คุณสามีพันล้าน - บทที่ 344 ขั้นแรกของการตามจีบภรรยา ให้ดอกไม้
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 344 ขั้นแรกของการตามจีบภรรยา ให้ดอกไม้!
ยศพัฒน์ส่งข้อความเสียงมาอีกหลายข้อความ
“นฤเบศวร์อยากให้อีกฝ่ายเผชิญหน้ากับความลำบากแล้วล่าถอยไปเอง ถึงได้สงวนท่าทีเอาไว้ ไม่คิดจะใช้ความรุนแรง เพียงแต่ เขาทำอย่างนี้ มันทำให้คนอื่นๆเข้าใจผิดได้ง่ายจริงๆ”
ยศพัฒน์หัวเราะท้องคัดท้องแข็ง
ศัตรูคู่อาฆาตเป็นคนที่พระเจ้าส่งลงมาหัวเราะเยาะเขาแน่ๆ
ละครลิงยังไม่น่าขำขนาดนี้เลย
ไม่ใช่ว่าใครๆที่เห็นการกระทำของนฤเบศวร์แล้วจะมีความคิดอย่างนี้
ผ่านการอธิบายจากสามี เทวิกาจึงเข้าใจอย่างกระจ่างแจ้ง
เธอตบโต๊ะด้วยความตลก
กนกอรกลืนไม่เข้าคายไม่ออก พูดกับเพื่อนรัก: “วิกา ฉันเลิกงานแล้วนะ แกดูร้านไป”
เธอจะกลับบ้านแล้ว ไม่อยากดูต่อ
เทวิกาพูดขำๆ: “ไม่รอดูว่าความน่าอึดอัดของพวกเขาสองคนจะยาวไปถึงตอนไหนเหรอ?”
กนกอรหน้าเขียว “ไม่มีอารมณ์ดูแล้ว”
เทวิกากุมท้องที่หัวเราะจนเกร็งไปหมด พูดชื่นชม: “กนกอร แกเจอตัวตลกแล้วนะ ถ้าพวกแกได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง ชีวิตในวันข้างหน้าคงครึกครื้นน่าดู”
ขำจะแย่แล้ว!
ถึงเธอจะฝันก็คงไม่มีทางเข้าใจหรอก ว่าการกระทำของนฤเบศวร์มีความหมายที่ต้องการให้ศัตรูหัวใจได้เผชิญหน้ากับความยากลำบากแล้วล่าถอยไปเอง
ดีที่ยศพัฒน์อธิบายให้ฟัง
สมแล้วที่ทั้งสองคนเป็นศัตรูที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ ถึงได้เข้าใจอีกฝ่ายเป็นพิเศษ
ถ้าทั้งสองคนเป็นผู้ชายกับผู้หญิง คงไม่มีเธอกับกนกอรเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแล้วแหละมั้ง?
“กนกอร”
เห็นกนกอรจะไปแล้ว นฤเบศวร์กับกันตภณจึงเอ่ยปากเรียกเธอพร้อมกัน
นฤเบศวร์เป็นพวกหน้าไม่อายอยู่แล้ว เขายื่นมือไปดึงมือข้างหนึ่งของกนกอรเอาไว้
เห็นกันตภณก็เรียกกนกอรเช่นกัน นฤเบศวร์จึงดันดอกไม้เงินในมือของตนเองไปที่ด้านหน้าของกันตภณนิดหน่อย พูดขึ้น: “กันตภณ แกไม่รู้สึกกระจอกเลยหรือไง? ช่อดอกไม้ที่ไม่นานก็ร่วงโรยแห้งเหี่ยว กินไม่ได้ใช้ไม่ได้อย่างนี้ ใครจะต้องการ?”
กันตภณ: “……”
กระจอกเหรอ?
เขามองช่อดอกไม้เงินของนฤเบศวร์ ซึ่งทำมาจากแบงก์ร้อย สีแดงสดใส ดึงดูดสายตาเป็นพิเศษ ไม่ร่วงโรย ไม่เหี่ยวเฉา ถึงจะกินไม่ได้ แต่ก็นำมาเปลี่ยนเป็นของกินได้มากมาย มีประโยชน์มาก
เปรียบเทียบกันแล้ว อืม เขากระจอกจริงๆนั่นแหละ
พูดอย่างนี้ ทุกคนจึงเข้าใจอย่างกระจ่างแจ้ง
ใบหน้าหล่อๆของกันตภณแดงระเรื่อ
เพราะตนเองเข้าใจผิดนฤเบศวร์หรือเพราะช่อดอกไม้ของตนเองกระจอกถึงได้หน้าแดงก็ไม่รู้
“กนกอร ดอกไม้ช่อนี้ให้คุณ”
ในที่สุดนฤเบศวร์ก็ได้ยื่นช่อดอกไม้เงินไปที่ด้านหน้าของภรรยาผู้ยิ่งใหญ่สักที ไม่สิ ภรรยาเก่า
เมื่อเช้านี้ยังเป็นภรรยาเขาอยู่ แต่ตอนนี้กลายเป็นภรรยาเก่าแล้ว
กนกอรสะบัดมือเขาออก พูดขึ้น: “ขอบคุณ แต่ฉันไม่เอา ฉันเลิกงานแล้ว ไปก่อนนะ พวกคุณคุยกันให้สนุก”
จากนั้น เธอก็หมุนตัวเดินออกไปจากร้านกาแฟ
เห็นหัวใจสีแดงดวงใหญ่ที่หน้าประตู ฝีเท้าของเธอจึงชะงักเล็กน้อย แต่ไม่ได้หยุดนาน เดินลงบันได มาที่ด้านหน้ารถไฟฟ้าของตนเอง ขึ้นไปนั่งบนรถแล้วสตาร์ทรถ ไม่นานก็เคลื่อนออกไปไกล
คนที่กำลังติดตามเรื่องราวอยู่เห็นตัวละครเดินไปแล้ว ก็ยิ่งรู้สึกสนใจ
“กันตภณ กนกอรเป็นของฉันเว้ย!”
นฤเบศวร์เตือนกันตภณอย่างแข็งกร้าว
ในใจของกันตภณหวาดหวั่น แต่เป็นความต้องการของผู้ว่าจ้าง เขาจึงต้องทำ ยืดหลังตรง ตอบกลับไปอย่างดุดัน: “งั้นเรามาแข่งกันอย่างยุติธรรม”
นฤเบศวร์รีบร้อนไล่ตามกนกอร ตอนนี้จึงไม่มีเวลามาต่อปากต่อคำกับกันตภณ ถลึงตาใส่กันตภณอย่างแค้นเคือง แล้วรีบกอดช่อดอกไม้เงินไว้แน่นวิ่งออกไปนอกร้านกาแฟ
เทวิกายิ้มพึมพำกับตนเอง: “นฤเบศวร์คลั่งรักจริงๆเลย ใสซื่อสุดๆ”
น่าขำชะมัด!
เพื่อสงวนท่าทีต่อหน้ากนกอร นฤเบศวร์จึงไม่ใช้ความรุนแรง ไม่ใช้อำนาจรังแกคนอื่น แต่การกระทำของเขา มีแค่ไม่กี่คนหรอกที่จะเข้าใจ
ในสายตาของคนอื่น พฤติกรรมของคุณชายเบศวร์ก็แค่ไร้เดียงสาเท่านั้น
หลังจากหัวเราะเสร็จ เทวิกาก็เสียดายมาก เธอต้องดูร้านแล้ว ตามไปดูฉากต่อไปไม่ได้
ฉากต่อไปต้องสนุกกว่าแน่ๆ
เห็นบรรดาลูกค้าในร้าน เทวิกาจึงลูบๆคางครุ่นคิด เธออยากขยายร้านกาแฟให้ใหญ่ขึ้น จะได้จุลูกค้าให้มากขึ้น
สำหรับ One Day In Coffee ต้องขอบคุณเปรมาเลยที่ให้ความช่วยเหลือ ถึงได้มีชื่อเสียงไปทั้งเมืองแอคเซสซ์ ทั้งยังเป็นเพราะสถานะคุณนายน้อยตระกูลอริยชัยกุลของเธอด้วย จึงดึงดูดคนมากมายให้มาเช็กอินที่นี่ทุกวัน
กาแฟกลมกล่อม ขนมหวานอร่อย ไหนจะได้ดูฉากในนิยาย: ท่านประธานเผด็จการหลงรักฉันบ่อยๆด้วย
One Day In Coffee เป็นสถานที่ดูละครที่ดีที่สุดแล้ว
อ้อ การขยายพื้นที่หน้าร้าน ยังทำให้ธุรกิจเจริญรุ่งเรืองด้วย
เทวิกาคิดอย่างนี้ จึงตัดสินใจทำอย่างนี้เลย
ร้านสองร้านด้านข้างเป็นร้านเสื้อผ้าทั้งคู่ ท่าทางจะขายไม่ค่อยดี เธอจะลองไปสืบถามทั้งสองร้านหน่อยว่าอยากยกเลิกสัญญาเช่าหรือเปล่า เธอจะได้เช่าร้านของพวกเขาต่อ และตกแต่งใหม่อีกครั้ง ทำให้ทะลุมาถึง One Day In Coffee
คนที่มุงดูอยู่ด้านนอกยังไม่ได้แยกย้ายไปทั้งหมด
บางคนยืนดูจนเหนื่อย จึงเข้ามานั่ง นั่งๆแล้วรู้สึกว่าจะยึดครองที่นั่งโดยที่ไม่สั่งอะไรก็คงน่าเกลียด ดังนั้นจึงสั่งขนมหวานสั่งเครื่องดื่มมากิน
ไม่นาน ในร้านจึงมีลูกค้าเนืองแน่น คนที่เข้ามาทีหลัง ไม่มีที่นั่งให้นั่งแล้ว
นี่ทำให้เทวิกายิ่งตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าจะขยายอาณาเขตของร้าน
มีเงินแต่ไม่เอามาทำกำไร นั่นคือคนโง่นะ!
ถ้ากนกอรรู้ว่าเพื่อนรักไม่เพียงเอาเธอกับนฤเบศวร์มาเป็นข้อมูลในงานเขียน ซึ่งอยากจะเขียนนิยายเกี่ยวกับสามีภรรยาที่ชอบทะเลาะกันแต่รักกันมากๆขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งยังเอาเธอมาเป็นตัวโฆษณาทางธุรกิจอีก กลัวว่าคงเสียใจแย่ นี่เธอเลือกคบเพื่อนไม่รอบคอบเองสินะถึงได้เพื่อนอย่างนี้มา!
นฤเบศวร์ขับรถ ไล่ตามกนกอรไป
รถไฟฟ้าของกนกอร หนีรถสี่ล้อของเขาไม่ได้หรอก
แต่เขาก็ไม่กล้าใช้กำลังกีดขวางกนกอร
ทะเบียนสมรสที่เปลี่ยนเป็นใบหย่า นฤเบศวร์ถึงได้ตามจีบกนกอร ด้วยความระมัดระวัง เพราะไม่มีที่พึ่งแล้วน่ะสิ
แค่ใบหน้าสวยๆของกนกอรอึมครึม เขาก็กังวลว่าคะแนนของตนเองจะลดลง
ตอนนี้ในใจของกนกอร คะแนนของเขาน่าจะยังมีอยู่หกสิบคะแนน ถ้าลดลงอีก ก็คงไม่ผ่านเกณฑ์แล้ว
เขาไม่ใช่เทวิกาด้วย ที่จะมีกลุ่มนักอ่านคอยแสดงความเห็นชื่นชม เพิ่มคะแนนให้
นฤเบศวร์จึงอยู่เงียบๆอย่างนี้ ขับรถยนต์โรลส์-รอยซ์ของเขา ตามรถไฟฟ้าของกนกอรที่อยู่ข้างหน้าอย่างช้าๆ ถึงรถข้างหลังบีบแตรไล่ เขาก็ไม่สนใจ รถข้างหลังจึงถือโอกาสขับแซงรถหรูของเขา
คนขับรถที่ขับแซงขึ้นไป: ที่แท้รถหรูก็มีช่วงเวลาของความเร็วระดับเต่าเหมือนกันนะ
กลับมาถึงปากซอยของตระกูลภูสิทธ์อุดมแล้ว รถของนฤเบศวร์ไม่สะดวกที่จะขับเข้าไปในซอย กลัวว่าจะปิดกั้นเส้นทางเดินรถจนเป็นเหตุให้รถลากด่าเอาได้ จึงทำได้เพียงจอดไว้ที่หน้าซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้ๆ แล้วลงจากรถ หอบช่อดอกไม้วิ่งอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจว่ารูปทรงของมันจะเปลี่ยนไปยังไง ในที่สุดก็ตามกนกอรทัน
ถนนในซอยขรุขระ คนก็เยอะ ความเร็วรถของกนกอรจึงช้ามาก ทำให้นฤเบศวร์กระโดดขึ้นมานั่งที่ท้ายรถของกนกอรได้
หน้ารถของกนกอรส่ายไปส่ายมา จึงรีบใช้เท้าทั้งคู่ยันพื้น จอดรถ หันมามอง
“อร”
นฤเบศวร์ยิ้มแย้ม รอยยิ้มนั้นดูดีกว่าดวงอาทิตย์ยามเย็นซะอีก
“นายลงไป!”
“ผมไม่ลง!”
“อร รีบไปเร็ว คนข้างหลังบีบแตรไม่หยุดแล้วนะ เราอย่าอยู่ปิดกั้นการจราจรตรงนี้เลย”
กนกอรเห็นรถไฟฟ้าที่ตามอยู่ข้างหลังมากมาย ทุกคนล้วนแต่คุ้นชินกับการขี่รถไฟฟ้าเข้าออก ใครๆก็เรียกที่นี่ว่าเขตที่อยู่อาศัยย่านเมืองเก่า ซอยเล็กมาก ถนนขรุขระ ไฟบนถนนตอนค่ำก็สลัวๆ ยังมีไฟอีกหลายดวงเลยที่ไม่สว่าง
ยื่นมือข้างหนึ่งออกมา หยิกไปบนต้นขาของนฤเบศวร์อย่างแรง ได้ยินเขาร้องด้วยความเจ็บปวดแล้ว เธอถึงได้ขี่รถออกไปอีกครั้ง
แม้จะโดนกนกอรหยิกต้นขาอย่างแรง เจ็บจนหน้าเหยเก แต่ยังโชคดี ได้อาศัยจังหวะที่อยู่บนรถของเธอ มือข้างหนึ่งของนฤเบศวร์ถือดอกไม้เงิน ส่วนอีกข้างหนึ่งก็ต้องโอบเอวของกนกอรอยู่แล้วสิ
กนกอรโดนเขาโอบอย่างนี้ ก็แทบจะตกรถอยู่แล้ว