คุณสามีพันล้าน - บทที่ 473 ยิ่งห่างกันยิ่งรักกัน
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 473 ยิ่งห่างกันยิ่งรักกัน
นฤเบศวร์มองดูคนที่เขาคิดถึงอยู่ตลอดเวลา และอดไม่ได้ที่จะจูบริมฝีปากสีแดงของเธอ
คิดถึงเธอมากเลย
กนกอรไม่ได้ผลักเขาออกไป แต่โอบแขนของเธอล้อมคอเขาไว้ เขย่งเท้าเล็กน้อยและตอบรับจูบของเขาอย่างกระตือรือร้น
น้องพนักงานรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไป
เพื่อหลีกเลี่ยงความเขินอายของคนสองคนหลังจากจูบกันเสร็จ
กนกอรอุตส่าห์ตอบสนองอย่างกระตือรือร้น นฤเบศวร์จึงโลภมากและจูบเธอหลายครั้งจนกระทั่งกนกอรไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เธอผลักเขาออก เขายังทำหน้าไม่พอใจอีก
กนกอรลูบริมฝีปากแล้วใช้นิ้วแหย่ที่หน้าอกของเขา “นายไม่รู้จักจบไม่รู้จักสิ้นเลยนะ”
นฤเบศวร์จับนิ้วของเธอและมองเธออย่างเสน่หา “หาได้ยากที่เธอจะตอบรับฉันอย่างกระตือรือร้น อร เธอไม่รู้หรอก ตอนฉันออกไปทำธุรกิจ เมื่อที่ฉันมีเวลาว่างฉันก็มักจะคิดถึงเธอเสมอ ดังนั้นฉันจึงไม่กล้าอยู่เฉยๆ ทำงานล่วงเวลาและจัดการงานต่างๆ”
“แต่เวลาฉันฝันตอนกลางคืน ฉันจะมักฝันถึงเธอเสมอ ฉันฝันว่าเธอทำอาหารอร่อยมากมายให้ฉันและปฏิบัติต่อฉันอย่างอ่อนโยน ให้ของขวัญฉันมากมายและจูบฉัน เราสองคน…… ฮิฮิ เธอเข้าใจดี”
ในความฝันของเขา เขามีอะไรกับเธอเป็นพันๆครั้งแล้ว
กนกอร: “……”
“ฉันกำลังสั่งอาหารพอดี สั่งให้นายด้วยล่ะกัน”
นฤเบศวร์พูดอย่างน่าสงสาร: “อร ฉันเพิ่งกลับมา แม้แต่บ้านยังไม่กลับก็มาหาเธอเลย ดูฉันสิ ทั้งเหนื่อยและหิวมาก เธอจะไม่เชิญฉันไปกินข้าวหน่อยเลยเหรอ”
กนกอรมองไปที่เขา
เธอใจอ่อนพูดว่า: “โอเค ฉันจะไปโรงแรมแอคเซสซ์กับนาย นายไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน แล้วค่อยไปกินข้าวกัน”
นฤเบศวร์ยิ้มทันที
กนกอรแหย่นิ้วที่หน้าอกของเขาอีกครั้ง คราวนนี้เปลี่ยนเป็นเสียงดุว่า: “ดูสิ นายเหนื่อยแค่ไหน คิดว่าตัวเองยังหนุ่มอยู่หรือไง สามารถไปมาติดต่อกันได้ทั้งวันทั้งคืน จะมีอะไรสำคัญไปกว่าร่างกายของนายอีกเหรอ”
“อดตายไปเลย! ใครบอกให้นายไม่กินข้าว ฉันบอกนายแล้วว่าไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการกินข้าว ถ้ากินอิ่มแล้วจะได้มีแรงสู้ต่อได้”
ถูกกนกอรดุ นฤเบศวร์ก็ไม่โกรธ แต่มีความสุขมากและยิ้มอยู่เสมอ
หัวเราะจนกนกอรก็อารมณ์ดีด้วย
เขาคว้ามือเธออีกครั้ง โอบเธอไว้ในอ้อมแขนและพูดว่า: “ที่ฉันเหนื่อยขนาดนี้ก็เพื่อพยายามลดทำธุรกิจของฉันให้สั้นลง แล้วกลับมาหาเธอโดยเร็ว อร เราไม่ได้เจอกันหนึ่งสัปดาห์เลยนะ”
กนกอร: “…… ฉันก็คิดถึงนายมากเหมือนกัน และก็ได้ลิ้มรสความเจ็บปวดของการจากกัน”
นฤเบศวร์กอดเธอและเดินออกไป
ขณะที่เดินเขาพูดว่า: “จริงเหรอ เธอแค่พูดให้ฉันดีใจรึเปล่า ฉันไปทำธุรกิจสองสามวันแล้วเธอค่อยโทรมาถามว่าฉันไปไหน ไปทำอะไร”
คำพูดของนฤเบศวร์เต็มไปด้วยความน้อยอกน้อยใจ
กนกอร: “…… ตอนที่ฉันถามนายครั้งแรก นายบอกว่านายยุ่งอยู่ ฉันเลยไม่อยากรบกวนนาย และนายไม่บอกฉันด้วยซ้ำว่านายจะไปทำธุรกิจ ฉันเลยไม่มีโอกาสไปส่งนายเลย”
เธอเห็นอกเห็นใจเขา
แต่เธอไม่คิดว่าเขาจะเดินทางไปทำธุรกิจ
และจะไปก็ไปเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์กว่าจะกลับมา
นฤเบศวร์ยัดเธอเข้าไปในรถ ส่วนเขาก็เข้าไปในรถด้วยและพูดว่า: “ฉันกลัวการลาจาก และมันเกิดขึ้นกะทันหัน ฉันเลยต้องรีบออกเดินทาง”
“เมื่อก่อนตอนเปรมามาแล้วจากไป นายไม่เคยไปส่งเธอเลยเหรอ”
นฤเบศวร์เงียบไปสักพัก
เขาไม่เพียงไปส่งเท่านั้น แต่ยังไม่อยากแยกจากเธอด้วย และยังซื้อของมีค่ามากมายให้เปรมาออกต่างประเทศให้ครอบครัวของเธอ
ทุกครั้งที่เปรมากลับมาแล้วไปต่างประเทศอีกครั้ง เขาจะเป็นคนขับรถไปส่งเธอที่สนามบิน
และส่วนใหญ่เขาก็เป็นคนไปรับเธอที่สนามบิน
อาจเป็นเพราะเขาลาจากกับเปรมาหลายครั้งเกินไป เขาจึงไม่กลัวที่จะแยกจากกับเปรมา อย่างน้อยที่สุดก็แค่รู้สึกผิดหวังและเสียใจเล็กน้อย
แต่ความรู้สึกของเขาที่มีต่อกนกอรนั้นแตกต่างออกไป
กนกอรเม้มริมฝีปากและพูดว่า: “ไม่พูดถึงเธอแล้ว นายกับเธอคืออดีต ต่อจากนี้ไป นายเป็นของฉันกนกอร เว้นแต่ฉันจะไม่ต้องการนาย ไม่อย่างนั้นฉันไม่อนุญาตให้นายไปหาผู้หญิงคนอื่น!”
นฤเบศวร์รีบแสดงความภักดี “ฉันมีเธอแล้ว แล้วจะไปมองผู้หญิงคนอื่นได้อย่างไร ในสายตาของฉันเธอนั้นไม่เหมือนใคร”
แม้แต่เปรมาก็ถูกเขาไล่ออกจากหัวใจ โดยส่วนใหญ่เป็นเพราะกนกอรเข้ามาแทนที่เปรมา เขารู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขมากเมื่อได้อยู่กับกนกอร เป็นเพราะความรักที่ให้กับกนกอรได้รับการตอบรับ
เขาเสียเวลาความรักกับเปรมากว่าสิบปีแต่ไม่ได้การตอบรับ
ถึงเปรมาเสียใจทีหลังแล้วจะทำไม?
เขาไปไกลแล้วและจะไม่กลับไปหาเปรมาอีก
ใครจะรอคนหนึ่งที่เดิมได้ตลอด
“ให้ฉันขับรถไหม นายเพิ่งกลับมาต้องทั้งเหนื่อยและหิวแน่”
กนกอรเห็นใจต้องการเปลี่ยนที่กับเขา
“ไม่ต้อง ฉันยังมีแรงขับอยู่”
นฤเบศวร์พูดแล้วสตาร์ทรถ
เขาจะกลับมา เลยแจ้งบอดี้การ์ดเตรียมรถให้พร้อมเพื่อที่เขาจะได้ไปหากนกอร
กนกอรไปโรงแรมแอคเซสซ์กับนฤเบศวร์ ทันทีที่พวกเขาสองคนจากไป เทวิกาและณิศาก็มาถึง
เมื่อพวกเขาเข้าไปในร้านและเห็นว่าไม่มีใครอยู่ในร้าน ทั้งสองคนก็ทำหน้างงงวย
ตอนเที่ยงจะมีลูกค้าน้อยมากก็จริง แต่กนกอรและพนักหญิงจะยังคงอยู่ในร้าน ตอนนี้แม้แต่พวกเธอก็ไม่อยู่
บอดี้การ์ดสองคนที่ปกป้องกนกอรก็หายไป เมื่อมองไปที่ประตูรถของบอดี้การ์ดก็ขับออกไปแล้วเช่นกัน
“วิกา เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า”
ณิศาพูดด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ เพื่อนบ้านข้างๆเมื่อพวกเขาเห็นฉันมาต้องบอกฉันแน่”
เทวิกาพูดด้วยความมั่นใจ
“น้อง น้อง”
“พี่วิกา ฉันอยู่ในห้องน้ำคะ”
น้องพนักงานได้ยินเสียงตะโกนของเทวิกาจึงรีบออกมาจากห้องน้ำ เธอมองไปรอบๆแล้วถามว่า “พี่อรไปกับคุณเบศวร์เลยเหรอ”
“เบศวร์กลับมาแล้วเหรอ?”
“ค่ะ คุณเบศวร์เพิ่งกลับมา ทันทีที่เขากลับมาก็เร้าร้อนกับพี่อรเลย ฉันไม่อยากอยู่เป็นก้างขวางคอ เลยซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำ”
เทวิกาและณิศามองหน้ากัน
อย่างงี้นี่เอง
ที่เรียกว่ายิ่งห่างกันยิ่งรักกัน
นฤเบศวร์และกนกอรไม่ได้เจอกันมาหนึ่งสัปดาห์ ดังนั้นทันทีที่เขากลับมาเลยรีบมาหากนกอร กนกอรปากแข็งก็จริง แต่เธอก็คิดถึงนฤเบศวร์
เป็นเรื่องปกติที่คนสองคนจะหาที่เงียบๆคุยกัน
“พี่วิกาคะ มาหาพี่อรมีอะไรรึเปล่าคะ”
เทวิกายิ้มและพูดว่า: “ไม่มีอะไร แค่ตอนเข้ามาไม่เห็นมีใครอยู่เลยรู้สึกแปลกใจ พอรู้ว่านฤเบศวร์กลับมา ฉันก็ไม่แปลกใจแล้ว”
“กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง……”
โทรศัพท์มือถือของณิศาดังขึ้น
เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและพูดว่า: “อาจจะเป็นพี่สาวของฉัน”
เมื่อเธอเห็นชื่อผู้โทร เธอรีบมองไปที่เทวิกา
เทวิกาไม่ได้จ้องมาที่เธอ เธอรับโทรศัพท์ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฟังที่เธอพูดว่า: “พี่คะ หนูไม่กลับไปทานอาหารกลางวันที่บ้าน หนูอยู่กับวิกาคะ อืมๆ เข้าใจแล้วคะ หนูโตแล้วดูแลตัวเองได้ค่ะ”
หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็ตอบอืมไปอีกสองสามครั้งก่อนจะวางสาย
เธอพูดกับเทวิกาว่า: “พี่สาวของฉันทำเหมือนฉันเป็นเด็กเสมอ แค่ออกไปด้านนอกก็โทรหาฉันหลายครั้งเลย”
อันที่จริง เมื่อกี้คือผู้ช่วยมือขวาของเธอที่โทรมา
เทวิกายิ้มและพูดว่: “พี่กิติยาเป็นห่วงเธอต่างหาก”