คุณสามีพันล้าน - บทที่ 326 แม่ยายออกโรง
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 326 แม่ยายออกโรง
ทุกคนเงยหน้าขึ้นมองกนกอร
กนกอรอยากจะหดตัวกลับไปก็ไม่ทันแล้ว
พ่อของเธอตะโกนด้วยใบหน้าที่มืดมน “กนกอร ลงมาเดี๋ยวนี้!”
คุณพ่อที่ปกติมักจะเรียกเธอลูกสาวหรืออร แต่ตอนนี้เขาเรียกเธอด้วยชื่อและนามสกุลของเธอ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความโกรธของพ่อของเธอกำลังเพิ่มขึ้น
กนกอรค่อย ๆ ลงมาจากบันได
“พ่อ แม่ คุณปู่”
กนกอรเรียกออกมาเบา ๆ ต่อหน้าผู้อาวุโสในบ้านของเธอ
พ่อของเธอยื่นข้อตกลงการหย่าร้างให้กับเธอ และพูดด้วยความโกรธว่า “นี่มันเกิดอะไรขึ้น?บอกพ่อมาว่า ลูกกับคุณเบศวร์จดทะเบียนสมรสตั้งแต่เมื่อไหร่”
“คุณเบศวร์บอกว่า ลูก…… กับเขาล่ะ ต้องรับผิดชอบเขา เขาโกหกหรือลูกโกหก?”
กนกอรถือข้อตกลงการหย่าร้างแล้วอธิบายอย่างระมัดระวัง “พ่อฟังคำอธิบายของหนูก่อนนะคะ เรื่องไม่ใช่อย่างที่พวกท่านคิด และหนูก็ไม่เคยทำอะไรแบบนั้นกับคุณเบศวร์ เขาชอบใส่ร้ายคนอื่น คำพูดเชื่อไม่ได้”
“อันที่จริง คือว่า ตอนที่วิกามีเรื่อง หนูกังวลมาก ก็เลยขอความช่วยเหลือจากคุณเบศวร์ และติดเป็นหนี้บุญคุณคุณเบศวร์อย่างมาก ปู่ของคุณเบศวร์บังคับให้เขาแต่งงาน ดังนั้น เขาจึงขอความช่วยเหลือจากหนู…… จากนั้น ก็อย่างที่เห็น เราแต่งงานกันตามข้อตกลงสัญญา และเราได้ลงนามในข้อตกลงสัญญาด้วย แต่สัญญาถูกแบตบอสฉีกทิ้งแล้ว และตอนนี้หนูก็ไม่สามารถเอาสัญญาออกมาได้”
กนกอรหันไปจ้องนฤเบศวร์ แล้วก่นด่า “นฤเบศวร์ คุณอย่าเกินไป!”
“ถ้าเช่นนั้น พวกลูกได้จดทะเบียนสมรสกันจริง ๆ และจดมาสักพักแล้ว?”
กนกอรพยักหน้า
อักษอรพูดต่อ “ลูกไปจดทะเบียนสมรสได้ยังไง?ลูกไม่เคยขอเล่มทะเบียนบ้านกับแม่เลย ถ้าไม่มีใบรับรอง ลูกทั้งสองจดทะเบียนสมรสได้ยังไง?ทำทะเบียนสมรสปลอม?”
กนกอรถอยหลังไปสองก้าว และพูดด้วยเสียงเบา “หนูใช้โอกาสตอนที่แม่เผลอ แอบเข้าไปขโมยทะเบียนบ้านในห้องแม่ แล้วไปที่สำนักงานกิจการพลเรือนเพื่อดำเนินขั้นตอนการจดทะเบียนสมรส จากนั้นก็เอาทะเบียนบ้านกลับมาไว้ที่เดิม……แม่คะ หนูรู้ว่าหนูทำผิด ใจเย็น ๆ หน่อยนะคะ ไม้ขนไก่มีไว้ทำความสะอาด ไม่ใช่มีไว้หนูตีนะคะ”
เมื่อเห็นแม่ไปหยิบไม้ขนไก่ กนกอรจึงรีบหลบไปอีกด้านหนึ่ง
นฤเบศวร์กระวนกระวายใจ เขารีบลุกขึ้นไปยืนบังอยู่ข้างหน้าเธอ และพูดกับแม่ยายที่กำลังไล่ตีสั่งสอนลูกสาวว่า “คุณแม่ครับ อย่าตีกนกอรเลยครับ ถ้าจะตี มาตีผมเถอะ ผมหนังหนา ไม่กลัวที่จะถูกทุบตีครับ”
อักษอรจะกล้าตีเขาได้อย่างไร
เธอพยายามหลายครั้ง แต่ก็ไม่สามารถตีลูกสาวของเธอได้ และเธอโกรธมากจนชี้ไปที่ลูกสาวของเธอและดุว่า “กนกอรนะกนกอร ปีกกล้าขาแข็งมาก ๆ เลยนะ เรื่องใหญ่ขนาดนี้ แต่กล้าปิดบังพวกเรา แถมยังขโมยทะเบียนบ้านไปจดทะเบียนสมรสอีก!”
“ตอนนี้ก็มาถือสัญญาข้อตกลงการหย่าร้างอีก ทำไม รู้สึกเสียใจเลยอยากหย่าขึ้นมาเหรอ?”
“แม่ครับ ผมจะไม่หย่ากับกนกอรเด็ดขาดครับ!”
อักษอรจ้องไปที่เขาแล้วพูดขึ้นว่า “ฉันไม่ได้ถามคุณ”
การแต่งงานครั้งนี้เกิดขึ้นจากการตอบแทนบุญคุณและการถูกบังคับ ลูกสาวของเธอถูกรังแกนะ
ต้องหย่า!
นฤเบศวร์สะดุ้ง
คืนนี้แม่ยายดุเป็นพิเศษ
ทว่า เขาก็เข้าใจได้
ใครก็ตามที่รู้ว่าลูกสาวของตัวเองแต่งงานกับคนอื่นโดยไม่พูดอะไรสักคำ จะต้องโกรธมากอยู่แล้ว
“แม่คะ ตอนนั้นที่หนูทำไปก็เพื่อช่วยคุณเบศวร์ให้พ้นจากวิกฤติเท่านั้น ตอนนี้ปัญหาของเขาก็หมดแล้ว หนูคิดว่าความสัมพันธ์ตามสัญญาระหว่างเราควรจะจบลงแล้ว นอกจากนี้ ผู้หญิงของเขาก็มาหาหนู และจ่ายเงินห้าล้านให้หนู เพื่อให้หนูไปจากเขา เขากับหนูแต่งงานกันแบบหลอก ๆ ตั้งแต่แรกแล้ว หนูเลยจะหย่ากับเขาแล้วคืนความเป็นอิสระให้เขา”
“กนกอร เรื่องของผมกับเปรมามันจบแล้ว ผมหมดใจกับเธอแล้ว”
กนกอรพูดกับนฤเบศวร์อย่างจริงจัง “นั่นมันเรื่องของคุณ นฤเบศวร์ ฉันได้ตอบแทนหนี้บุญคุณของคุณแล้ว เรามาหย่ากันเถอะ เลิกราและหย่ากันโดยดี ในอนาคตจะได้ไม่ประหม่าต่อกัน ถ้าทำให้มันยุ่งยากและไม่จบด้วยดี ในอนาคตคงต้องทำเหมือนคนแปลกหน้าแล้ว”
“ผมจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด!”
นฤเบศวร์ยังคงยึดมั่นคำเดิมจนถึงที่สุด
กนกอร: “……”
เธอพูดกับแม่ว่า “แม่คะ หนูจะหย่าแน่นอน แต่หลังจากหย่า แม่ต้องรับหนูไว้นะ”
หลังจากสิ้นเสียง อักษอรใช้ไม้ขนไก่ฟาดออกไป
นฤเบศวร์ยื่นมือออกไปปิดกั้นโดยสัญชาตญาณ อักษอรฟาดเข้าที่หลังมือของเขา และมันก็เจ็บไม่ใช่น้อย
“พ่อ ไปเอาไม้มา ถ้าคืนนี้ฉันไม่ได้ตีสั่งสอนเด็กคนนี้ ฉันก็ไม่ใช่แม่ของเธอแล้ว!เห็นเรื่องแต่งงานเป็นเรื่องตลก อยากแต่งก็แต่ง อยากหย่าก็หย่า ฉันจะบ้าตาย!”
พ่อของกนกอรไปเอาไม้มาจริง ๆ
นฤเบศวร์อธิบายอย่างกระวนกระวาย “พ่อครับ แม่ครับ อย่าโทษกนกอรเลย ผมบังคับให้เธอแต่งงานกับผมเอง เพื่อตอบแทนบุญคุณ มันเป็นความผิดของผมทั้งหมด ถ้าพวกคุณอยากจะตีผม ก็ตีผมเลยครับ”
หลังจากที่พ่อของกนกอรเอาไม้มา อักษอรก็คว้ามันไป และบอกสามีของเธอว่า “ดึงลูกเขยของคุณออกไป อย่าให้มาขัดขวางการสั่งสอนลูกของฉัน”
เธอใช้ไม้ชี้ไปที่กนกอร และก่นด่าเสียงดัง ถ้าเธอไม่หย่า ฉันจะตีเธอให้ตายเลย!”
“แม่ แต่หนูหย่าไม่ได้นี่คะ!”
“หย่าไม่ได้ก็คือไม่อยากหย่า คอยดู ฉันจะตีเธอให้ตายเลย”
อักษอรใช้ไม้ฟาดออกไปจริง ๆ
กนกอรที่โดนแม่ตี ตะลึงเล็กน้อย เพราะไม่รู้สึกเจ็บ
แม่ขยิบตาให้เธอ
กนกอรเข้าใจในทันที และร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เมื่อแม่ของเธอตีเธอด้วยไม้อีกครั้งหนึ่ง เธอกรีดร้องและหลบ แถมยังกระโดดและวิ่งเหมือนลิง แต่ไม้ของแม่ก็ตามหลังเธอราวกับเงา
นฤเบศวร์เจ็บปวดหัวใจมาก
เขาทนแทบไม่ไหวที่จะพาบอดี้การ์ดเข้าไปช่วยภรรยาของเขา
“คุกเข่าลง!”
อักษอรตะโกนขึ้นเสียงดัง
กนกอรไม่กล้าวิ่งหนีแล้ว ใบหน้าสวยราวกัลกำลังอมทุกข์ เธอคุกเข่าต่อหน้าแม่ของเธอ
นฤเบศวร์รีบคุกเข่าตามลงไปทันที และพูดกับอักษอรว่า “แม่ครับ มันเป็นความผิดของผมทั้งหมด ผมบังคับให้ กนกอรจดทะเบียนสมรสกับผมเอง ตอนนี้มันเป็นความผิดของผมด้วยที่ผมไม่ต้องการหย่า มันเป็นความผิดของผมทั้งหมด อย่าโทษกนกอรเลยครับ จะด่าจะตีผมก็ได้ครับ แต่อย่าตีเธอเลย”
“คุณเบศวร์ อย่าเอาความผิดทั้งหมดมาไว้ที่คุณเลย ฉันรู้จักลูกสาวของฉันดี เธอคงเห็นว่าคุณหล่อและยังหนุ่มยังแน่น แถมยังรวยด้วย เลยคิดจะจับคุณ”
“ไม่ใช่ครับแม่”
อักษอรไม่ให้โอกาสนฤเบศวร์ได้พูดต่อ เธอก็ต่อว่าลูกสาวของเธอต่อเสียงดัง “ตอนนี้ยังไม่อยากหย่า อยากจะเกาะเขาต่อไปเหรอ ฉันจะบ้าตาย ถ้าคืนนี้ไม่ตอบตกลงที่จะหย่า ฉันก็จะถือว่าไม่มีลูกสาวเธอแล้ว!”
“แม่!”
กนกอรเรียกแม่ด้วยดวงตาที่แดงก่ำ
“อย่าเรียกฉันว่าแม่ ในสายตาของเธอยังมีแม่คนนี้อยู่เหรอ?การแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ก็ไม่บอกแม่สักคำ เธอจะไม่มีแม่คนนี้อยู่ในสายตานานแล้ว ได้ เธอไม่มีแม่อย่างฉันแล้ว งั้นเธอไปเลย อย่ากลับมาบ้านหลังนี้อีก อย่าเรียกฉันว่าแม่อีก!”
“แม่ครับ กนกอรไม่ได้มาเกาะผมครับ เป็นผมเอง ที่ต้องการเธอ!เธอไม่ต้องการแต่งงานกับครอบครัวที่ร่ำรวยเลย ไม่ต้องการแต่งงานกับผมด้วย ผมบังคับเธอเอง!”
นฤเบศวร์ไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลายถึงขนาดนี้
เมื่อเห็นว่าแม่ยายของเขาจะไล่กนกอรออกจากบ้าน และตัดความสัมพันธ์แม่ลูก เขาจึงกังวลและพูดออกไปว่า “แม่ครับ ผมตกลงที่จะหย่ากับกนกอรแล้ว อย่าโทษเธอเลย เธอถูกผมบังคับจริง ๆ ตอนนี้.….. เรื่องของผมถือว่าจบแล้ว ดังนั้น ผมก็ควรจะปล่อยเธอให้เป็นอิสระแล้ว”
อย่างมากก็แค่ หลังจากการหย่าร้าง เขาจะจีบกนกอรใหม่ เพื่อให้กนกอร และคนในตระกูลภูสิทธ์อุดม ยอมรับในตัวเขา
จากนั้นเขาก็จะได้สู่ขอกนกอรอย่างถูกต้องตามประเพณี