คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ - บทที่ 1507
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1507
’คีแลนซ์ ด็อกโกนั้นมีพรสวรรค์ไม่เบา’
แดร์ริลแอบขมวดคิ้วเมื่อได้เห็นฉากตรงหน้า เขาเฝ้าถามผางถ่ง “ผางถ่ง เป็นยังไงบ้าง? คุณคิดว่าเราจะเอาชนะคีแลนซ์ ด็อกโกได้ไหม?”
อันที่จริงทักษะทางวรรณกรรมของแดร์ริลเองก็ไม่ได้เลวร้าย แต่เขาก็ยังคงกระวนกระวายเมื่อต้องแข่งกับคีแลนซ์
ถึงอย่างไรคีแลนซ์ก็เป็นอัจฉริยะผู้มีพรสวรรค์ซึ่งเป็นที่รู้จักและเป็นบัณฑิตอย่างแท้จริง
ผางถ่งหัวเราะและปลอบเขา “อย่างร้อนรนไปเลยนายท่าน คีแลนซ์แม้จะมีพรสรรค์อย่างแท้จริง แต่ข้าก็มั่นใจว่าจะเอาชนะเขาได้” ผางถ่งตอบอย่างสงบด้วยน้ำเสียงแฝงแววเย่อหยิ่ง
ผางถ่งไม่เคยแพ้ใครในเรื่องของวรรณกรรมแม้ว่าจะเป็นคนที่มีชื่อเสียงแนวหน้าอย่างจูกัดเหลียงก็ตาม
ผู้เข้าร่วมแข่งขันคนอื่น ๆ อีกสามคนก็ขึ้นไปบนเวทีระหว่างที่ทั้งสองคุยกันอยู่ แม้ว่าพวกนั้นจะสามารถร่ายกลอนออกมาได้ แต่ก็ไม่สามารถเทียบของคีแลนซ์ได้ทั้งในแง่การแต่งและความหมาย มันต่างกันมากอย่างชัดเจน
ว้าว!
เสียงเชียร์ที่มีให้คีแลนซ์ยิ่งดังกระหึ่มกว่าเดิม
“ดูเหมือนว่าคุณด็อกโกจะต้องชนะแน่”
“ดูจากสถานการณ์แล้ว ฉันมั่นใจว่าเขาชนะแน่”
“คุณด็อกโกเป็นบัณฑิตที่มีความสามารถมากที่สุดในโลก อันดับแรกในเรื่องการเขียน…”
ท่ามกลางเสียงโต้เถียงต่าง ๆ มีบางคนทนไม่ไหวจนต้องตะโกนออกมาเสียงดังราวกับว่าคีแลนซ์ชนะการแข่งวรรณกรรมแล้วว
ไม่มีใครสนใจเห็นแดร์ริลอยู่ในสายตา แม้ว่าลูก้า มูนไลท์จะชนะรอบประลองยุทธ์ขาดลอย แต่เขาก็ไม่ใช่คู่แข่งของคีแลนซ์ในด้านของวรรณกรรม
ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบขนาดที่เก่งทั้งด้านการต่อสู้และวรรณกรรมอยู่แล้ว แม้ว่าจะมีคนนั้นอยู่จริง ๆ ก็คงจะมีแค่ไม่กี่คนในโลกนี้
“ผู้เข้าแข่งขันคนสุดท้าย ลูก้า มูนไลท์!”
ฟลอเรียนโบกมือเป็นสัญญาณให้ผู้ชมเงียบเสียงก่อนที่เขาจะประกาศชื่อของแดร์ริล
‘เฮ้อ ถึงตาฉันซะที!’
แดร์ริลถอนลมหายใจออกมาและค่อย ๆ เดินช้า ๆ ไปยังเวที
“นายท่าน”
“ข้าแต่งบทกลอนมาแล้ว นายท่านฟังนะ…” เสียงของผางถ่งดังขึ้นมาทันใดก่อนที่เขาจะเริ่มร่ายกลอนให้แดร์ริลฟัง
แดร์ริลพยักหน้าอย่างเงียบ ๆ ด้วยความชื่นชมความหมายของกลอนและหัวใจเขาก็เต็มตื้นด้วยความชื่นชมในไม่กี่วินาทีต่อมา
‘ไม่แปลกใจที่เขาเป็นนักวางแผนกลยุทธ์ที่มีชื่อในยุคสามก๊ก กลอนบทนี้ยอดเยี่ยมจริง ๆ’
เขาไม่ร่ายกลอนออกมาทันทีขณะที่กำลังคิดชื่นชมผางถ่งอยู่ แต่เขามองอีเวตต์ที่นั่งอยู่ตรงนั้นด้วยอารมณ์หลากหลาย
เขาเห็นได้ว่าอีเวตต์นั้นผอมลงไปในช่วงข้ามคืน อีเวตต์นอนไม่หลับเพราะรู้ดีว่าการประลองยุทธ์เลือกคู่นั้นเข้าใกล้บทสรุปแล้ว และราชบุตรเขยก็ต้องถูกเลือก
“ลูก้า มูนไลท์ ตานายแล้ว…”
“ฮ่าฮ่า ดูเขาทำหน้านิ่วคิ้วขมวดสิ เขาต้องคิดอะไรไม่ออกแน่”
“ถ้าเป็นฉันนะ ฉันก็จะพอใจแค่เป็นผู้ชนะของการประลองยุทธ์แล้วติดหนึ่งในห้าอันดับของการแข่งวรรณกรรม แค่นี้ก็มีเกียรติมากแล้ว”
แดร์ริลยืนครุ่นคิดโดยไม่พูดอะไรออกมา ขณะนั้นบรรดาฝูงชนก็อดซุบซิบโต้เถียงกันไม่ได้ บางคนก็เยาะเย้ยเขา
จักรพรรดินีเลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่พอใจและบอกว่า “ลูก้าคิดจะเล่นลูกไม้อะไรอีก? นี่ก็นานแล้วนะ เขายังไม่พูดอะไรสักคำ นี่เขาต้องการเรียกร้องความสนใจเหรอ?”
แม้ว่าลูก้าจะเป็นผู้ชนะของรอบประลองยุทธ์ แต่ผู้เข้าแข่งขันที่อยู่ในใจพระนางคือ คีแลนซ์ ด็อกโก ดังนั้นเธอจึงไม่ชอบแดร์ริลเท่าไร
สโลนที่นั่งอยู่ด้านข้างแอบกระซิบเบา ๆ “เขา… เป็นไปได้ไหมว่าเขาคิดอะไรไม่ออก?”
คงเป็นเรื่องน่าสนใจที่ได้เห็นลูก้า มูนไลท์ชนะทั้งในรอบประลองยุทธ์และรอบวรรณกรรม
แต่ก็ดูแล้วน่าจะเป็นไปไม่ได้ หากมองจากสถานการณ์ในปัจจุปัน
สีหน้าของอีเวตต์สงบนิ่งเมื่อได้ยินเสียงพึมพำของสโลน แต่เธอก็กังวลจนพูดอะไรไม่ออก
เธอจะทำอย่างไรดี? ผู้ชนะการแข่งวรรณกรรมใกล้จะประกาศชื่อออกมาแล้ว ซึ่งหมายความว่าการแข่งประลองเพื่อเลือกคู่กำลังจะจบลง เธอต้องเลือกใครสักคนในนี้มาเป็นสวามีเหรอ?
อีเวตต์ดูน่าสงสาร ดวงตาของเธอแดงก่ำเมื่อเธอคิดถึงเรื่องนี้