คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ - บทที่ 1481
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1481
แอชเชอร์กับลูก้าเป็นเพื่อนกันเหรอ? เป็นที่รู้กันว่า พลังของแอชเชอร์นั้นแข็งแกร่งในหมู่ของผู้เข้าร่วมประลอง เขามักจะอยู่ลำดับต้น ๆ ของตารางเสมอ เมื่อแอชเชอร์ออกมาพูดแทนลูก้าก็ไม่มีใครกล้าหัวเราะอีกต่อไป
“ฉัน…” โจฮันเนสอึ้งไป เขารวบรวมความกล้ามองไปที่แอชเชอร์ก่อนพูดว่า “แอชเชอร์ นายเป็นอะไรไป? ลูก้าเก็บโอสถเล่นแร่แปรธาตุมาได้แค่ไม่กี่อัน ถ้าฉันจะหัวเราะเยาะเขาสักหน่อยแล้วผิดตรงไหน?”
โจฮันเนสชี้ไปที่ตารางผู้มีคะแนนนำชั่วคราวด้านข้างอย่างภาคภูมิใจ “ฉันอยู่ในสิบอันดับแรก ฉันก็มีสิทธิ์ที่จะหัวเราะเยาะเขาสิ”
โจฮันเนสพูดถูก เขาอยู่เป็นอันดับสิบในรายชื่อผู้ชนะ ไม่ต้องแปลกใจว่าเขานั้นมีคุณสมบัติที่จะผ่านเข้ารอบต่อไป
“นายอยู่สิบอันดับแรกแล้วยังไง!?” แอชเชอร์หัวเราะอย่างเย็นชาก่อนที่จะหันมามองฟลอเรียนและพูดว่า “ท่านฟลอเรียน ผมจะยกโอสถเล่นแร่แปรธาตุของผมทั้งหมดให้กับลูก้า ผมขอถอนตัวออกจากการแข่งขัน”
ชั่วขณะนั้นแอชเชอร์ดูมุ่งมั่นเด็ดขาดมาก ที่จริงแล้วแอชเชอร์ทุ่มเทไปเยอะมากเพื่อคว้าอันดับหนึ่งในการแข่งขันทักษะการต่อสู้นี้ การที่เขายอมรามือเช่นนี้ก็ถือว่าเสียของ
แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น ตั้งแต่ที่เขาได้รู้ว่าลูก้ามาจากราชวงศ์โลกใต้เมฆี เขาก็ต้องสนับสนุนลูก้า สำนักของเขายังต้องการแรงสนับสนุนจากราชวงศ์เพื่อที่จะสามารถขยายเพิ่มระดับไปได้สูงขึ้น
“อะไรนะ?!”
ตอนนั้นเองบริเวณพื้นที่จัดการแข่งขันก็เกิดความปั่นป่วนอลหม่าน ทุกคนต่างก็มองแอชเชอร์อย่างไม่อยากเชื่อ สายตาทุกคนเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
‘แอชเชอร์จะถอนตัวออกจากการแข่งขันแล้วยกโอสถเล่นแร่แปรธาตุให้ลูก้าโดยไม่มีเงื่อนไขงั้นเหรอ?’ ทุกคนคิด
‘ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสองคนมันคืออะไรกันที่ทำให้แอชเชอร์ต้องยอมเสียสละขนาดนี้ได้?’
แอชเชอร์นั้นครอบครองโอสถเล่นแร่แปรธาตุมากกว่าพันอัน หากว่าเขายกทั้งหมดให้กับลูก้า ก็ทำให้ลูก้าขยับขึ้นไปอยู่ลำดับที่สองได้อย่างง่ายดาย
ทันใดนั้นบรรยากาศก็เปลี่ยนเป็นตึงเครียด
ตอนนั้นเองแดร์ริลก็เดินเข้ามาแและตบบ่าแอชเชอร์ก่อนยิ้มและบอกว่า “แอชเชอร์! ขอบคุณมาก แต่นายไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นหรอก! ฉันไม่แพ้แน่!”
แดร์ริลมองเขาอย่างชื่นชม เขาไม่ได้คาดหวังว่าแอชเชอร์จะเป็นคนใจกว้างและมีเกียรติเช่นนี้
“แต่…”
แอชเชอร์กังวลเมื่อเขาได้ยินที่แดร์ริลบอก เขาลังเลและบอกว่า “แต่คุณจะโดนตัดสิทธิ์หากว่าเราไม่ทำแบบนี้”
ตอนนั้นแอชเชอร์เองก็ยังไม่รู้ว่าแดร์ริลมีโอสถเล่นแร่แปรธาตุของราชาหมาป่าอยู่ เพราะว่าแดร์ริลยังไม่ได้เอาออกมา
แดร์ริลยิ้มและทำท่าทางบอกให้เขาไม่ต้องเป็นกังวล
โจฮันเนสรวบรวมความคิดได้และชี้มาที่แดร์ริลก่อนหัวเราะ “ฮ่าฮ่า โอ้โห ช่างเป็นคนที่มีหลักการเสียจริง ไม่ยอมรับความช่วยจากผู้อื่นซะด้วย ขอฉันถามนายหน่อยเถอะ นายจะมีคุณสมบัติผ่านเข้ารอบได้ไงถ้ามีโอสถเล่นแร่แปรธาตุแค่สามสิบอันเนี่ย?”
“ฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่า” ขณะที่เขาพูด คนอื่นก็ได้สติและพากันหัวเราะตาม
เมื่อเห็นว่าเวลาใกล้จะหมดแล้ว ฟลอเรียนก็ไม่อยากเสียเวลาไปเปล่าประโยชน์อีก เขาบอกแดร์ริลอย่างหมดความอดทนว่า “ลูก้า นี่ไม่ใช่ที่ที่นายจะมาทำเป็นเล่นได้ นายจะหมดสิทธิ์การแข่งขันถ้านานมีโอสถแค่นั้น”
‘เป็นคนไร้ความสำคัญที่มีท่าทางสำคัญตนเหลือเกิน ฉันจะต้องรายงานเรื่องนี้ให้ฝ่าบาททรงทราบ’ ฟลอเรียนคิด
“ใครบอกล่ะว่าผมไม่มีแล้ว?” แดร์ริลยิ้มอย่างสงบก่อนจะหยิบโอสถเล่นแร่แปรธาตุสีทองออกมา “ชิ้นนี้นับด้วยไหม?”
ชั่วขณะที่เขาหยิบโอสถเล่นแร่แปรธาตุสีทองออกมา สีทองนั้นส่งแสงอร่ามทำให้ทุกคนรอบข้างตาพร่าเบลอจากแสงนั้น
จังหวะต่อมา ทุกคนต่างก็กลั้นหายใจเมื่อได้เห็นโอสถเล่นแร่แปรธาตุสีทองในมือของแดร์ริล
‘นี่มันโอสถเล่นแร่แปรธาตุแบบไหนกัน? มันมีสีทองด้วยเหรอ?’
โจฮันเนสอึ้งจนพูดไม่ออก เขาอ้าปากค้าง