหยุดพูดซะงั้น จงใจยั่วความอยากรู้ของเธอชัด ๆ
ผู้หญิงแกร่งที่มักจะแต่งตัวด้วยชุดธรรมดาที่ไม่ว่าชายหรือหญิงก็ใส่ได้ ผูกมิตรกับผู้ชายเสมอ และสามารถเอาชนะใจผู้หญิงได้ คนแบบนี้พัฒน์ต้องรู้จักแน่ ๆ
เทวิกาตัดสินใจว่า คืนนี้หลังจากกลับถึงบ้าน เธอจะเมาท์เรื่องนี้กับสามีของเธอ
ในขณะเดียวกัน ในที่สุดนฤเบศวร์ก็รู้แล้วว่ากนกอรอยู่ที่ไหน
เขาพาบอดี้การ์ดไปที่ตระกูลภูสิทธ์อุดมด้วยความโกรธ
ทว่า เมื่อถึงหน้าบ้านของตระกูลภูสิทธ์อุดม เขาก็ระงับความโกรธลง
หลังจากยืนอยู่ที่หน้าบ้านของตระกูลภูสิทธ์อุดมสักพัก เขาก็หันหลังกลับแล้วเดินออกไป
บอดี้การ์ดติดตามเขาไปอย่างเงียบ ๆ ไม่มีใครกล้าถามคำถามเพิ่มเติม
มีซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามถนนจากซอยบ้านตระกูลภูสิทธ์อุดม นฤเบศวร์พาบอดี้การ์ดของเขาเข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ และเริ่มกวาดซื้อสินค้า
ไม่ว่าจะของกิน เครื่องดื่ม ของใช้ ของแพง ก็ซื้อไปหมด
บอดี้การ์ดทุกคนเข็นรถเข็นคนละคัน เข็นตามหลังเจ้านายวนรอบซุปเปอร์มาร์เก็ตหนึ่งรอบ และรถเข็นทุกคันนั้นเต็มไปด้วยสิ่งของ
จากนั้นก็ตรงไปที่เคาน์เตอร์ชำระเงิน
ในตอนกลางคืน คนเยอะมาก มีผู้คนเข้าออกซูเปอร์มาร์เก็ตมากมาย
เคาน์เตอร์ชำระเงินหลายแห่งเรียงรายไปด้วยผู้ที่ต้องการชำระเงิน
นฤเบศวร์และกลุ่มของเขาเป็นที่สะดุดตามาก พวกเขาสูงและแข็งแรง สวมชุดสูท รองเท้าหนัง และดูดีมีสง่า ตั้งแต่วินาทีที่พวกเขาเข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ต อัตราการหันกลับมามองพวกเขาสูงถึง99%
ตอนนี้ มองดูพวกเขาที่เข็นรถเข็นสินค้ามาจำนวนมาก บนรถเข็นก็เต็มไปด้วยสินค้าหลากหลายชนิด และอัตราการหันกลับมามองพวกเขายิ่งพุ่งสูงขึ้นไปอีก สูงถึง100%เลย
นี่คือการกระทำที่จะกวาดซื้อสินค้าหมดเกลี้ยงจากซูเปอร์มาร์เก็ต
นฤเบศวร์เองก็กำลังเข็นรถเข็นอยู่คันหนึ่ง ทว่า รถเข็นของเขาเต็มไปด้วยตุ๊กตาทุกประเภทที่สาว ๆ ชอบ
ไม่ต้องถามก็รู้ว่าเขาซื้อให้กนกอร
ทันทีที่เข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต ด้านซ้ายมือจะมีห้างทองอยู่
นฤเบศวร์ไม่เห็นมันตอนที่เขาเข้ามา ในตอนที่เขากำลังรอจ่ายเงิน เขาเห็นว่ามันเป็นห้างทอง เขาก็ให้บอดี้การ์ดคนหนึ่งช่วยดูรถเข็นของเขาไว้ จากนั้นเขาก็ไปดูที่ห้างทอง
การเคลื่อนไหวของนฤเบศวร์ทำให้ทุกคนในซูเปอร์มาร์เก็ตตื่นตระหนก เมื่อคนในห้างทองเห็นว่าคนมีฐานะกำลังมา และความกระตือรือร้นของพวกเขานั้น ราวกับนางสนมที่เฝ้าอยู่ในตำหนักอย่างว่างเปล่ามาหนึ่งปี ได้เจอกับจักรพรรดิ
คนในห้างทองหวังว่านฤเบศวร์จะเข็นรถเข็นอีกคันมา และกวาดซื้อเครื่องประดับทั้งหมดในเคาน์เตอร์ของพวกเขา น่าเสียดาย ในการซื้อเครื่องประดับนั้นนฤเบศวร์ระมัดระวังมาก เขาเลือกอย่างพิถีพิถันและเลือกผลิตภัณฑ์ของแท้ทั้งหมด
คนในห้างทองดูก็รู้แล้วว่า เขานั้นเชี่ยวชาญด้านนี้
แม้ว่าใบหน้าของเขาจะยังมีรอยยิ้มอยู่ แต่มันก็เหมือนฝืนเล็กน้อย
นฤเบศวร์หยิบสินค้าของแท้ทั้งหมดในห้างทองออกมา และซื้อทั้งหมดนั้น คนในห้างทองถึงจะยิ้มออกมา
ตอนที่นฤเบศวร์ออกมาจากซูเปอร์มาร์เก็ต บอดี้การ์ดของเขาเหมือนพนักงานยกของเลย มีทั้งพาดบ่า ทั้งถือ อย่างไรก็ตาม ล้วนเป็นถุงเล็กถุงใหญ่ที่ซื้อมาจากซูเปอร์มาร์เก็ต
บอดี้การ์ดทุกคนทำหน้าบูดบึ้ง
นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้านายทำเหมือนพวกเขาเป็นลูกหาบ
นฤเบศวร์พาลูกหาบมุ่งตรงไปยังตระกูลภูสิทธ์อุดมด้วยท่าทางที่ทรงพลัง
ตลอดทางก็ยังคงเป็นจุดสนใจของสายตาผู้คน
เมื่อเห็นว่านฤเบศวร์มุ่งตรงไปที่ตระกูลภูสิทธ์อุดม พวกเพื่อนบ้านของตระกูลภูสิทธ์อุดม ก็เดาสาเหตุได้
ตระกูลภูสิทธ์อุดมมีลูกสาวที่ยังไม่ได้แต่งงาน
เมื่อกลับมาถึงหน้าบ้านของตระกูลภูสิทธ์อุดมอีกครั้ง นฤเบศวร์ก็จัดแจงเสื้อผ้าของเขา และถามบอดี้การ์ดว่า “สภาพของฉันตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?”
บอดี้การ์ดตอบพร้อมกันว่า “คุณชายอยู่ในสภาพดูดีมาก!”
นฤเบศวร์ยังหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมา และเปิดฟังก์ชันกล้องหน้า น่าเสียดายที่ไฟถนนหน้าบ้านของตระกูลภูสิทธ์อุดมไม่สว่างพอ หลังจากเขาส่องดูอยู่นาน เขาก็ยอมแพ้ที่จะดู ยัดโทรศัพท์มือถือลงในกระเป๋ากางเกงของเขา จากนั้นก็ยกมือขึ้นแล้วกดออดบ้านตระกูลภูสิทธ์อุดม
“ใครน่ะ”
นฤเบศวร์ได้ยินเสียงชายที่ไม่คุ้นเคย