คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ - บทที่ 1550
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1550
สเตลล่าหน้าแดงเมื่อได้ยินคำพูดของจักรพรรดินี
“แต่หม่อมฉันก็เป็นผู้หญิงของแดร์ริลเหมือนกันและหม่อมฉันก็อยากลงเรือลำเดียวกับเขาเพื่อดูแลเขา” ใบหน้าของอีเวตต์ดูกระวนกระวายเมื่อเธอกล่าวเช่นนั้น “เสด็จแม่ทรงบอกเสมอว่า ถ้าหม่อมฉันแต่งงานไป หม่อมฉันจะต้องเป็นภรรยาที่ดี ในเมื่อตอนนี้แดร์ริลกำลังได้รับบาดเจ็บ แล้วหม่อมฉันจะไม่ดูแลเขาได้อย่างไร?”
ใบหน้าของอีเวตต์แดงก่ำเพราะความเขินอายเมื่อเธอพูดเช่นนั้น
ถึงแม้ว่าอีเวตต์จะมีบุคลิกที่สดใสและร่าเริง แต่เธอก็เป็นผู้หญิงอยู่ดี ดังนั้นเธอจึงรู้สึกเขินอายเมื่อเธอต้องพูดความรู้สึกส่วนตัวออกไป
คนรักของเธอกำลังได้รับบาดเจ็บสาหัส ดังนั้นเธอจะต้องอยู่เคียงข้างเขา แล้วเธอจะปล่อยให้ผู้หญิงคนอื่นดูแลเขาได้อย่างไร?
“ดี!”
ใบหน้าของจักรพรรดินีดูไม่พอใจเล็กน้อย “ถ้าหากว่าเจ้าไปดูแลเขา แล้วใครจะดูแลข้า?”
ในฐานะจักรพรรดินี เธอเคยชินกับการมีคนดูแลปรนนิบัติเมื่อเธออยู่ในพระราชวัง เธอไม่เคยลงมือทำอะไรเองเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกินหรือทุก ๆ เรื่องในชีวิตประจำวัน แล้วเธอจะอยู่โดยไม่มีสาวรับใช้ได้อย่างไร?
จักรพรรดินีไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของตัวเอง ถึงแม้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้จะเปลี่ยนไปแล้วก็ตาม
อีเวตต์กำลังตกที่นั่งลำบาก
จักรพรรดินีพูดถูก!
จักรพรรดินีคุ้นเคยกับการได้รับการดูแลปรนนิบัติ แล้วเธอจะอยู่โดยไม่มีสาวรับใช้ได้อย่างไร? และถ้าหากว่าอีเวตต์ตามไปดูแลแดร์ริล แล้วใครจะดูแลแม่ของเธอ?
อีเวตต์ขมวดคิ้ว เธอกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“ฝ่าบาท…”
สเตลล่าพูดขึ้นว่า “ถ้าหากว่าพระองค์ไม่รังเกียจและยอมให้พี่น้องของหม่อมฉันลงเรือลำเดียวกับพระองค์ แล้วพวกเขาจะดูแลพระองค์เองเพคะ”
จากนั้นสเตลล่าก็หันไปหาสี่พี่น้องสโคป “พี่ชาย พวกพี่ต้องดูแลฝ่าบาทเมื่ออยู่บนเรือ พวกพี่จะต้องเฝ้าอยู่ที่ด่านนอกของห้องโดยสารเรือและไม่ควรจะเข้าไปรบกวนจักรพรรดินี และพวกพี่ก็จะต้องเชื่อฟังคำสั่งของจักรพรรดินีเข้าใจไหม?”
สี่พี่น้องสโคปตกตะลึง
“ไม่มีทาง! น้องเล็ก พวกเราคือฮีโร่แล้วพวกเราจะยอมเป็นทาสรับใช้ได้ยังไง?”
“ใช่ จักรพรรดิมีผู้นี้ดุร้าย ข้าทำไม่ได้…”
“เว้นแต่ว่าน้องเล็กจะเรียกพวกเราว่า วีรบุรุษ…”
ถึงแม้ว่าสี่พี่น้องจะดูงี่เง่าแต่พวกเขาก็ไม่ใช่คนโง่ หลังจากที่ได้ใช้เวลาร่วมกับจักรพรรดินีมาสักพัก พวกเขาก็รู้ว่าจักรพรรดินีเป็นคนอารมณ์ร้อน ดังนั้น การดูแลจักรพรรดินีจึงเป็นงานยากสำหรับพวกเขา
“ก็ได้!”
สเตลล่ายิ้มให้พี่ชายทั้งสี่คนขณะเกลี้ยกล่อมพวกเขาด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล “พี่ชายทั้งสี่คนของข้าคือวีรบุรุษ! วีรบุรุษของข้า เหล่าวีรบุรุษจะยอมช่วยข้าใช่ไหม? ได้โปรด การเดินทางไปยังเกาะเพลิงน้ำแข็งใช้เวลาไม่นานหรอก”
สเตลล่าเป็นคนฉลาดและมีพรสวรรค์ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เก่งเท่าอีเวตต์ แต่เธอก็ยังเก่งในเรื่องของการชักใยผู้คน โดยเฉพาะกับพี่ชายทั้งสี่ของเธอ
สี่พี่น้องสโคปยกมือขึ้นเกาศีรษะ แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาก็ไม่ได้คัดค้านคำขอร้องของน้องสาวตัวน้อยของพวกเขา
“เสด็จแม่”
อีเวตต์พยักหน้าอย่างพึงพอใจ เธอหันไปหาแม่ของเธอและพูดขึ้นว่า “เสด็จแม่ ได้โปรดให้พวกเขาลงเรือลำเดียวกับพระองค์และดูแลพระองค์เถิด ส่วนหม่อมฉัน สเตลล่า และแดร์ริลจะลงเรือลำเดียวกัน”
“ในเมื่อพวกเจ้าต้องการเช่นนั้น ก็ได้!” จักรพรรดินีตอบด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย
จากนั้นจักรพรรดินีก็กวาดสายตามองไปที่สี่พี่น้องสโคปและพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “พวกเจ้าทั้งสี่คนได้รับอนุญาตให้อยู่แต่ที่บนดาดฟ้าเรือเท่านั้น และห้ามเข้ามาภายในห้องโดยไม่ได้รับอนุญาตเด็ดขาด”
น้ำเสียงของจักรพรรดินีไม่ดังแต่กลับฟังดูมีอำนาจ
สี่พี่น้องเหลียวมองหน้ากันก่อนจะส่ายหน้าอย่างหงุดหงิด
“ถ้างั้นข้าไม่ลงเรือลำนั้นแล้ว!”
“ใช่! แม่นางคิดว่าพวกเราอยากจะลงเรือลำเดียวกันรึ?”
ถ้าหากพวกเขาทั้งสี่ได้เริ่มพูดแล้วก็คงเป็นการยากที่จะหยุดพวกเขา แต่เมื่อพวกเขาเหลือบไปเห็นสายตาอันดุเดือดของสเตลล่า พวกเขาทั้งสี่ก็ปิดปากเงียบทันที