คุณสามีพันล้าน - บทที่ 335 สวรรค์ส่งมากำราบเขา!
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 335 สวรรค์ส่งมากำราบเขา!
ณภัทรคือคนที่รับผิดชอบบริษัทวงการบันเทิงบี.เอ.เอ็ม.กรุ๊ปส่วนนี้ รู้เรื่องคนอื่นเยอะที่สุดในวงการบันเทิง เขาได้ยินเรื่องคนอื่นทุกวี่ทุกวัน ไม่อยากจะรู้อะไรจากเรื่องพวกเขาอีก
ยศพัฒน์มองณภัทรเดินออกไป หน้านิ่วคิ้วขมวด
หลังจากที่ครุ่นคิดแล้ว แล้วก็ตอบกลับภรรยาที่รัก ให้เทวิกาบอกกนกอรว่า รอนฤเบศวร์ที่สำนักงานเขตก็พอ นฤเบศวร์จะไปถึงสำนักงานเขตก่อนเวลาเลิกงานแน่นอน
หลังจากนั้น เขาก็ส่งข้อความให้ใครคนหนึ่งอย่างรีบร้อน
คนๆนั้นจะพานฤเบศวร์ไปที่สำนักงานเขตและทำเรื่องหย่ากับกนกอรให้ได้แน่นอน ถ้านฤเบศวร์ไม่อยากจะเกี่ยวข้องใดๆกับเธออีก ก็คงจะรีบไปถึงสำนักงานเขตด้วยตัวเอง
แบบนี้ นฤเบศวร์ก็คงไม่สงสัยมาถึงตัวเขาหรอกมั้ง
เมื่อเช้า เปรมาที่พานักข่าวสื่อมวลชนมาขอโทษเทวิกา หลังจากที่กลับมาบ้านของตัวเองแล้ว ก็ขังตัวเองอยู่ในห้อง ไม่ยอมเจอหน้าใคร
จนกระทั่งเธอได้รับข้อความ คนที่ส่งมาคือยศพัฒน์
หลังจากที่รู้จักเขามาสิบสองปีเต็ม นี่เป็นข้อความแรกที่เขาเป็นฝ่ายส่งให้เธอก่อน
หลังจากที่อ่านข้อความของยศพัฒน์จบ เปรมาก็รีบลุกขึ้นมา
เธอไม่มีอำนาจพอที่จะสืบตำแหน่งที่อยู่ของนฤเบศวร์ แต่เธอคุ้นเคยกับถนนเส้นนี้ดี
ตั้งแต่ตระกูลเดชอุปมาถึงใจกลางเมือง ถนนทุกเส้นนี้เธอรู้จักดีมาก
นฤเบศวร์ตั้งใจถ่วงเวลา ที่ไปจะต้องเป็นทางหลวงแน่ เลือกถนนเป็นนี่ เธอขับชิดถนนเส้นนั้นตามริมทาง จนหานฤเบศวร์เจอ แล้วส่งเขาเดินทางไป
……
ช่วงสิบโมงเช้า
นฤเบศวร์เดินออกมาจากร้านชานมแห่งหนึ่งอย่างชื่นใจ
เข็นรถจักรยาน แล้วเดินไปอย่างช้าๆ
ความเร็วของเขาในตอนนี้ พอเขาไปถึงสำนักงานเขต พนักงานก็คงเลิกงานกันหมดแล้ว
เพราะยังไงซะ ก็สามารถถ่วงได้อีกหนึ่งวัน
“ปี๊นๆ——ปี๊นๆ——”
เสียงบีบแตรจากรถยนต์คันหนึ่งดังมาไม่หยุด ทำเอานฤเบศวร์ตกอกตกใจ เขาหันหน้าไปดู อยากจะด่าคนที่บีบแตรไม่หยุดคนนั้นนัก ทั้งๆที่เขาเดินอยู่ฝั่งถนนคนเดิน ไม่ได้ไปขวางถนนใคร จะบีบแตรมาทางเขาทำไมกัน?
รังแกเขาที่ตอนนี้กำลังเข็นรถสองล้ออยู่ใช่ไหม?
พอหันไป ขณะที่เจอกับรถคันคุ้นตานั้น นฤเบศวร์ก็นิ่งอึ้งไป
ทำไมถึงเห็นเปรมาที่นี่?
ขาข้างหนึ่งของเปรมาเหยียบคันเร่ง เสียงรถก็ดังมาถึงนฤเบศวร์ จอดอยู่ตรงหน้าเขา
“เบศวร์ คุณเป็นอะไรไป? คุณจะไปไหน? เดี๋ยวฉันไปส่ง”
เปรมาเปิดประตูรถแล้วเดินลงมา เดินไปด้วย พูดเอาใจไปด้วย
“รถจักรยานคุณโซ่หลุดแล้วใช่ไหม?”
เปรมาถามด้วยความเป็นห่วง แล้วพูดตามใจตัวเอง:“คุณก็ยังเป็นแบบนั้นเหมือนเดิม ชอบขี่จักรยานออกกำลังกาย”
“ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่?”
นฤเบศวร์ถามเธอด้วยสีหน้าเย็นชา
“ฉันผ่านมาน่ะ เห็นคุณก็นึกว่าตาลาย พอมองใกล้ๆเป็นคุณจริงๆด้วย ทำไมถึงอยู่คนเดียวล่ะ? บอดี้การ์ดของคุณล่ะ?”
นฤเบศวร์ตอบเสียงเย็นชา:“ผมอยู่คนเดียวไม่ได้หรือไง? คุณผ่านมาก็แค่ผ่านไป รถของผมไม่ได้เป็นอะไร คุณไม่ต้องไปส่งหรอก”
ขณะที่พูด เขาก็คร่อมจักรยาน แล้วขี่ออกไป
เปรมาจับท้ายรถไว้ ดึงไม่ให้เขาไป พูดด้วยความกระตือรือร้น:“เบศวร์ ถ้าฉันไม่ได้เห็นคุณก็ช่างเถอะ แต่นี่ฉันเห็นแล้วก็ต้องช่วยคุณสิ คุณดูสิตอนนี้ดวงอาทิตย์ดวงใหญ่ขนาดไหน กว่าคุณจะขี่จักรยานไปถึงในเมือง ร้อนตายกันพอดี ให้ฉันไปส่งคุณดีกว่านะ”
นฤเบศวร์สีหน้าดำทะมึน “เปรมา คุณปล่อยมือ!”
“ฉันไปส่ง จักรยานวางไว้ท้ายรถฉันก็ได้”
เปรมาก็ยังดึงดันจับท้ายรถจักรยานไว้ไม่ปล่อยมือ
นฤเบศวร์นึกด่าแม่อยู่ในใจ
บัณฑิตา:แม่ก็ไม่ได้ไปยั่วโมโหแกสักหน่อย!
นฤเบศวร์:……ผมด่าสวรรค์
ที่ทำให้เปรมาเห็นผม เปรมาพยายามคิดหาทางอยากเอาเขากลับคืน ในเวลานี้ จะพลาดโอกาสส่งเขากลับเมืองครั้งนี้ได้ไง?
ถ้ารู้ว่าจะเจอเปรมา เขาคงไม่ขี่จักรยานมา
เขาจะไปหย่ากับกนกอรที่สำนักงานเขต ถ้าให้เปรมาไปส่งเขา เขากับกนกอรก็หมดหวังพอดี!
ตีเขาให้ตาย เขาก็ไม่มีวันทำแบบนั้นหรอก
“เปรมา คุณปล่อยมือ ถ้ายังไม่ปล่อย ผมจะไม่เกรงใจแล้วนะ!”
“เบศวร์ คุณดุฉัน เมื่อก่อนคุณไม่เคยจะพูดเสียงดังกับฉันนี่”
เปรมาน้อยใจ
มองเขาด้วยสายตาที่มีน้ำตาคลอ
วันนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อน นฤเบศวร์ในตอนนี้ไม่มีทางสงสารเธอที่ร้องไห้หรอก
เขาเห็นว่าเปรมายังคงไม่ปล่อยมือแน่ เลยจอดจักรยานไว้ แล้วเดินขึ้นมา ง้างมือของเปรมาออก ดันเธอไปด้านหลัง เธอถอยจนกลับไปยังตรงหน้ารถของเธอ หลังติดกับตัวรถไม่ได้ล้มลงแต่อย่างใด
นฤเบศวร์ฉวยจังหวะที่เปรมาใช้สายตาไม่อยากจะเชื่อมองเขานั้น รีบเข็นจักรยานแล้ววิ่งหนีไป วิ่งไปด้วยกระโดดขึ้นจักรยานไปด้วย ปั่นอย่างเอาเป็นเอาตาย
“เบศวร์ เบศวร์”
เปรมาได้สติกลับมา ก็รีบกลับขึ้นรถ ขับรถตามนฤเบศวร์ไป
นฤเบศวร์รีบปั่นสุดชีวิต แทบอยากจะให้จักรยานของตัวเองกลายเป็นเครื่องบิน
ถนนที่เขาขี่อยู่ตอนนี้ไม่มีถนนเส้นเล็กให้เขาเดินต่อแล้ว
โถ่เอ้ย!
ติดขัดจริงๆเลย!
“กริ๊งๆๆ……”
สายจากกนกอรโทรเข้ามาอีกแล้ว
นฤเบศวร์เลยต้องลดความเร็วลง แล้วหยิบมือถือขึ้นมารับสายโทรศัพท์ของกนกอร ไม่รอให้กนกอรพูด เขาพูดขึ้นมาก่อนด้วยเสียงหอบ:“กนกอร อีกไม่นานผมก็จะถึงแล้ว”
“ได้ ฉันจะรอนาย เพราะยังไงซะ ถ้าวันนี้นายไม่มา ฉันก็จะปูเสื่อนอนหน้าสำนักงานเขตนี่แหละ”
นฤเบศวร์:“.…..”
เพื่อจะหย่ากับเขาแล้ว เธอสู้ชีวิตจริงๆ!
ถ้าก่อนหน้านี้รู้ว่าเขาจะชอบเธอเข้า เขาคงไม่มีทางบังคับเธอเด็ดขาด
น่าเสียดาย ที่ไม่ได้รู้ล่วงหน้า
เขาไม่ได้เตือนกนกอรเพียงแค่ครั้งเดียว ว่าห้ามรักเขาเด็ดขาด ใจของเขาให้เปรมาไปแล้ว ไม่มีทางตกถึงเธอแน่นอน
แต่ตอนนี้
เหอะๆ เหมือนตบหน้าตัวเอง
เพื่อไม่ให้เปรมามาพัวพัน นฤเบศวร์ขี่จักรยานด้วยความเร็วแสง โชคดีที่ตอนนี้เขาอยู่บนทางเท้า เปรมานั้นไม่กล้าที่จะวางอำนาจขวางทางเขาเหมือนเมื่อครู่
ตอนนั้นเขาเดินออกมาจากในร้าน ยังไม่ทันได้ทำอะไร ก็ถูกเธอขวางไว้ก่อน
กลับถึงเขตเมือง นฤเบศวร์ก็เลือกไปทางซอยเล็กๆ หลุดพ้นจากการตามของเปรมาได้สำเร็จ
ในตอนที่เขามาถึงสำนักงานเขต ก็ตอนเที่ยงสิบเอ็ดโมงครึ่งแล้ว
“เร็วๆๆ ยังเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมง พนักงานเขาก็จะเลิกงานแล้ว”
พอกนกอรเจอหน้านฤเบศวร์ ก็รีบวิ่งมาต้อนรับตรงหน้า
เห็นว่านฤเบศวร์เต็มไปด้วยเหงื่อ ใบหน้าแดงก่ำ เลยยื่นน้ำหนึ่งขวดให้เขาด้วยความเอาใจใส่
“รถสี่ล้อมีไม่ยอมขับ อยากจะขี่รถจักรยาน ร้อนสมใจนายแล้วสิ สมน้ำหน้า ดูเหงื่อเต็มหน้านายนี่สิ เสื้อเชิ้ตก็ชุ่มเหงื่อไปหมด คนไม่รู้สถานการณ์นี่คงนึกว่านายไปตกน้ำที่ไหนมา”
นฤเบศวร์ดื่มน้ำขวดนั้นที่เธอยื่นให้ มองเธอด้วยสายตาคับแค้นใจ
เธอยังมีกะจิตกะใจต่อว่าเขา!
รู้ไหมเนี่ยว่าเขาถูกเปรมาไล่ตามมาเหนื่อยแค่ไหน
เปรมาก็คงรู้ว่าเขาไม่มีทางนั่งรถของเธอ แต่เธอดันไม่ยอมแพ้ ตามเขาอย่างไม่เร่งรีบแต่ก็ไม่เร็วเกิน ทำให้เขาไม่กล้าหยุดพักแม้แต่นาทีเดียว กลัวว่าถ้าพักหยุดแล้ว เปรมาจะตามมาทัน
“หิวไหม? ฉันซื้อซาลาเปามาให้นายหลายลูกเลย”
กนกอรยื่นซาลาเปาให้ ให้นฤเบศวร์ได้กินรองท้องสองชิ้น กลัวว่าเขาจะไม่มีแรงทำเรื่องหย่าพร้อมกับเธอ
นฤเบศวร์ไม่รู้ตอนนี้ตัวเองต้องรู้สึกยังไง
ซาบซึ้ง?
พวกเขาทั้งสองมาทำเรื่องหย่ากันนะ
โกรธ?
นึกถึงที่เธอดูแลเอาอกเอาใจ เขาก็โกรธไม่ลง
ผู้หญิงคนนี้ คือคนที่สวรรค์ส่งมากำราบเขาแน่นอน!
เขาแพ้แล้ว!