คุณสามีพันล้าน - บทที่ 404 ตกใจที่ได้รับความโปรดปรานอย่างไม่คาดฝัน
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 404 ตกใจที่ได้รับความโปรดปรานอย่างไม่คาดฝัน
“ป้าสะใภ้ พี่ชายบอกว่าเขาจะแต่งงานใหม่กับพี่สะใภ้อีกครั้ง ในเมื่อจะแต่งงานกันใหม่อีกครั้ง งั้นฉันก็เรียกเขาว่าพี่สะใภ้ต่อไปนะ ต่อไปจะได้ไม่ต้องพูดใหม่ ”
บัณฑิตาโมโหอย่างมาก
ยิ่งจะปวดใจที่ลูกชายได้รับบาดเจ็บเพราะกนกอร
เธออยากจะดูบาดแผลของลูกชาย ถูกนฤเบศวร์ห้ามไว้
“แม่ แค่แผลถลอกนิดหน่อยเอง ไม่ต้องดูหรอก ลูกชายของแม่ตายไม่ได้หรอกนะ”
“ยังจะพูดว่าแผลถลอดนิดหน่อยอีกนะ เห็นสีหน้าแกซีดเผือด มีสาเหตุมาจากเลือดไหลออกมาเยอะแน่นอน กนกอรก็คือตัวซวย ตั้งแต่เล็กมาแกไม่เคยได้รับบาดเจ็บมาก่อนเลย เพราะว่าเธอ แกถึงได้บาดเจ็บอย่างนี้เบศวร์แกไม่ต้องคบหากับกนกอรอีกแล้ว เธอก็คือผู้หญิงที่กินผัว”
“แม่!”
นฤเบศวร์วางมีดในมือลงดังเปรี๊ยะ ใบหน้าที่หล่อเหลามืดมน พูดอย่างไม่พอใจ : “นี่มันไม่เกี่ยวกับกนกอรนะ แม่ด่ากนกอรทำไม?”
“กนกอรไม่ใช่ตัวซวย และเธอไม่ใช่คนที่มีดวงกินผัวด้วย!”
บัณฑิตาพูดอย่างโมโหว่า : “แกยังจะปกป้องเธอเหรอบัณฑิตา? แกดุแกสิ่งที่แกเป็นแบบนี้ก็เพราะเธอ เป็นความผิดของเธอ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ แกจะได้รับบาดเจ็บเหรอ?เธอซวย เจอกับโจรปล้น ก็ลากให้แกซวยไปด้วย เบศวร์ แกไม่ต้องคบหากับเธออีกแล้ว หย่าก็หย่ากันแล้ว ตัดขาดกันหมดสิ้น เธอไม่เหมาะกับแก เธอมีเพียงแค่ทำให้แกซวยไปด้วย ”
“วันนี้ทำให้แกบาดเจ็บก็เพราะเธอ พรุ่งนี้ไม่แน่ก็อาจจะทำให้แกบาดเจ็บหนักกว่าเดิม ถึงขั้นคร่าชีวิต”
“ที่รัก คุณพูดอะไรกันล่ะ คุณกำลังแช่งลูกชายเหรอ?”
ธารณ์รู้สึกว่าภรรยาพูดไม่ค่อยน่าฟังเท่าไหร่ ไม่เห็นว่าใบหน้าของชายชราเยือกเย็นลงแล้ว
“สามี ฉันไม่ได้แช่งลูกชายนะ สิ่งที่ฉันพูดเป็นเรื่องจริง คุณลองคิดดูนะ หลังจากที่เบศวร์อยู่ด้วยกันกับกนกอรเคยเกิดเรื่องดีอะไรขึ้นบ้างไหม?มีแต่เรื่องไม่ดีทั้งนั้น ตอนแรกเรื่องของเปรม์ ตอนนี้แม้แต่เบศวร์ก็ได้รับบาดเจ็บแล้ว ไม่แน่ต่อไปก็จะมีหายนะที่ยิ่งใหญ่กว่านี้”
“กนกอกก็คือตัวซวย เบศวร์หย่าร้างกับเขา งั้นก็เป็นเรื่องที่ดี ถ้าหากคบหากันต่อไป ใครจะไปรู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น?ถ้าหากเธอไม่ใช่ตัวซวย เบศวร์อยู่ด้วยกันกับเธอ ก็น่าจะราบรื่นในทุก ๆ เรื่องถึงจะถูก”
สีหน้าของนฤเบศวร์มืดคล้ำแล้ว
เขาเหลืออด พูดออกมาหนึ่งประโยคว่า : “หลังจากที่พ่อกับแม่อยู่ด้วยกัน ก็ไม่เห็นว่าจะราบรื่นไปซะทุกเรื่องเลยนะ นี่ก็พูดได้ว่าแม่ก็ไม่เหมาะสมกับพ่อผมหรือเปล่า?”
เขาไม่ได้พูดคำว่าตัวซวยออกมา เป็นคำนึงถึงว่ายังไงก็เป็นแม่แท้ๆของตัวเอง
บัณฑิตา:“……สามี คุณดูสิ เบศวร์เพื่อกนกอรแล้วคิดไม่ถึงว่าจะตำหนิว่าฉันที่เป็นแม่ ฉันเป็นแม่แท้ๆของเขานะ!”
“เบศวร์ คำพูดเมื่อกี้ของแกเกินไปแล้วนะ”
ธารณ์พูดล้อเล่น
ชายชราพูดหนึ่งประโยคอย่างนิ่งๆว่า : “คำพูดของเบศวร์ก็มีเหตุผลนะ บัณฑิตาหลังจากที่คุณแต่งงานกับธารณ์ก็ไม่เห็นว่าธารณ์จะราบรื่นไปซะทุกเรื่อง และก็โชคร้ายกว่าหลายครั้ง และก็เคยเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้รับบาดเจ็บ เป็นเพราะว่าแต่งงานกับคุณหรือเปล่า?”
บัณฑิตา : “……พ่อ สิ่งเหล่านั้น สิ่งเหล่านั้นมันเป็นอุบัติเหตุทั้งนั้น ชีวิตคนเรา จะสําเร็จลุล่วงไปด้วยดีราบรื่นไปทุกอย่างจริงๆได้ที่ไหนกันล่ะ?จะต้องเจอเรื่องโชคร้ายบ้าง ”
“เหอะ!”
ชายชราพูดเหอะ พูดเยาะเย้ยกลับว่า : “คุณก็รู้ว่าชีวิตของคนไม่สามารถสําเร็จลุล่วงไปด้วยดีได้จริงๆ ก็รู้ว่าเป็นคนต่างก็ต้องเจอเรื่องโชคร้ายเล็กน้อย?งั้น เบศวร์เกิดอุบัติเหตุ ทำไมคุณถึงไปโทษกนกอรล่ะ?”
หลังจากที่บัณฑิตาสำลัก พูดเสียงเบาๆว่า : “เบศวร์ได้รับบาดเจ็บเพราะกนกอร งั้นก็เป็นความรับผิดชอบของกนกอร เป็นความผิดของกนกอร”
“แม่ กนกอรไม่ได้อยากเจอโจรปล้นสักหน่อย อีกอย่าง ผมก็ริเริ่มที่จะปกป้องเธอเอง เพราะเหตุนี้ การที่ได้รับบาดเจ็บก็เป็นเพราะผมไม่ระวัง ไม่เกี่ยวกับกนกอร”
เขายังจงใจได้รับบาดเจ็บด้วยนะ ง่ายที่จะทำให้กนกอรเป็นห่วงเขามากๆหน่อย
เพียงแต่พูดคำเหล่านี้ออกไปไม่ได้ หลีกเลี่ยงไม่ให้แม่ใส่ร้ายป้ายสีไปที่กนกอรอีก
“ทำไม……”
“แคร่กๆๆ”
ลุงเซนไอครู่หนึ่งแล้ว
เขาต้อนรับให้กนกอรเข้ามา ไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดเหล่านี้
ลุงเซนแอบมองดูสีหน้าของกนกอร เห็นกนกอรสีหน้าสงบ เหมือนว่าไม่เก็บคำพูดของคุณหญิงมาใส่ใจ ลุงเซนไม่เพียงแค่ไม่ผ่อนคลาย แถมยังเป็นกังวลมากด้วย
คุณชายหวั่นไหวแล้ว วิ่งตามคุณกนกอร แต่คุณหญิงมักจะเหนี่ยวรั้งไว้
อิงจากคำพูดที่คุณหญิงพูดมาเมื่อสักครู่ ขอเพียงแค่เป็นคนที่เลือดร้อย จะต้องโมโหทั้งนั้น
คุณกนกอรเธอเป็นคนที่ตรงไปตรงมา จะไม่สนใจเลยสักนิดได้ยังไง?
ถ้าหากคุณกนกอรแต่งงานใหม่อีกครั้งกับคุณชาย คุณหญิงก็เป็นแม่สามี ปัญหาแม่ผัวกับลูกสะใภ้ทำให้คนปวดหัวมาตั้งแต่สมัยโบราณ
“กนกอรคุณมาได้ยังไง?”
ในตอนที่นฤเบศวร์มองไปยังกนกอร ตื่นตกใจ ลนลานมาก
เขารีบลุกขึ้นยืน เดินไปต้อนรับกนกอร
จิตใจไม่สงบราวกับตีกลองอยู่ในใจ ไม่รู้ว่ากนกอรได้ยินมามากน้อยแค่ไหน
นึกถึงตอนที่ลุงเซนเข้ามาพูดบางอย่างที่ข้างหูคุณปู่ น่าจะเป็นเรื่องที่กนกอรมาสินะ
จู่ๆคุณปู่ไม่พูดกับเขาสักคำ
นฤเบศวร์ตำหนิในใจ คุณปู่กำลังทรมานเขาแน่ คิดอยากจะให้เขาเจอความยากลำบากสักหน่อย
ชายชรา : ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าแม่ของแกจะลงไปข้างล่าง แถมยังพูดจาใส่ร้ายป้ายสีทำให้กนกอรเสียหายขนาดนี้
บัณฑิตามองไปที่กนกอร พูดเหอะอย่างเยือกเย็น ไม่แม้แต่จะมองตรงๆเลยสักแวบเดียว
กนกอรพูดทักทายคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นอย่างมีมารยาท และส่งกล่องข้าวเก็บอุณหภูมิให้กับนฤเบศวร์ พูดว่า : “ฉันให้แม่ของฉันเคี่ยวซุปบำรุงให้คุณ เป็นซุปบำรุงเลือด คุณทานตอนที่มันยังร้อนๆนะ”
นฤเบศวร์รู้สึกตกใจที่ได้รับความโปรดปรานอย่างไม่คาดฝัน
รีบรับกล่องข้าวเก็บอุณหภูมิมาเลย แสยะปากยิ้ม “คุณป้าช่างมีน้ำใจจริงๆ กนกอร คุณก็เช่นกัน”
เลือดไม่ไหลเปล่า มีซุปบำรุงให้ดื่มแล้ว
กนกอรก็ยื่นอาหารเสริมที่ซื้อมาให้เขา “อาหารเสริมเหล่านี้ฉันเป็นคนซื้อมา คุณรับไว้นะ กินวันละนิดหน่อย บำรุงเลือด”
ปากนฤเบศวร์พูดว่า : “บ้านของผมมีทุกอย่างแล้ว”
แต่มือไวมาก รับอาหารเสริมมาอย่างรวดเร็ว นี่เป็นอาหารเสริมที่ภรรยาของเขา อ๋อ ที่อดีตภรรยาซื้อมาให้
เขาจะต้องกินทุกวันแน่ จะต้องกินอาหารเสริมจนออกเป็นรสชาติของไวน์ที่แสนอร่อย
“พวกคุณกำลังทานข้าว ฉันก็ไม่รบกวนพวกคุณแล้ว แล้วเจอกันค่ะ”
กนกอรพูดแล้ว ทำได้เพียงพยักหน้าให้ชายชรา และก็หันหลังจะเดินจากไป
“กนกอร”
มือข้างหนึ่งของนฤเบศวร์ถือกล่องข้าวเก็บอุณหภูมิ ข้างหนึ่งถึงอาหารเสริม ไล่ตามกนกอร “กนกอร กว่าคุณจะมาสักครั้งไม่ง่ายเลย นั่งลงก่อนนะ คุณทานข้าวมาแล้วยัง?ทานด้วยกันสักหน่อยไหม?”
กนกอรไม่ได้หยุดก้าวเท้า ปากก็บอกปฏิเสธออกไ ป : “ไม่ต้องแล้ว ฉันทานมาแล้ว ในร้านค่อนข้างยุ่ง ฉันจะต้องกลับไปดูร้านนะ”
นฤเบศวร์ไล่ตามออกมาถึงห้องรับแขก วางของไว้ที่โต๊ะชา ไล่ตามกนกอร ยื่นมือไปจับเธอไว้
“กนกอร อย่าไปนะ”
กว่าเธอจะมาเยี่ยมเขาได้ไม่ง่ายเลย ไม่ว่ายังไงก็ต้องให้เธออยู่ต่อ
กนกอกดึงมือของเขาออก พูดอย่างนิ่งๆ : “คุณเบศวร์ ฉันยุ่งมากจริงๆ แขนคุณเป็นแผล พักผ่อนอยู่ที่บ้านให้เต็มที่ อย่าลืมดื่มซุปด้วย ลาก่อน”
เธอหันหลังเดินจากไปอีกครั้ง
นฤเบศวร์เดินเข้าไป โอบเธอจากด้านหลังอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น กอดรัดไว้แน่น กลัวว่าคายมือออก กนกอรจะลอยออกไป
“กนกอร ผมปวดแผลมาก ปวดจนแม้แต่ตะเกียบมีดส้อมก็ถือไว้ไม่นิ่งแล้ว จนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้ทานอะไรเลย หิวมาก คุณป้อนผมโอเคไหม ?”
กนกอร:……
ผู้ชายคนนี้ยังมียางอายอยู่ไหม?