คุณสามีพันล้าน - บทที่ 489 ทั้งหมดมันเป็นแผนของเขา
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 489 ทั้งหมดมันเป็นแผนของเขา
เมื่อเปิดประตู เขาก็เผชิญหน้ากับเด็กสองคน ไซม่อนรู้สึกตกใจ จากนั้นจึงพูดด้วยลำบากใจ: “เทวิกา แม่ของลูกอารมณ์ไม่ดี ลูกรีบไปอยู่เป็นเพื่อนแม่เถอะ”
เทวิกามองดูร่างที่เปียกปอนของพ่อของเธอ จากนั้นมองไปที่ฉากในห้อง เธอเห็นแม่ของเธอนั่งร้องไห้อยู่กับพื้น เธอจึงรีบพูดขึ้น: “พ่อคะ เดี๋ยวหนูจัดการเอง”
สองพี่น้องหลบเพื่อให้พ่อเดินออกมา
“พ่อคะ กลับถึงห้องแล้วก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้านะคะ อย่าปล่อยให้ตัวเองเป็นหวัด”
เทวิกาเข้าไปในห้องเพื่อปลอบแม่ของเธอ และเธอไม่ลืมที่จะเตือนพ่อของเธออีกครั้ง เธอสบตากับพี่ชายและสามีของเธอ ส่งสัญญาณให้พวกเขาตามไปปลอบพ่อของเธอ
ประตูถูกปิดลงอีกครั้ง
เทวิกาเดินไปหาแม่ของเธอ
เธอคุกเข่าลงและหยิบกล่องกระดาษทิชชู่ข้างๆแม่ขึ้นมา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพ่อเป็นคนวางกล่องนี้ไว้ข้างแม่
ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยได้เจอกับพ่อผู้ให้กำเนิด แต่เคยได้ยินแค่จากพี่ชายของเธอเท่านั้น และคิดว่าพ่อของเธอเป็นคนเลว
หลังจากจำพ่อผู้ให้กำเนิดของเธอได้ เธอก็ค่อยๆรู้สึกได้ว่าพ่อของเธอแค่แสร้งทำเป็นคนเลว แต่จริงๆเขาไม่ได้เลวเลย เขาแค่เลือกในสิ่งที่คิดว่าเป็นประโยชน์ต่อภรรยาและลูกของเขา
เมื่อเทียบกับการต้องปล่อยให้ภรรยากับลูกต้องเสียชีวิต หรือปล่อยให้พวกเขาต้องทุกข์ทรมานจากการถูกทอดทิ้ง และถูกเยาะเย้ย พ่อของเธอเลือกอย่างหลัง
“แม่คะ”
เทวิกาหยิบทิชชู่ออกมาและส่งให้แม่ของเธอ
เมื่อเห็นว่าแม่ไม่รับทิชชู่ เธอจึงเข้าไปกอดแม่แล้วให้แม่ซบเธอ
การปลอบประโลมอย่างเงียบ ๆ ของลูกสาวไม่ได้ทำให้ญาณินหยุดร้องไห้ แต่กลับทำให้เธอยิ่งร้องไห้หนักขึ้น
เธอระบายความทุกข์ทรมานทั้งหมดที่มีตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมา
เทวิกากอดแม่ของเธออย่างเงียบ ๆ นั่นทำให้แม่ขอวเธอร้องไห้อย่างบ้าคลั่ง
ใช้เวลาอยู่นาน กว่าที่ญาณินจะหยุดร้องไห้
เทวิกาช่วยพยุวแม่ของเธอให้ลุกขึ้น แล้วพากลับไปนั่งที่เตียง พยายามใช้กระดาษทิชชู่เช็ดน้ำตา
“เดี๋ยวแม่ทำเอง”
ญาณินสะอึกสะอื้น พลางหยิบกระดาษทิชชู่จากมือลูกสาวมาเช็ดน้ำตา
เทวิกาเห็นว่าบนพื้นเต็มไปด้วยน้ำและมีถังอยู่ ดังนั้นเธอคงเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“แม่คะ”
“เทสิกา อย่าพูดถึงพ่อของลูก และอย่าพูดถึงคำพูดของเขา แม่ไม่สนใจว่าเขาจะต้องเจอปัญหามากมายแค่ไหน และไม่ว่าเขาจะหักหลังแม่จริงหรือไม่ แต่ตลอดเวลายี่สิบปีที่ผ่านมาแม่ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่เสมอ จะให้แม่แสร้งทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่ได้หรอก”
“มันยากมากที่จะให้อภัยเขา”
ญาณินดูเหมือนจะเดาได้ว่าลูกสาวของเธอจะพูดอะไร จึงพูดดักทางเธอเอาไว้ล่วงหน้า
เพื่อไม่ให้เทวิกาพูดแทนพ่อของเธอ
เทวิกาพูดอย่างขมขื่น: “แม่คะ หนูไม่ได้จะพูดแทนพ่อ หนูแค่อยากจะถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับพื้น ทำไมที่พื้นถึงได้เต็มไปด้วยน้ำ”
ญาณินเช็ดน้ำตาของเธออีกครั้งด้วยทิชชู่และพูดอย่างขมขื่น: “พ่อของลูกเป็นอันธพาล ที่พาลมากๆ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บ เขานอนอยู่บนพื้นโดยแสร้งทำเป็นตาย จนทำแม่ตกใจเกือบตาย แล้วยังมาฉวยโอกาสกับแม่อีกด้วย”
“แม่อยากจะไล่เขาออกไป แต่เขาไม่ยอมไป เอาแต่นอนอยู่กับพื้น ด้วยความโมโห แม่อยากจะเอาถังน้ำราดบนตัวเขา เพื่อไม่ให้เขานอนอยู่บนพื้นได้อีก หลังจากนั้นก็เป็นอย่างที่เห็น”
“ลูกไม่รู้หรอกว่าพ่อของลูกเป็นอันธพาลขนาดไหน เขาทำให้แม่โมโห เขาจึงยกถังน้ำสองถังแล้วเอามาราดตัวเองให้เปียก แล้วยังจะมาถามแม่อีกว่าต้องใช้กี่ถังถึงจะพอ เทวิกา ลูกว่าพ่อของลูกทำเกินไปไหม? เขาล้อเล่นกับแม่ราวกับแม่เป็นลิง”
เทวิกา: “…..”
เธอจินตนาการถึงฉากนั้น เอ่อ เธอรู้สึกว่าพ่อของเธอเป็นอันธพาลจริงๆ
เกี่ยวกับการที่พ่อของเธอยกน้ำราดตัวเองจนตัวเปียก เทวิกาคิดต่อ เป็นไปได้ไหมว่าพ่อของเธอกังวลว่าแม่ของเธอจะไม่สามารถแบกถังน้ำได้ไหว ดังนั้นเขาจึงทำเอง?
ญาณินจับมือลูกสาวของเธอและบ่นอย่างดุเดือดเกี่ยวกับความพาลของไซม่อน ความไม่พอใจที่มีก็ค่อยๆ สงบลง
เมื่อเทวิกาเห็นว่าแม่ของเธอมีอารมณ์คงที่แล้ว เธอจึงพูดว่า: “แม่คะ แม่รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะ เดี๋ยวหนูจะเช็ดน้ำบนพื้นเองค่ะ”
ญาณินตอบอืม
เทวิกาลุกขึ้น เดินไปหาไม้ถูพื้น เพื่อจะเช็ดคราบน้ำบนพื้นให้สะอาด
เธอถูซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายครั้งจนพื้นสะอาด
และวางถังกลับเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง
หลังจากที่เธอทำเสร็จ แม่ของเธอก็เปลี่ยนเสื้อผ้า หวีผม แต่งหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว และกลายเป็นหญิงสาวที่สง่างามของตระกูลอีกครั้ง
ราวกับเป็นคนละคนกับคนที่สูญเสียการควบคุมและร้องไห้อย่างขมขื่นเมื่อกี้นี้
“เทวิกา ลูกกลับมาคนเดียวเหรอ?”
เมื่อกี้ญาณินกำลังร้องไห้ จึงไม่ได้มองไปที่ประตูบ้าน เธอเลยไม่รู้ว่าลูกชายและลูกเขยของเธอนั้นกลับมาพร้อมเทวิกา
“อย่าบอกยศพัฒน์เรื่องที่พ่อกับแม่ทะเลาะกันนะ แม้ว่าเขาจะปฏิบัติกับลูกเป็นอย่างดี แต่แม่ก็กลัวว่าถ้าเขารู้เข้า เขาจะรู้สึกว่าพ่อกับแม่ของลูกดูไม่สบายใจ”
สิ่งที่ญาณินกลัวที่สุดคือเรื่องของตัวเองจะส่งผลต่อความสุขของลูกสาว
คนของตระกูลวาชัยยุง ไม่เคยทำอะไรที่เป็นการขัดขวางเทวิกา
ญาณินรู้สึกว่าตัวเธอเองไม่ดีเท่าพิชญ์สินีที่เป็นแม่บุญธรรม
ก่อนที่เทวิกาจะมารู้จักพวกเขาในฐานะลูกสาวของตระกูลวาชัยยุงเธอแทบไม่ต้องกังวลอะไร แม้ว่าท้องฟ้าจะถล่มดินจะทลายพ่อแม่และพี่ชายของเธอจะคอยสนับสนุนเธอเสมอ ดังนั้นเธอจึงไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องกังวลใจ
แต่เนื่องจากเธอจำพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดได้ เธอจึงมีเรื่องให้ต้องกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ
ญาณินรู้สึกเสียใจกับลูกสาวของเธอ
ถ้ารู้แต่แรกว่าจะเป็นแบบนี้ เธอคงจะมองลูกสาวอยู่ห่างๆและไม่รู้จักกันคงจะดีเสียกว่า
แต่ตอนนั้นเธอยังคงเสียสติอยู่ และลูกชายก็ต้องการตามหาลูกสาวอย่างสุดใจ โดยคิดว่าหลังจากได้พบลูกสาวแล้ว เธอจะสามารถฟื้นคืนสติได้ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะทำเป็นไม่รู้จัก
เฮ้อ สรุปแล้วพวกเขาที่เป็นพ่อแม่แท้ๆกลับทำตัวไม่ดี จนทำให้ลูกต้องเป็นกังวล
ทำให้ลูกต้องแย่ลงและยังอับอายต่อสามี
“แม่คะ แม่คิดมากไปเอง ยศพัฒน์ไม่ใช่คนแบบนั้น และครอบครัวของเขาก็ไม่ได้คิดกับพวกคุณแบบนั้นเช่นกัน พวกเขาทุกคนน่ารักและเข้าใจดี”
เทวิกาปลอบแม่ของเธอ “ยศพัฒน์เป็นห่วงว่าหนูที่หนูจะกลับมาคนเดียว เขาจึงกลับมาพร้อมกับหนูและน้องชาย”
“หนูเป็นห่วงว่าแม่กับพ่อจะทะเลาะและมีปัญหาใหญ่โต ก็เลยโทรเรียกพี่ชายมาด้วย แล้วพี่ชายจะเป็นคนเกลี้ยกล่อมพ่อให้เอง”
เมื่อได้ยินว่าลูกเขยรู้เรื่องนี้ ญาณินก็พูดด้วยความลำบากใจ: “ไม่รู้ว่ายศพัฒน์เขาจะคิดอย่างไรกับพวกเรา มันเป็นเพราะพ่อของลูกที่เป็นอันธพาล ดื่มจนเมาแอ๋ คิดว่าแม่จะไม่รู้เหรอว่าเขาดื่มได้เท่าไหร่? เขาจงใจให้มันเป็นแบบนี้!”
“อีกอย่าง เมื่อวานมีคนมาชนแก้วกับแม่เยอะมาก แม่ก็เลยต้องดื่มไวน์ไปเยอะ จะต้องเป็นแผนของพ่อแน่ๆ เขารอจนแม่เมาจะได้แอบเข้าห้อง”
ไม่รู้ว่าเมื่อคืนนี้ไอ้เฒ่าโรคจิตนั่นทำอะไรกับเธอหรือเปล่า?
แต่ญาณินก็คิดขึ้นได้ว่าในตอนที่เธอตื่นขึ้นมา เสื้อผ้าของเธอยังอยู่ครบ และเธอก็คิดว่า ชายคนนั้นคงไม่ได้แตะต้องเธอ
“แม่คะ พ่อคงไม่…..หรอกมั้งคะ””
เทวิกาต้องการพูดแทนพ่อของเธอ แต่เมื่อเห็นแม่ของเธอมีท่าทีที่ไม่พอใจ เธอจึงกลืนสิ่งที่เธอต้องการจะพูดกลับเข้าไป
“ทำไมจะไม่ใช่ เขามันแย่ที่สุด ด้วยสถานะของเขา มันเป็นไปได้ที่จะทำสิ่งนั้น”
“โอเค โอเค พ่อเป็นคนทำ แม่อย่าโกรธเลยนะ ถ้าแม่โกรธ หนูกับพี่จะรู้สึกแย่ไปด้วย”
ญาณินหายใจเข้าลึก ๆ พยายามระงับความโกรธของเธอและพูดว่า: “โอเค แม่จะไม่โกรธ มันไม่คุ้มที่จะทำให้ตัวเองต้องเสียสุขภาพจิตเพราะเขา”
จู่ๆเธอก็คว้ามือของเทวิกา “เทวิกา พรุ่งนี้หลังจากที่พวกเรากลับไปที่เมืองซูเพร่า ลูกต้องไปเผชิญหน้ากับแม่ของลูก และอย่าช่วยพ่อของลูกในการขัดขวางแม่ของลูก