คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ - บทที่ 1489
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1489
เมื่อปาร์คเกอร์ยื่นตราสัญลักษณ์ให้แดร์ริล เธอก็แสดงออกกับเขาเหมือนเป็นเพื่อนอย่างเห็นได้ชัด
“ได้เลย” แดร์ริลรับมาและเก็บเอาไว้
พวกเขาคุยกันอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าวอำลากัน
เมื่อแดร์ริลกลับมาถึงที่พักเขาก็รู้สึกโล่งใจ เขาผ่านเข้ารอบต่อไปได้สำเร็จทั้งรอบชิงของการประลองยุทธ์และด้านวรรณกรรม
หลังจากได้พักผ่อนเต็มตื่นหนึ่งคืนแล้วพักสมอง แดร์ริลก็รู้สึกสดชื่นเมื่อตื่นขึ้นมา ในวันต่อมาเขาก็มาที่สนามประลองแล้วก็ได้เห็นป้ายประกาศที่มีชื่อของผู้เข้าร่วมประลองแบ่งออกเป็นกลุ่มย่อย ๆ
ทั้งสิบคนที่ผ่านเข้ามาจากรอบรองตอนนี้ถูกแบ่งออกเป็นห้ากลุ่มย่อยเพื่อต่อสู้กัน ผู้ชนะจะได้เข้ารอบต่อไปขณะที่ผู้แพ้จะตกรอบ คราวนี้ไม่ต้องมองหา โอสถเล่นแร่แปรธาตุอีกแล้ว แต่ว่าเป็นการต่อสู้กันด้วยพลังที่แท้จริง
‘แอชเชอร์เหรอ? เขาช่วยฉันมามากในรอบก่อนชิง คงไม่ง่ายที่ต้องต่อสู้กับเขา’ แดร์ริลคิดขณะที่เดินเข้าไปในบริเวณเขตประลอง
ไม่นานหลังจากที่จักรพรรดิโลกใหม่และบรรดาสมาชิกราชวงศ์มาถึง การประลองก็ได้เริ่มขึ้น
รอบแรกนั้นเป็นการประลองระหว่างมัตเตโอกับผู้เข้าแข่งอีกคน
ไม่ต้องสงสัยว่ามัตเตโอเอาชนะคู่แข่งได้ในเวลาไม่ถึงห้านาทีหลังจากที่การประลองเริ่มขึ้น เขาได้รับทั้งชัยชนะและเสียงเชียร์จากเหล่าคนดู
“รอบต่อไป แอชเชอร์ ฟินน์และลูก้า มูนไลท์” ฟลอเรียนประกาศชื่อผู้เข้าประลองรอบต่อไป หลังจากที่มีการแข่งไปสองสนามแล้ว
เมื่อเขาประกาศจบ ทุกคนต่างก็มองแดร์ริล แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้มองอย่างชื่นชมแต่เป็นสายตาสังเวชและรังเกียจ
“ลูก้าเหรอ? หมอนี่ไม่ใช่เหรอไงที่เกาะคุณปาร์คเกอร์มาในรอบการแข่งขันวรรณกรรมน่ะ?”
“หมอนี่น่ะแหละ เขาโชคดีมาก เขามีคุณสมบัติผ่านทั้งการแข่งขันศิลปการต่อสู้และการแข่งขันวรรณกรรมเข้ามารอบชิง แต่ว่าเขาต้องแพ้ในการต่อสู้วันนี้แน่นอน”
“เรื่องมันแน่ พลังของแอชเชอร์นั้นอยู่สามอันดับแรกเลย เขาอยู่ระดับจักรพรรดิยุทธขั้นสาม ลูก้าเป็นแค่ปราชญ์ยุทธเท่านั้น ไม่มีทางที่จะชนะได้หรอก”
ทุกคนต่างก็พากันถกเถียง ไม่มีใครเชื่อในตัวแดร์ริลและถึงกับมีบางคนที่ตะโกนด่าเขา
“นี่ลูก้า อย่าเสียเวลาสู้เลย ยอมแพ้ไปเถอะ”
“ใช่เลย แอชเชอร์อาจจะเผลอฆ่าคุณก็ได้”
“ฮ่าฮ่า”
สีหน้าของแดร์ริลไม่แสดงอารมณ์ใดเมื่อเขาได้ยินเสียงตะโกนจากฝูงชน เขาเดินอย่างช้า ๆ ไปที่เวทีประลอง
ส่วนอีกด้าน แอชเชอร์ก็เดินไปที่เวทีด้วยเช่นกันแต่มีทีท่าประหวั่นพรั่นพรึง
“ฝ่าบาท พระองค์ทรงพระราชดำริว่าลูก้าผู้นี้จะยอมแพ้แล้วถอนตัวจากการแข่งขันหรือไม่พะยะค่ะ?” ฟลอเรียนกล่าวกับจักรพรรดิแห่งโลกใหม่ขณะที่เขายืนอยู่บนแท่นสูงพร้อมรอยยิ้ม
ไม่ว่าลูก้าจะโชคดีแค่ไหน ไม่มีทางที่เขาจะเอาชนะได้วันนี้
ด้วยความต่างทางพลังของทั้งสองคน ลูก้าไม่มีทางชนะได้
“ดูเหมือนว่าทางเดียวที่ลูก้ามีก็คือต้องยอมวางมือจากการประลอง” จักรพรรดิแห่งโลกใหม่กล่าวขณะที่มองดูทั้งสองคน
ผู้มีระดับแค่ปราชญ์ยุทธจะต่อสู้กับจักรพรรดิยุทธได้อย่างไรกัน?
การประลองรอบนี้ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นให้รอชมเลย
เมื่อเห็นดังนั้นสโลนก็แอบส่ายหน้าและกระซิบกับอีเวตต์ “ดูเหมือนว่าลูก้าจะแพ้ในรอบนี้เพคะ เขาอยู่แค่ระดับปราชญ์ยุทธแต่แอชเชอร์นั้นระดับจักรพรรดิยุทธเลย”
สองวันที่ผ่านมา สโลนคอยจับตาดูลูก้าแต่น่าเสียดายที่เขาต้องแพ้ไป
ใบหน้าอีเวตต์ไม่แสดงอารมณ์ใด เธอพูดอย่างนิ่ง ๆ ว่า “หากว่าแพ้ก็เป็นความผิดของเขาเอง พี่สโลนเลิกพูดถึงลูก้าให้ฉันฟังสักทีเถอะ”
เธอรู้ว่าสโลนทำแบบนี้เพียงเพื่อให้เธอลืมแดร์ริลเท่านั้น
‘ยังไงก็ไม่มีใครที่จะมาแทนที่แดร์ริลในใจของฉันได้ รวมถึงลูก้าที่อยู่ต่อหน้าตอนนี้ หากเทียบกับแดร์ริล ก็ต่างกันราวฟ้ากับเหว’
“ก็ได้เพคะ หม่อมฉันจะไม่พูดถึงเขาอีกแล้ว” สโลนเอ่ยและยิ้มพร้อมพยักหน้า แต่สายตาของเธอก็ยังจับจ้องแดร์ริลที่อยู่บนเวทีอย่างไม่วางตาด้วยสายตาแสดงความชื่นชม ‘ลูก้าคนนี้น่าสนใจมาก เขาพัฒนาขึ้นสู่ระดับสูงขึ้นด้วยการอาศัยเพียงแค่โชคตลอดทั้งการประลอง’