คุณสามีพันล้าน - บทที่ 422 กนกอร เรียกที่รักมาฟังหน่อยสิ
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 422 กนกอร เรียกที่รักมาฟังหน่อยสิ
เมื่อนฤเบศวร์เข้ามา ก็มองหาร่างของกนกอร
เมื่อเห็นกนกอรนั่งอยู่กับกันตภณ สีหน้าของเขาดิ่งลงทันที
กันตภณคนนี้ยังกล้ามาหากนกอรอีก
กันตภณยังไม่รู้เหรอว่าเขารู้แล้วว่าคุณปู่ของเขาสนับสนุนเขาอยู่เบื้องหลัง?
หรือว่าเขารักกนกอรเข้าให้แล้วจริงๆ ?
เมื่อนึกถึงความเป็นไปได้ในข้อนี้ นฤเบศวร์ตื่นเต้นขึ้นมาทันที
เกย์บางคนไม่ได้เป็นเกย์สุดทาง พวกเขาสามารถกลับมาเป็นปรกติได้ หรือบางทีอาจชอบทั้งผู้หญิงและผู้ชายก็ได้
นฤเบศวร์เดินเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว
“คุณมาแล้วเหรอ”
ไม่รอให้นฤเบศวร์พูด กนกอรพูดขึ้นมาก่อน พร้อมกับลุกขึ้นยืน เมื่อนฤเบศวร์เดินมาอยู่ตรงหน้าแล้ว เธอยังเอื้อมมือไปช่วยเขาจัดปกคอเสื้อและเนกไทที่เขาสวมให้เรียบร้อย
เนื่องจากพฤติกรรมนี้ของกนกอร ทำให้ความโกรธของเขาหายไปเป็นปลิดทิ้งทันที และใบหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“กนกอร เนกไทผมผูกได้ไม่ได้ เนื่องจากผมปวดแขน จึงผูกเนกไทคแบบลวกๆ คุณช่วยผมผูกใหม่ได้ไหม?”
กนกอรรู้ว่าเขาจงใจพูดแบบนี้ แต่ก็ยอมทำตามความต้องการของเขา ช่วยเขาดึงเนกไทออก แล้วผูกให้ใหม่ จากนั้นถามเขาออกมาว่า: “ยังไม่เลิกงานสินะ คุณมาที่นี่ทำไม?”
เขาออกไปจากร้านกาแฟแล้วไปบริษัทได้ยังไม่นานเลย ก็กลับมาอีกในเวลาอันสั้นนี้ ทำให้กนกอรรู้สึกกังวลว่าเขาจะปล่อยเรื่องของบริษัทไว้ไม่สนใจเพราะเธอ
ถึงแม้ถึงจะไปตระกูลเดชอุปน้อยมาก และไม่ได้ไปสัมผัสกับคนของตระกูลเดชอุปมากเท่าไหร่ แต่ก็รู้ว่าคริษฐ์ของบ้านสามต้องการยึดตำแหน่งของนฤเบศวร์
ถ้านฤเบศวร์ปล่อยเรื่องของบริษัทไว้ไม่สนใจเพราะเธอ แล้วถูกคริษฐ์ของบ้านสามแย่งตำแหน่งประธานไป แม่สามีเก่าของเธอคงจะยิ่งเกลียดเธอ และคิดว่าเธอเป็นตัวซวยไม่ยอมเปลี่ยนแน่ๆ
“ผมไม่มาได้เหรอ?”
นฤเบศวร์ถลึงตาใส่กันตภณ
กันตภณยังคงดื่มเบียร์อยู่ เหมือนมองไม่เห็นนฤเบศวร์ยังไงอย่างงั้นเลย
“ผมไม่อยู่เมื่อไหร่ ควายป่าคนนี้ก็มาหาคุณทันที กนกอร”
จู่ๆ กนกอรก็จับมือทั้งสองข้างของกนกอรไว้ พูดออกมาอย่างจริงจังว่า: “กนกอร พวกเราแต่งงานกันใหม่ดีไหม?มีแต่การได้แต่งงานใหม่อีกครั้ง ผมถึงจะรู้สึกอบอุ่นใจ”
กนกอร: “……”
เธอมองไปที่กันตภณ พูดกับนฤเบศวร์ที่หึงหวงขึ้นมาอีกอย่างเสียไม่ได้ว่า: “คุณรู้ว่าเขาเป็นคนยังไง ยังจะมาหึงหวงอีกคุณไม่รู้สึกว่ามันเปรี้ยวเหรอ?หรือว่าคุณชอบความเปรี้ยว เดี๋ยวฉันไปซื้อน้ำส้มสายชูซุปเปอร์มาเก็ตตรงข้ามมาสิบขวด ให้คุณดื่มจนพอใจไปเลย”
“กันตภณอารมณ์ไม่ดี ก็แค่เกลี้ยกล่อมให้เขาดื่มน้อยหน่อย พวกเราสองคนไม่มีอะไรกันจริงๆ”
นฤเบศวร์ดีใจที่พบว่ากนกอรกำลังอธิบายเรื่องระหว่างเธอกับภณให้เขาฟัง
“เวลาที่เขาอารมณ์ไม่ดี คุณเกลี้ยกล่อมเขาให้ดื่มน้อยหน่อย แต่ทำไมตอนที่ผมอารมณ์ไม่ดี ไม่เห็นคุณเกลี้ยกล่อมผมเลย?อีกอย่าง คุณเรียกชื่อเขาด้วย เรียกอย่างสนิทสนม คุณไม่เคยเรียกชื่อผมอย่างสนิทสนมมาก่อนเลย เรียกแต่แบตบอส ตอนที่เรียกอย่างเกรงใจที่สุดก็คือคุณนฤเบศวร์”
เขาอยากฟังกนกอรเรียกชื่อเขาหวานๆ เมื่อเขาได้ยินคงต้องขนลุกซู่ไปทั้งตัวแน่
กนกอรเห็นกันตภณยังคงกระดกดื่มเบียร์อยู่คนเดียว จึงถอนหายใจออกมา แล้วดึงนฤเบศวร์ไปที่หน้าเคาร์เตอร์ จากนั้นกดเขาให้นั่งลง ส่วนเธอยืนอยู่ข้างเขา แล้วพูดเสียงเบาออกมาว่า: “ภณ……คุณกันตภณเขาเสียใจเรื่องความรัก เรื่องของเขา คุณเองก็รู้ ตอนนี้วิกฤติของตระกูลศิริวรภูวดลผ่านพ้นไปแล้ว คนในครอบครัวของ นิรุตต์บังคับให้เขาแต่งงาน ความทุ่มแทและความเสียสละของคุณกันตภณไม่คุ้มเลย”
นฤเบศวร์เคอๆ ออกมาสองที “เปรมาที่ผมชอบเมื่อก่อนเป็นผู้หญิง ปู่ของผมยังไม่ชอบเลย ไม่อยากให้ผมอยู่กับเธอ แล้วบังคับให้ผมไปนัดบอดกับคุณ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง นิรุตต์ที่ชอบผู้ชายเลย มีพ่อแม่กี่คนที่สามารถยอมรับได้เรื่องที่ลูกชายตัวเองชอบผู้ชาย?
“กนกอร ผม ตอนนี้ผมไม่ได้รักเปรมาแล้ว คุณอย่าเข้าใจผิดนะ ผมก็แค่เปรียบเทียบให้ฟังเฉยๆ ขนาดผู้ชายชอบผู้หญิง ยังไม่ใช่ถูกคู่เลยที่ได้รับการยอมรับและแต่งงานด้วยกัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความรักเพศเดียวกันเลย ความจริงแล้วผมไม่ได้ดูถูกพวกเขานะ แค่พูดความจริงออกมาเท่านั้นเอง”
“ตระกูลศิริวรภูวดลมีท่าทีแบบนี้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไร ควายป่ารักนิรุตต์มากเกินไป บางที นิรุตต์อาจรักเขาจริงก็ได้ แต่หน้าที่บนบ่าของ นิรุตต์หนักมาก เขาจะคำนึงถึงเรื่องความรักอย่างเดียวไม่ได้ เขาอยู่ในตำแหน่งนี้จำเป็นต้องเสียสละหลายอย่าง”
กนกอรเงียบไป
เธออยากช่วยเหลือกันตภณ และรู้สึกว่ากันตภณเสียเปรียบมาก แต่ก็ต้องยอมรับสิ่งที่นฤเบศวร์พูดเป็นความจริงทั้งหมด
บนโลกนี้ไม่รู้ว่ามีคู่รักทั่วไปกี่คู่ที่ถูกบังคับให้แยกจากกัน นับประสาอะไรกับคนรักร่วมเพศ
ดูสายตาของกนกอรแล้ว นฤเบศวร์ก็เดาได้ว่าเธอกำลังเห็นใจกันตภณอยู่ เขาจึงถามกนกอรขึ้นมาว่า: “คุณอยากช่วยควายป่าเหรอ?”
“คนเขาตอนนี้ก็เสียใจมากพออยู่แล้ว คุณอย่าไปเรียกเขาควายป่าอีกเลย เขาไม่ได้เป็นผู้ชายบาร์โฮสสักหน่อย เขาเป็นนายแบบ”
“คุณช่วยเขาได้ไหม?คุณไปพูดกับคุณปู่ของคุณ ถ้าหากตระกูลศิริวรภูวดลไร้มนุษยธรรมขนาดนั้น ก็ไม่ต้องช่วยพวกเขา”
นฤเบศวร์พูดขึ้นว่า: “ไม่ต้องไปพูดกับคุณปู่หรอก เรื่องนี้ผมสามารถจัดการเองได้”
เขาเองก็ไม่อยากให้กันตภณอกหัก ถ้าเกิดกันตภณที่อกหักมาดื่มเบียร์ที่ร้านOne Day In Coffeeทุกวัน แล้วกนกอรปลอบใจเขาทุกวัน เขาเกิดรักกนกอรขึ้นมา จะทำยังไงดี?
ดังนี้ วิธีที่ดีที่สุดก็คือให้ นิรุตต์กับกันตภณได้อยู่ด้วยกัน แบบนั้น กันตภณก็จะไม่มีทางกลายเป็นศัตรูความรักของเขาได้
“ถ้างั้น……นฤเบศวร์สุดหล่อ คุณช่วยเหลือคุณกันตภณหน่อย ถึงแม้ความรักของพวกเขาจะไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม แต่ถ้าพวกเขารักกันด้วยความจริงใจ ก็มีสิทธิ์ที่จะรักกัน ซึ่งพวกเราไม่ควรไปดูถูกเขา”
นฤเบศวร์เอานิ้วมือเคาะโต๊ะ แล้ววางมาดออกมา “กนกอร ถ้าคุณอยากให้ผมช่วยกันตภณ ก็พูดคำพูดน่าฟังออกมาหน่อย?คุณเรียกผมว่าที่รัก ผมก็จะช่วยเขา มาสิ เรียกที่รักมาให้ฟังอีก”
ชะงักไปสักพัก เขาพูดขึ้นว่า: “ถ้าเรียกไม่ออก สามารถเรียกผมว่านฤได้ชั่วคราว น้ำเสียงต้องอ่อนโยน อ่อนหวาน ทำให้ผมได้ยินแล้วต้องรู้สึกอ่อนปวกเปียกไปทั้งตัว”
กนกอรยกมือขึ้นฝ่ามืออยากตบออกไป
แต่ออกไปได้ครึ่งหนึ่ง ก็ห้ามใจไว้ หดมือคนกลับไป แล้วพูดขึ้นว่า: “พวกเรายังไม่ได้แต่งงานกันใหม่ ใครจะไปเรียกคุณที่รัก แต่ถ้าให้เรียกชื่อคุณนั้นไม่ยาก แต่จะให้น้ำเสียงอ่อนโยน และอ่อนหวาน นั่นก็แสดงว่าต้อง หยาดเยิ้มสิ คุณคิดว่าด้วยนิสัยของฉันแล้วสามารถหวานหยาดเยิ้มได้เหรอ?”
“ช่างเหอะ คุณอยากช่วยก็ช่วย ไม่ช่วยก็ไม่ต้องช่วย เพราะสุดท้ายแล้ว คนที่กลัวและตื่นเต้นคือคุณไม่ใช่ฉัน”
เธอไม่ได้เซ่อสักหน่อย นึกว่าเธอไม่เข้าใจเหรอ?
ที่นฤเบศวร์ยอมช่วยกันตภณล้วนทำเพื่อตัวเองทั้งนั้น
“ภณมาที่นี่ทุกวัน ฉันก็จะคุยเป็นเพื่อนเขาทุกวัน ปลอบใจเขา ดื่มเหล้าเป็นเพื่อนเขา ถ้าหากเขาต้องการให้ฉันออกไปเที่ยวเล่นเป็นเพื่อนเขา ฉันก็คงต้องเสียสละไปเป็นเพื่อนเขา”
“กนกอร คุณต้องการยั่วโมโหผมจนให้ผมตายเลยเหรอ ถ้างั้นคุณก็จะกลายเป็นหม้ายนะ”
นฤเบศวร์กัดฟันพูดมันออกมา
“ผิด ถ้าคุณตายแล้ว ฉันสามารถแต่งงานกับคนอื่นได้ อย่าลืมสิ ฉันไม่ใช่ภรรยาของคุณ ไม่จะเป็นต้องเป็นหม้ายคลองโสดเพื่อคุณ”
“คุณเองไม่ใช่เหรอที่คิดอยากสือทอดทรัพสมบัติของผมอยู่ตลอดเวลา ถ้าไม่แต่งงานกับผม ไม่เป็นภรรยาผม คุณจะใช้ฐานะของภรรยาสืบทอดทุกอย่างของผมได้ยังไง?”
กนกอร: “……”