คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ - บทที่ 1409
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1409
บรรยากาศภายในห้องนอนตกอยู่ในความเงียบชั่วขณะ
อีเวตต์เฝ้ามองสโลนอย่างใจจดใจจ่อ เธอรู้สึกประมาจนฝ่ามือของเธอมีเหงื่อออกมาก
แดร์ริลซ่อนตัวอยู่ใต้เตียง ถ้าหากสโลนบอกความจริงกับจักรพรรดิ แดร์ริลจะไม่มีโอกาสหลบหนีไปได้อย่างแน่นอน
“ฝ่าบาท!”
สโลนกัดริมฝีปากแน่น จากนั้นเธอก็มองจักรพรรดิด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึมและกล่าวขึ้นด้วยความเคารพ “แดร์ริลไม่เคยเข้ามาเหยียบที่นี่”
เมื่อได้ยินสโลนตอบเช่นนั้น อีเวตต์ก็รู้สึกผ่อนคลายทันที เธอรู้สึกยินดีมากที่สโลนรักษาคำพูด
แดร์ริลถอนหายใจด้วยความโล่งอกเช่นกัน เขาไม่คิดว่าสโลนจะเป็นคนรักษาคำพูด เธอเป็นเทพีแห่งสงครามที่ทุกคนชื่นชมโดยแท้จริง
“ดี!” จักรพรรดิแห่งโลกใหม่พยักหน้า “ข้ารู้สึกโล่งใจมากเมื่อมีเจ้าอยู่เคียงข้างเจ้าหญิง! และเมื่อเจ้าอยู่ที่นี่ แดร์ริลก็คงจะไม่กล้าแอบเข้ามาที่นี่แน่นอน!”
จักรพรรดิแห่งโลกใหม่หันมองไปที่อีเวตต์และพูดขึ้นว่า “ไม่ว่าเจ้าจะคิดเช่นไร เจ้าก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคำสั่งของข้าได้ เพราะคำสั่งของข้าคือคำตัดสินสูงสุด! เพราะฉะนั้นเจ้าควรจะหยุดดื่มและเข้านอนได้แล้ว”
จากนั้น จักรพรรดิแห่งโลกใหม่ก็หันหลังกลับและเดินออกจากห้องของอีเวตต์ไปพร้อมกับผู้พิทักษ์มังกรทองทั้งสี่
เมื่อจักรพรรดิออกไปแล้ว บรรยากาศที่ตรึงเครียดก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย
“เกือบไปแล้ว!”
แดร์ริลพึมพำขณะคลานออกมาจากใต้เตียง จากนั้น เขาก็ยกมือขึ้นเช็ดเหงื่อที่เย็นเยียบบนหน้าผากของเขา
แดร์ริลไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวต่อจักรพรรดิแห่งโลกใหม่เลยแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตาม ผู้พิทักษ์มังกรทองทั้งสี่นั้นทรงพลังมาก โดยเฉพาะผู้ที่เป็นจักรพรรดิยุทธขั้นห้า! และเมื่อพวกเขาทั้งสี่รวมพลังกัน พวกเขาจะสามารถเอาชนะแดร์ริลได้อย่างแน่นอน และสถานการณ์จะต้องเลวร้ายมากยิ่งขึ้นถ้าหากว่ากองทัพหลวงของโลกใหม่เข้าร่วมการต่อสู้ด้วย!
แดร์ริลหันมองสโลนและพูดขึ้นว่า “ขอบคุณนะ!”
อีเวตต์เองก็หันมองเธอด้วยรอยยิ้มเช่นกัน “สโลนเป็นผู้ที่มีเกียรติ แน่นอนว่าเธอจะต้องรักษาคำพูด!”
“ใช่เลย!” แดร์ริลกล่าวเสริม
สโลนชำเลืองมองแดร์ริลขณะยกมือขึ้นด้วยท่าทางเฉยเมย “เลิกชมฉันและออกไปได้แล้ว”
สโลนต้องยอมเสี่ยงพูดโกหกกับจักรพรรดิ ดังนั้น เธอจะไม่ยอมให้แดร์ริลอยู่ต่ออีกแม้แต่วินาทีเดียว
“แล้วถ้าฉันไม่ไปล่ะ?” แดร์ริลยิ้มให้สโลนขณะพูดเช่นนั้น แต่น้ำเสียงของเขากลับฟังดูหนักแน่น
แดร์ริลสาบานว่าวันนี้เขาจะพาอีเวตต์ออกไปกับเขาให้ได้
อีเวตต์เดินเข้าไปหาสโลนขณะยกมือขึ้นจับแขนของเธอและพูดขึ้นว่า “สโลน คุณก็รู้ว่าฉันไม่ต้องการให้มีการแข่งขันกระประลองเพื่อคัดเลือกพระราชสวามีเกิดขึ้น ฉันกับแดร์ริลรักกัน ได้โปรดปล่อยให้ฉันไปกับเขาด้วย!”
อีเวตต์กล่าวอ้อนวอนสโลนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า
“ไม่!”
สโลนกัดริมฝีปากแน่น จากนั้นเธอก็พูดขึ้นอย่างอดทนว่า “เจ้าหญิง ฉันรู้สึกแย่มากพอแล้วที่ฉันต้องโกหกจักรพรรดิ แต่ถ้าหากว่าฉันปล่อยคุณไปก็เท่ากับว่าฉันละเลยหน้าที่ ดังนั้นอย่าโทษถ้าหากว่าฉันจะไม่อนุญาต!”
“แต่…” อีเวตต์ขมวดคิ้ว
แดร์ริลจ้องมองสโลนและพูดขึ้นว่า “ ถ้าหากว่าเธอไม่อยากถูกกล่าวหาว่าเป็นคนละเลยหน้าที่ ถ้าเช่นนั้นทำไมเธอไม่ลาออกไปเลยล่ะ? แล้วบอกจักรพรรดิว่าเธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่เหมาะสมของฉัน…”
“แดร์ริล!”
สโลนจ้องมองแดร์ริลอย่างเย้ยหยัน เธอขัดจังหวะและไม่รอให้เขาพูดจบ “คุณคิดว่าฉันแค่กลัวถูกจับได้ว่าละเลยหน้าที่งั้นเหรอ? คุณคงไม่รู้สินะว่าพระราชวังแห่งโลกใหม่ไม่ได้เป็นเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เพราะว่าตอนนี้พระราชวังแห่งโลกใหม่มีผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่งมากมาย และผู้พิทักษ์มังกรทองทั้งสี่ก็เป็นจักรพรรดิยุทธที่แข็งแกร่งมาก!”
สโลนสูดหายใจเข้าเต็มปอด จากนั้นเธอก็พูดต่อว่า “ถึงแม้ว่าฉันจะปล่อยคุณออกจากห้องนี้ไป แต่คุณก็จะไม่สามารถจัดการกับจักรพรรดิยุทธจำนวนมากที่อยู่ข้างนอกได้ แม้ว่าคุณจะใช้เปลวเพลิงเย็นไร้มลทินของคุณก็ตาม และที่สำคัญ คุณจะทำยังไงถ้าหากเจ้าหญิงบาดเจ็บระหว่างการต่อสู้ขึ้นมา?”
‘อะไรนะ?’
‘ที่นี่มีผู้บ่มเพาะที่เป็นจักรพรรดิยุทธกี่คน!’
แดร์ริลทั้งรู้สึกหงุดหงิดและตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาพูดไม่ออกไปชั่วขณะ
ถ้าหากว่าสิ่งที่สโลนพูดเป็นความจริง มันคงจะเป็นเรื่องยากที่แดร์ริลจะพาอีเวตต์หนีออกไปจากวังพร้อมกับเขา