คุณสามีพันล้าน - บทที่ 469 บุญคุณของการช่วยชีวิต
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 469 บุญคุณของการช่วยชีวิต
ประยสย์สัมผัสได้ ณิศาสร้างความรู้สึกดีต่อเขา อีกทั้งน่าสนใจมาก
“คุณจ่ายเงินไปหลายแสนเพื่อว่าจ้างคนในสำนักงานนักสืบ XX เพื่อช่วยเสาะหาฉัน ในเมื่อคืนนี้ฉันมาหาคุณแล้ว คุณไปเอาเงินมัดจำกลับคืน เงินตั้งหลานแสน มันเยอะมาก อย่าให้เสียเปล่าไป”
“เอากลับมาให้คุณ ได้มั้ยล่ะ?”
กัญณิศา: “……”
เธอแค่อยากให้เขาไปเอาเงินมัดจำคืน จะได้ยกเลิกภารกิจ เพื่อรักษาหน้าตาของสำนักงานนักสืบของเธอ
แต่ไม่อยากได้เงินหลายแสนนั่น
“คุณประยสย์ ฉันช่วยคุณ คือการลงมือช่วยเพียงเรื่องเล็กน้อย ไม่ได้ขอร้องว่ามีผลตอบแทน เงินหลายแสนมันเยอะเกินไปค่ะ”
คราวนี้ประยสย์ไม่หันหน้ามา พลันพูดเสียงเข้ม “งั้นก็ช่างเถอะ สำนักงานนักสืบ XX รับงานของผมแล้ว แถมยังรับเงินมัดจำผมไปแล้วด้วย ช่วยผมตรวจสอบมานานมาก เงินมัดจำคงไม่ต้องแล้ว ถือว่าเป็นรางวัลให้กับพวกเขาในช่วงระยะนี้”
กัญณิศาเงียบขรึม
ตอนที่สำนักงานนักสืบของเธอรับภารกิจ ถึงแม้พูดว่าจะให้วางเงินมัดจำไว้ แต่ได้มีการลงนามเซ็นสัญญาไว้แล้ว ถ้าไม่สามารถทำภารกิจสำเร็จ จำต้องคืนเงินมัดจำให้กับเจ้าของ
การไม่คืนเงินมัดจำ นั่นหมายความว่าสัญญายังมีผลอยู่ตลอด พวกเขาต้องช่วยเจ้าของงานตรวจสอบอยู่ตลอดเวลา
“ในเมื่อคุณประยสย์ยืนกรานเช่นนั้น งั้นฉันก็ยอมรับทำตามที่คุณต้องการแล้วกัน เงินมัดจำเหล่านั้นฉันรับเอาไว”
ประยสย์ล้างจานช้อนเรียบร้อยแล้ว พลางเดินออกมาจากห้องครัว และมายืนอยู่ด้านหน้ากัญณิศา
ทั้งสองคนยืนอยู่ในระยะประชิด ประยสย์ได้กลิ่นหอมจางๆ อยู่เนืองๆ จากร่างกายของเธอ โชคดีที่เขามีจมูกไว ไม่งั้นคงไม่ได้กลิ่น
กลิ่นน้ำหอมจางๆ นี้ มันดูคุ้นๆ
พลางฉุกคิดถึงเวลาน้องสาวแสดงความรู้สึกสงสัยว่ากัญณิศาก็คือหน้ากากสาวต่อหน้าเขาอยู่ตลอดเวลา เขาเคยเจอกัญณิศา ซึ่งไม่สามารถนำกัญณิศาที่แสนอ่อนโยนกับหน้ากากหญิงที่ดูร่าเริงคล่องแคล่วมาซ้อนทับได้
เขาได้กลิ่นหอมจากร่างกายของเพศหญิง นอกจากมารดาและน้องสาวของเขาแล้ว ก็คือกัญณิศานั่นแหละ
กนกอรไม่ใช้น้ำหอม ร่างกายของเธอจึงไม่มีกลิ่น
นอกจากเธอเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ซึ่งจะมีกลิ่นหอมจากแชมพูสระผม
ถึงแม้กนกอรจะมีวิทยายุทธ์เล็กน้อย ในสายตาของประยสย์กระบวนท่าสวยงามไร้พิษสง ดังนั้นจึงตัดกนกอรไว้ตั้งแต่แรก
งั้นก็มีแค่กัญณิศาแล้วแหละ
ประยสย์ตำหนิอยู่ในใจ: น้องสาวตัวดีของเขาทายแม่นมาก!
สมองที่กำลังโลดแล่น ครุ่นคิดมากมาย พลันสร้างเรื่องขึ้นมาทันที
“คุณเอาบัญชีมาให้ผม ผมจะให้คนไปยกเลิกภารกิจกับทางสำนักงานนักสืบ XX เพื่อต้องการเงินมัดจำคืน และจะให้โอนเงินไปที่บัญชีคุณ”
กัญณิศายิ้ม พลางพูด “ฉันชอบเงินสดมากกว่า เวลามองมันดูรวยดีค่ะ!”
ประยสย์คลี่ยิ้มอย่างอดใจไม่อยู่ “ได้ งั้นผมเตรียมเงินสด คุณจะมาเอาเอง หรือให้ผมส่งให้คุณถึงที่ดีล่ะ?”
“ถึงเวลานั้นฉันจะส่งที่อยู่ให้คัณ คุณก็เอาเงินส่งไป ฉันจะรอรับเงินที่นั่นก็เรียบร้อยแล้ว”
เมืองซูเพร่าเป็นถิ่นของเขา เธอมาบ่อยครั้ง จะถูกเขาจับช่องโหว่ได้อย่างง่ายดาย
ถึงแม้ว่าเมืองแอคเซสซ์จะเป็นบ้านของเธอ แต่ไม่สามารถพูดได้ว่าเป็นถิ่นของเธอ อิทธิพลของตระกูลอริยชัยกุล ตระกูลเดชอุปขยายกว้างขวาง ทั้งสองตระกูลต่างช่วยประยสย์อยู่แล้ว สำหรับเธอถือว่าไม่ปลอดภัยเป็นอย่างมาก แต่ถือว่ายังปลอดภัยมากว่าเมืองซูเพร่าเสียอีก
เธอให้ที่อยู่ไปมั่วๆ ให้เขาส่งเงินไป แล้วค่อยคิดหาวิธีเพื่อสะบัดคนเขาออกก็จบแล้ว
การช่วยเหลือคน นี่มันไม่ใช่ครั้งแรกของณิศา
แต่ครั้งแรกที่ไปช่วยเหลือคนนั้นมันเกิดความยุ่งยากตามมาด้วย
“ได้ครับ”
ประยสย์ตอบตกลงอย่างกระวีกระวาด
กัญณิศาถอนหายใจโล่งอก ถือว่าสามารถปกป้องชื่อเสียงสำนักงานนักสืบของเธอไว้ได้
“ขอบคุณที่คุณช่วยชีวิตไว้ในครั้งที่แล้ว!”
ประยสย์กำลังแสดงคำขอบคุณต่อกัญณิศา
“บุญคุณเพียงหยดน้ำหยดเดียวการตอบแทนบุญคุณดั่งสายนที โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุญคุณในการช่วยเหลือชีวิตคน ภายภาคหน้าคุณพบเจอปัญหาอื่นใดก็ตาม และมีจุดให้ผมช่วยเหลือ รีบพูดได้ทันที”
ประยสย์พูดคำมั่นสัญญา
ณิศายิ้ม และพูดตอบ “ฉันบอกว่า มันเป็นการช่วยเหลือแค่นิดหน่อยเอง”
“ไม่สนว่าคุณจะพูดยังไง คุณช่วยผมไว้”
“ความจริงคือฉันไม่ลงมือช่วย ก็ไม่เห็นว่าคุรจะแพ้นะ พูดว่าฉันเป็นผู้มีพระคุณสำหรับคุณ มองฉันสูงส่งเกินค่ะ บอกว่าฉันช่วยคุณ ฉันยังพอรับไหว”
เธอไม่สามารถแบบรับความสูงส่งจากการเป็นผู้มีพระคุณไว้ได้ กลัวว่าเขาจะยอมเสียสละร่างกายเพื่อเอาตัวมาชดใช้คืน
“คุณเป็นผู้หญิงมากฝีมือที่สุดที่ผมเคยพบเจอมา”
“ขอบคุณสำหรับคำชมคุณประยสย์ดึกมากแล้ว ฉันต้องขอตัวกลับก่อน ขอบคุณบะหมี่ของคุณนะ อร่อยมากค่ะ”
ณิศาเตรียมขอตัวกลับ ขืนพูดต่อไปเรื่อยๆ เธอกลัวว่าประยสย์จะพูดเรื่องจ้างเธอมาเป็นบอดี้การ์ด
คำพูดของเขาทั้งหมดทั้งมวลต่างชื่นชมในฝีมือของเธอมาก
“ผมไปส่งคุณนะ”
ระหว่างประยสย์พูด ตัวคนก็เดินมุ่งหน้าไปยังหน้าต่าง
เขาคิดว่าณิศาเข้ามาทางหน้าต่าง
รอจนเขาเดินมาหยุดด้านหน้า พลันหันมองกลับมา ตัวณิศาเปิดประตูเดินออกไปแล้ว
ประยสย์
ปรากฏว่าเธอเข้ามาทางประตู!
ความจองหองแบบนี้ การเปิดเผยขนาดนั้น มันเป็นการยั่วยุระบบความปลอดภัยของตระกูลสาระทาของเขา!
ผู้หญิงคนนี้ เขาชื่นชมมากมายจากใจจริงๆ!
กัญณิศาเดินออกจากห้องของประยสย์ พริบตาเดียวก็แทรกตัวเข้ามาอยู่ในห้องรับแขกห้องหนึ่งอย่างสบาย และหนีออกไปจากหน้าต่างของห้องรับแขก การทำเช่นนี้ก็สามารถหลีกเลี่ยงบอดี้การ์ดเวรดึกของประยสย์ได้เรียบร้อย
ท่านอาจารย์ที่สอนวิทยายุทธ์ให้แก่เธอ อืม เป็นโจรกรรมเทวดาที่เก่งมาก! จำพวกโจรกรรมเทวดาที่เที่ยวตะเวนไปบ้านมหาเศรษฐีทั่วโลกแต่ไม่สามารถจับกุมได้แบบนั้น!
ความสามารถในการเดินเหินไต่กำแพง ไร้คนเทียบเคียงได้
เธอไม่อยากรับผู้สืบทอดโจรกรรมเทวดา ในเมื่อโจรกรรมเทวดาก็คือหัวขโมย ดังนั้นเธอจึงเลือกสายงานทางด้านนักสืบ เธอเองก็ชอบการใช้ทรัพยากรจากความสามารถของตนเองที่มีอยู่ในเมือ ในการค้นหาสถานการณ์ในปัจจุบัน รับรู้ความลับอีกมากมายในสิ่งที่คนอื่นไม่รู้
ประยสย์เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว พุ่งตัวออกจากหน้าต่างอย่างรีบร้อน น่าเสียดาย จนถึงเวลาที่เขาหลุดออกจากห้องนั้น ก็ไม่เห็นแม้เงาของกัญณิศานานแล้ว
เขาเสียดายสุดขีด!
เขาตกใจกับพฤติกรรมความจองหองของเธอจริงๆ ระหว่างลังเลอยู่นั้น เธอหลุดรอดไปแล้ว
ประยสย์เดินคอตกด้วยความเสียดายกลับห้อง เมื่อเดินมาถึงหน้าต่าง จึงเคาะหน้าต่าง
หลังจากนั้นถอยหลังไปไม่กี่ก้าว พริบตาเดียวก็มีบอดี้การ์ดชุดดำคนหนึ่งแทรกตัวเข้ามาทางหน้าต่าง
“นายน้อย”
ประยสย์จ้องมองคนสนิทของตนเอง พลางเงียบเสียงไปชั่วครู่ ถึงเอ่ยถามเขา “มีคนแทรกซึมเข้ามาในห้องฉัน พวกนายไม่รู้ไม่เห็นบ้างเหรอ?”
บอดี้การ์ดคนนั้นก้มหน้าด้วยความอับอาย
พวกเขายังได้รับสัญญาณจากนายน้อยที่ส่งมาให้ ถึงได้รับทราบว่ามีคนแทรกตัวเข้ามาในห้องของนายน้อย
ถึงแม้ภายหลังนายน้อยได้ส่งสัญญาณยกเลิกให้พวกเขาเข้ามา รู้ว่าคนที่เข้ามาไม่ได้มาทำร้ายนายน้อย แต่เรื่องนี้ทำให้พวกเขาบกพร่องในหน้าที่ ถ้าคืนนี้คนที่บุกเข้ามาในห้องของนายน้อยเป็นนักฆ่า นายน้อยจะมีชีวิตรอดได้ยังไง?
“เธอฉลาดเฉลียว แถมว่องไวอย่างปลาไหล ฝีมือฉกาจ การมาและกลับอย่างไร้ร่องรอยจริงๆ จนขนาดฉันยังจับเธอไม่ได้เลย … พรุ่งนี้ ฉันจะบอกกับประมุขของตระกูลเรื่องให้อัปเกรดระบบไปอีกหลายๆ ขั้น ออกไปเถอะ”
ประยสย์ไม่ได้กล่าวโทษบอดี้การ์ดคนสนิทของตนเอง
เขามั่นใจว่าคนของเขาเก่งมาก แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า มีคนเก่งอีกมากมาย ท่ามกลางคนเก่งย่อมมีคนเก่งกว่าอยู่ในนั้น การยอมรับว่ามีคนที่เก่งกว่าตนเอง ไม่ใช่เรื่องน่าอายแต่อย่างใด
ขนาดเขายังไม่มีความสามารถพอที่จะจับหน้ากากสาวปลาไหลตัวแม่ตัวนี้ไว้ได้ ไม่ต้องเอ่ยถึงบอดี้การ์ดของเขาเลย
สิ่งที่เขาสามารถทำได้ นั่นคือการอัปเดตระบบรักษาความปลอดภัยภายในคฤหาสน์
เพื่อเป็นหลักประกันหลังจากวิกากลับมาแล้ว สามารถพักในคฤหาสน์ได้อย่างปลอดภัย
เรื่องที่เกิดในคืนนี้ พรุ่งนี้เขาจะเสนอให้บิดารับทราบ
ความจองหองของหน้ากากสาวเช่นนี้ ต้องเกี่ยวข้องกับการที่บิดาของเขาดื่มเหล้า จนเมามายในคืนนี้แน่
ไม่งั้นด้วยประสบการณ์อันโชกโชนของพ่อของเขา ไม่มีทางที่จะไม่รับรู้
บอดี้การ์ดคนนั้นหน้าตาบึ้งตึง กระโจนออกจากหน้าต่างด้วยความอับอาย
ต่อไป พวกเขาต้องคุ้มกันอย่างแน่นหนาให้มากขึ้นแน่ คืนนี้ถ้านังขโมยสาวกล้าบุกมาอีก พวกเขาต้องจับตัวให้ได้ในที่เกิดเหตุ
อ้อ ไม่ใช่ขโมยสาว
ถ้าเป็นขโมย นายน้อยคงไม่พูดคุยกับเธอได้อย่างกลมกลืน คงไม่เลี้ยงบะหมี่เธอหรอก