คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ - บทที่ 1477
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1477
เมื่อเห็นดังนั้นแดร์ริลก็แอบหัวเราะอยู่ในใจ
ปัง!
พลังภายในของแดร์ริลระเบิดออก เขาฟาดไปที่หัวของราชาหมาป่าวิญญาณแห่งวายุนั่น
จากนั้นเขาก็เห็นว่าร่างที่ใหญ่โตนั้นสั่นสะท้าน
มันคำรามอย่างโศกเศร้า พลันล้มลงกับพื้นทันทีก่อนหายใจเฮือกสุดท้าย
โบร๋ววววว! โบร๋วววว!
บรรดาหมาป่าตัวอื่น ๆ ต่างก็มีโทสะเมื่อได้เห็นเช่นนั้น พวกมันขบเคี้ยวเขี้ยวอันแหลมคมพร้อมคำรามใส่แดร์ริล ฝูงหมาป่าดูราวกับว่าพวกมันพร้อมจะพุ่งเข้าจู่โจมได้ทุกเมื่อ
แม้ว่าแดร์ริลจะสังหารราชาหมาป่าวายุไปภายในชั่วเวลาไม่กี่วินาที บรรดาพวกหมาป่าก็ไม่ได้หวาดกลัว หากว่ามีใครมาสังหารหนึ่งในฝูง พวกที่เหลือก็พร้อมจะสู้เอาชีวิตเข้าแลกเพื่อแก้แค้น
แดร์ริลไม่ได้กังวลแต่อย่างใดเมื่อเขาเห็นพวกฝูงหมาเริ่มโจมตีเขา เขาสังหารราชาหมาป่าไปได้แล้ว พวกที่เหลือก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
ตอนที่แดร์ริลกำลังจะเก็บเกี่ยวโอสถเล่นแร่แปรธาตุจากช่วงท้องของราชาหมาป่า แดร์ริลก็ได้พบบางสิ่ง เขาอึ้งงันไปชั่วขณะ
เขาได้เห็นว่ามีเชือกผูกอยู่รอบคอของราชาหมาป่า แล้วมีห่วงกลมสีดำคล้องอยู่กับเชือกเส้นนั้น ห่วงกลมนั้นดูไม่เหมือนหยกแท้ แต่มันก็มีรังสีของพลังวิญญาณอยู่ซึ่งน่าทึ่งมาก
‘นี่มันอะไรวะเนี่ย?’
แดร์ริลขมวดคิ้วแน่น เขาดึงห่วงหยกกลมนั้นออกมาถือไว้ในมือก่อนพินิจพิจารณา
ตอนนั้นเองหมาป่าตัวอื่นที่เหลือก็วางแผนที่จะเข้าโจมตี แต่เมื่อพวกมันได้เห็นห่วงกลมสีดำนั้น เสียงคำรามก็แผ่วเบาลงและต่างพากันถอยไป ด้วยท่าทางดูหวาดกลัว
‘ให้ตายสิ เจ้านี่สามารถไล่พวกหมาป่าไปได้ด้วยเหรอ?’
เมื่อเห็นดังนั้นแดร์ริลก็ทั้งตื่นเต้นดีใจ เขายิ่งสงสัยว่าเจ้าห่วงกลมนี้คือสิ่งใดกันแน่
“ผางถ่ง คุณรู้ไหมว่านี่คืออะไร?” แดร์ริลไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องถามผางถ่งผู้เคยเป็นนักรบมีชื่อเสียงในช่วงยุคสงครามสามก๊ก
“ขอรับท่าน!”
เมื่อเขาถาม ผางถ่งก็ตอบทันที “มันคือห่วงสะกดสัตว์เทพ”
ห่วงสะกดสัตว์เทพงั้นเหรอ?
แดร์ริลอึ้งไปเมื่อได้ยินดังนั้น ภายในใจเขาเต็มไปด้วยความสงสัย
ผางถ่งอธิบายอย่างช้า ๆ โดยไม่รอให้เขาถามเพิ่ม “ห่วงสะกดสัตว์เทพเป็นอาวุธลับระหว่างผู้ฝึกสัตว์กับพวกสัตว์เทพ ผู้ฝึกจะใช้ห่วงสะกดสัตว์เทพนี้เป็นเครื่องมือใช้สื่อสารกับบรรดาสัตว์เทพ”
ผางถ่งบอกข้อมูลโดยสรุปเกี่ยวกับผู้ฝึกสัตว์เทพ
ในประวัติศาสตร์ของโลกยุทธภพนั้น มีบรรดาผู้ฝึกฝนสัตว์เทพซึ่งแยกออกไปจากผู้ปรุงแต่งโอสถ แต่ว่าเมื่อจำนวนของสัตว์เทพมีน้อยลงเรื่อย ๆ ก็ไม่หลงเหลือเหล่าผู้ฝึกฝนสัตว์เทพอีกต่อไป อาจกล่าวได้ว่า ทั้งเก้าทวีปนั้นไม่มีผู้ฝึกฝนสัตว์เทพอีกต่อไปแล้ว
“นายท่าน!”
ตอนที่แดร์ริลยังคงอึ้งตะลึงอยู่นั้น ผางถ่งก็พูดต่อ “ห่วงสะกดสัตว์เทพนี้มีประโยชน์มากในการไล่พวกหมาป่าไป ข้าเชื่อว่า เจ้านายของมันต้องเป็นผู้ฝึกสัตว์เทพผู้ยอดเยี่ยม นายท่านควรเก็บไว้ให้ดีเพราะว่ามันอาจจะมีประโยชน์กับนายท่านในอนาคต”
ผางถ่งน้ำเสียงฟังดูจริงจังเมื่อพูดเรื่องนี้
แดร์ริลพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
‘ห่วงสะกดสัตว์เทพสามารถไล่พวกหมาป่าไปได้ และมันก็ต้องเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากแน่ ฉันจะไม่มีวันทำมันหายเด็ดขาด’
เมื่อคิดได้เช่นนั้น แดร์ริลก็เก็บห่วงสะกดสัตว์เทพเข้าไว้กับตัว จากนั้นเขาก็ชำแหละร่างของราชาหมาป่าเพื่อเก็บโอสถเล่นแร่แปรธาตุ
‘เวร…’
แดร์ริลถึงกับอึ้งไปเมื่อเขาเอาโอสถเล่นแร่แปรธาตุออกมาจากร่างราชาหมาป่า เขาทั้งตกใจและประหลาดใจ
เขาเห็นว่าโอสถเล่นแร่แปรธาตุในร่างของราชาหมาป่านั้นใหญ่กว่าอันอื่น ๆ มากหลายเท่า และยังเป็นสีทองส่องแสงสว่างเจิดจ้า
โอสถเล่นแร่แปรธาตุ
แค่โอสถนี้อันเดียวเขาก็มีคุณสมบัติพอที่จะเข้ารอบต่อไปได้แล้ว แดร์ริลนั้นรู้สึกมีอารมณ์ท่วมท้นจนพูดไม่ออก
มีรังสีรุนแรงตามมาด้วยเงาร่างที่เหาะทะยานเข้ามาอย่างรวดเร็ว บนท้องฟ้าไม่ไกลออกไปนัก
‘แม่ง หมอนั่นอีกแล้วเหรอ?’
แดร์ริลเงยหน้าขึ้นมองและขมวดคิ้วแน่นทันใด อารมณ์ผ่อนคลายและมีสุขของเขาเปลี่ยนเป็นเลวร้ายในทันที
เขาได้เห็นชายหล่อเหลาที่มีความมั่นใจ แล้วทั้งร่างก็แผ่รังสีรุนแรงออกมา
เขาคือมัตเตโอ แฮนสัน