คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ - บทที่ 1124
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1124
ควินซี ลองไม่ได้มาจากจักรวาลโลก เธอมาจากทวีปโลกใต้เมฆี
ควินซีมีตัวตนที่สูงส่งในทวีปโลกใต้เมฆี เธอเป็นน้องสาวของจักรพรรดิและเป็นเจ้าหญิงคนโตแห่งโลกเมฆใต้
ที่หอคอยดาวปรารถนา
เมื่อได้เห็นความไม่พึงพอใจที่แสดงออกมาบนใบหน้าของเจ้าสำนักต่าง ๆ รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของควินซีทันที
“ท่านประมุขนิกายสำนักประตูสุราลัยมีเหตุผลเสมอ ดังนั้นเราจึงมีเหตุผลที่จับตัวพวกคุณทุกคนมาที่นี่”
“สำนักประตูสุราลัยมีความสำคัญต่อจักรวาลโลกเป็นอย่างมาก และท่านแดร์ริล ดาร์บี้ก็ยังได้รับการยกย่องว่าเป็นหัวหน้าพันธมิตรของพวกคุณ แต่ถึงอย่างนั้นพวกคุณทุกคนกลับต่อต้านและไม่ให้ความเคารพต่อเขา” ควินซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ควินซีกวาดสายตามองทุกคนอย่างมีอำนาจเหนือกว่า
เจ้าสำนักต่าง ๆ ตกอยู่ในความโกลาหล
“คุณกล้าพูดเช่นนั้นได้ยังไง? ในฐานะหัวหน้าพันธมิตร แดร์ริลประพฤติตัวไม่เหมาะสมและเขาก็ยังทำให้ผู้หญิงที่อ่อนแอต้องตายลง แล้วทำไมเราจะต้องให้ความเคารพต่อเขาด้วย?”
“ใช่ แม้ว่าเขาจะแข็งแกร่งเพียงใดก็ไร้ความหมายหากเขาเป็นคนใจร้ายเช่นนั้น!”
“เขาไม่ใช่หัวหน้าพันธมิตรของเรา!”
พวกเขากล่าวโทษแดร์ริลอย่างเผ็ดร้อน
แต่ถึงอย่างนั้น เทพธิดาทั้งห้าแห่งพระราชวังฟูเหยากลับไม่ได้พูดอะไร
พวกเธอรู้ว่าควินซีไม่ได้เป็นคนของสำนักประตูสุราลัย
เพราะพวกเธอรู้ดีว่าแดร์ริลจะไม่มีวันโจมตีพระราชวังฟูเหยาอย่างแน่นอน
‘หัวหน้าพันธมิตร?’
‘ทำให้ผู้หญิงที่อ่อนแอต้องตาย?’
แม่ชีแห่งโชคชะตาจ้องเขม็งไปที่แดร์ริลอีกครั้ง
แม่ชีแห่งโชคชะตาคิดว่าแดร์ริลจะต้องทำสิ่งเลวร้ายในช่วงที่เธอไม่ได้อยู่ในจักรวาลโลกอย่างแน่นอน
“ไม่เอาน่า! อย่ามองฉันแบบนั้นสิ”
แดร์ริลยิ้มอย่างขมขื่นภายใต้การจ้องมองของแม่ชีแห่งโชคชะตาก่อนจะพูดขึ้นว่า “เรื่องที่ผู้หญิงคนนั้นตายฉันก็ถูกใส่ร้ายด้วยเหมือนกัน”
แดร์ริลตอบเธอขณะเฝ้ามองดูสถานการณ์ต่อไป
ควินซีเย้ยหยันพร้อมพูดขึ้นเบา ๆ ว่า “ต่อให้ท่านประมุขนิกายสำนักประตูสุราลัยจะเป็นคนฆ่าเธอแล้วยังไง? ท่านประมุขสำนักเป็นหัวหน้าพันธมิตรของพวกคุณ ดังนั้นพวกคุณจะต้องเชื่อฟังเขา”
ควินซียิ้มอย่างมีเลศนัย “ท่านประมุขสำนักของเรา จะให้โอกาสและจะยกโทษให้พวกคุณ ถ้าหากว่าพวกคุณส่งมอบตำราเกี่ยวกับกระบวนท่าของพวกคุณมาให้เรา! เรารู้ว่าแต่ละสำนักมีกระบวนท่าที่ไม่เหมือนใคร ตัวอย่างเช่น หมัดมังกรน้ำแข็งของสำนักง้อไบ๊ หรือว่าจะเป็นค่ายกลเจ็ดดาวเหนือของสำนักบู๊ตึ๊ง ส่งตำรามาให้เราแล้วเราจะปล่อยพวกคุณไป”
อะไรนะ?
‘พวกเขาต้องการตำรากระบวนท่าเฉพาะของแต่ละสำนัก!’
ในที่สุดแผนการก็ถูกเปิดเผย!
สาวกของทุกสำนักเดือดดาลทันทีที่ได้ยินเช้นนั้น
“หึ หึ! ทีแท้พวกเขาก็ต้องการตำรากระบวนท่าเฉพาะของแต่ละสำนักนี่เอง!”
“ในที่สุดเราก็รู้แผนการของแดร์ริล!”
“นี่ ควินซี ลอง! กลับไปบอกแดร์ริลด้วยนะว่าพวกเรายอมตายดีกว่าส่งมอบตำราลับของพวกเราให้กับเขา! และบอกให้เขาล้มเลิกความคิดไปได้เลย!”
ทั้งเหล่าผู้นำจากแต่ละสำนักและสาวกของพวกเขาต่างก็สาปแช่งแดร์ริล
ควินซีหัวเราะเยาะ มีนัยยะของความหนาวเย็นที่น่ากลัวในดวงตาอันงดงามของเธอ “พวกคุณต้องการเช่นนั้นใช่ไหม?”
เมื่อพูดจบควินซีก็สั่งชายชุดดำที่อยู่รอบ ๆ ว่า “นำตัวสาวกทั้งหมดขึ้นไปบนยอดหอคอยดาวปรารถนา ส่วนหัวหน้าสำนักต่าง ๆ ให้อยู่ที่นี่”
“ครับ!”
จากนั้นเหล่าชายในชุดดำก็รีบนำตัวสาวกหลายพันคนจากแต่ละสำนักขึ้นไปบนยอดหอคอยดาวปรารถนาทันที
มีเพียงควินซีและผู้นำจากแต่ละสำนักอยู่ที่ลานด้านล่าง
ควินซียิ้มเล็กน้อยขณะเดินเข้าไปหาประมุขนิรันดร์ “เรามาเริ่มกันที่สำนักเส้าหลินของประมุขนิรันดร์ ความอดทนของฉันมีขีดจำกัด ดังนั้นฉันจะให้โอกาสคุณเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ฉันได้ยินมาว่าคุณมีกระบวนท่าลับอยู่สองท่า นั่นคือดัชนีวัชระมหาประลัยและแสงแห่งพระพุทธเจ้า! คุณจะส่งมอบตำราลับมาให้ฉันหรือไม่?”
ควินซีกล่าวต่อ “ถ้าคุณส่งมอบมันให้กับฉัน ฉันจะปล่อยทุกคนจากสำนักเส้าหลินไป แต่ถ้าไม่ ฉันจะตัดนิ้วมือของคุณแล้วจะมาหาว่าฉันใจร้ายไม่ได้!”
ชายชุดดำสองคนคว้าข้อมือของประมุขนิรันดร์ขึ้นมาและกดลงบนพื้น จากนั้นชายชุดดำอีกคนหนึ่งก็ยกมีดขึ้นมาและเตรียมพร้อมที่จะตัดนิ้วของประมุขนิรันดร์
“อมิตาพุทธ!”
ประมุขนิรันดร์สวดมนต์ภาวนาอย่างใจเย็นก่อนจะจ้องหน้าควินซีอย่างเย็นชา “ควินซี สำนักเส้าหลินมีมายาวนานนับพันปี แล้วเธอคิดว่าพวกเราจะหวาดกลัวเพราะการข่มขู่ของเธออย่างนั้นเหรอ? ฉันไม่ใช่คนใจเสาะเช่นนั้น”
“อืม…” ควินซีพยักหน้าตอบรับคำพูดของเขาในขณะที่ดวงตาของเธอฉายแววความเย้ยหยัน “ถ้างั้นเรามาดูกันว่าคุณจะทนได้นานแค่ไหน”
จากนั้นควินซีก็ยกมือขึ้นด้วยท่าทางสบาย ๆ
ฉึก!
ชายในชุดดำกดมีดลงบนนิ้วโป้งของประมุขนิรันดร์ วินาทีต่อมา นิ้วของเขาก็หลุดออกจากมือด้วยเสียงเชือดเฉือนอันคมชัด!
“อ๊าก!”
ใบหน้าของประมุขนิรันดร์แสดงออกถึงความเจ็บปวดอันรุนแรง เหงื่อเย็นไหลปกคลุมใบหน้าอันซีดเผือดของเขาในขณะที่เขาร้องออกมาอย่างเจ็บปวด!