คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ - บทที่ 1166
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1166
เฟลทเชอร์ก้าวออกไปข้างหน้า จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นชี้หน้าแดร์ริลและต่อว่าทันที “นี่เจ้าขันที! ในเมื่อพวกเรายังทำไม่ได้แล้วนายจะมีปัญญาทำได้ยังไง? ถอยออกมาเดี๋ยวนี้!”
เขารู้สึกว่ามันน่าขบขันทีขันทีผู้นี้พยายามเสนอตัวเข้ามาแก้ปัญหาเมื่อได้ยินถึงรางวัลใหญ่จากจักรพรรดินี
ข้าราชการทุกคนต่างก็ตำหนิติเตียนแดร์ริล
“ขันทีผู้โง่เขลาพยายามทำตัวเป็นคนฉลาดงั้นเหรอ?”
“นายรู้ไหมว่าผลที่จะตามมาคืออะไรถ้าหากว่านายทำไม่สำเร็จ?”
“ช่างเป็นเรื่องที่น่าตลกสิ้นดี…”
ในขณะที่ทุกคนกำลังดูถูกเหยียดหยามเขา แดร์ริลก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ ขณะกวาดสายตามองไปรอบ ๆ “ในเมื่อไม่มีใครทำสำเร็จ ผมจึงไม่ได้รับอนุญาตให้ลองดูงั้นเหรอ? ผมมั่นใจว่าผมจะทำสำเร็จ และผมก็ไม่ได้กำลังพยายามทำตัวฉลาดกว่าพวกคุณ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการรักษาชื่อเสียงของทวีปโลกใต้เมฆีเอาไว้ไม่ใช่เหรอ?”
เฟลทเชอร์และคนอื่น ๆ เงียบลงเมื่อแดร์ริลพูดเช่นนั้น
แดร์ริลรู้ดีว่าข้าราชการทุกคนกำลังคิดอะไรอยู่ พวกเขาเป็นกังวลว่าแดร์ริลจะทำสำเร็จ ซึ่งนั่นจะแสดงให้เห็นว่าพวกเขาทุกคนไร้ประโยชน์!
แดร์ริลไม่ได้มีเจตนาที่จะอวดฉลาด แต่เมื่อเขาได้ยินจักรพรรดินีกล่าวถึงรางวัลใหญ่ เขาจึงเกิดความคิดขึ้นมา ในฐานะขันทีผู้ต้อยต่ำ เขาแทบจะไม่มีโอกาสได้รับแก่นแท้ของมังกรกลับคืนมาจาก จากควินซีเลย ดังนั้น ถ้าหากว่าเขาได้รับการยอมรับจากจักรพรรดินี เขาก็จะมีโอกาสได้เข้าใกล้ควินซีและนำแก่นแท้ของมังกรกลับคืนมา!
“เจ้ามีวิธีแก้ปัญหาจริง ๆ เหรอ?” จักรพรรดินีถามอย่างใจเย็นขณะเหลือบมองไปที่แดร์ริล
แดร์ริลพยักหน้าโดยไม่ได้พูดอะไร
เมื่อได้เห็นใบหน้าที่มุ่งมั่นของแดร์ริล เจ้าหญิงเอเวอร์กรีนจึงก้าวไปข้างหน้าและพูดขึ้นว่า “ท่านแม่ ได้โปรดให้เขาลองดู”
ในขณะที่พูดเช่นนั้น เจ้าหญิงเอเวอร์กรีนก็เหลือบมองแดร์ริล
ในตอนแรก เจ้าหญิงเอเวอร์กรีนคิดว่าแดร์ริลอยากลองเสี่ยงโชคเพื่อรางวัลใหญ่เท่านั้น แต่หลังจากที่เธอได้เห็นความมั่นใจบนใบหน้าของเขา เธอจึงยอมเปลี่ยนใจช่วยให้เขาได้ลองแก้ปัญหาดู และถ้าหากว่าเขาทำสำเร็จเธอเองก็คงจะรู้สึกภาคภูมิใจมากเช่นกัน เพราะว่าเขาเป็นขันทีส่วนตัวของเธอ
“เอาล่ะ! ข้าจะให้เจ้าลองดู แต้ถ้าหากว่าเจ้าล้มเหลว เจ้าจะถูกนำตัวไปประหารชีวิตทันที” เมื่อเจ้าหญิงเอเวอร์กรีนร้องขอ จักรพรรดินีจึงยอมเห็นด้วยกับเธอ
แม้ว่าเรื่องนี้อาจดูไม่ใหญ่โต แต่มันเกี่ยวกับชื่อเสียงของทวีปโลกใต้เมฆี
‘ประหารชีวิตเหรอ? โชคดีที่ฉันมีวิธีแก้ปัญหา ไม่งั้นฉันคงไม่เอาชีวิตมาเสี่ยงหรอก’ แดร์ริลครุ่นคิด
แต่ถึงอย่างนั้น หัวใจของแดร์ริลกลับเต้นไม่เป็นจังหวะ ทว่าใบหน้าของเขายังคงสงบนิ่ง เขากล่าวขึ้นด้วยความเคารพว่า “อย่ากังวลไปเลยฝ่าบาท ผมจะไม่ทำให้ฝ่าบาทผิดหวัง”
เฟลทเชอร์และคนอื่น ๆ ยิ้มเยาะแดร์ริล ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม
‘ขันทีโง่ผู้นั้นพยายามทำให้จักรพรรดินีประทับใจ แต่เขากลับไม่รู้ว่าหัวของเขากำลังจะหลุดออกจากบ่า!’
ข้าราชการทุกคนต่างก็คิดว่า แดร์ริลเพียงแค่แสร้งทำเป็นสงบนิ่งทั้ง ๆ ที่ไม่มีวิธีแก้ปัญหา
ใบหน้าของโยเอลเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม ‘จะเป็นยังไงถ้าหากขันทีต่ำต้อยผู้นั้นไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้? เขาช่างทำตัวโง่เง่าเสียจริง’
แดร์ริลไม่ใส่ใจกับทุกสายตาที่กำลังมองดูเขาอย่างเหยียดหยาม เขายื่นมือไปรับหยกเก้าเสี้ยวและด้ายแดงมา จากนั้นเขาก็หันมองไปยังจักรพรรดินีและกล่าวขึ้นว่า “ฝ่าบาท ผมขอฝ่าบาทได้โปรดให้คนนำน้ำผึ้งมาให้ผมด้วย”
‘อะไรนะ? เพื่ออะไร?’ เฟลทเชอร์และคนอื่น ๆ แลกเปลี่ยนสายตากันด้วยความรู้สึกประหลาดใจ
จากนั้นเฟลทเชอร์ก็พูดเย้ยหยันแดร์ริล “ล้อเล่นหรือยังไง? นายเตรียมตัวถูกประหารชีวิตได้เลย!”
เมื่อเฟลทเชอร์พูดเช่นนั้น คนอื่น ๆ ต่างก็หัวเราะเยาะแดร์ริลเช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครกล้าส่งเสียงดังเกินไป เพราะนักการทูตโยเอลจากเวสต์ริงตันอยู่ที่นั่น
จักรพรรดินีขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ได้สั่งให้สาวใช้ไปนำขวดน้ำผึ้งมา
แดร์ริลรับน้ำผึ้งมา จากนั้นเขาก็ทาน้ำผึ้งลงบน ปลายด้านหนึ่งของรูเล็ก ๆ บนหยกเก้าเสี้ยว
“ขอโทษนะครับนายพลเฟลทเชอร์ แต่คุณช่วยจับมดให้ผมหน่อยได้ไหม?” แดร์ริลพูดด้วยรอยยิ้ม
เฟลทเชอร์ทำตัวเย่อหยิ่งเพียงเพราะเขาเป็นนายพลและได้รับการยกย่องจากจักรพรรดินี ชายผู้นี้ดูถูกเหยียดหยามแดร์ริลมากที่สุด ดังนั้นแดร์ริลจึงต้องการสั่งสอนชายผู้นี้เสียบ้าง
‘อะไรนะ?’
‘จับมด?’
‘ขันทีสั่งให้นายพลจับมด!’
‘ชายคนนั้นกล้าดียังไง!’ ทุกคนตกตะลึง
ใบหน้าของเฟลทเชอร์มืดลงทันที เขาจ้องหน้าแดร์ริลด้วยความโกรธ “นายพูดว่าอะไรนะ? นายสั่งให้ฉันไปจับมดมาให้นายงั้นเหรอ?”
ขันทีผู้นี้บ้าไปแล้ว! เขากล้าออกคำสั่งกับนายพลเฟลทเชอร์!
“เขาไม่รู้หรือว่านายพลเฟลตเชอร์เป็นที่โปรดปรานของจักรพรรดินี”
แดร์ริลยิ้มให้เฟลทเชอร์ก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “เรื่องนี้เกี่ยวกับชื่อเสียงของทวีปโลกใต้เมฆี ดังนั้นได้โปรดนายพลเฟลทเชอร์ทำตามที่ผมขอด้วย เราเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคนธรรมดาที่จะไปจับมดมาได้ในตอนนี้”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น จักรพรรดินีจึงพยักหน้าเห็นด้วย “รีบไปเถอะนายพลเฟลทเชอร์!”
‘ขันทีผู้นี้ขอน้ำผึ้ง แล้วในตอนนี้เขาก็กำลังขอมด ถึงแม้ว่ามันจะฟังดูไม่น่าเชื่อถือ แต่ด้วยท่าทางที่มุ่งมั่นของเขา ฉันเชื่อว่าเขาจะต้องมีวิธีอย่างแน่นอน” จักรพรรดินีครุ่นคิด
“ครับ ฝ่าบาท!” เมื่อได้ยินคำสั่งของจักรพรรดินี เฟลทเชอร์ก็รีบออกจากห้องโถงไปอย่างไม่มีทางเลือก
‘เจ้าขันทีผู้ต่ำต้อย กล้าดียังไงมาออกคำสั่งกับฉัน! ถ้าหากว่านายทำไม่สำเร็จ ฉันจะไปเป็นสักขีพยานเพื่อรอดูการถูกประหารชีวิตของนาย!’ เฟลทเชอร์สาปแช่งแดร์ริลขณะเดินจากไป
ในไม่ช้าเฟลทเชอร์ก็กลับมาพร้อมกับมดจำนวนหนึ่ง จากนั้นเขาก็มอบมันให้กับแดร์ริล
ทุกสายตาจับจ้องไปที่แดร์ริลอย่างจดจ่อ
ก่อนหน้านี้เขาขอน้ำผึ้ง แล้วในตอนนี้เขาก็ขอมด เขากำลังพยายามทำอะไร?
แดร์ริลผูกด้ายแดงลงบนตัวมดเบา ๆ จากนั้นเขาก็นำมันใส่ลงไปในรูเล็ก ๆ ของหยกเก้าเสี้ยว
ทันใดนั้น สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น!
ก่อนหน้านี้แดร์ริลได้ทาน้ำผึ้งเอาไว้ที่ปลายด้านหนึ่งของรูเล็ก ๆ บนหยกเก้าเสี้ยว เมื่อมดได้กลิ่นหอมของน้ำผึ้ง มันจึงเริ่มคลานเข้าไปในรูเล็ก ๆ อันคดเคี้ยว มดที่แดร์ริลนำด้ายแดงผูกเอาไว้บนตัวสามารถคลานผ่านรูเล็ก ๆ ไปได้อย่างง่ายดาย!
ในไม่ช้า แดร์ริลก็ชูหยกเก้าเสี้ยวที่มีด้ายแดงร้อยเอาไว้ขึ้นมา เขาชูขึ้นไปรอบ ๆ จากนั้นเขาก็หันกลับมามองจักรพรรดินีและพูดขึ้นว่า “ผมทำสำเร็จแล้วฝ่าบาท”
ทุกคนตกตะลึง ทั้งห้องโถงถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบจนได้ยินแม้แต่เสียงเข็มหล่น