คุณสามีพันล้าน - บทที่ 391 การพูดคุยอย่างสนิทสนมระหว่างพ่อตากับลูกเขย
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 391 การพูดคุยอย่างสนิทสนมระหว่างพ่อตากับลูกเขย
“จะว่าไป พัฒน์ แกกับวิกาน่ะถ้ารีบๆมีลูกได้ก็รีบมีเถอะ หากอยู่ๆฉันเป็นอะไรไป ก็จะไม่ได้เจอหลานฉันแล้วน่ะสิ”
“พ่อครับ!”
“ที่เมินเฉยณิน เข้มงวดกวดขันเจ้ายสย์ จุดประสงค์ของฉันก็เพื่อปกป้องพวกเขา มีแค่ทำอย่างนี้ ให้ความสำคัญกับพวกเขาน้อยลง ความเสี่ยงของพวกเขาจะได้ลดลงส่วนหนึ่ง ถึงจะบอกว่าฉันเป็นผู้นำของตระกูลสาระทา แต่ฉันก็ไม่สามารถปกป้องพวกเขาได้24ชั่วโมงอยู่ดี”
“ทำได้เพียงใช้วิธีอย่างนี้ปกป้องพวกเขา นี่เป็นความลำบากใจของฉัน ส่วนเรื่องอื่นน่ะ ฉันกำลังรวบรวมหลักฐานที่ตระกูลเลิศธนโยธาทำความผิด รวมไปถึงหลักฐานที่คนพวกนั้นทำความผิดไว้เมื่อ23ปีก่อนด้วย”
“รอให้ถึงตอนที่ฉันล้อมจับ ต้องเกิดการปะทะกันเองแน่ๆ ไม่พวกเขาตายก็ฉันนี่แหละที่ต้องตาย”
ไซม่อนพูดเรื่องความเป็นความตายอย่างสงบนิ่ง
เขาไม่อยากให้โอเอ กรุ๊ปเป็นเช่นนี้ต่อไปอีกแล้ว
เขาพยายามจะแก้ไขวงศ์ตระกูลของโอเอ กรุ๊ปอย่างเต็มที่ รวมถึงประเพณีของสังคมศักดินาที่ยึดถือกันมาพวกนั้น ก็ประเพณีพวกนั้นนี่แหละที่ทำร้ายวงศ์ตระกูลของโอเอ กรุ๊ปจนหมดหนทางที่จะอยู่ร่วมกันด้วยความรักใคร่ปรองดองได้
ถึงยังไง เงินทองก็โน้มน้าวความรู้สึกของคนเราได้
ต่อหน้ามนุษย์เรา เงินทองเป็นก้อนหินลองใจที่ดีที่สุด
“พ่อครับ บอกผมได้ อะไรที่ผมช่วยได้ ผมจะช่วยพ่อแน่นอน”
“น้ำไกลดับไฟใกล้ไม่ได้หรอก”
ไซม่อนถอนหายใจยาวๆ ในทันที เขาก็ยิ้ม: “พัฒน์ แกก็อย่าห่วงเลย ฉันน่ะอยากเห็นแกกับวิกาจัดงานแต่งงานกันมากๆ แล้วก็อยากเห็นหน้าหลานฉันด้วย อีกสักระยะ แกก็พาวิกากลับไปเมืองซูเพร่าเถอะ วิกาควรกลับไปบ้านเกิดของตัวเองได้แล้ว ในวันนั้นที่เธอกลับไป ฉันจะประกาศจัดการทรัพย์สินของฉัน”
ถึงพูดกันว่าใครๆก็รู้ว่าทรัพย์สินส่วนตัวแสนล้านของเขาต้องแบ่งให้ลูกชายลูกสาวคู่นี้ แต่นั่นก็แค่ลมปาก ยังไม่ได้ลงมือจัดการ
รอให้วิกากลับไปแล้ว เขาก็จะเริ่มลงมือ
“บางทีอาจจะยิ่งทำให้วิกากับยสย์เสี่ยงอันตราย……อายุของฉันค่อยๆมากขึ้น ฉันแก่แล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ปกป้องพวกเขาจากอันตรายไปได้ตลอดชีวิต พวกเขาควรเรียนรู้ที่จะเผชิญหน้ากับความยากลำบากของชีวิต ถ้าพวกเขารักษาทรัพย์สมบัติที่ฉันแบ่งให้พวกเขาไม่ได้ นั่นก็คงโทษใครไม่ได้หรอก”
ไซม่อนมองก้อนเมฆที่อยู่ไกลสุดลูกหูลูกตา สายตาเลือนราง ในปากบ่นพึมพำ: “หากมีสักวัน ที่ณินยอมให้อภัยฉัน ฉันคงได้ปล่อยวางภาระที่หนักอึ้งนี่สักที ทั้งยังจะสร้างคฤหัสน์หลังหนึ่งให้เธออาศัยอยู่ เราสองสามีภรรยาจะหลีกหนีความอึกทึกครึกโครมของโลกนี้ไปให้ไกลๆ ใช้ชีวิตในวัยแก่อย่างสงบสุข”
ก็ไม่รู้ว่าความปรารถนาของเขาจะเป็นจริงหรือเปล่า
หากในวันที่มีการล้อมจับ เขาไม่สามารถมีชีวิตอยู่จนได้เจอกับณิน เขาคงทำได้เพียงมอบใบหย่าให้เธอ ให้อิสระแก่เธอ
“พ่อ คุยกับแม่สิครับ ผมเชื่อว่าแม่ต้องเข้าใจ”
“ณินไม่ยอมคุยกับฉัน อีกอย่าง หลายปีมานี้ฉันไปไหนมาไหนกับพลอยไพลินตลอด สำหรับณินแล้วมันคือการหักหลัง ฉันทำผิดต่อเธอ”
หลังจากยศพัฒน์เงียบไปชั่วครู่ ก็พูดต่อ: “พ่อแบกรับภาระมาตั้งมากมาย ยังจะยินยอมให้แม่เข้าใจผิดจนเกลียดชังอย่างนี้อีก แม้แต่วิกากับพี่ชายของเธอก็จะไม่เข้าใจพ่อนะครับ”
“พ่อ พ่อบอกเองนี่ครับว่าวิกากับพี่โตแล้ว ต้องเรียนรู้ที่จะเผชิญหน้ากับความยากลำบากของชีวิต ในเมื่อพ่อไม่พูดอะไรสักอย่าง พวกเขาจะรู้ได้ยังไง? ให้พวกเขาได้รับรู้เถอะครับ ต่อให้ยิ่งรู้เยอะก็จะยิ่งเสี่ยงอันตราย ผมเชื่อว่าพวกเขาก็ยินยอมครับ”
ถ้าจะพูดให้ไม่น่าฟัง หากวันข้างหน้าพ่อตาต้องตายไปจริงๆ หลังจากวิกากับพี่ได้รู้ถึงความตั้งใจทุ่มเทของพ่อ สิ่งที่ทิ้งไว้ให้สองพี่น้องคงเป็นความเสียใจแน่ๆ
เสียใจที่ไม่ได้กตัญญูต่อพ่ออย่างเต็มที่ ตอนที่สูญเสียไปแล้วถึงได้รู้ความจริง นั่นถือเป็นการทรมานคนที่ยังอยู่ประเภทหนึ่งเลย เป็นความทุกข์ใจ เป็นความเจ็บปวด
ลูกๆอยากเลี้ยงดูพ่อแม่แต่พ่อแม่กลับอยู่รอไม่ถึงวันนั้น ความเสียใจ ความเสียดายประเภทนั้น พัฒน์ไม่คาดหวังให้ภรรยาที่รักได้ลิ้มรสจริงๆ
ไซม่อนเงียบ
“วิกาได้รู้จักกับพวกพ่อแล้ว ไม่ว่าพ่อจะปิดบังยังไง เธอก็เผยตัวออกมาแล้ว คงต้องเสี่ยงอันตรายไม่น้อยเหมือนกัน ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมพ่อต้องแบกรับความกดดันนี้ไว้คนเดียวอีกล่ะครับ? พ่อคุยกับพี่ คุยกับวิกา ถึงจะไม่ขอให้แม่เห็นใจ แต่ยังไงก็ควรจะให้พี่กับวิกาเข้าใจพ่อนะครับ”
ยศพัฒน์เองเป็นคนดูแลจัดการตระกูลอริยชัยกุล เขารู้ว่าภาระของคนดูแลมันหนักมาก
รู้ว่าคนดูแลน่ะต้องละทิ้งเรื่องเล็กๆมาสนใจเรื่องของทุกคน เขาจึงเข้าใจพ่อตาดี
แต่เขาไม่เห็นด้วยกับที่พ่อตาจะไม่พูดอะไรเลย ถึงยังไงพี่ชายของภรรยาเขาก็24ปีแล้ว สามารถแบกรับภาระคนเดียวได้
“ว่าวที่ลอยสูง เป็นเพราะปล่อยสายในมือออกมายาวๆ นกอินทรีจะบินได้สูง เป็นเพราะพ่อแม่ของมันปล่อยมันแล้ว พ่อ คุยกับพี่กับวิกาเถอะครับ”
พัฒน์รู้ว่าภรรยาที่รักเข้าใจผิดพ่อตาเยอะทีเดียว
ความคิดที่มีอคติ ท้ายที่สุดก็ทำให้วิกาปฏิบัติกับพ่อได้ไม่ดีเท่าแม่
เงียบไปพักใหญ่ ไซม่อนจึงพูดขึ้น: “ยสย์น่ะรู้อยู่แล้ว ส่วนวิกา……ฉันอยากให้เธอไร้ความกังวล”
เทวิกาเติบโตอยู่ที่บ้านตระกูลวาชัยยุง สภาพแวดล้อมของบ้านตระกูลวาชัยยุงอบอุ่นชื่นมื่น ทำให้เทวิกาจิตใจดี ทั้งยังเป็นเพราะพวกเขาคอยประคบประหงม จึงใช้ชีวิตโดยไม่มีความกังวลตลอดมา แต่เธอไม่ได้โง่ เธอก็บังคับให้ตนเองเติบโตเป็นผู้ใหญ่เช่นกัน
ไซม่อนไม่ได้พูดอะไรอีก
เทวิกาที่ไม่รู้ว่าพ่อแท้ๆกับสามีกำลังพูดความในใจกันอยู่ เพิ่งจะได้เจอะเจอกัญณิศา
ทั้งสองคนนัดเจอกันที่ถนนคนเดินย่านคนรวย
กัญณิศาสวมชุดเดรสยาวสีเรียบๆ เธอสวยโดดเด่นกว่าคนทั่วไป หลังลงจากรถ ในวินาทีนั้นที่เดินมาหาเทวิกา คนที่เดินอยู่ข้างทาง มองเธอจนเหลียวหลัง ถึงขั้นมีคนมองเธอจนชนเสาไฟด้วยซ้ำ
“ณิศา”
เทวิกาลงจากรถมาทักทายเพื่อนสนิทก่อน
ญาณินกับลูกชายตามมาทีหลัง
ญาณินเห็นกัญณิศาค่อยๆเดินมา รอยยิ้มบนใบหน้าก็ยับยั้งเอาไว้ไม่อยู่
เธอชอบสาวน้อยคนนี้!
เหมาะสมที่จะดึงดูดสายตาของเธอ
ไม่ใช่ความสวยที่โดดเด่นของณิศา แต่เสน่ห์ของณิศาต่างหาก ที่ถูกใจญาณิน
แม้แต่ประยสย์ที่เจอคนสวยมามากมายยังชมกัญณิศาว่าสวยเหมือนนางฟ้าอยู่ในใจเลย
แต่ทว่าประยสย์แค่ชื่นชมอย่างบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้มีความหลงใหลปะปนอยู่ด้วย
เขาไม่ได้เดินเข้าไปหาด้วยซ้ำ ยืนอยู่ที่ข้างรถ มองน้องสาวพาผู้หญิงที่ชื่อณิศาเดินเข้ามาทักทายแม่ของเขา
“คุณน้าสวัสดีค่ะ”
กัญณิศาทักทายด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ดวงตาคู่สวยพินิจพิจารณาญาณินอย่างไม่เป็นที่สังเกต
ที่แท้ภรรยาของผู้นำตระกูลสาระทาอ่อนโยนน่าประทับใจเช่นนี้นี่เอง แม้จะอายุมากแล้ว แต่ยังคงสง่างาม
ตอนที่ทั้งสองคนสบตากัน ต่างมองกันและกันอย่างเงียบๆ ชั่วครู่ ถึงได้ยิ้มออกมา
เทวิกา: ……
รู้สึกได้ว่าแม่กับกัญณิศากำลังพูดคุยกันอย่างลับๆอยู่นะ
ญาณินดึงมือของกัญณิศาขึ้นมา สนิทสนมราวกับเป็นแม่ลูกกัน ถึงทั้งสองคนจะแสดงท่าทีสุภาพต่อกัน แต่กลับรู้สึกสนิทใจกับอีกฝ่ายตั้งแต่ที่ได้เจอ
เทวิกาชำเลืองมองไปทางพี่ชาย เห็นพี่ชายหน้าตาเบื่อหน่าย กำลังสังเกตสภาพแวดล้อมรอบๆด้านเรื่อยเปื่อย
เธอ: ……สาวสวยโดดเด่นอย่างณิศาอยู่ตรงหน้าแท้ๆ ยังไม่สามารถดึงดูดสายตาของพี่ชายเธอได้อีกงั้นเหรอ?
“ยสย์ ยสย์”
ญาณินต้องเรียกถึงสองครั้ง จึงจะดึงจิตใจที่ล่องลอยของลูกชายเธอกลับมาได้
“แม่ มีอะไรเหรอครับ?”
ประยสย์ถามออกมาตรงๆ
ญาณินอยากจะเตะลูกชายสักที สาวสวยอยู่ตรงนี้ทั้งคนยังไม่รู้จักเดินเข้ามาทักทายอีก ไม่นึกว่าจะใจลอยไปที่อื่น
คนโสดเนี่ย อาศัยความสามารถในการเป็นโสดจริงๆ