คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ - บทที่ 1172
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1172
แอมโบรสสะอื้นไห้และตอบว่า “แม่อยู่กับชายประหลาด ชายแปลกหน้าที่สติไม่ดี ผมกลัวเขา คุณพ่อ ผมคิดถึงคุณแม่…”
ชายประหลาดที่แอมโบรสพูดถึงคือประมุขนิกายจ้าวสวรรค์ เพราะว่าเขาเป็นคนสติไม่ดี ดังนั้นแอมโบรสจึงเรียกเขาว่าชายประหลาด
‘ชายประหลาดงั้นเหรอ?’ เมื่อเจ้าศักดินาเคนนี่ได้ยินเช่นนั้น เขาก็ขมวดคิ้วแน่นด้วยความสับสน ‘ยอดรักของฉันไม่ได้เดินทางกลับไปยังจักรวาลโลกเพื่อตามหาแดร์ริลหรอกเหรอ? ทำไมเธอถึงไปอยู่กับผู้ชายสติไม่ดีได้?’
ปัง!
จักรพรรดิแห่งโลกใหม่หมดความอดทน เขาทุบบัลลังก์มังกรด้วยความโกรธเกรี้ยวขณะจ้องมองเจ้าศักดินาเคนนี่และตะโกนขึ้นว่า “นี่มันหมายความว่ายังไงเจ้าศักดินาเคนนี่?”
เจ้าศักดินาเคนนี่รวบรวมสติ จากนั้นเขาก็รีบคุกเข่าลงด้วยความหวาดกลัว “ฝ่าบาทนี่ต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิด เด็กคนนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับประมุขนิกายจ้าวสวรรค์”
“งั้นเหรอ?” จักรพรรดิแห่งโลกใหม่พูดขึ้นอย่างเย็นชาขณะที่ดวงตาของเขาเปล่งประกายความโกรธเกรี้ยวออกมา
เมื่อแอมโบรสเรียกเจ้าศักดินาเคนนี่ว่าพ่อ จักรพรรดิแห่งโลกใหม่ก็รู้ทันทีว่าเขาเป็นลูกชายของโมนิก้า แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ!
สิ่งที่ทำให้จักรพรรดิแห่งโลกใหม่โกรธเคืองมากที่สุดคือผู้คนทั้งเมืองหลวงรับรู้ว่าโมนิก้าหลอกลวงคนเลี้ยงม้า ดังนั้นจักรพรรดิจึงได้มอบคำสั่งให้เจ้าศักดินาเคนนี่ประหารชีวิตโมนิก้าและลูกชายของเธอ แต่เจ้าศักดินาเคนนี่กลับฝ่าฝืนคำสั่งของเขาและปล่อยสองแม่ลูกคู่นั้นไป!
การฝ่าฝืนคำสั่งของจักรพรรดิถือเป็นการทรยศอันยิ่งใหญ่ แล้วเขาจะไม่โกรธได้อย่างไร!
เจ้าศักดินาเคนนี่ยังไม่ตระหนักถึงปัญหาใหญ่ที่เขากำลังจะต้องเผชิญ “ฝ่าบาท! ข้าเลี้ยงดูเด็กคนนี้ตั้งแต่ที่เขาเกิด เขาเป็นเด็กน่ารักน่าเอ็นดูและมีจิตใจที่ดีงาม แล้วเขาจะมีความเกี่ยวข้องกับประมุขนิกายจ้าวสวรรค์ได้ยังไง?”
จักรพรรดิแห่งโลกใหม่โกรธเกรี้ยวราวกับว่าไฟนรกกำลังแผดเผาอยู่ในตัวของเขา “เจ้าศักดินาเคนนี่! เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้ามีความผิด! ข้าสั่งให้เจ้าประหารชีวิตของโมนิก้าและลูกของเธอ แต่เด็กกลับยังมีชีวิตอยู่และผู้หญิงคนนั้นก็ยังไม่ตายด้วยเช่นกัน! เจ้าจะอธิบายเรื่องนี้ยังไง!”
“ข้า…” เจ้าศักดินาเคนนี่ตื่นตระหนก ขาทั้งสองข้างของเขาไร้เรี่ยวแรงในทันใด
‘บัดซบ!’ นี่เป็นความหวาดกลัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขา ศีรษะของเขาถูกปกคลุมไปด้วยเหงื่อเขาทำได้เพียงคุกเข่าลงและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทาว่า “ฝ่าบาท ข้าผิดไปแล้ว!”
จักรพรรดิแห่งโลกใหม่มองไปที่เจ้าศักดินาเคนนี่และพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “เจ้าผิดไปแล้วงั้นเหรอ? บอกข้ามาว่าเจ้าทำอะไรผิด?”
“ข้า…ข้าไม่ควรขัดคำสั่งของฝ่าบาท แต่ถึงอย่างนั้นข้าก็ยังยืนยันว่าโมนิก้าและลูกชายของเธอเป็นผู้บริสุทธิ์ เธอไม่มีความเกี่ยวข้องกับคนเลี้ยงม้า เธอถูกใส่ร้าย…”
แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ จักรพรรดิแห่งโลกใหม่ก็ขัดจังหวะขึ้นด้วยใบหน้าที่เย็นชา “เจ้าศักดินาเคนนี่ ข้าจะบอกให้เจ้าฟังว่าโมนิก้าได้ให้ความร่วมมือกับประมุขนิกายจ้าวสวรรค์หลังจากที่เจ้าปล่อยเธอและลูกชายของเธอไป! เจ้าจะอธิบายเรื่องนี้ว่ายังไง? เจ้าเองก็มีความเกี่ยวข้องกับประมุขนิกายจ้าวสวรรค์ด้วยใช่หรือไม่?”
“ฝ่าบาท!” ใบหน้าของเจ้าศักดินาเคนนี่เปลี่ยนไปทันที จากนั้นเขาก็พูดขึ้นว่า “ข้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับประมุขนิกายจ้าวสวรรค์ ข้ารับใช้ราชวงศ์และทวีปโลกใหม่ด้วยความจงรักภักดี แล้วข้าจะไปสมรู้ร่วมคิดกับประมุขนิกายจ้าวสวรรค์ได้ยังไง?”
เจ้าศักดินาเคนนี่รู้สึกขมขื่นอยู่ภายในใจในขณะที่เขาอธิบายเช่นนั้น เขาซื่อสัตย์ต่อจักรพรรดิแห่งโลกใหม่มาตลอด เขาร่วมต่อสู้ในสนามรบเพื่อโลกใหม่นับครั้งไม่ถ้วน เขามีส่วนร่วมเพื่อโลกใหม่ตั้งมากมาย! เขาเชื่อฟังจักรพรรดิแห่งโลกใหม่มาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม เมื่อจักรพรรดิแห่งโลกใหม่สั่งให้เขาประหารชีวิตโมนิก้าและลูกชายของเธอ เขาทำเช่นนั้นไม่ได้จริง ๆ! ดังนั้นเขาจึงต้องฝ่าฝืนคำสั่งของจักรพรรดิ! เขายังกล้าสาบานอีกว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เขาฝ่าฝืนคำสั่งของจักรพรรดิ!
เฮ้อ!
จักรพรรดิแห่งโลกใหม่สูดหายใจเข้าเต็มปอด จากนั้นเขาก็เหลือบมองไปที่เจ้าศักดินาเคนนี่และพูดขึ้นอย่างช้า ๆ ว่า “ข้าไม่อยากฟังคำแก้ตัวของเจ้าอีก! เจ้าได้ฝ่าฝืนคำสั่งของข้าและปล่อยสองแม่ลูกนั้นหนีไป และการที่เจ้าหลอกลวงข้าในครั้งนี้ เจ้าจะต้องถูกตัดสินประหารชีวิต! นำตัวเจ้าศักดินาเคนนี่ เบรดไปตัดหัวที่นอกวังในพรุ่งนี้เที่ยง!”
ตุ้บ!
ใบหน้าของเจ้าศักดินาเคนนี่ซีดเซียวลงทันที เขาล้มลงราวกับว่าเขากำลังเป็นอัมพาต!
เกิดความโกลาหลขึ้นภายในห้องโถงของพระราชวังทันที