คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ - บทที่ 1506
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1506
คีแลนซ์ ด็อกโกนั้นได้ชื่อว่าเป็นอัจฉริยะมาตั้งแต่ยังเด็ก เขาเป็นผู้ที่รู้วิธีประพันธ์โครงกลอนตั้งแต่อายุแค่เจ็ดปี แม้การแต่งโครงแบบด้นสดนั้นจะยากแต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับคีแลนซ์
‘เวรเอ๊ย โครงกลอนเหรอ?’ แดร์ริลที่อยู่ด้านข้างแอบคุยกับผางถ่งที่อยู่ในเจดีย์ “ผางถ่ง จากนี้ไปข้าต้องพึ่งเจ้าแล้ว”
“นายท่านอย่าได้เป็นกังวล การประพันธ์โครงกลอนนั้นเป็นเรื่องง่ายดายยิ่งนักสำหรับข้า ท่านแค่เตรียมตัวรับชัยชนะในการแข่งขันเถอะ” ผาง ถ่ง ตอบพร้อมเสียงหัวเราะอย่างมั่นใจ
“การแข่งวรรณกรรมรอบสุดท้ายเริ่มได้!”
ฟลอเรียนยิ้มตอนนี้ และใต้คำสั่งของจักรพรรดิแห่งโลกใหม่เขาก็ประกาศเสียงดังว่า “ผู้เข้าแข่งขันคนแรก คีแลนซ์ ด็อกโก!”
ฟุ่บ!
สายตาทุกคนต่างหันไปจับจ้องคีแลนซ์ ขณะที่บรรดาสาว ๆ ต่างก็อดส่งเสียงเชียร์เขาไม่ได้เหมือนกัน
“ว้าย มิสเตอร์ด็อกโก”
“มิสเตอร์ด็อกโกจะเริ่มเป็นคนแรก เยี่ยมเลย…”
“คีแลนซ์ โชคดีนะ!”
จักรพรรดิแห่งโลกใหม่ยิ้มเมื่อเห็นฉากตรงหน้า และมองด้วยสายตาชื่นชมก่อนจะเอ่ยเยินยอ “ดูเหมือนว่าคีแลนซ์จะได้รับเสียงเชียร์เยอะเลยนะ”
จักรพรรดินีที่ประทับอยู่เคียงข้างมองคีแลนซ์และไม่สามารถปกปิดความรู้สึกชื่นชมที่มีในใจได้ “เขาดูหล่อเหลาและมีทักษะทางด้านวรรณกรรมที่ไม่ธรรมดาเช่นกัน คีแลนซ์นั้นเป็นตัวเลือกของราชบุตรเขยที่สมบูรณ์แบบ…”
จากนั้นจักรพรรดินีก็หันมามองอีเวตต์ก่อนยิ้มและถามว่า “อีเวตต์ ลูกคิดเช่นไรกับคีแลนซ์?”
ความจริงแล้วองค์จักรพรรดินีไม่ชื่นชอบความรุนแรง พระนางเลยไม่ชอบการแข่งประลองยุทธ์ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเป็นมัตเตโอหรือลูก้า เธอเห็นคีแลนซ์ ด็อกโกเป็นผู้เข้าแข่งคนโปรด และความชื่นชอบในตัวเขาก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
แต่ว่า!
อีเวตต์เพียงแต่ส่ายหน้าและตอบเรียบ ๆ ว่า “เขาก็แค่ธรรมดา…”
คีแลนซ์นั้นมีความสามารถก็จริง แต่เขาก็เป็นเพียงบัณฑิตและไม่มีกลิ่นอายนักเวทย์
ที่สำคัญ เขาไม่สามารถมาแทนที่แดร์ริลได้
จักรพรรดินียิ้มอย่างขมขื่นด้วยสีหน้าหน่ายใจเมื่อได้ยินคำตอบของธิดา เธอช่างเลือกเกินไป
ตอนนั้นเองคีแลนซ์ก็ค่อย ๆ เดินขึ้นไปบนเวทีภายใต้สายตาจับจ้องของผู้ชม
จากนั้นเขาก็ก้มคำนับจักรพรรดิแห่งโลกใหม่ก่อนที่จะกระแอมแล้วเริ่มร่ายกลอน
“นับแต่พานพบโฉมสคราญผู้รักอุดรทิศ
“งดงามดุจดั่งเกล็ดน้ำแข็งและหิมะ
“ผู้ใดคาดว่ารักนั้นแสนระทม
“เพราะรักแม้ใกล้ก็ดุจไกลเหลือแสน!”
ว้าว!
ฝูงชนทั้งหมดต่างพากันส่งเสียงเชียร์เมื่อเขาร่ายจบ สาวน้อยทั้งหลายต่างพากันคลั่งไคล้บทกลอนของเขามาก
คีแลนซ์ยิ้มและมองอีเวตต์อย่างหวานซึ้งเมื่อเขากล่าวบทสุดท้าย
กลอนนี้มีความหมายลึกซึ้งและเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นคำสารภาพรักที่เขามีต่ออีเวตต์
“นับแต่พานพบโฉมสคราญผู้รักอุดรทิศ
“งดงามดุจดั่งเกล็ดน้ำแข็งและหิมะ
อุดรทิศเห็นได้ว่าหมายถึงฤดูหนาวที่เป็นฤดูกาลในขณะนี้และกำลังจะเปลี่ยนเข้าสู่ใบไม้ผลิ ดังนั้นสองบรรทัดแรกของกลอนก็เหมาะกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
“ผู้ใดคาดว่ารักนั้นแสนระทม
“เพราะรักแม้ใกล้ก็ดุจไกลเหลือแสน!”
แล้วยิ่งสองบรรทัดสุดท้ายที่เป็นจุดเด่นและเป็นตัวจบของกลอน เป็นคำสารภาพความรู้สึกชื่นชมที่มีต่อองค์หญิง เยี่ยมไปเลย
ว้าว!
บรรดาผู้ชมทั้งหมอต่างก็อ้าปากค้างและกล่าวเยินยอเขา แม้แต่พวกทหารทั้งหลายที่ยืนอยู่ด้านหลังจักรพรรดิแห่งโลกใหม่ก็อดไม่ได้ที่จะปรบมือชื่นชมเขาเช่นกัน
“กลอนดี!”
“ความหมายลึกซึ้งมาก! เป็นบทกลอนชั้นเลิศ!”
“ใครมันจะสามารถแต่งกลอนที่ลึกซึ้งแบบนี้ได้ภายในเวลาสั้น ๆ เช่นนี้? ข้าว่ามีแค่คีแลนซ์ ด็อกโกที่สามารถทำได้ในการแข่งวรรณกรรมนี้”
จักรพรรดิแห่งโลกใหม่พยักพระพักตร์อย่างเห็นด้วยเช่นกันและไม่ปิดซ่อนความรู้สึกชื่นชมที่มี พระองค์มองคีแลนซ์และตรัสชมว่า “เยี่ยมยอด! ดีมาก! ไม่แปลกใจที่เจ้าเป็นบัณฑิตเลื่องชื่อของแดนมัชฌิม กลอนยอดเยี่ยมมาก!”
หลายคนต่างมองคีแลนซ์ด้วยสายตาอิจฉาริษยา
เมื่อจักรพรรดิแห่งโลกใหม่กล่าวชื่นชมเขา มันก็ดูเหมือนว่าคีแลนซ์นั้นต้องชนะการแข่งวรรณกรรมแน่นอน!
‘เวรเอ๊ย!’