คุณสามีพันล้าน - บทที่ 461 ไม่รอบคอบ
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 461 ไม่รอบคอบ
หลังจากเงียบไปสักพักแล้ว ทัศนคติของผู้หญิงคนนั้นดีขึ้นเยอะมาก เธอพูดกับกนกอร “คุณกนกอรคะ เรื่องของฉันกับคนรักของคุณมันเป็นอุบัติเหตุ บางทีเขาคงจดจำหน้าตาของฉันไม่ได้ด้วยซ้ำ เพราะคืนนั้นเขาเมาหนักมาก”
“ที่ฉันมาหาคุณ ก็อยากจะพูดคุยด้วย เด็กในท้องของฉัน พวกคุณคงไม่ต้องการหรอกมั้ง? ฉันคนเดียวก็เลี้ยงเขาไม่ไหว เอางี้แล้วกัน คุณให้เงินฉันมาก้อนหนึ่ง ฉันจะไปทำแท้งเอาเด็กออก จ่ายเงินเป็นค่าทำขวัญสักก้อน จากนั้น พวกเราก็แยกทางกันไป ต่างคนต่างอยู่ ไม่มีวันมาบรรจบกันอีก”
ภารกิจของเธอจบไม่ค่อยสวยนัก ไม่รู้ว่าคนคนนั้นจะยอมจ่ายเงินก้อนที่เหลือให้เธอหรือเปล่า ไม่สู้หลอกเงินสักก้อนจากกนกอรเสียดีกว่า
ยังไงเสีย เธอก็ไม่ได้ตั้งท้องจริงๆ เสียหน่อย ผู้ชายคนนั้นที่มาหาเธอเป็นคนเอาใบรับรองแพทย์ฉบับนี้มาให้เธอ เพื่อให้เธอเอามาหลอกกนกอร
เธอคิดว่าเรื่องนี้สำเร็จเสร็จสิ้นได้อย่างง่ายดายมาก ใครเล่าจะรู้ว่ากนกอรไม่เล่นไปตามเกม จนทำให้เธอหมดหนทางแล้ว
กนกอรชำเลืองมองเธออยู่ชั่วครู่ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายประหม่าขึ้นเรื่อยๆ แถมยังแสร้งทำท่าทีมีเหตุผลเต็มเปี่ยม ต้องยากสำหรับเธอจริงๆ
“คุณคะ คุณยังไม่ได้บอกฉันเลย ว่าคุณชื่ออะไร”
“ฉะ ฉันชื่อเค้ก”
เธอไม่ได้ชื่อเค้ก มันเป็นการโกหกกนกอรอยู่แล้ว
กนกอรก็ไม่เชื่อว่าอีกฝ่ายจะยอมพูดชื่อจริงๆ ออกมา ในเมื่อพูดว่าชื่อเค้ก งั้นเธอก็จะคิดว่าอีกฝ่ายชื่อเค้กจริงๆ ก็แล้วกัน
“คุณเค้ก ถ้าสามารถพิสูจน์ได้ว่าเด็กในท้องเป็นลูกของแบตบอส คุณไม่คิดจะเอาเด็กคนนี้ไว้ แค่อยากได้เงิน เรื่องเงิน ต้องให้คุณแน่ แต่ฉันไม่ได้เป็นคนให้นะ พ่อของลูกของคุณเป็นคนเอาเงินมาให้ แต่ต้องพิสูจน์ให้ได้ก่อนว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของเขา”
“จะให้ทำตามที่คุณร้องขอทุกอย่างก็ไม่ได้ใช่ปะ? เขาไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินทอง แต่จะให้ใครมาสวมเขาก็ไม่ได้ คุณพูดว่าเขาเมาจนทำเรื่องรุ่มร่ามกับคุณ ตอนนั้นเขาเมาหนักขนาดไหนเหรอ?”
คุณเค้กตอบกลับ “เมาเหมือนหมา เขาเลยจำฉันไม่ได้ค่ะ”
กนกอรหัวเราะ “คุณมั่นใจนะ?”
การโดนเธอสวนกลับมาเช่นนี้ คุณเค้กจึงเกิดความรู้สึกสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย
แต่เธอก็ยังตอบกลับ “ค่ะ ตอนนั้นเขาเมาแอ๋ แทบยืนทรงตัวไม่อยู่เลย”
“เขาเมาเหมือนหมา แล้วทำรุ่มร่ามกับคุณอีท่าไหนเหรอ? เขาทำไหวด้วย?”
คุณเค้ก “…”
นฤเบศวร์ : …แต่ตอนที่เมาเหมือนหมา เขาทำไม่ไหวจริงๆ
เรื่องจำพวกที่ว่าลงมือปล้ำหลังจากเมาขาดสติปกติแล้วต้องเมาแต่ไม่ถึงขั้นเมาหัวทิ่ม แต่ฤทธิ์เหล้าทำให้พวกเขาวู่วาม จนเกิดเพศสัมพันธ์ตามมา
พวกชนิดที่เมาเหล้าจนหมดสภาพ ทำไม่ได้แน่เรื่องที่ให้พวกเขาทำเรื่องเสื่อมเสีย
“ฉันจำผิด เขาไม่ได้เมาหนักมาก ยังพอเดินเองได้”
กนกอรยิ้ม “ถ้าเขายังมีสติสัมปชัญญะมากพอ แถมยังเดินได้เอง ไม่มีทางทำเรื่องทุเรศกับคุณได้แน่ คุณเค้ก คุณทราบหรือเปล่าว่าผู้ชายที่คุณอยากพึ่งพาเป็นใคร? แล้วใครบงการให้คุณมาทำลายความสัมพันธ์ของฉันกับแบตบอส?”
คุณเค้กหน้าถอดสีทันที เธอแสร้งพูดอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ “คุณกนกอร ฉันพูดไปหมดแล้ว ฉันไม่รู้ว่าเขาชื่อว่าอะไร แต่ฉันจดจำเขาได้ ไม่มีใครบงการให้ฉันมาทำลายความรู้สึกระหว่างคุณกับสามีของคุณหรอกค่ะ ฉันแค่รู้สึกว่าในเมื่อเด็กเป็นลูกของเขา ยังไงก็ต้องให้คุณกับเขารับรู้ เพื่อให้พวกคุณลองตัดสินใจ แล้วจะจัดการกับเด็กคนนี้ยังไงกันแน่”
“คุณเค้กที่คุณมาหาฉัน ยังไม่ได้สืบข่าวมาให้ดี ฉันยังไม่ได้แต่งงาน ตอนนี้แบตบอสก็ไม่ใช่สามีของฉัน พวกเราไม่ใช่สามีภรรยากัน”
กนกอรเริ่มเปิดโปงคำโกหกของคุณเค้กทีละเล็กทีละน้อย
“ฉันอยากบอกคุณด้วยความหวังดี ผู้ชายคนที่คุณต้องการจะพึ่งพิงคือนฤเบศวร์ ประธานของ RA กรุ๊ป คุณคงเคยได้ยินชื่อนฤเบศวร์นะ มีชื่อเสียงโด่งดังมากในเมืองเราเลยทีเดียว เพราะว่าเขามุ่งมั่นทางด้านความรู้สึกมาก หมกมุ่นกับคุณหนูของตระกูลไชยรัตน์มาสิบกว่าปี แถมยังหวงเนื้อหวงตัว ผู้หญิงข้างกายก็ไม่มีสักคน ขนาดเลขาฯของเขายังเป็นผู้ชายทั้งหมดนี่ก็เพื่อคุณเปรมา”
“ผู้ชายชั้นยอดเช่นนี้ ตอนเขามีสติครบถ้วน เขาจะไปทำเรื่องทุเรศกับคุณได้ยังไง? ตอนที่เขาไม่ได้สติ ก็ทำไม่ไหว คุณว่า คุณจะตั้งท้องลูกของเขาได้ยังไงกันนะ?”
เมื่อคุณเค้กได้ยิน หน้าซีดเผือดทันที
นฤเบศวร์
ผู้ชายที่เธออยากจะติดพันด้วยนั้นก็คือนฤเบศวร์!
ซึ่งเหมือนกับที่กนกอรได้พูดออกมาทั้งหมด นฤเบศวร์มีชื่อเสียงมากในเมืองแอคเซสซ์ เธอก็เคยได้ยินเรื่องที่นฤเบศวร์หลงรักกับคุณหนูตระกูลไชยรัตน์หัวปักหัวปำ แถมยังเคยอิจฉาเปรมาด้วย จนรู้สึกว่าเปรมามีของดีอยู่กับตัวแต่กลับไม่เห็นคุณค่า มีผู้ชายที่ยอดเยี่ยมแบบนั้นมาหลงรัก ยังไม่รู้จักหวงแหนอีก
“คุณเค้ก ฉันขอแนะนำให้คุณพูดความจริงออกมาเถอะ ตกลงว่าใครเป็นคนบงการให้คุณมา?”
ไม่ทราบถึงที่มาที่ไปของคนที่บงการเธอมาอย่างแน่ชัด
จับต้นชนปลายไม่ถูก จึงจัดแจงให้คุณเค้กต้องเสนอตัวมา ช่างไม่รอบคอบจริงๆ
ขนาดร้าน One Day In Coffee มีภูมิหลังยังไงก็ยังไม่รู้แน่ชัดด้วยซ้ำ
คุณเค้กลุกพรวด พลันคว้ากระเป๋าของเธอ เพื่อเตรียมเดินจากไป
กนกอรยื่นมือตรึงข้อมือของเธอเอาไว้
คุณเค้กยังอยากคิดสะบัดมือของกนกอรออก แต่สะบัดไม่หลุด จึงใช้กระเป๋าตีที่ตัวกนกอร
กนกอรเรียนเทควันโดมา ถึงแม้ตลอดมาไม่ชอบการลงมือกับผู้หญิงเพศเดียวกันก็ตาม แต่ถ้าคนอื่นเริ่มลงมือก่อน เธอก็จะสวนกลับไปอย่างไม่เกรงใจ
คุณเค้กใช้กระเป๋าตีเธอ เธอจึงกราดเกรี้ยวทันที
พลันคว้ากระเป๋าของคุณเค้ก ใช้แรงกระชากมา ก็กระชากได้แล้ว เธอชูมือขึ้น กระเป๋าแบรนด์ดังใบนั้นก็ลอยไปอยู่ตรงมุมห้อง
เธอจึงกระชากคุณเค้กอีกครั้ง เพื่อสะบัดให้อีกฝ่ายนั่งลงบนที่นั่งเดิม และตะคอกเสียงแข็ง “นั่งลง!”
การกระทำของกนกอรทุกอย่างราวกับลื่นไหลดั่งสายน้ำ คุณเค้กตกใจ จึงจ้องมองกนกอรอย่างใจจดใจจ่อ นั่งลงจนไม่กล้าขยุกขยิกอีกครั้ง
มุมปากเริ่มพูดติดอ่าง “คะ…คุณกนกอร ฉันจะไปเอาออก คะ…คุณปล่อยฉันไปเถอะ”
กนกอรแสยะยิ้ม “เจ้าตัวที่โดนแกใส่ร้ายยังมาไม่ถึงเลย แกจะรีบไปไหน? พูดเอาเองว่าพูดต่อหน้าก็ไม่กลัวไม่ใช่เหรอ? รอเขามาก่อนสิ แล้วพวกแกค่อยๆ เผชิญหน้ากัน วางใจเถอะ เด็กเป็นลูกเขา เขาต้องจ่ายเงินให้แกอย่างแน่นอน”
คุณเค้ก:……
เธอชำเลืองตามองบอดี้การ์ดสองคนที่หน้าประตู
ถึงแม้จะวิ่งหนีไปก็หนีไม่รอด
แล้วจะทำยังไงดี?
ถ้ารู้ตั้งแต่แรกเธอไม่น่างกแค่เงินไม่กี่หมื่นเลย ใครจะไปรู้ว่าอีกฝ่ายขุดหลุมพรางเธอ จนเธอติดกับดักของเธอเองจนตายจริงๆ
แต่ก็สมน้ำหน้าที่เธอไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ
ที่มาอยู่ในกำมือกนกอร
“ดื่มน้ำสิ อ้อ น้ำมันเย็นแล้ว ฉันจะให้คนเทน้ำอุ่นๆ ให้แกอีกครั้งแล้วกัน”
กนกอรพูดด้วยโทนเสียงเนิบนาบ แต่คุณเค้กกลัวเธอที่สุด
กนกอรไม่สนใจว่าเธอจะกลัวหรือเปล่า และให้เด็กในร้านช่วยเปลี่ยนน้ำแก้วใหม่ให้เธอ
คุณเค้กยกน้ำอุ่นแก้วนั้นขึ้น พลางดื่มไปครึ่งแก้ว จากนั้นก็กำแก้วไว้แน่นกว่าเดิม และไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อ
กนกอรนั่งลงฝั่งตรงข้ามของเธอ ดวงตากลมตาสดใสจ้องมองเธอ
การโดนกนกอรจ้องไว้แบบนี้ คุณเค้กกระวนกระวายใจ และเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่
เธอรู้เหตุผลของกนกอรที่คอยจ้องมองเธออยู่แบบนี้
หลังจากครุ่นคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าคุณเค้ก จึงพูดอย่างระมัดระวัง “คุณกนกอรคะ ฉะ ฉันจะพูดความจริงออกมาทั้งหมด คุณจะปล่อยฉันไปมั้ยคะ? ช่วยพูดถึงฉันต่อหน้าคุณเบศวร์ดีๆ หน่อยได้มั้ย ฉันไม่อยากถูกคุณเบศวร์ทรมานตายเพราะเหตุนี้”
ด้วยตำแหน่งหน้าที่การงานของนฤเบศวร์ ถ้าอยากแก้แค้น ทรมานเธอ ราวกับขยี้มดตัวหนึ่งเท่านั้นเอง
“เธอพูดความจริงออกมาสิ แขนขามันก็อยู่ตัวเธอ ฉันไม่ได้กักบริเวณอิสระของเธอเลย ในเมื่ออยู่ต่อหน้าคุณเบศวร์ ทำไมฉันต้องช่วยเธอพูดด้วยล่ะ? ก่อนหน้าที่เธอตัดสินใจจะทำเรื่องนี้ ก็ควรจะคิดถึงผลลัพธ์ที่ต้องแบกรับให้ทะลุปรุโปร่งด้วยสิ”