คุณสามีพันล้าน - บทที่ 336 เปิดเผยความในใจ
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 336 เปิดเผยความในใจ
“ไปกันเถอะ พวกเรารีบเข้าไป เดี๋ยวพนักงานเขาจะเลิกงานซะก่อน”
ถึงแม้ว่ากนกอรจะเอาใจใส่ เตรียมน้ำกับซาลาเปาให้เขา แต่เธอยังไม่ลืมจุดประสงค์ที่พวกเรามาที่นี่
ในตอนที่นฤเบศวร์เริ่มกินซาลาเปานั้น เธออบอุ่นมาก เป็นครั้งแรกที่เข้ามาคล้องแขนเขาก่อน แล้วพาเขาเข้าไปด้านในสำนักงานเขต
“ผมยังกินซาลาเปาไม่เสร็จเลย หิวมาก ผมความดันเลือดต่ำด้วย พอหิว มือเท้าจะสั่น เดี๋ยวจะเซ็นชื่อไม่ได้เอานะ”
ขาของนฤเบศวร์ทั้งสองข้างแยกออกเล็กน้อย ยืนอย่างมั่นคง ถึงแม้ว่ากนกอรจะเคยฝึกมา ถ้าใช้คำพูดของเขาก็คือดีแต่ปาก รับมือกับคนปกติทั่วไปก็พอได้ รับมือกับคนแบบเขานี่ ใช้งานไม่ได้จริงๆ
เมื่อก่อน เขายอมให้เธอตลอด
กนกอรคิดจะลากเขาเดินเข้าไปด้านใน เขายืนนิ่ง เธอลากก็ไม่ขยับสักนิด
“นายเดินไปกินไปไม่ได้เหรอ?”
“ไม่ได้ แบบนั้นมันขายหน้ามากนะ ผมเป็นถึงคุณชายตระกูลเดชอุป”
กนกอร:“.…..”
พอมาถึงหน้าประตูสำนักงานเขต เธอไม่สามารถทำให้เขาเข้าไปได้
“ประธานไม่เอาไหน นายจะถ่วงไปถึงตอนสิบสองโมงใช่ไหม? แบบนี้จะได้ไม่ต้องทำเรื่องหย่า”
นฤเบศวร์กัดซาลาเปาไปด้วย มองเธอด้วยสายตาเบาๆไปด้วย แล้วกลืนซาลาเปาในปาก พูดไปตามความจริง:“ใช่ ผมกำลังถ่วง ถ่วงเวลาได้แค่ไหนก็แค่นั้น ผมไม่อยากหย่ากับคุณเลยสักนิด”
เมื่อคืนก็เพราะสงสารเธอ เลยต้องจำใจรับปากแม่ยายไป ว่าวันนี้จะหย่า
ความจริงแล้ว หลังจากที่เขารับปาก ก็เสียใจขึ้นมาทันที
เห้อ ตั้งแต่ตัวเองรู้จักกับกนกอร เหมือนว่าเขาจะทำให้ตัวเองเสียใจกับการตัดสินใจในหลายๆเรื่อง
“กนกอร พวกเราไม่หย่ากันได้ไหม?”
นฤเบศวร์จ้องเข้าไปในดวงตาเธอแล้วถามอย่างจริงจัง
“ผมรู้ว่าตอนแรกที่พวกเรารับใบสมรสมาก็เพราะผมบังคับคุณให้ใช้หนี้ แถมยังเซ็นสัญญาอีก เป็นพันธะสัญญาแต่งงาน แล้วผมก็ยังปากไม่ดี เตือนคุณหลายครั้งว่าห้ามรักผม……ตอนนั้น ผมยังรักเปรมาอยู่จริงๆ ที่แต่งกับคุณก็เพราะคุณปู่ผมบังคับ”
“ความจริงแล้วช่วงที่พวกเราได้คบหากัน ผมเหมือนสวมบทสามีภรรยาอย่างไม่รู้ตัว คิดว่าคุณคือภรรยาของผมจริงๆ เวลาคุณมีปัญหา ผมก็อยากช่วยคุณ ของที่คุณชอบ ผมก็อยากซื้อมาให้คุณ”
“พอเห็นคุณอยู่ด้วยกันกับไอ้วัวกระทิงนั่น ผมก็โกรธมาก ในใจเจ็บแปล๊บ เหมือนกับกำลังหึง ไม่สิ มันคือหึงจริงๆ”
กันตภณ:ฉันไม่ใช่วัวกระทิงนะเห้ย!
กนกอรได้ยินเขาพูดว่าวิวกระทิง ก็เลยถามเขา:“นายว่าใครเป็นวัวกระทิงนะ?”
“ก็คนที่ชื่อกันตภณนั่นไง เขาเป็นวัวในบาร์ผู้ชายไม่ใช่หรือไง วัวกระทิงที่ไม่มีเจ้าของ”
“คนเขาเป็นนายแบบ ต้องแต่งตัวให้ดูดีเถอะ ไม่ใช่คนของบาร์ผู้ชาย นายอย่าตั้งฉายาให้คนอื่นมั่วซั่ว”
นฤเบศวร์พูดด้วยเสียงไม่พอใจ:“เขาคือวัวกระทิง!”
“กนกอร”
มือข้างหนึ่งของนฤเบศวร์จับมือของกนกอรไว้ แล้วขอร้อง:“ให้โอกาสผมเถอะนะ พวกเราเริ่มใหม่กันได้ไหม? เมื่อก่อน ผมรักเปรมามาก หลายๆเรื่องที่ผมทำเพื่อเปรมามันคงทำให้คุณรู้สึกว่าผมโง่มาก”
“เพราะว่าผมเวลารักใครก็คือรักจริงๆ แต่ถ้าหมดใจแล้ว ก็หมดจริงๆ ผมไม่มีทางคบกับเปรมาได้อีก”
เขาหัวเราะเยาะตัวเอง “เธอก็ไม่ได้รักผม จนถึงตอนนี้ เธอก็ไม่ได้รักผมจริงๆเลยแม้แต่นิด เธอแค่ยอมรับไม่ได้ที่ผมปล่อยมือ ชินกับการที่ผมรับเธอได้ ให้ไปโดยไม่หวังอะไรกลับมา”
กนกอรยิ้มเยาะเหอะๆ “ที่แท้ นายก็รู้กับเขาด้วยว่าเธอหลอกใช้นาย”
“ผมรู้ รู้มาโดยตลอด เพียงแต่ เมื่อก่อนยังมีความหวัง คิดว่าสักวันเธอคงมองเห็นผม ทิ้งยศพัฒน์แล้วหันมารักผม บางคนไม่ใช่ว่าคุณดื้อดึงเขา แล้วเขาจะรักคุณนะ”
พูดถึงความรักที่ตัวเองมีต่อเปรมา ใบหน้าของนฤเบศวร์ก็สมเพศตัวเอง
ความจริงแล้ว ในใจก็เจ็บปวดอยู่ไม่น้อย
เพราะยังไงซะเปรมาคือผู้หญิงที่ทำให้เขาเข้าใจในความรัก รักมาสิบกว่าปี ต่อให้หมดใจจริงๆ ไม่อยากจะรักต่อไปอีกแล้ว แต่พอตัดใจจริงๆก็เจ็บปวด
“กนกอร ตอนนี้ผมชอบคุณ ชอบเวลาที่อยู่กับคุณ ต่อให้ถูกคุณโมโหจนระเบิดใส่ทุกวัน ผมก็ชอบที่จะอยู่กับคุณ พวกเรามาเริ่มต้นกันใหม่ได้ไหม? ให้โอกาสผมสักครั้ง”
กนกอรมองเขาอย่างเงียบๆ
ผ่านไปสักพัก เธอก็พูดขึ้นมา:“นฤเบศวร์ ในตอนแรกที่พวกเราจดทะเบียนสมรสกัน ทุกคนไม่ยินดีกับเรา พวกเราสองคนต่างก็ถูกบังคับเหมือนกัน ถึงขั้นเซ็นสัญญา นายให้เงินฉัน ฉันก็เอาเงินมาแล้วทำตามคำสั่ง การแต่งงานแบบนี้ ก็เหมือนกับเข็มแท่งหนึ่ง ที่ทิ่มแทงในใจ”
“แค่ฉันนึกถึงความสัมพันธ์ของพวกเรา ก็จะนึกถึงทุกอย่างที่นายทำเพื่อเปรมา นึกถึงเรื่องที่นายบังคับให้ฉันต้องมาแต่งงานเพื่อใช้หนี้ เพื่อเปรมา เพื่อปกป้องตำแหน่งของนาย ฉันถูกบังคับมานะ ต่อให้ตอนนี้นายรู้สึกดีกับฉัน ฉันคงลืมเรื่องทั้งหมดในตอนแรกที่นายทำไว้ไม่ได้หรอก”
“ฉันยินดีให้โอกาสนาย แต่พวกเราต้องหย่า หย่าแล้ว นั่นถึงจะเรียกว่าเริ่มใหม่อีกครั้ง ตอนนี้ฉันไม่ได้รักนาย แค่รู้สึกว่านายก็ไม่ได้โง่อะไรขนาดนั้นแล้ว นายบอกให้โอกาสนาย ก็แค่ให้นายจีบฉันไม่ใช่เหรอ”
“ได้ นายจีบฉันได้ นายสามารถทำให้ฉันรักนาย เต็มใจที่จะแต่งกับนายได้ สามารถทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ญาติพี่น้องรวมถึงเพื่อนสนิทของพวกเรายอมรับการคบหาของเราได้ ให้ความสุขที่แท้จริงเกิดกับพวกเรา แล้วเราสองคนค่อยแต่งงานกันใหม่”
“นฤเบศวร์ ถึงแม้ว่าฉันจะนิสัยซุ่มซ่าม แต่ฉันก็เป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่มีความฝัน ใครไม่หวังบ้างว่าสักวันตัวเองจะเดินเข้าพิธีแต่งงานอย่างมีความสุข? ฉันไม่เคยถูกนายจีบ พวกเราไม่เคยเดทกัน ต่อให้ไม่หย่า แล้วเป็นแบบนี้ต่อไป แต่พอนึกย้อนกลับมา ฉันก็นึกถึงแต่นายที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อเปรมา ถึงแม้ว่าจะต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รักก็ตาม”
“เพื่อที่จะรักษาตำแหน่งที่เป็นที่พึ่งให้เปรมาต่อไปได้ นายยอมเสียสละงานแต่งของตัวเอง นายว่า ความทรงจำแบบนี้มันสวยงามเหรอ? ฉันหวังว่า ต่อจากนี้ เวลาที่ฉันนึกย้อนถึงอดีตของพวกเรา ต่างก็มีแต่ช่วงเวลาแห่งความสุขของพวกเราสองคน ไม่ใช่ตำแหน่งที่นายสร้างมาเพื่อเปรมา”
“เมื่อก่อน วิกาเคยพูดว่าฉันเหมือนกับคุณพัฒน์มาก ภายนอกนั้น พวกเราเดินอยู่บนถนนสายเดียวกัน แต่ความจริงแล้วไม่เหมือนกัน ถนนที่เธอกับคุณพัฒน์เดิน พวกเราเดินซ้ำรอยไม่ได้เลยสักนิด”
นฤเบศวร์ฟังความในใจของกนกอรที่ระบายออกมาอย่างเงียบๆ
ที่แท้ เธอต้องการก็คือการที่เขาทำเพื่อเธอจริงๆ ไม่ใช่การอยู่ในตำแหน่งที่เขาสร้างมาเพื่อเปรมา
คำพูดประโยคหลังของเธอ เหมือนกับยศพัฒน์ไม่มีผิด ยศพัฒน์ก็เคยพูดถึงเขากับเทวิกา ว่าตนเองนั้นไม่สามารถซ้ำรอยได้
ที่แท้ ยศพัฒน์ก็พูดไว้ชัดเจนตั้งแต่แรกแล้ว
ก็จริง ซ้ำรอยไม่ได้
ต่อให้เดินถนนเส้นเดียวกัน ก้าวย่างของทุกคนย่อมไม่เหมือนกันอยู่ดี ไม่มีทางเหยียบซ้ำรอยเดินของคนด้านหน้าได้อย่างเป๊ะๆ สุดท้ายก็ต้องมีทางเดินเป็นของตัวเอง
“นฤเบศวร์ ที่ฉันอยากพูด ก็ได้พูดไปหมดแล้ว ถ้านายยังคิดจะปลิ้นปล้อน งั้นพวกเราก็กลับไปก่อน นายไปทบทวน คิดให้รอบคอบ แล้วพวกเราค่อยมาทำเรื่องหย่า”
ขณะที่กนกอรพูด ก็ดึงมือตัวเองกลับมาจากมือของเขา แล้วหมุนตัวกำลังจะเดินจากไป
“กนกอร”
นฤเบศวร์เรียกเธอไว้