คุณสามีพันล้าน - บทที่ 464 คิดถึงแบตบอสแล้วสิ
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 464 คิดถึงแบตบอสแล้วสิ
นฤเบศวร์ทำหน้าตาทะเล้น “งั้นเรามาลองฝึกในร้านเรากันมั้ย”
“ไสหัวไปไป๊!”
“หยาบคายขนาดนี้ ขายไม่ออกแล้วแหละ แต่งกับผมได้แค่คนเดียว”
นฤเบศวร์หัวเราะสรวล อาศัยจังหวะที่กนกอรยังไม่ได้แสดงพฤติกรรมอื่นใด รีบเดินไปที่รถของเขาทันที
นฤเบศวร์ต้องการไปพูดคุยเรื่องอะไรกับยศพัฒน์ กนกอรไม่รู้ หลังจากที่รอให้พนักงานหญิงในร้านกลับมาแล้ว จึงให้พนักงานดูร้าน ส่วนเธอไปซื้อกับข้าว
แต่หลังจากที่เธอทำอาหารเสร็จแล้ว นฤเบศวร์โทรมาหาเธอ แต่ไม่มากินข้าวด้วย
กนกอร : …
มันเป็นสิ่งที่ยากมากที่จะแสดงฝีมือในการทำอาหารอร่อยไว้หลายอย่างให้เขากิน ปรากฏว่าเขาไม่ยอมมา
เมื่อคิดว่าเขาไปหายศพัฒน์ ต้องมีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องจัดการแน่นอน กนกอรใจดีไม่คิดบัญชีกับเขา
คิดไม่ถึง นฤเบศวร์กลับไม่ยอมโผล่หน้าติดต่อกันหลายวัน
ด้วยความคุ้นชินกับการที่เขาทำตัวติดเป็นตังเมสะบัดไม่หลุด จู่ๆ ก็ไม่เสนอหน้ามาหลายวัน กนกอรยังรู้สึกคิดถึงเขาบ้างขึ้นมาจริงๆ
แสงแดดยามบ่ายมันทำให้เกียจคร้าน กนกอรก็เริ่มเกียจคร้านตามมาด้วย
เธอพาดตัวลงบนแคชเชียร์คิดเงิน พลันใช้มือข้างหนึ่งจับปากกาและวาดรูปมั่วซั่วลงแผนกระดาษอยู่ตลอด
เชอร์รี่หนึ่งจานที่ล้างสะอาดแล้ววางอยู่ด้านหน้าของเธอ
“ยากมากที่จะได้เห็นพี่อรของพวกเราเหม่อลอย ให้ฉันเดานะ คิดถึงแบตบอสอยู่หรือเปล่า? ฉันฟังจากพนักงานมา แบตบอสไม่ได้มาหลายวันแล้ว ฉันนับนิ้วดู ตั้งแต่วันพุธถึงวันนี้วันศุกร์ โอ้โห หลายวันจริงๆ ด้วยสิ”
เทวิกายืนอยู่ด้านนอกแคชเชียร์เก็บเงิน หลังจากวางจานเชอร์รี่ชามนั้นแล้ว เธอก็พาดตัวที่แคชเชียร์ต่อ และยิ้มให้เพื่อนสนิทอย่างหยอกเย้า
กัญณิศานั่งอยู่ด้านหน้าโต๊ะที่ริมหน้าต่าง พลางคอยสอดส่องถนนทางด้านนอกผ่านกระจก เนื่องจากช่วงบ่าย สภาพอากาศร้อนขึ้น คนที่เดินขวักไขว่อยู่บนท้องถนนก็ลดลงไปเยอะ
มือขวาของเธอถือกาแฟกรุ่นไอร้อนไว้แก้วหนึ่ง ยกขึ้นจิบบ้างเป็นบางครั้ง
เมื่อได้ยินคำพูดเย้าแหย่กนกอรของเทวิกา กัญณิศาเหล่ตามอง หัวเราะเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ต่อความยาวสาวความยืด และไม่ได้เดินไปหา
ระยะนี้เธอก็ปวดหัวมาก
เพราะเธอถูกคนจับตามอง
ปรากฏว่าคนที่จับตามองเธอคือประยสย์
คนของประยสย์คอยตรวจสอบเธออยู่เงียบๆ โชคดีที่ความสามารถในการปิดความลับทำได้แนบเนียน ขนาดพี่สาวแท้ๆ ของเธอยังไม่รู้ คนของประยสย์คงไม่น่าจะตรวจสอบอะไรได้
อีกอย่าง คนของประยสย์คอยจับตาเธอมาตลอด เธอจึงรับรู้ และจัดการได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้คนของประยศน์จะสืบยังไงก็สืบไม่ถึงตัว
ประยสย์คอยจับตามองเธอก็ช่างสิ ยังจะให้คนโทรมาเร่งรัดเรื่องผลการสืบผู้หญิงลึกลับคนนั้นอยู่ตลอดเวลา
กัญณิศาอยากจะคืนเงินมัดจำของประยสย์ ไม่อยากจะภารกิจนี้อีกแล้ว
พอคิดถึงกิจการสำนักงานนักสืบของตนเองที่ก่อตั้งมาหลายปี มันไม่ง่ายที่จะอยู่ในแวดวงมาจนถึงทุกวันนี้ การมีจุดยืนอยู่ในเมืองแอคเซสซ์ จะให้ประยสย์มาทำลายทุกอย่างของตนเองไม่ได้ทั้งนั้น
เขาต้องเอาเรื่องผู้หญิงลึกลับไปโยนให้คนอื่น แต่ จะโยนให้ใครดีล่ะ?
ประยสย์ดื้อด้านอยากจะตามหาหญิงลึกลับคนนั้นให้ได้ จะมีวิธีอื่นอีกมั้ย? เธอยืมมือคนอื่นแล้วล่ะก็ จะเป็นการสร้างความวุ่นวายให้กับคนอื่นหรือเปล่า?
กัญณิศาคิดหลายตลบ จึงอยากมาที่นี่เพื่อฟังความคิดของเทวิกา
“วิกา วันนั้นที่นฤเบศวร์ไปหาสามีของแกที่บ้าน จากนั้นก็ไม่ได้มาอีก สามีของแกพูดอะไรกับเขาเหรอ?”
กนกอรนั่งหลังตรง เมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทท่าทางไม่สู้ดี จึงหัวเราะและผลักเทวิกาเล็กน้อย “คุณนายน้อยอริยชัยกุล ดูสินั่งไม่เรียบร้อยเลย ถ้าคนอื่นมาเห็นเข้า แล้วถ่ายรูปเอาไปลงในเน็ต ก็ต้องติดแฮชแท็กแน่”
ด้วยสถานะและตำแหน่งของเทวิกาในเวลานี้ สามารถติดแฮชแท็กได้ง่ายมากไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม
“วันนั้นนฤเบศวร์ไปหายศพัฒน์แล้ว พวกเขาคุยอะไรกัน ฉันไม่รู้ พัฒน์ก็ไม่ได้บอกฉัน แต่ตอนกลางวันพัฒน์ก็นั่งกินข้าวเที่ยงกับฉัน แต่ไม่เห็นหนุ่มคนนั้นของแก น่าจะมีเรื่องอื่นติดพันอยู่มั้ง”
เทวิกาก็นั่งหลังตรง พลางหยิบเชอร์รี่ขึ้นมากิน และหันไปถามกัญณิศา “ณิศา แกกินเชอร์รี่มั้ย?”
ณิศายิ้มให้อย่างอ่อนโยน พลันส่ายหน้า แถมยังชูแก้วกาแฟถ้วยที่อยู่ในมือของเธอขึ้นมา
เทวิกาไม่อยากบีบบังคับเธอ
ตอนที่กัญณิศาอยู่กับพวกเธอ มักจะนั่งเงียบๆ อยู่ทางด้านข้าง บางครั้งก็พูดมาบ้าง เวลาพูดก็เสียงเบาเนิบนาบมาก จนทำให้พวกเธอไม่กล้าพูดเอะอะมะเทิ่งออกมา เกรงว่าจะทำให้กัญณิศาตกใจ
เทวิกาและกนกอรเติบโตมาจากครอบครัวธรรมดา ถึงแม้มิลินท์จะเป็นคุณหนูพันล้าน แต่บุคลิกเปิดเผยตรงไปตรงมา ดังนั้นตอนที่ทั้งสามคนมอง กัญณิศา จึงยกให้กัญณิศาเป็นเทพธิดาที่ลงมาจุติบนโลกมนุษย์ จึงอ่อนโยนเป็นพิเศษเมื่ออยู่ต่อหน้ากัญณิศา
กัญณิศาเองก็ทำให้คนหลายคนได้เห็นกิริยามารยาทเรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้เป็นบุญตา
“ณิศานั่งอยู่นั่น คอยมองถนนข้างทางอยู่แบบเงียบๆ ภาพนี้ช่างสวยมากจริงๆ ทำให้คนคิดถึงวันเวลาอันแสนสงบ”
กนกอรกระซิบกับเทวิกา
เทวิการู้สึกแบบเดียวกัน เธอหยิบโทรศัพท์ออกมา พลางแอบถ่ายรูปอันสงบเสงี่ยมของกัญณิศา พลันกระซิบพูด “ฉันจะวาดรูปท่าทางนี้ของณิศา วาดให้มันใหญ่ๆ หน่อย ใส่กรอบอีกนิด ก็จะเป็นภาพสาวงามภาพหนึ่ง แต่ฉันวาดเองไม่ได้ ต้องให้พี่ชายฉันช่วยวาด เขาวาดรูปเก่งจริง”
กนกอรเกียจคร้านจะพูดดักทางคำโกหกของเพื่อนสนิท
ทั้งๆ ที่เพื่อนสนิทวาดรูปได้ดีมาก
“กนกอร หลายวันมานี้แบตบอสไม่มาหาแก แกคิดถึงเขามากใช่มั้ย?”
กนกอรยืดอกรับ “คิดถึงเขา ทำไม? คิดถึงเขาไม่ได้เหรอ”
เทวิกาหัวเราะแกมพูดอย่างสนุกสนาน “ในเมื่อแกคิดถึงเขา ทำไมไม่ออกตัวไปหาเขาเอง หรือโทรศัพท์ส่งข้อความไปซักถามสารทุกข์สุกดิบว่าเขายุ่งอยู่กับเรื่องอะไรล่ะ?”
หลังจากกนกอรเงียบอยู่สักพัก จึงพูดทันที “ฉันส่งข้อความหาเขาแล้ว เขาพูดแค่ว่าเขายุ่งอยู่ ตอบคำสั้นๆ ฉันไม่กล้ารบกวนเขาอีกเลย”
“เขาน่าจะยุ่งจริงๆ แหละ เป็นไปได้ว่าเขาจะไปดูงานนะ”
เทวิกาพูดปลอบใจ “แกก็รู้ บริษัทใหญ่อย่างพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นประธานของบริษัทของตัวเอง ก็ต้องไปดูงานอยู่บ่อยครั้ง ความจริงพัฒน์ของฉันก็ต้องไปดูงานนะ แต่เขามีพี่น้องเยอะมาก เขาเลยยกโอกาสในการดูงานให้บรรดาน้องชายของเขาทุกที ก็เพื่ออยู่เป็นเพื่อนเธอ แถมยังให้โอกาสพวกน้องชายมีโอกาสไปฝึกปรือด้วยเลย”
บรรดาคุณชายของตระกูลอริยชัยกุล: …
นฤเบศวร์มีพี่น้องน้อย แถมไม่ได้อยู่ครบ ย่อมไม่ได้ผ่อนคลายเหมือนยศพัฒน์
“วิกา เรื่องวันนั้น สามีที่บ้านแกไม่เผลอหลุดปากอะไรออกมาบ้างเลยเหรอ?”
เมื่อเอ่ยถึงเรื่องวันนี้ หลังจากเทวิการับรู้แล้วตกใจทันที
กนกอรเคยถามสภาพทางฝั่งบิดาที่ให้กำเนิดของเธอ เธอก็เลือกจะพูดแต่เรื่องดีๆ หน่อย มีเรื่องราวอีกมากมายที่เธอไม่อยากให้กนกอรรับรู้ เพราะรู้สึกว่ารู้เยอะมันจะส่งไม่ดีต่อกนกอร
ตอนนี้เธอเข้าใจแล้ว ถึงแม้เธอไม่ให้กนกอรรู้ เพราะว่าเธอเป็นเพื่อนกับกนกอร คนพวกนั้นก็จะลงมือกับทางกนกอรนี่แหละ
โชคดีที่กนกอรระวังตัว และไม่ได้ติดกับดักเหมือนกับเธอครั้งนั้น ไม่งั้นไม่อยากจะจินตนาการผลที่ตามมาเลย
หลังจากเทวิกาเงียบงันสักพัก จึงกระซิบพูดกับเพื่อนสนิท “ฉันแค่รู้ว่าคืนนั้นคนที่ชื่อพี่นอร์ทถูกคนฆ่าในผับ คนที่ฆ่าเขาใช้ปืนเก็บเสียง ในผับมีคนเยอะ จึงไม่รู้ว่าใครเป็นคนฆาตกรรมเขาในระยะเผาขน”
“ถึงแม้พวกเราเดาออกว่าเรื่องนี้พลอยไพลินเป็นคนลงมือ พัฒน์พูดว่า ตระกูลเลิศธนโยธาของเมืองแอคเซสซ์อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง เขากับแบตบอสของแกมักจะเปิดโปงคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องของตระกูลเลิศธนโยธา ทางนี้ออกมา พี่นอร์ทต้องมีเบาะแสที่ดีมาก เมื่อพี่นอร์ทเสียชีวิต เบาะแสเลยขาดตอนทันที”