คุณสามีพันล้าน - บทที่ 356 พ่อลูก
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 356 พ่อลูก
“เจ้านาย ลูกเขยฉลาดเกินไปแล้ว คุณผู้หญิงก็ไม่หลงกล”
หมอฌานพูดอย่างจนใจ “ผมบอกนายน้อยว่าคุณอาเจียนเป็นเลือดอีกครั้งแล้ว พวกเขาก็ไม่หลงกล”
ไซม่อนอาเจียนเป็นเลือดบนรถนั่นเป็นเรื่องจริง
อาเจียนเป็นเลือดครั้งที่สองเป็นเรื่องที่หมอฌานกุขึ้นมา
จริงๆแล้ว คำพูดของประยสย์ ส่วนประกอบของยาแบบนั้นก็พอๆกันหมด
บวกกับคำพูดของยศพัฒน์ พิษแบบนี้ขจัดได้ไม่ยาก
ไซม่อนรู้ตัวไว พิษที่โดนก็หนักกว่าก่อนหน้านี้นิดหน่อย เพราะงั้นจึงอ้วกเป็นเลือดในระหว่างทางมา แต่ก็ใช่ว่าไม่มีทางแก้ได้
เขาก็แค่คิดอยากจะใช้โอกาสนี้ ใช้ประโยชน์จากลูกชายลูกสาวไปโน้มน้าวณินก็เท่านั้น
แต่น่าเสียดาย แผนการของเขาล้มเหลว
ลูกชายหลงกล
แต่ภรรยาไม่หลงกล
ลูกเขยฉลาดมาก
ไซม่อนรู้สึกหดหู่ใจ
ตลอดที่ผ่านมารอบตัวของเขา ก็นับว่าเขาเจ้าเล่ห์ที่สุดแล้ว ตอนนี้กลับเพิ่มลูกเขยฉลาดมาหนึ่งคนแล้ว
แม้ว่าเป็นลูกเขยของตัวเอง ไซม่อนยังคงรู้สึกอึดอัดใจ ไม่มีเหตุผลอื่น ลูกเขยมองแผนการของเขาออกแล้ว ไม่ช่วยเขาหลอกณิน
ไซม่อนถอนหายใจ พูดว่า : “ณินเกลียดฉันมาก เรื่องแบบนี้ ไม่ใช่ว่าจำเป็นต้องเธอเท่านั้น เธอไม่ยอมยื่นมือมาช่วยอยู่แล้ว”
“ส่วนพัฒน์……เขาเชื่อฟังภรรยา สำหรับเรื่องนี้ ฉันไร้คำพูดไร้คำตอบ ภรรยาของเขาคือลูกสาวสุดที่รักที่ฉันเพิ่งหาเจอ”
หมอฌาน:“……”
เขาก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดต่อว่าอย่างไรดี
ผ่านไปนาน หมอฌานพูดว่า : “เจ้านาย ตอนนี้นายน้อยก็เป็นผู้ใหญ่มาก บางเรื่องเขาก็รู้แล้ว ทำไมคุณไม่บอกเรื่องที่คุณทุกข์ใจกับเขา อย่างน้อยก็ทำให้สองพ่อลูกมีน้ำหนึ่งใจเดียวกันได้นะ”
ไซม่อนฝืนยิ้ม “บางเรื่องได้ทำไปแล้ว ต่อให้ฉันจะทุกข์ใจแค่ไหน สำหรับพวกเขาก็ไม่คู่ควรที่จะให้อภัย”
ภรรยาบ้าแล้ว ลูกสาวหายตัวไปไม่รู้อยู่ที่ไหน ลูกชายยังเด็ก รายล้อมไปด้วยผู้คนที่เป็นอันตรายทั้งนั้น เริ่มแรกเขาไม่ได้ทำแบบนั้น ต่อมาพบว่ายิ่งเขาแคร์ให้ความสำคัญกับภรรยามากขึ้น คนเหล่านั้นก็ยิ่งรีบร้อนคิดอยากจะกำจัดภรรยาของเขา
รู้สึกว่าจัดการคนที่เขาแคร์มากที่สุด เขาก็จะพังทลาย เป้าหมายของพวกเขาก็บรรลุผลแล้ว
เขาเพียงแค่เปลี่ยนวิธีการรักษา จัดคนที่คุ้มกันภรรยาจากที่โจ้งแจ้งก็เป็นเงียบๆ
เขาก็เริ่มเมินภรรยา เข้มงวดกับลูกชายมาก ด่าทออยู่บ่อยๆ ราวกับว่าถ้ามีลูกชายคนที่สอง ก็ไม่สนใจประยสย์
คนเหล่านั้นก็คือว่าไม่ต้องใช้มีดใช้ปืน ก็ได้ในสิ่งที่พวกเขาต้องการได้ รอคอยที่จะให้เขาทอดทิ้งณินอย่างมุ่งมั่น รอคอยให้ประยสย์ถูกเลี้ยงดูจนเสียคน……
เขาเมินเฉยใส่ภรรยา เย็นชาใส่ลูกชาย ลดความรู้สึกที่มีตัวตนของภรรยาลง จำนวนการเกิดอุบัติเหตุของภรรยาค่อยๆลดน้อยลงแล้ว
ใช้ความโหดเหี้ยมมาปิดบังการคุ้มกันของเขา แถมยังพูดกับข้างนอกว่าสาเหตุที่ไม่หย่า ก็เพราะว่าบ้านของพ่อแม่ภรรยาแทบจะไม่มีใครแล้ว ถ้าหากหย่า ยังไงก็ต้องรอให้ธนัทโตเป็นผู้ใหญ่ สามารถมารับป้ากลับไปและดูแลป้าของเขาได้แล้วค่อยว่ากัน
ในปีนั้น เขายังวัยรุ่น อำนาจและอิทธิพลรุ่งเรืองดุจดั่งพระอาทิตย์กลางท้องฟ้า
ผู้บงการอยู่เบื้องหลังก็ไม่กล้าปะทะกับเขา ทำได้เพียงหยั่งเชิงไปพลางรอไปพลาง รอแล้วรออีก ประยสย์เติบโตขึ้นมา หาเนตรวิกาเจอแล้ว ญาณินได้สติแล้ว
แต่น่าเสียดาย เนื่องจากเวลานานเกินไป แม้ว่าจุดเริ่มต้นในตอนแรกของไซม่อนจะดีแต่ยังคงลงเอยด้วยการถูกภรรยาลูกชายและลูกสาวตำหนิด่า
“คุณผู้หญิงน่าจะไม่ให้อภัยเจ้านายง่ายๆขนาดนั้น แต่ว่านายน้อยและคุณหนูเป็นลูกชายและลูกสาวแท้ๆของเจ้านาย เลือดเนื้อเชื้อไข เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ ขอเพียงแค่เจ้านายพูด พวกเขาจะค่อยๆเข้าใจเจ้านาย”
หลังจากที่ไซม่อนเงียบขรึมอยู่นาน พูดกับหมอฌานว่า : “อีกเดี๋ยวคุณไปบอกประยสย์ว่า คิดหาวิธีที่ดี ช่วยกำจัดพิษให้ฉันได้แล้ว แสร้งแสดงว่าให้ยาฉันนิดหน่อย ฉันค่อยหาโอกาสพูดกับประยสย์”
เขามอบทุกอย่างให้กับลูกชายและลูกสาว
หลักๆคือลูกชาย
แน่นอนว่าบางเรื่องให้ลูกชายรู้ได้ สองพ่อลูกมีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ถึงจะสามารถต่อกรกับข้างนอกได้ดี
“โอเค”
ตอนเวลา 04:00 ประยสย์ได้รับข่าวดี พิษรักของพ่อได้รับการกำจัดแล้ว
เข้ามาในห้องผู้ป่วย แล้วก็ให้ยาเล็กน้อย ฟ้าสางก็ออกจากโรงพยาบาลกลับบ้านได้
ตอนที่เขาเดินเข้าห้องผู้ป่วยของพ่อ เห็นพ่อนอนอยู่บนเตียง ไร้เรี่ยวแรง แถมยังมีเข็มทิ่มอยู่บนมือข้างหนึ่ง ให้ยาหยดทีละนิด
ประยสย์เดินมา นั่งลงหน้าเตียงผู้ป่วย มองพ่ออย่างนิ่งๆ
ในความทรงจำของเขา พ่อก็เหมือนภูเขาลูกใหญ่ ต้นไม้ใหญ่ที่สูงตระหง่าน แม้ว่าบางครั้งจะมีหินจากภูเขาใหญ่หล่นลงมาทุบเขาสามสี่ก้อน พ่อยิ่งใหญ่ในใจของเขา
เขาไม่เคยเห็นพ่อป่วยหนักเหมือนครั้งนี้มาก่อน
“พ่อ”
ประยสย์เรียกเสียงเบาๆ
ไซม่อนที่หลับตาพักสมองก็ลืมตาขึ้นมาแล้ว มองไปที่ลูกชาย เขากระตุยิ้มเบาๆอย่างอ่อนโยน พูดว่า : “พ่อไม่เป็นอะไรแล้ว แกไม่ต้องเป็นห่วง กลับไปพักผ่อนเถอะ ตอนเช้าไม่ต้องกลับบริษัท พ่อจะจัดการเรื่องของเจนสันให้เรียบร้อย”
“เจนสันทำให้ธุรกิจของบริษัทเสียหายกว่าหนึ่งร้อยล้าน พ่อยังจะเก็บเขาไว้ที่สำนักงานใหญ่เหรอ?”
กว่าที่ประยสย์จะคว้าโอกาสขับไล่เจนสันออกจากโอเอ กรุ๊ปอย่างเปิดเผยได้ไม่ง่ายเลย ไม่อยากให้พ่อเห็นแก่ความสัมพันธ์ของลุงหลาน เก็บเจนสันไว้อีก
เจนสันมีความทะเยอทะยานกว่าอาสามของเขาอีก โหดเหี้ยมอำมหิตยิ่งกว่า
“แม้ว่าเก็บไว้ไม่ได้ ก็ให้พ่อออกหน้าจัดการ อาสามของแกถึงจะไม่พูดอะไร หลีกเลี่ยงไม่ให้อาสามของแกไปฟ้องแกต่อหน้าคุณปู่คุณย่า”
ประยสย์ไม่พูดแล้ว
เพียงครู่หนึ่ง เขาถามพ่อ : “พ่อ หลายปีที่ผ่านมานี้ พ่อทำเมินเฉยแม่ของผม เข้มงวดกวดขันกับผมแปลกๆ แถมบางครั้งยังเมินเฉยจนไม่เหมือนพ่อของผม พ่อมีเรื่องทุกข์ใจอะไรหรือเปล่า? ”
ไซม่อนมองไปยังลูกชาย
สองพ่อลูกมองกันอย่างเงียบๆ
ทันใดนั้น ไซม่อนยิ้มออกมาแล้ว ตั้งแต่ที่ประยสย์จำความได้ เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาพ่อไม่ยิ้มให้กับเขาเพราะว่าคนอื่นยิ้ม
“ประยสย์ พ่อมีเรื่องทุกข์ใจ เพียงแต่ เรื่องที่เคยทำไม่อาจลบล้างได้ ไม่ว่าจะพูดยังไง พ่อก็ทำผิดกับแม่ของแก แกถามพ่อแบบนี้ได้ พ่อดีใจมาด แกจำไว้นะ ไม่ว่าพ่อจะทำอะไร เป้าหมายสุดท้ายก็เพื่อปูทางให้กับแก หวังดีต่อแกและวิกา”
“พ่อและแม่ของลูก…… สุดท้านพ่อก็ทำผิดต่อเธอ พวกเราก็ย้อนกลับไปในอดีตไม่ได้แล้ว”
ญาณินยอมให้พิษเข้าสู่ร่างกายเขาจนเป็นอันตรายแก่ชีวิตก็ไม่ยอมช่วยเขา
เห็นได้ว่าเธอหมดรักเขาแล้ว
“รอวิกากลับมา พวกแกสองคนพี่น้องก็ร่วมมือกันจัดการคนชั่วในตระกูลโอเอ ถ้าหากพ่อมีใช้ชีวิตอยู่ถึงเกษียณ งั้นพ่อจะใช้วันเวลาที่เหลือตั้งใจชดใช้โทษกับแม่ของแก ถ้าหากตายก่อนเกษียณ อย่าลืมให้แม่ของแกสลักชื่อของเธอบนป้ายหลุมศพของพ่อ ทำแบบนี้พ่อก็นอนตายตาหลับแล้ว”
“พ่อ พ่อพูดอะไรกันล่ะ พ่อเป็นผู้นำตระกูลสาระทา ตั้งแต่พ่อรับช่วงต่อตระกูลสาระทาจนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลายี่สิบกว่าปีแล้ว พ่อยังควบคุมไม่ได้เหรอ?”
“ลูก หลายปีมานี้ รสชาติที่แกต่อสู้เพียงลำพังเป็นยังไง ?พ่อก็เป็นเหมือนกัน พ่อเป็นผู้นำตระกูลก็จริง แต่ทั้งวงค์ตระกูล แม้แต่อารองอาสามของแกก็ไม่ได้มีน้ำหนึ่งใจเดียวกับพ่อ พวกเขายืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับพ่อทั้งนั้น แกว่าพ่อจะสบายใจได้เหรอ?”
เขาฝืนยิ้ม : “ลูกชายลูกสาวของผู้นำตระกูลคนก่อนๆของตระกูลสาระทาของเราที่ผ่านมาล้วนแต่เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย คนที่นั่งอยู่ในตำแหน่งผู้นำตระกูลเป็นเป้าหมายที่คนทั้งตระกูลต่างก็อิจฉากันทั้งนั้น บางคนแค่อิจฉาไม่ทำอะไร บางคนถึงกับบ้าคลั่งเพราะความอิจฉา เมื่อมีผลประโยชน์ร่วมกัน พวกเขาก็รวมกันเป็นกลุ่มได้ ”