คุณสามีพันล้าน - บทที่ 484 กิติยาที่แตกต่างกัน
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 484 กิติยาที่แตกต่างกัน
กิติยาเองก็คิดแบบนั้น ว่าบางทีมันอาจจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญก็ได้
อย่างไรก็ตาม เธอก็ยังคงกระซิบเตือนน้องสาวของเธอว่า: “ประยสย์นั้นอันตรายมาก เธอกับเทวิกาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ซึ่งเทวิกาก็รักเขาเหมือนกับเป็นพี่ชายคนที่สอง ซึ่งไม่มีอะไรที่จะรับประกันได้ว่าเขาจะไม่สนใจเธอ ดังนั้น ถ้าเทวิกาคิดที่จะแนะนำเธอกับประยสย์ให้กันและกัน เธอจะต้องมาบอกฉันทันที”
“คงไม่ง่ายที่คนอ่อนโยนเช่นเธอ จะปฏิเสธความหวังดีของเทวิกา ดังนั้นให้พี่คนนี้เป็นคนช่วยเธอปฏิเสธเอง”
ประยสย์นั้นไม่ได้แย่ แต่ตระกูลสาระทานั้นไม่ดี
กิติยาสนใจประยสย์ แต่ไม่สนใจตระกูลสาระทา
เธอมีน้องสาวเพียงคนเดียว และพ่อแม่ของเธอก็เสียชีวิตทั้งคู่ ทำให้พวกเธอทั้งสองคนต้องพึ่งพาอาศัยกันอยู่ตลอด เธอจะไม่อนุญาตน้องของเธอไปแต่งงานกับครอบครัวใหญ่และซับซ้อนเช่นตระกูลสาระทาอย่างเด็ดขาด
เมื่อมองดูชีวิตของน้าณิน ก็จะเห็นได้ว่าการเป็นนายหญิงของตระกูลสาระทานั้นช่างน่าสมเพช และยากลำบากเพียงใด
กัญณิศาหัวเราะและพูดว่า: “พี่คะ พี่คิดไกลเกินไปแล้ว”
พี่สาวของเธอก็เป็นแบบนี้แหละ ตราบใดที่มีผู้ชายมองเธอมากกว่าหนึ่งครั้ง พี่สาวของเธอจะมีแผนการมากมายเกิดขึ้นภายในหัวของเธอ และจะรีบปกป้องเธอราวกับเจอหมาป่า
พี่สาวของเธอปกป้องเธอดีมาก
“พี่ก็แค่บอกเอาไว้ล่วงหน้า เทวิกากังวลมากเกี่ยวกับกิจการของพี่ชายทั้งสองคนของเธอ เมื่อชเนนทร์มีพี่แล้ว เธอก็จะไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องของชเนนทร์อีกต่อไป แต่พี่ชายคนสนิทของเธอไม่มีแม้แต่แฟนสักคน ดังนั้นเธอจะต้องเป็นกังวัลอย่างแน่นอน”
กิติยากับเทวิกาไม่ค่อยได้พูดคุยกันมากนัก แต่ชเนนทร์ชอบมักจะพูดถึงน้องสาวของเขาเสมอ และคนนั้นก็คือเทวิกา เธอที่ได้ยินเรื่องของเทวิกาจากปากของเขาบ่อยๆ ย่อมเข้าใจเทวิกาเป็นอย่างดี
“พวกเราสองคนต้องพึ่งพากันมาตลอดหลายปี พี่เองก็ไม่อยากให้น้องต้องแต่งงานออกเรียนไปอยู่ไกล”
กัญณิศากลัวว่าพี่สาวของเธอจะจู้จี้เธอต่อไปเรื่อย ๆ แม้ว่าพี่สาวของเธอจะเป็นเจ้านายที่ไม่ค่อยแยแสอะไรในบริษัท และดูเย็นชาต่อโลกภายนอก แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ พี่สาวของเธอก็เป็นคนช่างพูดและชอบจู้จี้เธออยู่เสมอ
“พี่คะ ไม่ต้องกังวลนะ ถ้าเทวิกาแนะนำฉันกับประยสย์ให้รู้จักกันจริงๆ ฉันจะบอกพี่เอง พี่ไม่อยากให้ฉันต้องแต่งงานแล้วไปอยู่ไกลๆ ฉันเองก็ไม่อยากแต่งงานแล้วอยู่ไกลจากพี่เหมือนกัน พี่ไม่ต้องกังวล น้องสาวคนนี้ชอบอยู่ภายใต้การคุ้มครองของพี่ที่สุด”
แต่น่าแปลก
เธอกำลังปกปิดเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่งจากพี่สาวของเธอ
เนื่องจากสิ่งที่เธอกำลังทำนั้นค่อยข้างอันตราย เธอกลัวว่าพี่สาวของเธอจะบ่นและเป็นห่วงเธอ เธอจึงเลือกที่จะปกปิดมันเอาไว้ เนื่องจากเธอได้พบกับอาจารย์คนหนึ่งโดยบังเอิญและได้เรียนรู้ทักษะนี้มา ทำให้เธอต้องปกปิดเรื่องนี้จากพี่สาว
“นอกจากนี้ คงไม่มีทางที่คุณประยสย์จะชอบฉันหรอก เพราะนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันพบกับเขา พวกเราเองก็เคยไปเดินช้อปปิ้งด้วยกันมาแล้ว เขาก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับฉันเป็นพิเศษ ขนาดเทวิกาให้เขาไปส่งฉันกลับบ้านเขายังปฎิเสธเลย”
กิติยาถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากได้ยินสิ่งที่น้องสาวของเธอพูด
น้องสาวของเธอสวยมากก็จริง แต่ประยสย์เองก็คงเห็นสาวสวยจนชินแล้ว อืม ก็ควรจะเป็นเช่นนั้น คงไม่มีทางที่ความสวยของน้องสาวเธอจะไปดึงดูดเขาได้
และถึงแม้ว่าเทวิกาต้องการที่จะเป็นสื่อกลางให้พวกเขา แต่ก็ต้องเป็นความรักและความเต็มใจของทั้งสองฝ่ายเท่านั้น
“พี่คะ มีคนมาขอดื่มกับพี่แล้ว”
กัญณิศาเห็นมีเถ้าแก่กำลังเดินมาหาพวกเขาพร้อมกับภรรยาของเขา กัญณิศารีบพูดขัดพี่สาว เพื่อจะได้จบการสนทนาในหัวข้อนี้
ถ้ายังปล่อยให้พี่สาวของเธอพูดต่อไป คงจะเวียนหัวน่าดู
กิติยากู้คืนรูปลักษณ์ที่เย็นชาของเธอทันที
ชเนนทร์เองก็กลับมายืนอยู่ข้างเธอเช่นกัน
เมื่อกี้เขาเห็นพี่สาวน้องสาวกำลังกระซิบกระซาบกัน ชเนนทร์จึงปลีกตัวออกมา โดยที่ไม่ได้คิดที่แอบฟัง
อย่างไรก็ตามเขาก็จะรู้ได้เอง เพราะกิติยาคงจะเป็นคนที่เริ่มพูดกับเขา
กัญณิศารู้สึกว่าตัวเองเป็นแค่ก้างขวางคอของพี่สาวกับพี่เขยในอนาคต เธอจึงหาข้อแก้ตัวและหนีไปอยู่คนเดียว
เพราะไม่อยากจะเป็นก้างขวางคอของพี่สาวอีกต่อไป
เธอเป็นเพื่อนเจ้าสาว และเป็นลูกสาวคนรองของตระกูลนนท์สัจทัศน์ โดยปกติเธอจะไม่ค่อยปรากฏตัว จึงทำให้มีหลายคนที่อยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเรื่องเธอ นอกจากนี้ เธอยังเป็นคนที่สวยมาก ทันทีที่เธอรอดพ้นจากการคุ้มครองของพี่สาวผู้เย็นชา ก็มีคนมากหน้าหลายตาเดินเข้ามาทักทายและทำความรู้จักกับเธอ
นอกจากนี้ยังมีเหล่าคุณนายกับลูกสาวเข้ามาพูดคุยเพื่อคบค้าสมาคมด้วย เพราะพวกเขารู้ดีว่าเธอและเทวิกาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
เมื่อนฤเบศกับกนกอรมาถึงโรงแรม กัญณิศาก็ดูเหมือนจะได้พบกับผู้ช่วยชีวิตที่สามารถช่วยเธอแบ่งเบาเครื่องดื่มได้ เธอจับมือของกนกอรและพูดด้วยความโล่งใจ: “กนกอร ในที่สุดเธอก็มาถึงสักที ถ้าเธอไม่มาละก็ฉันคงเมาหัวทิ่มแน่
หลังจากนี้ เธอจะไม่ไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้ใครอีกแล้ว
อืม ไม่สิ เธอยังต้องเป็นเพื่อนเจ้าสาวของเทวิกากับกนกอร
กัญณิศา: .….
เพื่อนเจ้าสาวถูกกดดันให้ดื่มเยอะมาก
เหล่าเพื่อนเจ้าบ่าว: …..พวกเราพูดอะไรรึยัง?
ก่อนที่กนกอรจะได้พูด นฤเบศวร์ที่อยู่ข้างเธอก็ปกป้องเธอ และพูดกับกัญณิศาว่า: “คุณกัญณิศาครับ อรของผมเธอดื่มไม่ได้ อย่างมากก็ได้แค่ครึ่งแก้ว ถ้ามากกว่านี้ ผมคงจะให้เธอดื่มไม่ได้จริงๆครับ”
กนกอรคออ่อนมาก
นฤเบศวร์จะปล่อยให้กนกอรดื่มจนเมาไม่ได้เด็ดขาด
โดยเฉพาะในโอกาสเช่นวันนี้
ทันใดนั้น กัญณิศาก็ยิ้มอย่างอบอุ่น “คุณนฤเบศวร์ออกตัวปกป้องเร็วดีจัง”
นฤเบศวร์โอบเอวของกนกอร “เธอเป็นภรรยาในอนาคตของผม แน่นอนว่าผมก็ต้องปกป้องเธอ”
กัญณิศาหัวเราะคิกคัก
กนกอรหน้าแดงเล็กน้อยและจ้องมองมาที่เขา
นฤเบศวร์พูดอย่างไร้เดียงสา: “กัญณิศาผมพูดจริงๆนะ”
“ฉันเห็นพี่ชเนนทร์เดินออกไปแล้ว งั้นฉันตัวไปหลบอยู่กับพี่สาวก่อนนะ”
กัญณิศารู้ว่ากนกอรไม่มีทางที่จะสามารถช่วยเธอแบ่งเบาภาระได้ ดังนั้นเมื่อเห็นชเนนทร์เดินจากไป เธอจึงรีบกลับไปหาพี่สาวของเธอทันที
เธอไม่สามารถเปิดเผยตัวตนของเธอได้ เธอเป็นเหมือนดอกไม้เรือนกระจกที่อยู่ภายใต้การคุ้มครองของพี่สาวเธอ
งานเลี้ยงฉลองงานแต่งงานยังคงคึกคักต่อไป จนกระทั่งดำงานเลี้ยงก็จบลง
แขกส่วนใหญ่เมาแล้ว
ไวน์ก็ดี
โชคดีที่งานเลี้ยงแต่งงานจัดขึ้นที่โรงแรมของตระกูลอริยชัยกุลหากแขกเมาก็สามารถค้างคืนที่ห้องพักของโรงแรมได้ แต่หากพวกเขาต้องการกลับบ้าน ครอบครัวของตระกูลอริยชัยกุล ก็จะจัดทีมบอดี้การ์ดเพื่อส่งแขกกลับบ้าน
เทวิกากับสามีเองก็ดื่มไวน์ไปไม่น้อย ยศพัฒน์จึงพาภรรยาสุดที่รักของเขาขึ้นไปพักที่ห้องชุดของประธานโดยตรง
ผู้อาวุโสของตระกูลอริยชัยกุลและคู่รักข้าวใหม่ปลามัน ทั้งหมดต่างกลับมาที่วิลล่า ซึ่งกษิดิเองก็เมามากจนเดินสะดุดแล้วสะดุดอีก ดังนั้นเขาจึงขอให้บอดี้การ์ดสองคนช่วยประคองเขาไปข้างบน
ลินท์มองดูสามีที่เพิ่งแต่งงานของเธอซึ่งเมามากจนผล็อยหลับทันทีที่หัวถึงหมอน เธอรู้สึกทำอะไรไม่ถูก
หลังจากที่บอดี้การ์ดออกไปแล้ว เธอก็ปิดประตู และเอาน้ำใส่กะละมังมาหนึ่งใบ เธอคิดจะเช็ดหน้าให้สามี
ใครจะไปรู้ว่าคนที่เมาบนเตียง จู่ๆก็ลุกขึ้นนั่งตัวตรงทันที
ลินท์: “…..”
“ที่รัก นี่คุณเมาจริงหรือหรือแกล้งเมา?”
เพราะเขามีความสุข เขาจึงไม่เคยปฏิเสธใครที่เข้ามาชวนดื่ม
แม้ว่าจะมีเพื่อนเจ้าบ่าวหลายคนที่ช่วยดื่ม แต่เขาเองก็ดื่มไปไม่น้อย
ดวงตาของกษิดิลุกโชนราวกับไฟ เขามองเธอและพูดด้วยรอยยิ้ม: “คืนนี้เป็นคืนแต่งงานของเรา ผมจะพลาดได้ยังไง”
เขาเลื่อนตัวลงจากเตียง เดินไปด้านหน้าของลินท์ หยิบกะละมังน้ำเย็นออกจากมือของเธอ และพูดว่า “ในอนาคตคุณไม่ต้องทำแบบนี้อีกแล้วนะ คุณกำลังตั้งครรภ์ งานเหนื่อยหรืองานหนัก ก็แค่เรียกผม ผมจะเป็นทำเอง แต่ถ้าผมไม่อยู่บ้าน ก็ให้เรียกแม่บ้านมาช่วย”
“ฉันก็แค่คิดว่าคุณยังไม่ได้สติ เลยอยากช่วยคุณล้างหน้าล้างตา แล้วตอนนี้ในห้องก็มีแค่เราสองคน ถ้าฉันไม่ทำใครจะเป็นคนทำล่ะ? นอกจากนี้ คุณเองก็เป็นคนของฉัน การช่วยคุณล้างหน้าล้างตาแค่นี้ ฉันคงไม่ให้คนอื่นมาทำให้เสียเวลาหรอก”
ความปรารถนาในการเป็นเจ้าข้าวเจ้าของของลินท์เองก็แข็งแกร่งเช่นกัน
“ผมก็แค่เมานิดหน่อย เพราะตื่นเต้นเกินไป ก็เลยดื่มเยอะ แต่ก็ไม่ได้เมาจนขาดสติ ผมก็แค่แกล้งทำ ถ้าผมไม่ทำแบบนั้น พวกเขาก็จะยังชวนฉันดื่มต่อ และถ้าผมดื่มต่อ ผมก็จะเมาจนขาดสติจริงๆ”